🌾 กาสะลองล่องล้วนรัญจวนรู้
มิอาจยังยั้งอยู่ยังกลิ่นเย้า
ยลย่นเยื้องยุรยาตรยังมาลย์เยาว์
ดอมดื่มเร้าเร่ารึงคะนึงยิ่ง
🌾 คลายคล้ายคลั่งคุ้มสุมจึงบางจาง
เมือเมื่อไม้กลิ่นจรางจึงแล้วสิ่ง
ทุกข์ทนท้นท่วมทั่วที่สุมสิง
เปลืองเปลื้องปล่อยปลิดทิ้งที่สุมเศร้า
🌾 สุขาข้าฯแข่งแสงระวีส่อง
กลั้วกลิ่นกาสะลองคอยค่อยเคล้า
ครุ่นคุ้นคันธาคร่าที่เคยเขลา
แจงแจ้งจ่างเพียงเจ้าเข้ามาข่ม
🌾 ยืนยื่นยิ้มมอบให้ในชาติธรรม
เจ้ายื่นคำค้ำค่าข้าฯจึ่งร่ม
เจ้ายื่นมือรังรั้งร่างจากล้ม
ให้หวนหอมห้อมห่มกาสะลอง ๛
......
อรุณสวัสดิ์ครับทุกท่าน 😊🌻 ในกลอนนี้มีกลบทที่กระผมคิดเองอยู่หนึ่งอย่างอันมีชื่อว่า "ตรีตจสาร" ตรี=สาม ตจสาร=ไม้เปลือกแข็ง จึงแปลไทยเป็นไทย(55555)ได้อีกชื่อว่า "สามไม้เปลือกแข็ง" ครับ
กาสะ
ลองล่องล้วนรัญจวนรู้
มิอาจ
ยังยั้งอยู่ยังกลิ่น
เย้า
ยลย่นเยื้องยุรยาตรยังมาลย์
เยาว์
ดอมดื่ม
เร้าเร่ารึงคะนึง
ยิ่ง
ตามนี้เลยครับ
-มีรูปวรรณยุกต์ที่ต่างกันติดกันสามคำ วางส่วนไหนก็ได้ในวรรคหนึ่งๆ
-ให้สองคำหน้าใข้สระเดียวกัน
ส่วนที่ขีดท้ายวรรครับ-ส่งนั้นไม่บังคับครับ แหะๆๆ 😁
กลิ่นกาสะลอง
มิอาจยังยั้งอยู่ยังกลิ่นเย้า
ยลย่นเยื้องยุรยาตรยังมาลย์เยาว์
ดอมดื่มเร้าเร่ารึงคะนึงยิ่ง
ตามนี้เลยครับ
-มีรูปวรรณยุกต์ที่ต่างกันติดกันสามคำ วางส่วนไหนก็ได้ในวรรคหนึ่งๆ
-ให้สองคำหน้าใข้สระเดียวกัน
ส่วนที่ขีดท้ายวรรครับ-ส่งนั้นไม่บังคับครับ แหะๆๆ 😁