สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆชาวพันธิปทุกท่าน วันนี้ผมมีเรื่องที่เกิดขึ้นจากคนในครอบครัวผมมาเล่าสู่ฟังครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับแม่ผมอายุ 54 ปี
เนื่องจากแม่ผมพบเจอชิ้นเนื้อ ลักษณะไฝ๋สีดำ บริเวณหูรูดกระเพาะอาหาร นำไปตรวจพบว่าเป็นมะเร็งชนิด มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (Melanoma)
- อาจารย์หมอที่ดูแลเคสนี้บอกกับแม่ผมว่า ผมเป็นหมอมา 50 ปี พบมะเร็งชนิดนี้เกิดขึ้นภายในร่างกายเป็นเคสแรก(เคยเห็นแต่ในตำรา)
ในเวลาต่อมา เลยทำการผ่าตัดหูรูดกระเพาะอาหารทิ้ง หลังจากที่ผ่าหูรูดกระเพาะอาหารไม่กี่วัน ตรวจเจอเชื้อมะเร็งชนิดเดิมลุกลามไปยังปอด หมอเลยทำการเฉือนปอดบริเวณที่มะเร็งไปลุกลามขึ้น
มาถึงขั้นตอนในการรักษาใช้ยาถึง 3 ชนิด
ชนิดที่ 1 เพมโบรลิซูแมบ (Pembrolizumab) - ยาชนิดนี้แพงมากๆ การให้ 2 อาทิตย์ ต่อ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 แสนบาท ให้ไป 7 ครั้ง พบว่าแผลยังไม่แห้ง เลยหยุดการให้ยาตัวนี้ (มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย)
ชนิดที่ 2 คีโมบำบัด ยาชนิดนี้ดี แต่แรงมาก(คนไข้เกือบไม่ไหว) ให้ไปจนเสร็จ หมอทำการตรวจดูพบว่า ดีขึ้น มะเร็งยุบลง แต่เหมือนจะดี ในเวลา 1-2 เดือนต่อมา หมอได้ตรวจเจอมะเร็งชนิดเดิม ลามไปที่ ต่อมน้ำเหลือง และ ตับ
ชนิดที่ 3 คีโมบำบัด ยาชนิดนี้คนไข้สู้ไหวไม่แรง แต่ไม่มีการตอบสนองการรักษาโดยใช้ยาตัวนี้เลย
ปัจจุบัน หมอได้หยุดการรักษาแล้วครับ
ผมลองคุยกับแม่ว่าเราลองกลับไปให้ยาชนิดที่ 2 ไหม ซึ่งเป็นชนิดที่ตอบสนองได้ดีที่สุด แต่แม่ตอบกลับมาว่า ยาชนิดนั้นมันแรงมากๆ กลัวจะได้ตายเพราะยา ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง
อยากจะสอบถามบุคคลที่มีความรู้เรื่องนี้ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ ว่าถ้าเรากลับไปให้ชนิดที่ 2 ยังมีโอกาสหยุดการเติบโตของมะเร็งไหมครับ เพราะถ้าให้ยาตัวนี้ไปตลอดชีวิตร่างกายก็คงไม่ไหว
หรือมีวิธีไหนมี่พอจะบรรเทาได้ไหมครับ ไม่ได้อยากให้มะเร็งหายไป แค่อยากหยุดการเติบโตไม่ให้มะเร็งลุกลามไปส่วนอื่นๆ
ปัจจุบันแม่ผมยังสุขภาพใจและกายยังดี ยังใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไปครับ แต่ถ้าหยุดการรักษาไปนี้ผมคงคิดว่าอีกไม่นานมะเร็งน่าจะลุกลามต่ออย่างรวดเร็ว
ปล. ที่เกิดมะเร็งชนิดนี้ภายในร่างกาย หมอสันนิษฐานว่าภายในร่างกายน่าจะเคยโดนรังศีอย่างรุนแรง
ผมเลยนึกขึ้นได้ว่าตอนผมเป็นเด็ก แม่เคยไปรักษาไทรอย โดยการรักษาแบบกลืนแร่เข้าไปในร่างกาย อาจจะสะสมมาตั้งแต่ตอนนั้น
อัพเดท วันที่ 25/1/2567
คุณแม่ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ในวันที่ 16/11/2566 ด้วยโรคมะเร็งผิวหนัง Melanoma ที่ลุกลามไปทั่วร่างกายครับ
สำหรับคนที่เข้ามาอ่านโพสนี้ ให้เป็นเคสตัวอย่างและแนวทางการที่จะอยู่กับมะเร็งชนิดนี้ ผมสรุปคร่าวๆว่า มะเร็งชนิดนี้ควรใช้ยา แพมโบลิซูแมพ ให้จบคอสดีที่สุดครับ และในยุคสมัยอื่นอาจจะมียาตัวอื่นที่ดีกว่ามาทดแทนก็ปรับเปลี่ยนไปตามคุณหมอแนะนำครับ
มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (Melanoma) เกิดขึ้นภายในร่างกายคนไทย
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับแม่ผมอายุ 54 ปี
เนื่องจากแม่ผมพบเจอชิ้นเนื้อ ลักษณะไฝ๋สีดำ บริเวณหูรูดกระเพาะอาหาร นำไปตรวจพบว่าเป็นมะเร็งชนิด มะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (Melanoma)
- อาจารย์หมอที่ดูแลเคสนี้บอกกับแม่ผมว่า ผมเป็นหมอมา 50 ปี พบมะเร็งชนิดนี้เกิดขึ้นภายในร่างกายเป็นเคสแรก(เคยเห็นแต่ในตำรา)
ในเวลาต่อมา เลยทำการผ่าตัดหูรูดกระเพาะอาหารทิ้ง หลังจากที่ผ่าหูรูดกระเพาะอาหารไม่กี่วัน ตรวจเจอเชื้อมะเร็งชนิดเดิมลุกลามไปยังปอด หมอเลยทำการเฉือนปอดบริเวณที่มะเร็งไปลุกลามขึ้น
มาถึงขั้นตอนในการรักษาใช้ยาถึง 3 ชนิด
ชนิดที่ 1 เพมโบรลิซูแมบ (Pembrolizumab) - ยาชนิดนี้แพงมากๆ การให้ 2 อาทิตย์ ต่อ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 แสนบาท ให้ไป 7 ครั้ง พบว่าแผลยังไม่แห้ง เลยหยุดการให้ยาตัวนี้ (มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย)
ชนิดที่ 2 คีโมบำบัด ยาชนิดนี้ดี แต่แรงมาก(คนไข้เกือบไม่ไหว) ให้ไปจนเสร็จ หมอทำการตรวจดูพบว่า ดีขึ้น มะเร็งยุบลง แต่เหมือนจะดี ในเวลา 1-2 เดือนต่อมา หมอได้ตรวจเจอมะเร็งชนิดเดิม ลามไปที่ ต่อมน้ำเหลือง และ ตับ
ชนิดที่ 3 คีโมบำบัด ยาชนิดนี้คนไข้สู้ไหวไม่แรง แต่ไม่มีการตอบสนองการรักษาโดยใช้ยาตัวนี้เลย
ปัจจุบัน หมอได้หยุดการรักษาแล้วครับ
ผมลองคุยกับแม่ว่าเราลองกลับไปให้ยาชนิดที่ 2 ไหม ซึ่งเป็นชนิดที่ตอบสนองได้ดีที่สุด แต่แม่ตอบกลับมาว่า ยาชนิดนั้นมันแรงมากๆ กลัวจะได้ตายเพราะยา ไม่ได้ตายเพราะมะเร็ง
อยากจะสอบถามบุคคลที่มีความรู้เรื่องนี้ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ ว่าถ้าเรากลับไปให้ชนิดที่ 2 ยังมีโอกาสหยุดการเติบโตของมะเร็งไหมครับ เพราะถ้าให้ยาตัวนี้ไปตลอดชีวิตร่างกายก็คงไม่ไหว
หรือมีวิธีไหนมี่พอจะบรรเทาได้ไหมครับ ไม่ได้อยากให้มะเร็งหายไป แค่อยากหยุดการเติบโตไม่ให้มะเร็งลุกลามไปส่วนอื่นๆ
ปัจจุบันแม่ผมยังสุขภาพใจและกายยังดี ยังใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไปครับ แต่ถ้าหยุดการรักษาไปนี้ผมคงคิดว่าอีกไม่นานมะเร็งน่าจะลุกลามต่ออย่างรวดเร็ว
ปล. ที่เกิดมะเร็งชนิดนี้ภายในร่างกาย หมอสันนิษฐานว่าภายในร่างกายน่าจะเคยโดนรังศีอย่างรุนแรง
ผมเลยนึกขึ้นได้ว่าตอนผมเป็นเด็ก แม่เคยไปรักษาไทรอย โดยการรักษาแบบกลืนแร่เข้าไปในร่างกาย อาจจะสะสมมาตั้งแต่ตอนนั้น
อัพเดท วันที่ 25/1/2567
คุณแม่ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ในวันที่ 16/11/2566 ด้วยโรคมะเร็งผิวหนัง Melanoma ที่ลุกลามไปทั่วร่างกายครับ
สำหรับคนที่เข้ามาอ่านโพสนี้ ให้เป็นเคสตัวอย่างและแนวทางการที่จะอยู่กับมะเร็งชนิดนี้ ผมสรุปคร่าวๆว่า มะเร็งชนิดนี้ควรใช้ยา แพมโบลิซูแมพ ให้จบคอสดีที่สุดครับ และในยุคสมัยอื่นอาจจะมียาตัวอื่นที่ดีกว่ามาทดแทนก็ปรับเปลี่ยนไปตามคุณหมอแนะนำครับ