เพื่อไทย ยก‘เศรษฐา’บริหารเทียบชั้น‘ทักษิณ’ ปลุกเลือกแลนด์สไลด์ ทำงานได้ทันที
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7646056
ภูมิธรรม ปลุกเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที ยก ‘เศรษฐา’ บริหารเทียบชั้น ‘ทักษิณ’ ลั่นทีมเพื่อไทยพร้อมทำงานทันที
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2566 นาย
ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที ในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ตนขอพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ คนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย นาย
เศรษฐา ทวีสิน
ตลอดเวลานับตั้งแต่เปิดตัวทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย ตนได้เห็นความทุ่มเท ความมุ่งมั่นในการลงพื้นที่เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาของประชาชนอย่างจริงจังและจริงใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากประการหนึ่งของคนที่อาสาเข้ามาเป็นนักการเมือง เมื่อพูดคนจะฟัง เมื่อลงมือทำคนจึงจะเชื่อ นายเศรษฐา พิสูจน์ความเป็นนักการเมืองของตัวเองด้วยการลงมือทำ
นายภู
มิธรรม ระบุต่อว่า การที่นาย
เศรษฐา วางมือจากธุรกิจเข้ามาอาสาเป็นทีมเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ เป็นความภาคภูมิใจของพรรค และเป็นกำลังใจให้กับสมาชิกพรรคที่ได้คนมีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ อย่างคุณเศรษฐามาเป็นร่วมเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ทำงานเพื่อประชาชนไปด้วยกัน
คิดว่าเป็นเรื่องดีของการเมืองไทย ที่จะได้คนซึ่งมีทั้งภูมิรู้ ภูมิปัญญา รวมทั้งประสบการณ์ในการบริหารจัดการ เข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้ขึ้นจากหลุมดำ พร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าเหมือนในอดีตที่เราเคยมีนายกฯ จากนักธุรกิจ อย่างนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้พิสูจน์ฝีมือสร้างคุณูปการให้สังคมไทยมาถึงวันนี้
“
ผมเชื่อมั่นว่าคุณเศรษฐา แคนดิเดตนายกฯ คนหนึ่งของทีมเพื่อไทยท่านนี้ จะเป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในเวทีโลกได้อย่างสมภาคภูมิ ทีมเพื่อไทยเราพร้อมทำงานทันที ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เป็นรัฐบาล เลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” นาย
ภูมิธรรม ระบุ
‘สมชัย’ จวก ‘กกต.-ป.ป.ช.’ เพิ่งแจ้งพรรคทำแบบประเมินความเสี่ยงทุจริตด้านนโยบาย 23 หน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3960793
‘สมชัย’ จวก ‘กกต.-ป.ป.ช.’ อีกแค่สัปดาห์จะเลือกตั้ง กลับแจ้งพรรคทำแบบประเมินความเสี่ยงทุจริตด้านนโยบาย 23 หน้า สงสัยหรือนี่คือข่าวใหญ่อมยิ้มของ กกต.
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทยโพสต์เอกสารหนังสือ กกต.ลงวันที่ 3 พฤษภาคมถึงหัวหน้าทุกพรรคการเมืองพร้อมข้อความระบุว่า
“
ข่าวใหญ่อมยิ้มของ กกต. คือข่าวนี้หรือไม่ เนื่องจากวันที่ 2 พฤษภาคม กกต.แถลงข่าวประกอบอมยิ้มว่า อีกวันสองวันจะมีข่าวใหญ่ ปรากฏว่า วันที่ 3 พฤษภาคมก่อนวันหยุดยาว 4 วัน รองเลขาธิการ กกต. ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคให้ทำการประเมินความเสี่ยงทุจริตด้านนโยบาย จำนวน 23 หน้า ให้ทุกพรรคนำส่ง ป.ป.ช.โดยตรง”
“
ช่างถูกที่ ถูกเวลาจริง เพราะวันหยุดยาว ทุกพรรคลงพื้นที่กันหมด กว่าจะเปิดมาวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม ก็อีก 6 วันก็ถึงวันเลือกตั้ง บอกว่าทุกพรรคต้องวิเคราะห์นโยบายสำคัญว่า คุ้มค่า มีความเสี่ยง มีผลกระทบอย่างไร ส่งให้ ป.ป.ช.ด่วน แบบด่วนที่สุด 4 ปีเตรียมการเลือกตั้ง 6-7 เดือน ที่พรรคการเมืองออกนโยบายหาเสียง เหลืออีกสัปดาห์จะเลือกตั้ง คุณถึงใช้อำนาจสั่งให้วิเคราะห์นโยบายตามแบบฟอร์ม 23 หน้า ทั้ง กกต. และ ป.ป.ช. ควรได้โล่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ” นาย
สมชัยระบุ
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02QzUtxEnKfHkKTUja2XkXMhHDJfNofM8FQDsULKYbxQ4cyW16xm872SsMMRMymBbel
ชาวสวนแม่กลองยิ้มไม่ออก ลิ้นจี่ดกเจออากาศร้อน ยืนต้นตายเกือบครึ่งสวน
https://www.dailynews.co.th/news/2294506/
ชาวสวนลิ้นจี่พันธุ์ค่อมเมืองแม่กลอง หลงดีใจผลผลิตดกเต็มต้นหวังรับทรัพย์อื้อ ลมแทบจับเจอพิษอากาศร้อนยืนต้นตายเกือบครึ่งสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อากาศที่ร้อนจัดและร้อนนานปีนี้ทำให้ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมของ จ.สมุทรสงครามที่ให้ผลผลิตออกมากว่า 5,000 ตัน แทนที่จะทำให้ชาวสวนทุกรายยิ้มแย้มแจ่มใสกับผลผลิตที่ขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกรรม แต่มีชาวสวนบางราย เช่น นายบุญช่วย สุขวิจิตร์ อายุ 80 ปี เจ้าของสวนลิ้นจี่บนเนื้อที่ 5 ไร่ 35 ต้นในพื้นที่หมู่ 1 ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ริมถนนผลไม้ ทางเข้าวัดอินทาราม กับบอกว่า ปีนี้ตนเหมือนทุกขลาภลิ้นจี่ให้ผลผลิตเกือบทุกต้นคาดว่าประมาณ 3 ตันหรือ 3,000 กก. เห็นเงิน 3-400,000 บาทอยู่ข้างหน้า แต่กลับมีต้นลิ้นจี่อายุประมาณ 30 ปี 11 ต้นซึ่งกำลังจะเก็บผลผลิตได้ ใบกลับแห้งเป็นสีน้ำตาลลักษณะยืนต้นตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนลูกลิ้นจี่ก็แห้งร่วงหล่นเกลื่อนโคนต้นเสียหายไปครึ่งสวน
นาย
บุญช่วย กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเกิดมาทำสวนลิ้นจี่จนอายุ 80 ปีแล้วยังไม่เคยเจอต้นลิ้นจี่ยืนต้นตายแบบนี้ ตอนแรกคิดว่ามีคนแกล้งโรยยา แต่พอมาคิดๆ ดูสวนคนอื่นก็ยืนต้นตายเหมือนกันแต่ไม่มากเท่ากับสวนของตน จึงคิดว่าปีนี้ลิ้นจี่ให้ผลผลิตมากเมื่อมาเจออากาศที่ร้อนจัดนานเป็นเดือน อาจทำให้ลิ้นจี่ที่มีลูกดกต้องหาอาการมาเลี้ยงลูกจำนวนมากอาจทนไม่ไหวกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ตอนแรกใบก็เริ่มเหี่ยวเฉาก่อน ตนจะเก็บผลผลิตช่วงนั้นลิ้นจี่ก็ยังไม่แก่สมบูรณ์ จึงต้องปล่อยจนผลลิ้นจี่แห้งคาต้น ส่วนต้นลิ้นจี่ก็เริ่มยืนต้นตายเนื่องจากใบร่วงจนเหลือแต่กิ่งก้าน ซึ่งตนจะลองตัดกิ่งก้านที่แห้งออกให้หมดแล้วให้น้ำจำนวนมากทุกวันก็ยังหวังว่าต้นลิ้นจี่เหล่านี้อาจจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แต่หากไม่ได้ผลก็คงต้องตัดต้นทิ้งอย่างน่าเสียดายแล้วปลูกใหม่
นาย
บรรจงศิลป์ วุฒิอุทัย เกษตร จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ปีนี้สภาพอากาศค่อนข้างร้อนจัดทำให้ผลลิ้นจี่แก่เร็วขึ้นและมีลิ้นจี่บางสวนบางต้นออกลูกแล้วไม่สามารถเก็บผลผลิตได้เนื่องจากผลผลิตไม่มีคุณภาพ เพราะผลลิ้นจี่แก่เร็วจากอากาศร้อน ส่งผลทำให้ต้นลิ้นจี่โทรมแสดงลักษณะกำลังจะยืนต้นตาย จากการสันนิฐานเบื้องต้น คาดว่าต้นลิ้นจี่ดังกล่าวไม่สมบูรณ์และมีใบเพียง 1ชุด ซึ่งปกติต้องมีไม่น้อยกว่า2ชุด เนื่องจากระบบรากไม่ดี จึงแนะนำชาวสวนเบื้องต้นให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ผสมเชื้อราไตรโครเดอร์ม่า หรือขึ้นเลนบางๆ รอบทรงพุ่ม และรดนำสม่ำเสมอ กับให้ตัดแต่งกิ่งลิ้นจี่ให้สูงจากพื้นดินไม่ควรเกิน 2 เมตร และให้เหลือกิ่งข้างที่มีใบติดอยู่พอประมาณเพื่อให้มีใบไว้สังเคราะห์แสงและให้รดนำอย่างสม่ำเสมอต้นลิ้นจี่ก็จะแตกยอดขึ้นมาใหม่หลังดำเนินการแล้วประมาณ 1-2 เดือน
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทั้งระดับจังหวัดและอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบต้นลิ้นจี่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวแล้ว คาดว่าวันจันทร์นี้จะส่งนักวิชาการที่มีความรู้เรื่องนี้ลงไปให้ความรู้ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรชาวสวนเพื่อให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการฟื้นฟูต้นลิ้นจี่ดังกล่าวให้แตกยอดขึ้นมาใหม่โดยเร็วต่อไป
JJNY : ยก‘เศรษฐา’เทียบชั้น‘ทักษิณ’│‘สมชัย’จวก‘กกต.-ป.ป.ช.’│ลิ้นจี่ดกเจออากาศร้อน│ผู้นำยูเครนลั่นต้องตั้ง“ศาลพิเศษ”เอาผิด
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7646056
ภูมิธรรม ปลุกเลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที ยก ‘เศรษฐา’ บริหารเทียบชั้น ‘ทักษิณ’ ลั่นทีมเพื่อไทยพร้อมทำงานทันที
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที ในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ตนขอพูดถึงแคนดิเดตนายกฯ คนหนึ่งของพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน
ตลอดเวลานับตั้งแต่เปิดตัวทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย ตนได้เห็นความทุ่มเท ความมุ่งมั่นในการลงพื้นที่เพื่อพบปะและรับฟังปัญหาของประชาชนอย่างจริงจังและจริงใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากประการหนึ่งของคนที่อาสาเข้ามาเป็นนักการเมือง เมื่อพูดคนจะฟัง เมื่อลงมือทำคนจึงจะเชื่อ นายเศรษฐา พิสูจน์ความเป็นนักการเมืองของตัวเองด้วยการลงมือทำ
นายภูมิธรรม ระบุต่อว่า การที่นายเศรษฐา วางมือจากธุรกิจเข้ามาอาสาเป็นทีมเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ เป็นความภาคภูมิใจของพรรค และเป็นกำลังใจให้กับสมาชิกพรรคที่ได้คนมีความสามารถ มีวิสัยทัศน์ อย่างคุณเศรษฐามาเป็นร่วมเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ทำงานเพื่อประชาชนไปด้วยกัน
คิดว่าเป็นเรื่องดีของการเมืองไทย ที่จะได้คนซึ่งมีทั้งภูมิรู้ ภูมิปัญญา รวมทั้งประสบการณ์ในการบริหารจัดการ เข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้ขึ้นจากหลุมดำ พร้อมก้าวเดินไปข้างหน้าเหมือนในอดีตที่เราเคยมีนายกฯ จากนักธุรกิจ อย่างนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้พิสูจน์ฝีมือสร้างคุณูปการให้สังคมไทยมาถึงวันนี้
“ผมเชื่อมั่นว่าคุณเศรษฐา แคนดิเดตนายกฯ คนหนึ่งของทีมเพื่อไทยท่านนี้ จะเป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในเวทีโลกได้อย่างสมภาคภูมิ ทีมเพื่อไทยเราพร้อมทำงานทันที ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เป็นรัฐบาล เลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” นายภูมิธรรม ระบุ
‘สมชัย’ จวก ‘กกต.-ป.ป.ช.’ เพิ่งแจ้งพรรคทำแบบประเมินความเสี่ยงทุจริตด้านนโยบาย 23 หน้า
https://www.matichon.co.th/politics/news_3960793
‘สมชัย’ จวก ‘กกต.-ป.ป.ช.’ อีกแค่สัปดาห์จะเลือกตั้ง กลับแจ้งพรรคทำแบบประเมินความเสี่ยงทุจริตด้านนโยบาย 23 หน้า สงสัยหรือนี่คือข่าวใหญ่อมยิ้มของ กกต.
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทยโพสต์เอกสารหนังสือ กกต.ลงวันที่ 3 พฤษภาคมถึงหัวหน้าทุกพรรคการเมืองพร้อมข้อความระบุว่า
“ข่าวใหญ่อมยิ้มของ กกต. คือข่าวนี้หรือไม่ เนื่องจากวันที่ 2 พฤษภาคม กกต.แถลงข่าวประกอบอมยิ้มว่า อีกวันสองวันจะมีข่าวใหญ่ ปรากฏว่า วันที่ 3 พฤษภาคมก่อนวันหยุดยาว 4 วัน รองเลขาธิการ กกต. ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคให้ทำการประเมินความเสี่ยงทุจริตด้านนโยบาย จำนวน 23 หน้า ให้ทุกพรรคนำส่ง ป.ป.ช.โดยตรง”
“ช่างถูกที่ ถูกเวลาจริง เพราะวันหยุดยาว ทุกพรรคลงพื้นที่กันหมด กว่าจะเปิดมาวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม ก็อีก 6 วันก็ถึงวันเลือกตั้ง บอกว่าทุกพรรคต้องวิเคราะห์นโยบายสำคัญว่า คุ้มค่า มีความเสี่ยง มีผลกระทบอย่างไร ส่งให้ ป.ป.ช.ด่วน แบบด่วนที่สุด 4 ปีเตรียมการเลือกตั้ง 6-7 เดือน ที่พรรคการเมืองออกนโยบายหาเสียง เหลืออีกสัปดาห์จะเลือกตั้ง คุณถึงใช้อำนาจสั่งให้วิเคราะห์นโยบายตามแบบฟอร์ม 23 หน้า ทั้ง กกต. และ ป.ป.ช. ควรได้โล่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ” นายสมชัยระบุ
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02QzUtxEnKfHkKTUja2XkXMhHDJfNofM8FQDsULKYbxQ4cyW16xm872SsMMRMymBbel
ชาวสวนแม่กลองยิ้มไม่ออก ลิ้นจี่ดกเจออากาศร้อน ยืนต้นตายเกือบครึ่งสวน
https://www.dailynews.co.th/news/2294506/
ชาวสวนลิ้นจี่พันธุ์ค่อมเมืองแม่กลอง หลงดีใจผลผลิตดกเต็มต้นหวังรับทรัพย์อื้อ ลมแทบจับเจอพิษอากาศร้อนยืนต้นตายเกือบครึ่งสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อากาศที่ร้อนจัดและร้อนนานปีนี้ทำให้ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมของ จ.สมุทรสงครามที่ให้ผลผลิตออกมากว่า 5,000 ตัน แทนที่จะทำให้ชาวสวนทุกรายยิ้มแย้มแจ่มใสกับผลผลิตที่ขายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกรรม แต่มีชาวสวนบางราย เช่น นายบุญช่วย สุขวิจิตร์ อายุ 80 ปี เจ้าของสวนลิ้นจี่บนเนื้อที่ 5 ไร่ 35 ต้นในพื้นที่หมู่ 1 ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ริมถนนผลไม้ ทางเข้าวัดอินทาราม กับบอกว่า ปีนี้ตนเหมือนทุกขลาภลิ้นจี่ให้ผลผลิตเกือบทุกต้นคาดว่าประมาณ 3 ตันหรือ 3,000 กก. เห็นเงิน 3-400,000 บาทอยู่ข้างหน้า แต่กลับมีต้นลิ้นจี่อายุประมาณ 30 ปี 11 ต้นซึ่งกำลังจะเก็บผลผลิตได้ ใบกลับแห้งเป็นสีน้ำตาลลักษณะยืนต้นตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนลูกลิ้นจี่ก็แห้งร่วงหล่นเกลื่อนโคนต้นเสียหายไปครึ่งสวน
นายบุญช่วย กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเกิดมาทำสวนลิ้นจี่จนอายุ 80 ปีแล้วยังไม่เคยเจอต้นลิ้นจี่ยืนต้นตายแบบนี้ ตอนแรกคิดว่ามีคนแกล้งโรยยา แต่พอมาคิดๆ ดูสวนคนอื่นก็ยืนต้นตายเหมือนกันแต่ไม่มากเท่ากับสวนของตน จึงคิดว่าปีนี้ลิ้นจี่ให้ผลผลิตมากเมื่อมาเจออากาศที่ร้อนจัดนานเป็นเดือน อาจทำให้ลิ้นจี่ที่มีลูกดกต้องหาอาการมาเลี้ยงลูกจำนวนมากอาจทนไม่ไหวกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ตอนแรกใบก็เริ่มเหี่ยวเฉาก่อน ตนจะเก็บผลผลิตช่วงนั้นลิ้นจี่ก็ยังไม่แก่สมบูรณ์ จึงต้องปล่อยจนผลลิ้นจี่แห้งคาต้น ส่วนต้นลิ้นจี่ก็เริ่มยืนต้นตายเนื่องจากใบร่วงจนเหลือแต่กิ่งก้าน ซึ่งตนจะลองตัดกิ่งก้านที่แห้งออกให้หมดแล้วให้น้ำจำนวนมากทุกวันก็ยังหวังว่าต้นลิ้นจี่เหล่านี้อาจจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แต่หากไม่ได้ผลก็คงต้องตัดต้นทิ้งอย่างน่าเสียดายแล้วปลูกใหม่
นายบรรจงศิลป์ วุฒิอุทัย เกษตร จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ปีนี้สภาพอากาศค่อนข้างร้อนจัดทำให้ผลลิ้นจี่แก่เร็วขึ้นและมีลิ้นจี่บางสวนบางต้นออกลูกแล้วไม่สามารถเก็บผลผลิตได้เนื่องจากผลผลิตไม่มีคุณภาพ เพราะผลลิ้นจี่แก่เร็วจากอากาศร้อน ส่งผลทำให้ต้นลิ้นจี่โทรมแสดงลักษณะกำลังจะยืนต้นตาย จากการสันนิฐานเบื้องต้น คาดว่าต้นลิ้นจี่ดังกล่าวไม่สมบูรณ์และมีใบเพียง 1ชุด ซึ่งปกติต้องมีไม่น้อยกว่า2ชุด เนื่องจากระบบรากไม่ดี จึงแนะนำชาวสวนเบื้องต้นให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ผสมเชื้อราไตรโครเดอร์ม่า หรือขึ้นเลนบางๆ รอบทรงพุ่ม และรดนำสม่ำเสมอ กับให้ตัดแต่งกิ่งลิ้นจี่ให้สูงจากพื้นดินไม่ควรเกิน 2 เมตร และให้เหลือกิ่งข้างที่มีใบติดอยู่พอประมาณเพื่อให้มีใบไว้สังเคราะห์แสงและให้รดนำอย่างสม่ำเสมอต้นลิ้นจี่ก็จะแตกยอดขึ้นมาใหม่หลังดำเนินการแล้วประมาณ 1-2 เดือน
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทั้งระดับจังหวัดและอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบต้นลิ้นจี่ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวแล้ว คาดว่าวันจันทร์นี้จะส่งนักวิชาการที่มีความรู้เรื่องนี้ลงไปให้ความรู้ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรชาวสวนเพื่อให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการฟื้นฟูต้นลิ้นจี่ดังกล่าวให้แตกยอดขึ้นมาใหม่โดยเร็วต่อไป