anti-aging #เวชศาสตร์ชะลอวัย
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย การแพทย์ในปัจจุบัน จึงเริ่มให้ความสำคัญของคำว่า เวชศาสตร์ชะลอวัยกันมากขึ้น
คนไทยมีอายุเฉลี่ย 72 ปี และมีการวางเป้าไว้ว่า อนาคตอายุเฉลี่ยของคนไทยจะสูงขึ้น ถ้าเราเริ่มต้นมีการดูแลแบบองค์รวม หรือ เวชศาสตร์ชะลอวัยนี้
เราจะมีคุณภาพที่ดีได้อย่างไร เมื่อเราเข้าสู่วัยชรา
แนวทางคือ เริ่มต้นจากการดูแลแบบองค์รวม จะทำอย่างไรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่มีโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีบนอายุที่ยืนยาว
เริ่มต้นวิเคราะห์ตั้งแต่ระดับยีนส์ และพันธุกรรม ว่ามีความเสี่ยงจากโรคอะไรบ้าง การวางแผนเรื่องการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย การรับยา การให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์
เวชศาสตร์วิธีชีวิตคือ ส่วนย่อยในบริการนี้ เช่น การวิเคราะห์การนอนหลับพักผ่อน การทานอาหาร การออกกำลังกาย การดูแลความเครียด ว่าอยู่ในระดับใด มีผลอะไรกับสุขภาพในระยะยาวบ้างไหม การดูแลสิ่งแวดล้อม การจัดการดีท๊อกซ์สารพิษ ดูลักษณะการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้ ดูความเสื่อมที่จะเกิดกับร่างกาย เช่น การดูสภาวะฮอร์โมนต่างๆ เรื่องของภูมิคุ้มกันต่างๆ ในร่างกาย โรคภูมิแพ้ การดีท๊อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย ดูเรื่องการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ดูเชื้อแบคทีเรีย ดูเรื่องกระดูกและโรคอ๊อฟฟิตซินโดรมต่างๆ
เวชศาสตร์ชะลอวัย อาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอาจไม่เคยรู้ หรือไม่เหมือนที่เรารู้มาก่อน ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเปิดใจและทดลองการแพทย์สมัยใหม่นี้ และพิจารณาว่าเหมาะสมกับเราไหม
เวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-Aging คืออะไร
anti-aging #เวชศาสตร์ชะลอวัย
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย การแพทย์ในปัจจุบัน จึงเริ่มให้ความสำคัญของคำว่า เวชศาสตร์ชะลอวัยกันมากขึ้น
คนไทยมีอายุเฉลี่ย 72 ปี และมีการวางเป้าไว้ว่า อนาคตอายุเฉลี่ยของคนไทยจะสูงขึ้น ถ้าเราเริ่มต้นมีการดูแลแบบองค์รวม หรือ เวชศาสตร์ชะลอวัยนี้
เราจะมีคุณภาพที่ดีได้อย่างไร เมื่อเราเข้าสู่วัยชรา
แนวทางคือ เริ่มต้นจากการดูแลแบบองค์รวม จะทำอย่างไรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่มีโรคเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีบนอายุที่ยืนยาว
เริ่มต้นวิเคราะห์ตั้งแต่ระดับยีนส์ และพันธุกรรม ว่ามีความเสี่ยงจากโรคอะไรบ้าง การวางแผนเรื่องการบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย การรับยา การให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์
เวชศาสตร์วิธีชีวิตคือ ส่วนย่อยในบริการนี้ เช่น การวิเคราะห์การนอนหลับพักผ่อน การทานอาหาร การออกกำลังกาย การดูแลความเครียด ว่าอยู่ในระดับใด มีผลอะไรกับสุขภาพในระยะยาวบ้างไหม การดูแลสิ่งแวดล้อม การจัดการดีท๊อกซ์สารพิษ ดูลักษณะการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้ ดูความเสื่อมที่จะเกิดกับร่างกาย เช่น การดูสภาวะฮอร์โมนต่างๆ เรื่องของภูมิคุ้มกันต่างๆ ในร่างกาย โรคภูมิแพ้ การดีท๊อกซ์สารพิษออกจากร่างกาย ดูเรื่องการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ดูเชื้อแบคทีเรีย ดูเรื่องกระดูกและโรคอ๊อฟฟิตซินโดรมต่างๆ
เวชศาสตร์ชะลอวัย อาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอาจไม่เคยรู้ หรือไม่เหมือนที่เรารู้มาก่อน ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเปิดใจและทดลองการแพทย์สมัยใหม่นี้ และพิจารณาว่าเหมาะสมกับเราไหม