สงสัยว่าตัวเองเป็นซึมเศร้า จากพฤติกรรมสามีที่พ่นแต่พลังงานลบใส่เรา Toxic relationship

ขอบคุณผู้ที่เข้ามาอ่านเรื่องของเรานะคะ🥰 ก่อนอื่นเราแค่อยากมาระบาย ส่วนหนึ่งก็ต้องการกำลังใจ จุดที่เราอยู่ไม่สามารถโพสค์หน้าเฟสแล้วบอกเล่าเรื่องชีวิตคู่ได้ และไม่อยากให้ครอบครัวรู้ดีเทลว่า ชีวิตคู่เรามันล้มเหลว ไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจ จึงขอมาระบายกับคนที่ไม่รู้จักกันตรงนี้ อย่างน้อยคงมีหลายคนที่กำลังเผชิญเรื่องคล้ายกัน เป็นกำลังใจให้กันนะคะเราพึ่งเขียนเป็นกระทู้แรก ถ้าอ่านแล้วงงๆ ขออภัยด้วยน้า เราแบ่งเป็นข้อๆมากลัวว่าจะเวิ่นเว้อ
🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗🤗
ตอนนี้จขกท.อายุ30ปีแล้ว พ่อตายตอน7ขวบ แม่ทิ้งไปตั้งแต่1ขวบ โตมากับย่าและน้องของพ่อคอยดูแล ชีวิตก็ขาดความสมบูรณ์เรื่องครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก แต่เป็นคนใฝ่ดี เพื่อนดี เรียนได้ กิจกรรมกรรมเด่น โตมาแบบเข้าใจโลกเลยแหละ

1. แต่งงานตอนอายุ26 สามีแก่กว่า1รอบ ตอนเป็นแฟนทะเลาะกันบ่อยเลิกกันนับครั้งไม่ถ้วน ในใจเป็นทุกข์มากที่ทะเลาะกันทั้งที่ยังรักกันมาก คิดแต่ว่าถ้าแต่งงานก็คงหยุดความทุกข์นี้ได้สักที

2. แต่งงานปีแรก เป็นปีที่อยากเลิกทุกวัน แต่ด้วยเงื่อนไขทางศาสนาความเชื่อ ถ้าไม่มีคนใดคนหนึ่งนอกใจหรือตาย ไม่สามารถเลิกกันได้ ต้องอดทนและให้อภัยต่อกัน ทะเลาะจนเริ่มมีการพูดหยาบคายต่อกันทั้งที่ไม่เคยพูด เราเริ่มปาของเพื่อสู้กับคำพูดคำด่าของเค้า จนมีครั้งนึงที่เค้าปากลับแต่มันเป็นฟองน้ำ แต่สีหน้าและแววตามันติดตาเรามาจนทุกวันนี้ ว่าคนที่เคยรักกันมันหายไปแล้วจริงๆ

3. เข้าปีที่3 เราท้องได้3เดือน ก็แท้งลูก เราเสียใจมากๆ จิตตกไปพักนึงพอผ่านไปเวลาทะเลาะกัน สามีมักบอกว่า "คนอย่างเราไม่พร้อมจะเป็นแม่ใครหรอก ถ้าท้องอีกก็ไปเอาออกเถอะ" เรารู้สึกเหมือนโดนด้อยค่าด้วยคำพูดเค้า จำฝังใจ🥲

4. ผ่านไปอีก1ปี เข้าปีที่4 เราท้องอีกครั้ง และ ใช่ เราเสียลูกไปอีก ตอนครรภ์ได้7สัปดาห์ จะมีผญกี่คนบนโลกที่เสียลูกถึงสองครั้ง ตอนนั้นเราสับสนมาก มีแต่คำถามว่าทำไมๆ มันถึงเกิดขึ้นอีกแล้ว ทั้งๆที่เราดูแลตัวเองดีมากๆ

5. งานเรามีปัญหา จนบริษัทต้องปิดกิจการหนี บังคับให้พนง.เขียนใบลาออก บอกล่วงหน้าแค่1 เดือน เราไม่เขียนเพราะต้องการฟ้องร้องเรียกค่าชดเชย ตรงนี้ทำให้เรามีภาวะเครียดเพิ่มขึ้น สามีก็ทำงานที่เดียวกัน เลยเจอปัญหาเดียวกัน

6. เราทั้งคู่เริ่มสาดภาวะความเครียดใส่กัน เริ่มมีคำหยาบมากขึ้น ต่างคนต่างซื้อข้าวกินเอง (อยู่กัน2คนในบ้าน) เริ่มสนใจแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ ใส่ใจกันและกันน้อยลง
เงินเดือนเราลดไปเยอะมาก จากเรา6-7หมื่น/เดือน สามี 7-8หมื่น/เดือน เราย้ายงานมาที่ใหม่ ต้องstartใหม่ที่คนละ32000 บางคนอาจจะบอกว่าเยอะๆ แต่สำหรับบ้านเรามันไม่พอจริงๆ สำหรับหนี้ที่มี

7. สามีเริ่มโทษว่าเราทำให้เป็นหนี้ ทั้งที่บัตรเครดิตใช้ด้วยกัน แต่แค่เราถือเพราะเป็นชื่อเรา เริ่มดูถูกรายได้เสริมที่เราทำว่า ทำไปก็ไม่มีอนาคต เริ่มต่อว่าว่าเราไม่วางแผน  ยิ่งกว่านั้นคือเริ่มบูลลี่ภาพลักษณ์ภายนอกของเรา

8.เมื่อก่อนเราสวย (มั่นแล้ว1) ไม่ก็คือหน้าตาดีพอสมควร (มั่นต่ออีก1) คนจีบเยอะ แต่หลังแต่งงานมา เราปล่อยจอย ชอบกินก็กินแต่บุฟเฟ่ มันก็อ้วน มีโควิดใส่แมสก็แพ้แมส เป็นสิวเป็นแผล สามีเริ่มไม่มีอะไรกับเรา เฉลี่ยน่าจะสามเดือนต่อ 1 ครั้ง เคยหลุดปากมาว่าเพราะเราอ้วน เริ่มว่าเราคอดำ เท้าดำ มือดำ หน้าเป็นสิว ไม่สวย เหมือนโก๊ะตี๋ (อนุญาตให้ขำได้)  แต่จะบอกว่าตอนเราโดนว่า สามีเราพูดจริงๆแบบออกมาจากใจ ไม่ได้แกล้งพูดแกล้งแซว

9.ใครจะรู้ว่าคำพูดแง่ลบ การถูกบูลลี่เป็น toxicในชีวิตคู่ กับการแท้ง2ครั้งมันจะส่งผลต่อจิตใจเราได้ขนาดนี้ เราสังเกตุตัวเองว่าเริ่มเป็นคนขาดความมั่นใจ เริ่มไม่สบตาคน รู้สึกอึดอัดถ้าต้องไปที่ๆเจอคนรู้จักเยอะๆแล้วเค้าต้องมาทักเรา หรือเราต้องหาเรื่องคุยกับเค้า รู้สึกใช้พลังงานเยอะมากถ้าต้องคุยทักทายใครสักคน อยากอยู่เงียบๆ อยากอยู่คนเดียว เริ่มไม่อยากแต่งหน้า เริ่มอยากกินให้อ้วนสุดๆ ไม่อยากทายารักษาหน้า เริ่มไม่ชอบงานอดิเรกที่ตัวเองเคยสนใจ เริ่มแพนิคเวลาต้องเหยียบเบรคตอนรถอยุ่บนเนิน เหงื่อออกเยอะใจสั่น ไม่มีสมาธิ จำไรแป๊บเดียวก็ลืม เริ่มร้องไห้แบบหายใจติดขัด มือเท้าเกร็ง เราเคยเกร็งทั้งตัวแล้วเหมือนหายใจไม่ออก สามีโยนเสื้อใส่หน้าเราแล้วบอกอะใส่เสื้อแล้วไปรพ.

10. การกระทำหลายๆอย่างเรารู้สึกว่าเราถูกลดคุณค่า แต่รู้ว่าเค้าก็ยังรักเราแหละ แต่คำพูด แววตา เวลาทะเลาะกัน ทุกอย่างไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เริ่มแย่ลงทุกวัน ล่าสุดวันนี้ เป็นหวัดล้างจมูกหน้ากระจกกัน แล้วเค้าบ้วนน้ำลายใส่มือเราตอนอยู่ในอ่างล้างหน้า เรารู้สึกโมโหมาก คว้าอะไรได้ก็ปาใส่เค้า ตบหน้าเค้า เพื่อบอกให้เค้าขอโทษ แต่เค้าไม่พูด ที่จริงคนทั่วไปอาจจะไม่ต้องทำรุนแรงแบบเราก็ได้ แค่เค้าหยอกเรา แต่เราคิดว่าน่าจะเพราะความเครียดสะสมส่งผลให้เราเป็นคนใช้ความรุนแรงแบบนี้ (เราไม่เคยมีประวัติใช้ความรุนแรงกับแฟนเก่าๆ) พักหลังเราใช้ของทำให้เค้าเจ็บเพื่อเค้าจะได้หยุดหยาบคาย หยุดว่าเรา เรารู้ว่ามันเกินไป แต่เราควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ จนพักหลังเลยเถิดไปถึงเรื่องคิดจะฆ่าตัวตาย ไม่อยากมีชีวิตแล้ว

**เรื่องของเรื่องมันก็เป็นประมานนี้แหละ ไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ เราควรพบจิตแพทย์ดีไม๊ ที่ไหนดีแนะนำเราบ้างนะ หรือมันควรแก้ที่เราเอง เหนื่อยกันทุกวันที่ตื่นมามากๆเลย ชีวิตไม่มีลูกก็ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีแรงบันดาลใจอะไรเลย ทำงานใช้หนี้ที่มีไปวันๆ ถ้าตอนนั้นไม่แต่งงาน คงไม่มีภาระหนี้สินหลังใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน แต่ก็นะ เพื่อนบอกเราเลือกคู่ชีวิตเองแล้ว เราตัดสินใจเอง ก็ต้องยอมรับมันให้ได้  ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเรื่องของเรานะคะ***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่