ชาวนาโคราช หนีน้ำท่วมมาทำนาปรัง แต่เจอภัยแล้ง ต้องปล่อยข้าวยืนต้นตายยกแปลง
https://www.matichon.co.th/region/news_4555782
โคราชภัยแล้งรุนแรง ชาวนาต้องปล่อยข้าวนาปรังยืนต้นตายยกแปลง หลังไม่มีน้ำสูบมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพแปลงปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลท่าหลวง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างหนัก โดยต้นข้าวที่ตั้งท้องออกรวงต้องยืนต้นแห้งตาย เพราไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยง เกษตรกรต้องจำยอมปล่อยให้ข้าวนาปรังที่ปลูกไว้ให้แห้งตายยกแปลง
จากการสอบถามนาย
อำนวย เพิ่มพูน เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตนต้องปล่อยให้ข้าวนาปรังยืนต้นตายเพราะประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ ไม่มีแหล่งน้ำให้สูบมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้อีกต่อไป ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองธรรมชาติและในลำน้ำเค็ม ลดระดับต่ำลงจนไม่สามารถสูบน้ำมาใช้เพื่อการเกษตรได้
ในขณะที่น้ำซึมจากผิวดินและน้ำบาดาลโดยรอบพื้นที่ จะเป็นน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินเกลือ จึงเป็นน้ำกร่อยมีความเค็มสูง ถ้าสูบมาใส่แปลงข้าวนอกจากต้นข้าวจะไม่เจริญเติบโตแล้ว ยังทำให้ผิวดินในแปลงนาได้รับความเค็มมากเกินไป จนไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้อีกเลย ชาวนาหลายรายจึงไม่มีทางเลือก จำใจปล่อยให้ต้นข้าวแห้งตาย ทั้งๆ ที่เป็นช่วงที่ข้าวเริ่มตั้งท้องออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวแล้ว
ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมักจะได้รับผลกระทบกับปัญหาน้ำท่วมแปลงนาในช่วงฤดูน้ำหลากอยู่เป็นประจำ จนพืชผลได้รับความเสียหาย ต้องปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวนาปรังแทน เพื่อหลีกหนีผลกระทบในฤดูน้ำหลาก แต่ก็มาได้รับผลกระทบขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งอีก ยิ่งปีนี้ภัยแล้งมาเร็วและรุนแรงมาก อีกทั้งสภาพอากาศร้อนจัดต่อเนื่อง แหล่งน้ำต่างๆ ลดระดับลงรวดเร็ว บางแห่งถึงขั้นแห้งขอด ไม่มีน้ำให้เกษตรกรได้ทำนา จึงต้องปล่อยข้าวยืนต้นแห้งตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เกษตรกรในพื้นที่ที่ปลูกข้าวทำนาปรัง ต่างได้รับความเดือดร้อน ขาดทุนกันอย่างหนัก อาจถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสินไปซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวมาเตรียมไว้เพาะปลูกในฤดูเพาะปลูกถัดไป
ขอนแก่น 40 องศาฯนานพริกยืนต้นตายยกแปลง
https://www.innnews.co.th/news/local/news_711353/
คนขอนแก่นช็อค เกิดมาเกือบ 70 ปีไม่เคยเจอร้อน หลังอุณภูมิทะลุ ทะลุ 40 องศาฯ นานเดือน ส่งผลให้พริกยืนต้นตายยกแปลง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านบึงสวางค์ ม. 5 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งพื้นเป็นพื้นที่ปลูกพริกเขียวรายใหญ่ของจังหวัด กลังพบว่าขณะนี้เกษตรกรเร่งเก็บพริกเขียว เพื่อส่งจำหน่ายให้กับพ่อค้าหลังต้นพริกทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนจัดไม่ไหว จนยืนต้นตายและบางแปลงให้ผงผลิตน้อยมากจากเดิมเคยเก็บขายได้วันละ 100 กก. เหลือเพียงวันละ 10 กก. เท่านั้น
นา
งเติม แก้วสวนจิก อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ม.5 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า อยู่มาเกือบ 70 ปี ไม่เคยร้อนขนาดนี้เกิดมาพึ่งเคยเจอปีนี้ ทั้งนี้ครอบครัวยึดอาชีพปลูกพริกขายโดยก่อนหน้าเคยเก็บพริกได้ทั้งวันไม่มีปัญหา แต่มาปีนี้ไม่เกิน 11.00 น. ต้องกลับแล้วเพราะอากาศร้อนมากทนไม่ไหวอากาศ 40-43 องศาฯมาเกือบทั้งเดือน ส่วนตัวกลัวเป็นฮีตสโตร์คมาก
“
อากาศร้อนยังมีผลกับพริกที่ปลูก แม้ราคาจะดีแต่ไม่มีผลผลิตเก็บไปขายเพราะอากาศร้อนมากทำให้พริกงอ เหี่ยว ใบงอ บางต้นยืนต้นตายในแปลงเลยทีเดียว เพราะทนต่ออากาศร้อนไม่ไหว ทั้งที่ปกติผลของพริกจะตึง เงา ตรง สวยงาม แต่หน้าแล้งปีนี้ไม่มีฝนตกลงมาช่วย ขนาดที่บ้านรดน้ำทุกวันยังช่วยอะไรได้ไม่มากครั้งนี้อาจจะได้เก็บผลผลิตเป็นครั้งสุดท้ายเพราะไม่มีผลให้เก็บแล้ว”
นาง
เติม กล่าวต่ออีกว่า ถ้าอากาศยังร้อนแบบนี้อาจจะต้องถอนต้นพริกทิ้งและรอฝนตกลงใหม่ค่อยาทำแปลงปลูกส่วนอีกแปลงได้ทำการรื้อทิ้งไปแล้วเพราะปลูกพืชอะไรช่วงนี้ก็ไม่ขึ้นแล้งเหี่ยวตายหมด จึงได้แต่รอฝนตกแล้วค่อยจะปลูกซึ่งอาจจะปลูกบวบ มะระขี้นก หรือผักอื่นๆแทน เพราะทุกวันนี้เกษตรกรที่ปลูกพริกในหมู่บ้านไม่มีพริกเก็บไปส่งขายแล้ว จากเดิมเก็บวันละ 100 กก. ช่วงนี้เหลือวันละ 10 กก. เท่านั้น
ชัยธวัช ลั่น ทักษิณไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนพรรค ชี้จะช่วยฟื้นความนิยมพท.ได้ไหม อยู่ที่ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4555804
‘ชัยธวัช’ ไม่หวั่น ‘ทักษิณ’ ไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนพรรค เหตุขึ้นอยู่กับการทำงานของส.ส. มอง ที่ผ่านมาลงพื้นที่หวังช่วยฟื้นฟูความนิยม แต่จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่กับปชช.
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นาย
ชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วานนี้ นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต ว่า เข้าใจว่าเป็นการให้ความสำคัญเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ส่วนจะกระทบกับความนิยมพรรค ก.ก. หรือไม่ เพราะเป็นเขตที่ชนะการเลือกตั้งยกจังหวัดนั้น ขึ้นอยู่กับการทำงานของพรรคและส.ส. ในพื้นที่ ว่าทำงานเป็นไปตามความคาดหวังของประชาชนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนส.ส.พรรคไหน ก็เป็นพื้นที่ของคนทุกคน ที่ใครจะเดินทางไปก็ได้
เมื่อถามว่า นาย
ทักษิณ เตรียมวางโปรแกรมจะเดินทางไปภาคอีสานอย่าง จ.นครราชสีมา มองว่าเป็นการเช็ก กระแสความนิยมจากประชาชนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอน ตนคิดว่าการเดินทางหรือกิจกรรมต่างๆ ของนายทักษิณย่อมมีเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญ คือการฟื้นฟูความนิยมและความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทย (พท.) เพราะพรรค ก.ก. และพรรค พท. ต่างเป็นคู่แข่งที่สำคัญบนเวทีการเมือง ส่วนจะทำสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน
JJNY : ชาวนาโคราชเจอภัยแล้ง│ขอนแก่น พริกยืนต้นตายยกแปลง│ชัยธวัชชี้ อยู่ที่ปชช.│ปลาตายเกลื่อนอ่างเก็บน้ำในเวียดนาม
https://www.matichon.co.th/region/news_4555782
โคราชภัยแล้งรุนแรง ชาวนาต้องปล่อยข้าวนาปรังยืนต้นตายยกแปลง หลังไม่มีน้ำสูบมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพแปลงปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลท่าหลวง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างหนัก โดยต้นข้าวที่ตั้งท้องออกรวงต้องยืนต้นแห้งตาย เพราไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยง เกษตรกรต้องจำยอมปล่อยให้ข้าวนาปรังที่ปลูกไว้ให้แห้งตายยกแปลง
จากการสอบถามนายอำนวย เพิ่มพูน เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตนต้องปล่อยให้ข้าวนาปรังยืนต้นตายเพราะประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ ไม่มีแหล่งน้ำให้สูบมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้อีกต่อไป ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองธรรมชาติและในลำน้ำเค็ม ลดระดับต่ำลงจนไม่สามารถสูบน้ำมาใช้เพื่อการเกษตรได้
ในขณะที่น้ำซึมจากผิวดินและน้ำบาดาลโดยรอบพื้นที่ จะเป็นน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินเกลือ จึงเป็นน้ำกร่อยมีความเค็มสูง ถ้าสูบมาใส่แปลงข้าวนอกจากต้นข้าวจะไม่เจริญเติบโตแล้ว ยังทำให้ผิวดินในแปลงนาได้รับความเค็มมากเกินไป จนไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้อีกเลย ชาวนาหลายรายจึงไม่มีทางเลือก จำใจปล่อยให้ต้นข้าวแห้งตาย ทั้งๆ ที่เป็นช่วงที่ข้าวเริ่มตั้งท้องออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวแล้ว
ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมักจะได้รับผลกระทบกับปัญหาน้ำท่วมแปลงนาในช่วงฤดูน้ำหลากอยู่เป็นประจำ จนพืชผลได้รับความเสียหาย ต้องปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวนาปรังแทน เพื่อหลีกหนีผลกระทบในฤดูน้ำหลาก แต่ก็มาได้รับผลกระทบขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งอีก ยิ่งปีนี้ภัยแล้งมาเร็วและรุนแรงมาก อีกทั้งสภาพอากาศร้อนจัดต่อเนื่อง แหล่งน้ำต่างๆ ลดระดับลงรวดเร็ว บางแห่งถึงขั้นแห้งขอด ไม่มีน้ำให้เกษตรกรได้ทำนา จึงต้องปล่อยข้าวยืนต้นแห้งตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เกษตรกรในพื้นที่ที่ปลูกข้าวทำนาปรัง ต่างได้รับความเดือดร้อน ขาดทุนกันอย่างหนัก อาจถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสินไปซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวมาเตรียมไว้เพาะปลูกในฤดูเพาะปลูกถัดไป
ขอนแก่น 40 องศาฯนานพริกยืนต้นตายยกแปลง
https://www.innnews.co.th/news/local/news_711353/
คนขอนแก่นช็อค เกิดมาเกือบ 70 ปีไม่เคยเจอร้อน หลังอุณภูมิทะลุ ทะลุ 40 องศาฯ นานเดือน ส่งผลให้พริกยืนต้นตายยกแปลง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่บ้านบึงสวางค์ ม. 5 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งพื้นเป็นพื้นที่ปลูกพริกเขียวรายใหญ่ของจังหวัด กลังพบว่าขณะนี้เกษตรกรเร่งเก็บพริกเขียว เพื่อส่งจำหน่ายให้กับพ่อค้าหลังต้นพริกทนต่อสภาพอากาศที่ร้อนจัดไม่ไหว จนยืนต้นตายและบางแปลงให้ผงผลิตน้อยมากจากเดิมเคยเก็บขายได้วันละ 100 กก. เหลือเพียงวันละ 10 กก. เท่านั้น
นางเติม แก้วสวนจิก อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ม.5 ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า อยู่มาเกือบ 70 ปี ไม่เคยร้อนขนาดนี้เกิดมาพึ่งเคยเจอปีนี้ ทั้งนี้ครอบครัวยึดอาชีพปลูกพริกขายโดยก่อนหน้าเคยเก็บพริกได้ทั้งวันไม่มีปัญหา แต่มาปีนี้ไม่เกิน 11.00 น. ต้องกลับแล้วเพราะอากาศร้อนมากทนไม่ไหวอากาศ 40-43 องศาฯมาเกือบทั้งเดือน ส่วนตัวกลัวเป็นฮีตสโตร์คมาก
“อากาศร้อนยังมีผลกับพริกที่ปลูก แม้ราคาจะดีแต่ไม่มีผลผลิตเก็บไปขายเพราะอากาศร้อนมากทำให้พริกงอ เหี่ยว ใบงอ บางต้นยืนต้นตายในแปลงเลยทีเดียว เพราะทนต่ออากาศร้อนไม่ไหว ทั้งที่ปกติผลของพริกจะตึง เงา ตรง สวยงาม แต่หน้าแล้งปีนี้ไม่มีฝนตกลงมาช่วย ขนาดที่บ้านรดน้ำทุกวันยังช่วยอะไรได้ไม่มากครั้งนี้อาจจะได้เก็บผลผลิตเป็นครั้งสุดท้ายเพราะไม่มีผลให้เก็บแล้ว”
นางเติม กล่าวต่ออีกว่า ถ้าอากาศยังร้อนแบบนี้อาจจะต้องถอนต้นพริกทิ้งและรอฝนตกลงใหม่ค่อยาทำแปลงปลูกส่วนอีกแปลงได้ทำการรื้อทิ้งไปแล้วเพราะปลูกพืชอะไรช่วงนี้ก็ไม่ขึ้นแล้งเหี่ยวตายหมด จึงได้แต่รอฝนตกแล้วค่อยจะปลูกซึ่งอาจจะปลูกบวบ มะระขี้นก หรือผักอื่นๆแทน เพราะทุกวันนี้เกษตรกรที่ปลูกพริกในหมู่บ้านไม่มีพริกเก็บไปส่งขายแล้ว จากเดิมเก็บวันละ 100 กก. ช่วงนี้เหลือวันละ 10 กก. เท่านั้น
ชัยธวัช ลั่น ทักษิณไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนพรรค ชี้จะช่วยฟื้นความนิยมพท.ได้ไหม อยู่ที่ปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4555804
‘ชัยธวัช’ ไม่หวั่น ‘ทักษิณ’ ไปภูเก็ต ไม่กระทบคะแนนพรรค เหตุขึ้นอยู่กับการทำงานของส.ส. มอง ที่ผ่านมาลงพื้นที่หวังช่วยฟื้นฟูความนิยม แต่จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่กับปชช.
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วานนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต ว่า เข้าใจว่าเป็นการให้ความสำคัญเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ส่วนจะกระทบกับความนิยมพรรค ก.ก. หรือไม่ เพราะเป็นเขตที่ชนะการเลือกตั้งยกจังหวัดนั้น ขึ้นอยู่กับการทำงานของพรรคและส.ส. ในพื้นที่ ว่าทำงานเป็นไปตามความคาดหวังของประชาชนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนส.ส.พรรคไหน ก็เป็นพื้นที่ของคนทุกคน ที่ใครจะเดินทางไปก็ได้
เมื่อถามว่า นายทักษิณ เตรียมวางโปรแกรมจะเดินทางไปภาคอีสานอย่าง จ.นครราชสีมา มองว่าเป็นการเช็ก กระแสความนิยมจากประชาชนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอน ตนคิดว่าการเดินทางหรือกิจกรรมต่างๆ ของนายทักษิณย่อมมีเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญ คือการฟื้นฟูความนิยมและความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทย (พท.) เพราะพรรค ก.ก. และพรรค พท. ต่างเป็นคู่แข่งที่สำคัญบนเวทีการเมือง ส่วนจะทำสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน