เราต้องขอเล่าก่อนว่าตอนนี้เราอยู่กับแม่อยู่2คน พี่ชายคนกลางจะกลับมาบ้านทุกเย็นวันศุกร์แล้วกลับเย็นวันอาทิตย์เพราะเขาทำงานอยู่ค่ายตร. ส่วนพี่คนโตตอนนี้ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซีกแต่อาศัยอยู่กับลูกและภรรยาที่กรุงเทพฯ ส่วนพ่อเราเสียตั้งเราอยู่ป.5 ตอนนี้เราอยู่ปี3กำลังจะขึ้นปี4
เราขอเริ่มตั้งแต่ช่วงพ่อมีชีวิตอยู่ก่อนพ่อเราเมื่อก่อนเมาเหล้าจนทะเลาะกับแม่ทุกวันจนเราเริ่มเข้ารร.พ่อก็เลิกเหล้า พ่อส่งเราเรียนเอกชนรร.ดังในจังหวัด สงเสียเราเองทั้งหมด และพ่อเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้านตั้งแต่ค่าอยู่ค่ากินค่าน้ำค่าไฟเงิน ส่วนแม่ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลยเพราะแม่ติดหวยหนักมากสร้างแต่หนี้ให้พ่อจ่ายเป็นทั้งเจ้าแชร์แล้วไม่มีเงินจ่ายเพราะเป็นเงินแสนพ่อก็ต้องกู้เงินมาใช้หนี้แทน(นี่แหละสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พ่อติดเหล้า)ทุกครั้งหิวข้าวหรืออยากกินขนมเราก็จะปั่นจักรยานหาแม่ตามห้องแถวแต่ละที่ที่เขาเคยไปก็ไม่เจอจนเราคิดไม่กินก็ได้ส่วนข้าวก็ไปกินอยู่ร้านเพื่อนพ่อก่อนพ่อมาค่อยเอาเงินไปจ่ายให้ทีหลังนหลังจาหนั้นพ่อเลยไม่กินข้าวที่โรงอาหารเขาเลยกลับบ้านมาทุกๆตอนเที่ยงแล้วพาเราไปซื้อข้าวซื้อขนมกลับมากินที่บ้านแล้วตอนบ่ายพ่อก็กลับไปทำงานตลอด ส่วนแม่ก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่นางชอบเข้าสังคมจะชอบไปเล่นกับกลุ่มเมียตร.ที่จับกลุ่มกันเล่นเลขหุ้นลุ้นเลขกันทุกวัน ชีวิตเราก็วนอยู่แบบนั้น จนวันนึงพ่อเราป่วยหนักเพราะน้องชายซื้อยาสมุนไพร่มาให้ต้มกินพ่อเราก็ลองเอามาต้มดื่มสรุปเย็นวันนั้นพ่อเราได้เข้าโรงบาลทันที่(พ่อเราป่วยเป็นมะเร็งตับอยู่แล้วกินยาตามหมอสั่งและต้องไปตามหมอนัดเพื่อไปเอายา)พอเราต้องนอนอยู่โรงบาลเกือบเดือนจนพ่อขอออกกลับมาอยู่บ้านที่สร้างไว้แถวบ้านยายมานอนได้แค่ไม่กี่วันก็ได้กลับไปโรงบาลอีกอาการพ่อแย่มากพี่ชายคนโตเราบอกว่าพ่อทำใจไว้แล้วว่าคงอยู่ไม่ได้นาน แม่ก็ส่งเราให้มาอยู่กับน้าที่บ้านยายให้น้าดูแลช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้องเรียนคนที่บ้านไม่มีเวลาดูแลเราน้าเป็นคนจัดการเกี่ยวกับเราแทนทุกอย่างหารถรับส่งให้ ซักผ้าให้และให้เงินไปรร. จนวันนึงเราได้รับข่าวร้ายว่าพ่อไม่ไหวแล้วแม่บอกว่าอยากให้เราไปหาพ่อซึ่งตัวเราอยู่อีกอำเภอนึงซึ่งไกลจากโรงบาลประมาณเกือบ40กม. สรุปเราไปไม่ทัน พอเราถึงโรงบาลเราเห็นแค่เจ้าหน้าที่เอาโรงศพมาเตียงผู้ป่วยตอนนั้นเราทำไรไม่ถูกไม่เดินไปดูพ่อด้วยซ้ำ เราทำใจไม่ได้เหมือนตอนนั้นเวลาเราหยุดเดิน พ่อเหมือนโลกทั้งใบของเรา เราเรียนไม่เก่งไม่เคยด่าเคยว่าเรามีแค่ให้กำลังใจเป็นพลังบวกให้เราเสมอพ่อสัญญากับเราไว้ว่าจะอยู่กับเราจนจบม.6 ทุกคำพูดของพ่อวนเข้ามาในหัวจนมาถึงทุกว่านี้ หลังจากคนที่บ้านวุ่นกับเรื่องพ่อน้าก็พาเรากลับ เรามีแค่น้าเราตื่นเช้ามาเหมือนฝันเราคิดว่าคงฝันแหละเราเลยบอกน้าว่าอยากไปเยี่ยมพ่อจนวันนั้นน้าบอกว่าพ่อไม่อยู่แล้วนะแล้วน้าก็กอดเราไว้อาการเราตอนนั้นแย่มากมีน่ากับยายที่คอยปลอบเรา จนแม่เรามารับไปวัดหลังจากเผ่าพ่อเสร็จชีวิตเราก็ก็เดินต่อ
หลังจากพ่อเสียพ่อทิ้งเงินไว้แบ่งให้ลูก3คนส่วนแม่ไม่ได้รับในส่วนนี้เพราะในประกันพ่อระบุชื่อไว้แค่ลูก ลูกทุกคนได้เงินหมดยกเว้นเราที่ยังเด็กแม่พาไปเปิดบัญชีร่วมกับแม่เป็นชื่อเรากับแม่ หลังจากนั้นไม่นานแม่เอาเงินเราไปออกรถกระบะไว้ให้คนโตขับเพราะแม่ขับไม่เป็น ส่งพี่ชายคนกลางไปเรียนตร. คนโตโทรมาของเงินแม่ก็ให้ตลอดแ ส่วนแม่เอาเงินมาลงทุนเปิดร้านขายของ สรุปเงินหมดเพราะแม่ไม่สามารถจัดการเรื่องเงินได้ เงินให้เราไปเรียนก็ไม่มีเราเลยบอกว่าไม่อยากไปเรียนแล้วเร่ก็ปีนกำแพงไปป่าหลังบ้านหลบอยู่หลังกำแพงสิ่งที่แม่เราทำกับเราคือเอาไม้กวาดมาตีที่หัวเราตอนนั้ นเราร้องให้หนักมากคือถ้าฆ่าเราได้เขาคงฆ่าเราแล้วเขาโทษว่าเปลืองเงินไปกับเราค่าเทอมก็แพงจ่ายแต่ละทีก็เป็นหมื่นช่วงนั้นคือดิ่งมากจนเราคิดฆ่าตัวตายกลับจากหลังเลิกเรียนเร่ชอบทำร้ายตัวเองตลอดออกจากบ้านไปเรียนเราก็สนุกนะหัวเราะกับเพื่อนแต่พอกลับบ้านมาก็คนละเรื่องเลยจนปิดเทอมเงินก็ไม่มีกินจำได้ว่าหนักสุดมีแค่ข้าวกับหนอไม้ต้มกินจกับแจ่วแค่นั้น อยู่ดีๆแม่ก็มีกลับมามีเงินอีกครั้งแบบงงๆ จนพี่ชายคนกลางพาเรากับแม่ไอยู่ในค่ายด้วยให้แม่ไปเรียนหลานโชคดีพี่เรีบนจบแล้วมีงานทำเราเลยได้เงินไปเรียนต่อ (เรายังเรียนอยู่เอกชนที่เดิมอยู่)
จนเราอยู่ม.3 มันคือจุดแตกหักครั้งแรงของกัยแม่ เราต้องเอาเงินมาจ่ายค่าเทอมเพื่อเอาใบจบกับเกรดเพราะปิดเทอมแล้วเราก็ยังไม่มีเงินจ่ายสักทีแม่ก็เอาแต่บอกว่าพี่ชายยังไม่โอนมาเพราะตอนนั้นแม่ไม่มีเงินเลยบอกให้พี่คนโตหามาจ่ายให้ (ตอนนั้นเราตกวิชาคณิตเราก็ไปสอบแก้มีเพื่อนคนนึงไม่สนิทกันไม่รู้เขาเอาเรื่องมาจากไหนแล้วมาพูดกับเราว่าเมื่อไหร่จะมาจ่ายค่าเทอมค่าเทอมจ่ายแล้วหรอตอนนั้นจำได้ว่าสอบแก้เสร็จเรารีบกลับบ้านเลยเรารู้สึกอายมากแถมก็แอบตกใจไปรู้มาจากไหนอีกทำไมเพื่อนเราไม่เห็นมีใครพูดหรือรู้เรื่องอะไรหรือเขารู้แต่แค่ไม่พูดหลังจากนั้นเราไม่กล้าทุกแชทไปคุยกับเพื่อนเลยกลัวเพื่อนจะเลิกคบสรุปคือเพื่อนคุยกับเราเหมือนเดินปกติทุกอย่าง) หลังจากเรากลับจากรร.เราแอบสงสัยแม่เลยไปค้นกระเป๋าเจอสมุดบัญชีสรุปพี่ชายเราโอนมาแต่แม่ใช้ไปหมดแล้วหมดตั้งแต่อาทิตย์แรกเลยเราเลยรีบโทรหาพี่ว่าโอนเงินมาให้เท่าไหร่พี่บอก13000 เราตกใจมาที่แม่ใช้เงินเราหมด ช่วงที่เราถามแม่ว่าทำไมพี่ไม่โอนเงินมาสักทีแม่เอาแต่พูดว่าถ้าไม่มีจ่ายก็ค่อยไปเอาตอนมีแล้วไปหาเรียนกศน.เอาอีก3ปีค่อยมาเรียนก็ได้ช่วงว่างๆก็ไปหาทำงานเก็บเงินมาเรียนเอา
หลังจากเราได้คุยกับพี่ชายคนโตเราก็ให้พี่มารับเรากลับบ้านพี่ชายที่เป็นตร.ไม่รู้เรื่องก็บอกให้เราอยู่คุยกันก่อนเราก็ไม่อยากคุยเราก็ตอบไปแค่ว่าให้ไปถามแม่เอาเถอะ พี่คนโตหมดทางออกพี่เลยได้โทรหาน้าเราน้ารู้เรื่องน้าเราเลยรับผิดชอบทุกอย่างในตัวเราทั้งจ่ายค่าเทอมอันเก่าให้แล้วส่งเรียนที่รร.ใหม่จนจบม.6
ส่วนปี1เราก็เริ่มกู้ กยศ.เรียนส่วนน้าก็บอกว่าถ้าไม่ไหวก็ให้บอกขาดเหลืออะไรน้าก็จะคอยช่วย ส่วนเรากับแม่ก็กลับมาคุยกันเพราะน้าบอกเราเลยยอมคุยกับแม่แต่ทุกวันนี้เรากับแม่ไม่ค่อยสนิทใจกันเท่าไหร่โดยเฉพาะเรื่องเงินเราไม่เคยไว้ใจเขาเลย
ทุกวันนี้เราหาเงินใช้เอง อกมื้อกินมื้อถึงอยู่กับแม่แต่ได้หาซื้อข้าวซื้อนั้นนี้กินเองหมดแถมเขามากินของเราด้วยแต่พอของตัวเองเก็บไว้กินคนเดียวลูกมันจะเป็นยังไงก็เรื่องของมันตัวเองต้องอิ่มก่อน เห็นคนอื่นดีกว่าเรา เวลาลูกคนอื่นเจ็บป่วยห่วงเขามากดูแลแทบลูกคนนึง เขาไม่มีข้าวกินก็ทำข้าวลงไปส่งแต่ลูกที่บ้านได้ซื้อกินเองหาทำกินเองพอเราทำกินแค่เราบอกว่าไม่ทำเผื่อพอทำเผื่อกลับไปกินข้าวนอกบ้านกับคนอื่น ส่วนเราเลือกไรได้บ้างต้องมาอยู่กับแม่แบบนี้นี่ทนอยู่เพราะยังเรียนไม่จบยังไม่มีงานทำ เวลาเรามีเงินก็ชอบพูดแซะเราว่าซื้อแต่อาหารให้แมวกินแต่แม่ไม่เคยซื้ออะไรให้กินเลย แมวเลี้ยงดีกว่าแม่บ้างแหละ แต่พอแม่เรามีเงินเอาไปใช้ซื้อต้นไม้บางซื้อกับข้าวไปกินบ้านญาติบ้างแต่พอวันไหนไม่มีก็เอาแต่มากินกับเรา เวลาไม่มีเงินก็มายืมเราพูดดีกับเราพอได้ไปเป็นอีกเรื่องด่าเราเหมือนหมูเหมือนหมา เราพยายามใช้เงินให้ประหยัดที่สุดแบบอดได้อดเลิกเรียนถ้าไม่มีเรียนบ่ายก็กลับมากินที่บ้านจะได้ประหยัดเราประหยัดทุกทางไม่เคยของเงินแม่ใช้เลยมีแต่เขามาของเราทั้งพี่คนโตก็ทวงแต่บุญคุณเก่าแต่ปล้นเราไปเยอะเกินบุญคุณตัวเอง แต่ละคนไม่คิดว่าเราจะเอาเงินมากจากไหนค่าเทอมก็กยศ.ค่ากิน กยศ.แค่ละ3000แต่เราต้องเอามาแบ่งให้พี่กับแม่ใช้ ดีหน่อยที่พี่ชายที่เป็นตร.จะหางานpart timeมาให้เราทำบ้าง แล้วออกค่าน้ำมันรถขับไปเรียนให้อาจจะอยู่ไม่ได้ทั้งเดือนแต่ก็ช่วงแบ่งเบาเราได้
ปัจจุบัน
ทุกวันนี้ก็วนอยู่เหมือนเดิม แม่ก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน ได้เงินเดือนจากพี่ชายมาก็เอาไปใช้หมดกับอะไรก็ไม่รู้ไม่เคยซื้อกับข้าวหรือของกินไว้เลย เราเงินกยศ.ออกก็ซื้อแต่ขนมปัง มาม่า ขนมจีนแห้ง กับน้ำเต้าหู้ติดเอาไว้สำรองวันไม่มีกิน แต่ก็ไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่แม่ก็มาเอาไปกินขนมเราซื้อไว้กินเราเขาก็เอาไปให้เด็กลูกหลานใครก็ไม่รู้ ไม่เคยซื้อมาคืนเราเลย แม่เราเป็นคนหน้าใหญ่ทำตัวเหมือนมีเงินแต่ความจริงไม่มีแม้แต่สักบาทอะที่เป็นของเราก็จะชอบทำเอาไปให้คนอื่นทั้งที่คนที่ตัวเองเอาไปให้เขามีกินกว่าตัวเองด้วยซ้ำยืมเงินเราไปก็ของผ่อนเดือนละร้อยพอพี่ชายเราโอนเงินมาให้เราทวงก็บ่นนั้นนี้ไม่คืนเราเดี๋ยวก็บอกว่าต้องไปงานแต่งงานศพบ้างแหละ ญาติเยอะเหลือเกินพอเราพูดให้ก็ว่าเราโลกแคบเราเลยพูดบทสทนาคนั้งสุดท้ายกับเขาว่า"ก็ไม่ใช้เพราะคนโลกแคบๆแบบเราหรอกหรอที่คอยช่วย ทั้งเรื่องเงิน เรื่องอยู่ เรื่องกินไอ้โลกกว้างๆแบบนั้นไม่อยากมีหรอกจะนึกถึงเราก็ตอนเอาซองมาให้ใส่เงินเท่านั้นแหละแต่เวลาอื่นเขาก็เอาแค่ตัวเขาเองเท่านั้นแหละ ตอนตัวเองลำบากก็ไม่เห็นมีใครอยากจะคุยหรือนึกถึงเลยนิขนาดเขาจะไปงานขึ้นบ้านใหม่กันญาติพากันไปหมดเหลือแต่ตัวเองที่ไม่ได้พอโทรไปถามว่าพากันไปไหนหมดเขาก็บอกว่าลืมชวนทั้งที่บ้านอยู่ติดกันเป็นแถบยาวเลยแต่ไม่มีคนชวน
เวลามีความสุขช่วยนึกถึงวันที่ตัวเองลำบากว่ามีคนกี่คนที่อยู่กับเราด้วย"เราก็ร่ายยยาวไปแล้วเราก็เดินหนี
เพราะนี้เราคิดได้แค่ว่าจบไปมีงานทำเราจะทำแค่นี้
-มีงานทำได้เงินเดือนเราก็จะเอามาตอบแทนพระคุณน้าเราในวันที่เรามืดมิดแม้แต่คนเป็นแม่แท้ๆยังไม่อยู่ข้างเราแต่น้าเป็นเหมือนแสงสว่างที่ทำให้เรามีความหวังเราว่าจะดูแลน้าเหมือนที่น้าดูแลเราไปเรื่อยจนกว่าใครคนนึงจะตายจากกันไป
-ส่วนแม่เราจะใช้แค่ค่าหนี้บ้านแล้วบ้านต้องโอนเป็นชื่อเราคนเดียวเท่านั้นไม่งั้นมันจะกลับไปวงโคจรเดิมที่ต้องใช้หนี้ไม่หมดไม่สิ้น ส่วนเงินเดือนคงไม่มีให้ มีแค่จะซื้อของให้อยู่ให้กินจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้กับทำประกันสุขภาพให้เจ็บป่วยก็เบิกประกันเอา เพราะเขาก็รับจ้างทอผ้าอยู่แล้วอยากได้อะไรก็ต้องหาเอาเองบ้าง
-ส่วนเราก็จะเก็บเงินไว้เพื่ออนาคตจะบ้างานให้เต็มที่แล้วจะว่างมือจากทุกอย่างตอนอายุ49กลับมาอยู่บ้านปลูกผักทำสวนเฝ้ามองดูลูกหลานที่โตขึ้นทุกๆวัน บ้านปลายชีวิตเราไม่หวังให้ลูกต้องมาเลี้ยงเราเหมือนที่เราเคยเป็นโดนแม่เราค่อยกดดันเราตลอดเราจะวางแผนตัวเองไว้แต่ตนๆเพื่อจะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระลูกหลานในอนาคตเราอยากให้เขาทำกับเราด้วยความเต็มใจไม่ใช้เพราะเป็นหน้าที่หรือภาระที่เขาต้องแบก
เราแค่อยากมาแชร์เรื่องแย่ๆ ไม่อยากให้ท้อกับชีวิตส่วนคนที่กำลังพบกับเรื่องแย่ๆอยู่เรามาสู่ไปด้วยกันนะคะ
การมีสัตว์เลี้ยงก็ช่วยได้นะคะอาจจะน่ากลัวตอนที่เขาจากเราไปแต่มันจะมีแต่ความทรงที่ดีในเวลาที่มองย้อนกลับมาค่ะ
บางคนอาจไม่มีเงินซื้อก็ลองรับแมวจรเหมือนเรามาเลี้ยงดูค่ะ ทำให้เราได้มอบโอกาสเล็กๆให้และเขาได้โลกใหม่ด้วย
แล้วทุกคนคิดว่าไงค่ะ ว่าควรจะจัดกับปัญหาที่มีอยู่กันยังไงบ้างมาแชร์กันได้นะคะ
แม่ไม่ใช่ safe zone และคงได้ดูแลตามที่สมควรใครจะว่าไงก็คงไม่สนแล้ว
เราขอเริ่มตั้งแต่ช่วงพ่อมีชีวิตอยู่ก่อนพ่อเราเมื่อก่อนเมาเหล้าจนทะเลาะกับแม่ทุกวันจนเราเริ่มเข้ารร.พ่อก็เลิกเหล้า พ่อส่งเราเรียนเอกชนรร.ดังในจังหวัด สงเสียเราเองทั้งหมด และพ่อเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้านตั้งแต่ค่าอยู่ค่ากินค่าน้ำค่าไฟเงิน ส่วนแม่ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลยเพราะแม่ติดหวยหนักมากสร้างแต่หนี้ให้พ่อจ่ายเป็นทั้งเจ้าแชร์แล้วไม่มีเงินจ่ายเพราะเป็นเงินแสนพ่อก็ต้องกู้เงินมาใช้หนี้แทน(นี่แหละสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พ่อติดเหล้า)ทุกครั้งหิวข้าวหรืออยากกินขนมเราก็จะปั่นจักรยานหาแม่ตามห้องแถวแต่ละที่ที่เขาเคยไปก็ไม่เจอจนเราคิดไม่กินก็ได้ส่วนข้าวก็ไปกินอยู่ร้านเพื่อนพ่อก่อนพ่อมาค่อยเอาเงินไปจ่ายให้ทีหลังนหลังจาหนั้นพ่อเลยไม่กินข้าวที่โรงอาหารเขาเลยกลับบ้านมาทุกๆตอนเที่ยงแล้วพาเราไปซื้อข้าวซื้อขนมกลับมากินที่บ้านแล้วตอนบ่ายพ่อก็กลับไปทำงานตลอด ส่วนแม่ก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่นางชอบเข้าสังคมจะชอบไปเล่นกับกลุ่มเมียตร.ที่จับกลุ่มกันเล่นเลขหุ้นลุ้นเลขกันทุกวัน ชีวิตเราก็วนอยู่แบบนั้น จนวันนึงพ่อเราป่วยหนักเพราะน้องชายซื้อยาสมุนไพร่มาให้ต้มกินพ่อเราก็ลองเอามาต้มดื่มสรุปเย็นวันนั้นพ่อเราได้เข้าโรงบาลทันที่(พ่อเราป่วยเป็นมะเร็งตับอยู่แล้วกินยาตามหมอสั่งและต้องไปตามหมอนัดเพื่อไปเอายา)พอเราต้องนอนอยู่โรงบาลเกือบเดือนจนพ่อขอออกกลับมาอยู่บ้านที่สร้างไว้แถวบ้านยายมานอนได้แค่ไม่กี่วันก็ได้กลับไปโรงบาลอีกอาการพ่อแย่มากพี่ชายคนโตเราบอกว่าพ่อทำใจไว้แล้วว่าคงอยู่ไม่ได้นาน แม่ก็ส่งเราให้มาอยู่กับน้าที่บ้านยายให้น้าดูแลช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้องเรียนคนที่บ้านไม่มีเวลาดูแลเราน้าเป็นคนจัดการเกี่ยวกับเราแทนทุกอย่างหารถรับส่งให้ ซักผ้าให้และให้เงินไปรร. จนวันนึงเราได้รับข่าวร้ายว่าพ่อไม่ไหวแล้วแม่บอกว่าอยากให้เราไปหาพ่อซึ่งตัวเราอยู่อีกอำเภอนึงซึ่งไกลจากโรงบาลประมาณเกือบ40กม. สรุปเราไปไม่ทัน พอเราถึงโรงบาลเราเห็นแค่เจ้าหน้าที่เอาโรงศพมาเตียงผู้ป่วยตอนนั้นเราทำไรไม่ถูกไม่เดินไปดูพ่อด้วยซ้ำ เราทำใจไม่ได้เหมือนตอนนั้นเวลาเราหยุดเดิน พ่อเหมือนโลกทั้งใบของเรา เราเรียนไม่เก่งไม่เคยด่าเคยว่าเรามีแค่ให้กำลังใจเป็นพลังบวกให้เราเสมอพ่อสัญญากับเราไว้ว่าจะอยู่กับเราจนจบม.6 ทุกคำพูดของพ่อวนเข้ามาในหัวจนมาถึงทุกว่านี้ หลังจากคนที่บ้านวุ่นกับเรื่องพ่อน้าก็พาเรากลับ เรามีแค่น้าเราตื่นเช้ามาเหมือนฝันเราคิดว่าคงฝันแหละเราเลยบอกน้าว่าอยากไปเยี่ยมพ่อจนวันนั้นน้าบอกว่าพ่อไม่อยู่แล้วนะแล้วน้าก็กอดเราไว้อาการเราตอนนั้นแย่มากมีน่ากับยายที่คอยปลอบเรา จนแม่เรามารับไปวัดหลังจากเผ่าพ่อเสร็จชีวิตเราก็ก็เดินต่อ
หลังจากพ่อเสียพ่อทิ้งเงินไว้แบ่งให้ลูก3คนส่วนแม่ไม่ได้รับในส่วนนี้เพราะในประกันพ่อระบุชื่อไว้แค่ลูก ลูกทุกคนได้เงินหมดยกเว้นเราที่ยังเด็กแม่พาไปเปิดบัญชีร่วมกับแม่เป็นชื่อเรากับแม่ หลังจากนั้นไม่นานแม่เอาเงินเราไปออกรถกระบะไว้ให้คนโตขับเพราะแม่ขับไม่เป็น ส่งพี่ชายคนกลางไปเรียนตร. คนโตโทรมาของเงินแม่ก็ให้ตลอดแ ส่วนแม่เอาเงินมาลงทุนเปิดร้านขายของ สรุปเงินหมดเพราะแม่ไม่สามารถจัดการเรื่องเงินได้ เงินให้เราไปเรียนก็ไม่มีเราเลยบอกว่าไม่อยากไปเรียนแล้วเร่ก็ปีนกำแพงไปป่าหลังบ้านหลบอยู่หลังกำแพงสิ่งที่แม่เราทำกับเราคือเอาไม้กวาดมาตีที่หัวเราตอนนั้ นเราร้องให้หนักมากคือถ้าฆ่าเราได้เขาคงฆ่าเราแล้วเขาโทษว่าเปลืองเงินไปกับเราค่าเทอมก็แพงจ่ายแต่ละทีก็เป็นหมื่นช่วงนั้นคือดิ่งมากจนเราคิดฆ่าตัวตายกลับจากหลังเลิกเรียนเร่ชอบทำร้ายตัวเองตลอดออกจากบ้านไปเรียนเราก็สนุกนะหัวเราะกับเพื่อนแต่พอกลับบ้านมาก็คนละเรื่องเลยจนปิดเทอมเงินก็ไม่มีกินจำได้ว่าหนักสุดมีแค่ข้าวกับหนอไม้ต้มกินจกับแจ่วแค่นั้น อยู่ดีๆแม่ก็มีกลับมามีเงินอีกครั้งแบบงงๆ จนพี่ชายคนกลางพาเรากับแม่ไอยู่ในค่ายด้วยให้แม่ไปเรียนหลานโชคดีพี่เรีบนจบแล้วมีงานทำเราเลยได้เงินไปเรียนต่อ (เรายังเรียนอยู่เอกชนที่เดิมอยู่)
จนเราอยู่ม.3 มันคือจุดแตกหักครั้งแรงของกัยแม่ เราต้องเอาเงินมาจ่ายค่าเทอมเพื่อเอาใบจบกับเกรดเพราะปิดเทอมแล้วเราก็ยังไม่มีเงินจ่ายสักทีแม่ก็เอาแต่บอกว่าพี่ชายยังไม่โอนมาเพราะตอนนั้นแม่ไม่มีเงินเลยบอกให้พี่คนโตหามาจ่ายให้ (ตอนนั้นเราตกวิชาคณิตเราก็ไปสอบแก้มีเพื่อนคนนึงไม่สนิทกันไม่รู้เขาเอาเรื่องมาจากไหนแล้วมาพูดกับเราว่าเมื่อไหร่จะมาจ่ายค่าเทอมค่าเทอมจ่ายแล้วหรอตอนนั้นจำได้ว่าสอบแก้เสร็จเรารีบกลับบ้านเลยเรารู้สึกอายมากแถมก็แอบตกใจไปรู้มาจากไหนอีกทำไมเพื่อนเราไม่เห็นมีใครพูดหรือรู้เรื่องอะไรหรือเขารู้แต่แค่ไม่พูดหลังจากนั้นเราไม่กล้าทุกแชทไปคุยกับเพื่อนเลยกลัวเพื่อนจะเลิกคบสรุปคือเพื่อนคุยกับเราเหมือนเดินปกติทุกอย่าง) หลังจากเรากลับจากรร.เราแอบสงสัยแม่เลยไปค้นกระเป๋าเจอสมุดบัญชีสรุปพี่ชายเราโอนมาแต่แม่ใช้ไปหมดแล้วหมดตั้งแต่อาทิตย์แรกเลยเราเลยรีบโทรหาพี่ว่าโอนเงินมาให้เท่าไหร่พี่บอก13000 เราตกใจมาที่แม่ใช้เงินเราหมด ช่วงที่เราถามแม่ว่าทำไมพี่ไม่โอนเงินมาสักทีแม่เอาแต่พูดว่าถ้าไม่มีจ่ายก็ค่อยไปเอาตอนมีแล้วไปหาเรียนกศน.เอาอีก3ปีค่อยมาเรียนก็ได้ช่วงว่างๆก็ไปหาทำงานเก็บเงินมาเรียนเอา
หลังจากเราได้คุยกับพี่ชายคนโตเราก็ให้พี่มารับเรากลับบ้านพี่ชายที่เป็นตร.ไม่รู้เรื่องก็บอกให้เราอยู่คุยกันก่อนเราก็ไม่อยากคุยเราก็ตอบไปแค่ว่าให้ไปถามแม่เอาเถอะ พี่คนโตหมดทางออกพี่เลยได้โทรหาน้าเราน้ารู้เรื่องน้าเราเลยรับผิดชอบทุกอย่างในตัวเราทั้งจ่ายค่าเทอมอันเก่าให้แล้วส่งเรียนที่รร.ใหม่จนจบม.6
ส่วนปี1เราก็เริ่มกู้ กยศ.เรียนส่วนน้าก็บอกว่าถ้าไม่ไหวก็ให้บอกขาดเหลืออะไรน้าก็จะคอยช่วย ส่วนเรากับแม่ก็กลับมาคุยกันเพราะน้าบอกเราเลยยอมคุยกับแม่แต่ทุกวันนี้เรากับแม่ไม่ค่อยสนิทใจกันเท่าไหร่โดยเฉพาะเรื่องเงินเราไม่เคยไว้ใจเขาเลย
ทุกวันนี้เราหาเงินใช้เอง อกมื้อกินมื้อถึงอยู่กับแม่แต่ได้หาซื้อข้าวซื้อนั้นนี้กินเองหมดแถมเขามากินของเราด้วยแต่พอของตัวเองเก็บไว้กินคนเดียวลูกมันจะเป็นยังไงก็เรื่องของมันตัวเองต้องอิ่มก่อน เห็นคนอื่นดีกว่าเรา เวลาลูกคนอื่นเจ็บป่วยห่วงเขามากดูแลแทบลูกคนนึง เขาไม่มีข้าวกินก็ทำข้าวลงไปส่งแต่ลูกที่บ้านได้ซื้อกินเองหาทำกินเองพอเราทำกินแค่เราบอกว่าไม่ทำเผื่อพอทำเผื่อกลับไปกินข้าวนอกบ้านกับคนอื่น ส่วนเราเลือกไรได้บ้างต้องมาอยู่กับแม่แบบนี้นี่ทนอยู่เพราะยังเรียนไม่จบยังไม่มีงานทำ เวลาเรามีเงินก็ชอบพูดแซะเราว่าซื้อแต่อาหารให้แมวกินแต่แม่ไม่เคยซื้ออะไรให้กินเลย แมวเลี้ยงดีกว่าแม่บ้างแหละ แต่พอแม่เรามีเงินเอาไปใช้ซื้อต้นไม้บางซื้อกับข้าวไปกินบ้านญาติบ้างแต่พอวันไหนไม่มีก็เอาแต่มากินกับเรา เวลาไม่มีเงินก็มายืมเราพูดดีกับเราพอได้ไปเป็นอีกเรื่องด่าเราเหมือนหมูเหมือนหมา เราพยายามใช้เงินให้ประหยัดที่สุดแบบอดได้อดเลิกเรียนถ้าไม่มีเรียนบ่ายก็กลับมากินที่บ้านจะได้ประหยัดเราประหยัดทุกทางไม่เคยของเงินแม่ใช้เลยมีแต่เขามาของเราทั้งพี่คนโตก็ทวงแต่บุญคุณเก่าแต่ปล้นเราไปเยอะเกินบุญคุณตัวเอง แต่ละคนไม่คิดว่าเราจะเอาเงินมากจากไหนค่าเทอมก็กยศ.ค่ากิน กยศ.แค่ละ3000แต่เราต้องเอามาแบ่งให้พี่กับแม่ใช้ ดีหน่อยที่พี่ชายที่เป็นตร.จะหางานpart timeมาให้เราทำบ้าง แล้วออกค่าน้ำมันรถขับไปเรียนให้อาจจะอยู่ไม่ได้ทั้งเดือนแต่ก็ช่วงแบ่งเบาเราได้
ปัจจุบัน
ทุกวันนี้ก็วนอยู่เหมือนเดิม แม่ก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน ได้เงินเดือนจากพี่ชายมาก็เอาไปใช้หมดกับอะไรก็ไม่รู้ไม่เคยซื้อกับข้าวหรือของกินไว้เลย เราเงินกยศ.ออกก็ซื้อแต่ขนมปัง มาม่า ขนมจีนแห้ง กับน้ำเต้าหู้ติดเอาไว้สำรองวันไม่มีกิน แต่ก็ไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่แม่ก็มาเอาไปกินขนมเราซื้อไว้กินเราเขาก็เอาไปให้เด็กลูกหลานใครก็ไม่รู้ ไม่เคยซื้อมาคืนเราเลย แม่เราเป็นคนหน้าใหญ่ทำตัวเหมือนมีเงินแต่ความจริงไม่มีแม้แต่สักบาทอะที่เป็นของเราก็จะชอบทำเอาไปให้คนอื่นทั้งที่คนที่ตัวเองเอาไปให้เขามีกินกว่าตัวเองด้วยซ้ำยืมเงินเราไปก็ของผ่อนเดือนละร้อยพอพี่ชายเราโอนเงินมาให้เราทวงก็บ่นนั้นนี้ไม่คืนเราเดี๋ยวก็บอกว่าต้องไปงานแต่งงานศพบ้างแหละ ญาติเยอะเหลือเกินพอเราพูดให้ก็ว่าเราโลกแคบเราเลยพูดบทสทนาคนั้งสุดท้ายกับเขาว่า"ก็ไม่ใช้เพราะคนโลกแคบๆแบบเราหรอกหรอที่คอยช่วย ทั้งเรื่องเงิน เรื่องอยู่ เรื่องกินไอ้โลกกว้างๆแบบนั้นไม่อยากมีหรอกจะนึกถึงเราก็ตอนเอาซองมาให้ใส่เงินเท่านั้นแหละแต่เวลาอื่นเขาก็เอาแค่ตัวเขาเองเท่านั้นแหละ ตอนตัวเองลำบากก็ไม่เห็นมีใครอยากจะคุยหรือนึกถึงเลยนิขนาดเขาจะไปงานขึ้นบ้านใหม่กันญาติพากันไปหมดเหลือแต่ตัวเองที่ไม่ได้พอโทรไปถามว่าพากันไปไหนหมดเขาก็บอกว่าลืมชวนทั้งที่บ้านอยู่ติดกันเป็นแถบยาวเลยแต่ไม่มีคนชวน
เวลามีความสุขช่วยนึกถึงวันที่ตัวเองลำบากว่ามีคนกี่คนที่อยู่กับเราด้วย"เราก็ร่ายยยาวไปแล้วเราก็เดินหนี
เพราะนี้เราคิดได้แค่ว่าจบไปมีงานทำเราจะทำแค่นี้
-มีงานทำได้เงินเดือนเราก็จะเอามาตอบแทนพระคุณน้าเราในวันที่เรามืดมิดแม้แต่คนเป็นแม่แท้ๆยังไม่อยู่ข้างเราแต่น้าเป็นเหมือนแสงสว่างที่ทำให้เรามีความหวังเราว่าจะดูแลน้าเหมือนที่น้าดูแลเราไปเรื่อยจนกว่าใครคนนึงจะตายจากกันไป
-ส่วนแม่เราจะใช้แค่ค่าหนี้บ้านแล้วบ้านต้องโอนเป็นชื่อเราคนเดียวเท่านั้นไม่งั้นมันจะกลับไปวงโคจรเดิมที่ต้องใช้หนี้ไม่หมดไม่สิ้น ส่วนเงินเดือนคงไม่มีให้ มีแค่จะซื้อของให้อยู่ให้กินจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้กับทำประกันสุขภาพให้เจ็บป่วยก็เบิกประกันเอา เพราะเขาก็รับจ้างทอผ้าอยู่แล้วอยากได้อะไรก็ต้องหาเอาเองบ้าง
-ส่วนเราก็จะเก็บเงินไว้เพื่ออนาคตจะบ้างานให้เต็มที่แล้วจะว่างมือจากทุกอย่างตอนอายุ49กลับมาอยู่บ้านปลูกผักทำสวนเฝ้ามองดูลูกหลานที่โตขึ้นทุกๆวัน บ้านปลายชีวิตเราไม่หวังให้ลูกต้องมาเลี้ยงเราเหมือนที่เราเคยเป็นโดนแม่เราค่อยกดดันเราตลอดเราจะวางแผนตัวเองไว้แต่ตนๆเพื่อจะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระลูกหลานในอนาคตเราอยากให้เขาทำกับเราด้วยความเต็มใจไม่ใช้เพราะเป็นหน้าที่หรือภาระที่เขาต้องแบก
เราแค่อยากมาแชร์เรื่องแย่ๆ ไม่อยากให้ท้อกับชีวิตส่วนคนที่กำลังพบกับเรื่องแย่ๆอยู่เรามาสู่ไปด้วยกันนะคะ
การมีสัตว์เลี้ยงก็ช่วยได้นะคะอาจจะน่ากลัวตอนที่เขาจากเราไปแต่มันจะมีแต่ความทรงที่ดีในเวลาที่มองย้อนกลับมาค่ะ
บางคนอาจไม่มีเงินซื้อก็ลองรับแมวจรเหมือนเรามาเลี้ยงดูค่ะ ทำให้เราได้มอบโอกาสเล็กๆให้และเขาได้โลกใหม่ด้วย
แล้วทุกคนคิดว่าไงค่ะ ว่าควรจะจัดกับปัญหาที่มีอยู่กันยังไงบ้างมาแชร์กันได้นะคะ