ยุทธพงศ์ สอนมวย “ประยุทธ์” หยุดโทษคนอื่น เรื่องค่าไฟแพง ชี้ 8 ปีศก.ไม่โต สร้างแต่ปัญหา
https://www.matichon.co.th/politics/news_3944435
ยุทธพงศ์ สอนมวย “ประยุทธ์” หยุดโทษคนอื่น เรื่องค่าไฟแพง ชี้ 8 ปีศก.ไม่โต สร้างแต่ปัญหา แนะเร่งเจรจาขยายเวลาชำระหนี้กฟผ.แก้ความเดือดร้อนประชาชน
เมื่อวันที่ 26 เมษายน นาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จ.มหาสารคาม เขต 3 เบอร์ 9 กล่าวถึง กรณีนาย
อนุชา บูรพชัยศรี ออกจากชี้แจงค่าไฟฟ้าที่แพงทุกวันนี้ เกิดมาจากกำลังการผลิตส่วนเกิน ที่มีการทำสัญญาในสมัยรัฐบาล
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้รัฐบาลพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชาต้อง รับผิดชอบกับสัญญาและกำลังการผลิตส่วนเกิน และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าไฟแพง ว่า พล.อ.
ประยุทธ์ ไม่ได้มองเห็นความผิดพลาดในการบริหารงานของตนเองเลย ยิ่งเมื่อปรียบเทียบการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของรัฐบาลนางสาว
ยิ่งลักษณ์ ในช่วงปี 2554-2557 มี GDP โตเฉลี่ยอยู่ที่ 4% และจากการคาดการณ์การเติบโตทางทางเศรษฐกิจในขณะนั้น GDP น่าโตถึง 7% จึงจำเป็นที่ประเทศไทยต้องมีกำลังไฟฟ้าสำรองเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะในช่วงปี 2557-2564 (GDP) ภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ มีค่าเฉลี่ยการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 1.4 % จัดเป็นอันดับที่ 8 ของอาเซียน อ้างอิงจากกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทร ตัวเลขการเติบโตเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่มีความรู้ความสามารถในการบริหารประเทศให้เศรษฐกิจเติบโต ดีแต่โทษคนอื่น ไม่เคยมองความผิดตน
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจโตได้ ด้านการบริหารยังไร้ประสิทธิภาพ ละเลยและไม่ใส่ใจ ทั้งที่ผ่านมาสามารถเปิดช่องทางการเจรจาวางแผนปรับลดค่า FT ผ่านคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) หรือเจรจากับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้พิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้ที่ กฟผ.แบกรับภาระไว้ในการชำระคืนผ่านค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft) จนวันนี้ภาระค่าไฟฟ้าตกอยู่ที่ประชาชน นอกจากไม่คิดจะเจรจาแก้ไขปัญหา ยังเดินหน้าก่อปัญหาใหม่ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทั้งจาก โครงการโรงไฟฟ้าขยะ โครงการซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนลุ่มน้ำโขง 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนปากลาย เป็นเวลา 29 ปี และเขื่อนหลวงพระบาง เป็นเวลา 35 ปี ตามลำดับ และยังไม่นับรวมการรับซื้อไฟฟ้าก่อนหน้านี้ที่กำลังจะทยอยเข้าระบบสายส่งเพิ่ม ทั้งจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติจากภาคตะวันออก โรงไฟฟ้าขยะ เป็นต้น ทั้งที่ไทยมีกำลังไฟฟ้าสำรองเหินกว่าความจำเป็นไปแล้ว
“
8 ปีบริหารเศรษฐกิจไม่โต นั่งโทษแต่คนอื่น สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ แบบนี้เห็นที่ประเทศไทยน่าจะยังห่างไกลความเจริญ ถ้ามีผู้นำชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา” นาย
ยุทธพงศ์ กล่าว
‘ก้าวไกล’ ไม่ประมาท คะแนนนิยมนครปฐมพุ่ง ขอเลือกถล่มทลาย แม้ ‘ไฟดับ’ ก็ทำอะไรไม่ได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3944419
เพชร กรุณพล ควง ‘ตุ๊ก ก้าวไกล’ เดินตลาดนครปฐม ไม่ประมาทแม้นโพลให้นำเจ้าถิ่น
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 เมษายน ที่ตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ตลาดล่าง) เขตเทศบาลนครนคร อ.เมือง จ.นครปฐม นาย
กรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร รองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำทัพช่วย น.ส.
ศศนันท์ รัตนบรรเทิง หรือ
ตุ๊ก ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครปฐม พรรคก้าวไกล หาเสียงในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า
คณะของพรรคก้าวไกลเริ่มต้นจากตลาดนัดสายหยุด หรือที่ชาวบ้านเรียกตลาดซอย 2 ต่อด้วยตลาดล่างเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาจากพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการค้าในตลาด จากนั้นเดินทางไปตลาดน้ำวัดดอนหวาย ช่วย นาย
ชิษณุพงศ์ ตั้งเมธากุล หรือ
เกรท ผู้สมัครของพรรคก้าวไกล เบอร์ 8 หาเสียง
นาย
กรุณพลให้สัมภาษณ์ถึงโพลที่ขณะนี้พรรคก้าวไกล จ.นครปฐม มาแรงมากว่า เรื่องของโพลนั้นสุดท้ายก็ต่องไปวัดกันที่คูหาเลือกตั้ง ซึ่งเป็นคะแนนที่แท้จริง หลังวันเลือกตั้งก็ไม่อยากให้วางใจว่าพรรคก้าวไกลนำแล้วก็ไม่ต่องทำอะไรเพิ่มเติม แต่ยิ่งเรานำเรายิ่งต้องทำให้มากขึ้นเพื่อให้ชนะแบบเด็ดขาด เพื่อเอาเผด็จการซ่อนรูปออกไปจากระบอบการเมืองในประเทศนี้
นาย
กรุณพลระบุว่า ต้องขอบคุณพลังที่เรียกว่า “
หัวคะแนนธรรมชาติ” ของก้าวไกลที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของอนาคตของลูกหลานที่อยู่ในประเทศ ขอบคุณทุกคนมากๆ และต้องขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้เราจนกว่าจะถึงเวลาเข้าคูหากา
ด้าน น.ส.
ศศนันท์กล่าวว่า ดีใจมากที่คนนครปฐมตอบรับก้าวไกล คงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เราตั้งใจจริง 8 ปีที่ผ่านมาพบว่าประชาชนลำบากเหลือเกิน เพราะฉะนั้นวันนี้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง จึงลงมาสู้เพื่อคนนครปฐม และจะเป็นตัวแทนของคนนครปฐมเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้คนนครปฐมในสภา
น.ส.
ศศนันท์กล่าวว่า อยากให้เข้าใจและเปิดใจให้พรรคก้าวไกล ที่ผ่านมา 4 ปีก้าวไกลเราสู้ในสภามาตลอด ยืนยันคำเดิมว่าจะสู้เพื่อประชาชน พยายามเดินบอกพี่น้องประชาชนทุกบ้านทั้ง 11 ตำบล ช่วงโค้งสุดท้ายนี้โพลออกมาดีแบบนี้
“
หากมองย้อนไปถึงปี 2562 ที่เกิดเหตุการณ์ไฟดับและจากการนับคะแนนใหม่เราโดนช่วงชิงไป อยากให้พ่อแม่พี่น้องเลือกก้าวไกลให้ถล่มทลายจนไม่สามารถทำอะไรเราได้ ไม่ว่าไฟจะด้บสักกี่ครั้งก็ตาม” น.ส.
ศศนันท์กล่าว
สมชัย ซัด กกต.จัดกาบัตรนอกประเทศ ผิดพลาดอื้อ จี้เร่งแก้ไข ขู่ดำเนินคดียกชุด
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7631374
สมชัย จี้ กกต. จัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรโปร่งใส หลังเกิดข้อผิดพลาดหลายอย่าง ฮึ่มจองกฐินดำเนินคดีกกต.ยกชุด หลังเลือกตั้ง
วันที่ 26 เม.ย.2566 นาย
สมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย (สร.) และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องความโปร่งใสในการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
การจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ปรากฏความผิดปกติมากมาย อาทิ
1.การยกเลิกการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ในหลายประเทศ ทั้งที่เป็นวิธีการที่สุดประหยัดและสะดวกแก่ผู้มาใช้สิทธิออกเสียง
2.การกำหนดระยะเวลาที่เร่งรัดประชาชน แต่กลับดำเนินการล่าช้า เช่น กำหนดให้ส่งบัตรถึงสถานทูตในสิ้นเดือนแต่จนถึงขณะนี้ ในบางประเทศ การส่งบัตรทางไปรษณีย์ยังไม่ถึงมือประชาชน
3.ความสับสนในการจัดพิมพ์เอกสาร เช่น การลงรูปผู้สมัครรับเลือกตั้ง กทม. เขต 11 สลับกัน 4.ความสับสนในการจัดส่งเอกสาร เช่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ จ.อำนาจเจริญ เขต 2 ได้รับบัตรเลือกตั้งที่ จ.นนทบุรี เขต 4 ด้วยพร้อมกัน กลายเป็น 2 สิทธิ
พรรคเสรีรวมไทย ปรารถนาจะเห็นการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส จึงขอเรียกร้องต่อ กกต.และกระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้
1.เปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จำแนกเป็นประเทศต่างๆ ว่ามีจำนวนเท่าไร ใช้สิทธิที่สถานทูตเท่าไร ใช้สิทธิทางไปรษณีย์เท่าไร
2.เปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จำแนกตามเขตเลือกตั้งว่า แต่ละเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต ในแต่ละเขตมีคนไทยในต่างประเทศ ลงทะเบียนเลือกตั้งเท่าไร
3.เปิดเผยชื่อประเทศ ที่เคยจัดการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ แต่กลับยกเลิกวิธีการดังกล่าวในการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมเหตุผลถึงการยกเลิก และแสดงตัวเลขจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ เปรียบเทียบระหว่างปี 2566 และปี 2562
4.ชี้แจงเหตุผลและสาเหตุถึงความผิดพลาดในการดำเนินงาน พร้อมแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่เอาแต่หลบหน้าประชาชน
ข้อเรียกร้องทั้งหมด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเป็นที่ยอมรับในผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น แต่หาก กกต.ยังเดินหน้าจัดการเลือกตั้งโดยไม่แถลงข้อมูลใดๆ ซึ่งแสดงถึงความไม่โปร่งใส ไม่รับผิดชอบในการทำงาน ภายหลังการเลือกตั้ง พรรคเสรีรวมไทยขอใช้สิทธิแทนประชาชน ดำเนินคดีฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อกกต.ทั้งชุดอย่างถึงที่สุด
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02JSyH3umBfGVkLU57goTyD11yTzki6ZVnisj8qSTk5av1f8gzQjzTunWEJ9njFYsAl
JJNY : ยุทธพงศ์สอนมวย“ประยุทธ์”│‘ก้าวไกล’ไม่ประมาท คะแนนนิยมนครปฐมพุ่ง│สมชัยซัดกกต.│UN เตือน มนุษย์กำลังพ่ายศึกโลกร้อน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3944435
ยุทธพงศ์ สอนมวย “ประยุทธ์” หยุดโทษคนอื่น เรื่องค่าไฟแพง ชี้ 8 ปีศก.ไม่โต สร้างแต่ปัญหา แนะเร่งเจรจาขยายเวลาชำระหนี้กฟผ.แก้ความเดือดร้อนประชาชน
เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ จ.มหาสารคาม เขต 3 เบอร์ 9 กล่าวถึง กรณีนายอนุชา บูรพชัยศรี ออกจากชี้แจงค่าไฟฟ้าที่แพงทุกวันนี้ เกิดมาจากกำลังการผลิตส่วนเกิน ที่มีการทำสัญญาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาต้อง รับผิดชอบกับสัญญาและกำลังการผลิตส่วนเกิน และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าไฟแพง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มองเห็นความผิดพลาดในการบริหารงานของตนเองเลย ยิ่งเมื่อปรียบเทียบการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ในช่วงปี 2554-2557 มี GDP โตเฉลี่ยอยู่ที่ 4% และจากการคาดการณ์การเติบโตทางทางเศรษฐกิจในขณะนั้น GDP น่าโตถึง 7% จึงจำเป็นที่ประเทศไทยต้องมีกำลังไฟฟ้าสำรองเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะในช่วงปี 2557-2564 (GDP) ภายใต้การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ มีค่าเฉลี่ยการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 1.4 % จัดเป็นอันดับที่ 8 ของอาเซียน อ้างอิงจากกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทร ตัวเลขการเติบโตเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่มีความรู้ความสามารถในการบริหารประเทศให้เศรษฐกิจเติบโต ดีแต่โทษคนอื่น ไม่เคยมองความผิดตน
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจโตได้ ด้านการบริหารยังไร้ประสิทธิภาพ ละเลยและไม่ใส่ใจ ทั้งที่ผ่านมาสามารถเปิดช่องทางการเจรจาวางแผนปรับลดค่า FT ผ่านคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) หรือเจรจากับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้พิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้ที่ กฟผ.แบกรับภาระไว้ในการชำระคืนผ่านค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft) จนวันนี้ภาระค่าไฟฟ้าตกอยู่ที่ประชาชน นอกจากไม่คิดจะเจรจาแก้ไขปัญหา ยังเดินหน้าก่อปัญหาใหม่ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มอย่างต่อเนื่องทั้งจาก โครงการโรงไฟฟ้าขยะ โครงการซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนลุ่มน้ำโขง 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนปากลาย เป็นเวลา 29 ปี และเขื่อนหลวงพระบาง เป็นเวลา 35 ปี ตามลำดับ และยังไม่นับรวมการรับซื้อไฟฟ้าก่อนหน้านี้ที่กำลังจะทยอยเข้าระบบสายส่งเพิ่ม ทั้งจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติจากภาคตะวันออก โรงไฟฟ้าขยะ เป็นต้น ทั้งที่ไทยมีกำลังไฟฟ้าสำรองเหินกว่าความจำเป็นไปแล้ว
“8 ปีบริหารเศรษฐกิจไม่โต นั่งโทษแต่คนอื่น สร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ แบบนี้เห็นที่ประเทศไทยน่าจะยังห่างไกลความเจริญ ถ้ามีผู้นำชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายยุทธพงศ์ กล่าว
‘ก้าวไกล’ ไม่ประมาท คะแนนนิยมนครปฐมพุ่ง ขอเลือกถล่มทลาย แม้ ‘ไฟดับ’ ก็ทำอะไรไม่ได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3944419
เพชร กรุณพล ควง ‘ตุ๊ก ก้าวไกล’ เดินตลาดนครปฐม ไม่ประมาทแม้นโพลให้นำเจ้าถิ่น
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 เมษายน ที่ตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ตลาดล่าง) เขตเทศบาลนครนคร อ.เมือง จ.นครปฐม นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร รองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำทัพช่วย น.ส.ศศนันท์ รัตนบรรเทิง หรือ ตุ๊ก ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 นครปฐม พรรคก้าวไกล หาเสียงในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า
คณะของพรรคก้าวไกลเริ่มต้นจากตลาดนัดสายหยุด หรือที่ชาวบ้านเรียกตลาดซอย 2 ต่อด้วยตลาดล่างเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาจากพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการค้าในตลาด จากนั้นเดินทางไปตลาดน้ำวัดดอนหวาย ช่วย นายชิษณุพงศ์ ตั้งเมธากุล หรือ เกรท ผู้สมัครของพรรคก้าวไกล เบอร์ 8 หาเสียง
นายกรุณพลให้สัมภาษณ์ถึงโพลที่ขณะนี้พรรคก้าวไกล จ.นครปฐม มาแรงมากว่า เรื่องของโพลนั้นสุดท้ายก็ต่องไปวัดกันที่คูหาเลือกตั้ง ซึ่งเป็นคะแนนที่แท้จริง หลังวันเลือกตั้งก็ไม่อยากให้วางใจว่าพรรคก้าวไกลนำแล้วก็ไม่ต่องทำอะไรเพิ่มเติม แต่ยิ่งเรานำเรายิ่งต้องทำให้มากขึ้นเพื่อให้ชนะแบบเด็ดขาด เพื่อเอาเผด็จการซ่อนรูปออกไปจากระบอบการเมืองในประเทศนี้
นายกรุณพลระบุว่า ต้องขอบคุณพลังที่เรียกว่า “หัวคะแนนธรรมชาติ” ของก้าวไกลที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของอนาคตของลูกหลานที่อยู่ในประเทศ ขอบคุณทุกคนมากๆ และต้องขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้เราจนกว่าจะถึงเวลาเข้าคูหากา
ด้าน น.ส.ศศนันท์กล่าวว่า ดีใจมากที่คนนครปฐมตอบรับก้าวไกล คงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เราตั้งใจจริง 8 ปีที่ผ่านมาพบว่าประชาชนลำบากเหลือเกิน เพราะฉะนั้นวันนี้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง จึงลงมาสู้เพื่อคนนครปฐม และจะเป็นตัวแทนของคนนครปฐมเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้คนนครปฐมในสภา
น.ส.ศศนันท์กล่าวว่า อยากให้เข้าใจและเปิดใจให้พรรคก้าวไกล ที่ผ่านมา 4 ปีก้าวไกลเราสู้ในสภามาตลอด ยืนยันคำเดิมว่าจะสู้เพื่อประชาชน พยายามเดินบอกพี่น้องประชาชนทุกบ้านทั้ง 11 ตำบล ช่วงโค้งสุดท้ายนี้โพลออกมาดีแบบนี้
“หากมองย้อนไปถึงปี 2562 ที่เกิดเหตุการณ์ไฟดับและจากการนับคะแนนใหม่เราโดนช่วงชิงไป อยากให้พ่อแม่พี่น้องเลือกก้าวไกลให้ถล่มทลายจนไม่สามารถทำอะไรเราได้ ไม่ว่าไฟจะด้บสักกี่ครั้งก็ตาม” น.ส.ศศนันท์กล่าว
สมชัย ซัด กกต.จัดกาบัตรนอกประเทศ ผิดพลาดอื้อ จี้เร่งแก้ไข ขู่ดำเนินคดียกชุด
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7631374
สมชัย จี้ กกต. จัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรโปร่งใส หลังเกิดข้อผิดพลาดหลายอย่าง ฮึ่มจองกฐินดำเนินคดีกกต.ยกชุด หลังเลือกตั้ง
วันที่ 26 เม.ย.2566 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย (สร.) และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องความโปร่งใสในการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร
การจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ปรากฏความผิดปกติมากมาย อาทิ
1.การยกเลิกการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ในหลายประเทศ ทั้งที่เป็นวิธีการที่สุดประหยัดและสะดวกแก่ผู้มาใช้สิทธิออกเสียง
2.การกำหนดระยะเวลาที่เร่งรัดประชาชน แต่กลับดำเนินการล่าช้า เช่น กำหนดให้ส่งบัตรถึงสถานทูตในสิ้นเดือนแต่จนถึงขณะนี้ ในบางประเทศ การส่งบัตรทางไปรษณีย์ยังไม่ถึงมือประชาชน
3.ความสับสนในการจัดพิมพ์เอกสาร เช่น การลงรูปผู้สมัครรับเลือกตั้ง กทม. เขต 11 สลับกัน 4.ความสับสนในการจัดส่งเอกสาร เช่น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ จ.อำนาจเจริญ เขต 2 ได้รับบัตรเลือกตั้งที่ จ.นนทบุรี เขต 4 ด้วยพร้อมกัน กลายเป็น 2 สิทธิ
พรรคเสรีรวมไทย ปรารถนาจะเห็นการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส จึงขอเรียกร้องต่อ กกต.และกระทรวงการต่างประเทศ ดังนี้
1.เปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จำแนกเป็นประเทศต่างๆ ว่ามีจำนวนเท่าไร ใช้สิทธิที่สถานทูตเท่าไร ใช้สิทธิทางไปรษณีย์เท่าไร
2.เปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จำแนกตามเขตเลือกตั้งว่า แต่ละเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต ในแต่ละเขตมีคนไทยในต่างประเทศ ลงทะเบียนเลือกตั้งเท่าไร
3.เปิดเผยชื่อประเทศ ที่เคยจัดการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ แต่กลับยกเลิกวิธีการดังกล่าวในการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมเหตุผลถึงการยกเลิก และแสดงตัวเลขจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ เปรียบเทียบระหว่างปี 2566 และปี 2562
4.ชี้แจงเหตุผลและสาเหตุถึงความผิดพลาดในการดำเนินงาน พร้อมแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่เอาแต่หลบหน้าประชาชน
ข้อเรียกร้องทั้งหมด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเป็นที่ยอมรับในผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น แต่หาก กกต.ยังเดินหน้าจัดการเลือกตั้งโดยไม่แถลงข้อมูลใดๆ ซึ่งแสดงถึงความไม่โปร่งใส ไม่รับผิดชอบในการทำงาน ภายหลังการเลือกตั้ง พรรคเสรีรวมไทยขอใช้สิทธิแทนประชาชน ดำเนินคดีฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อกกต.ทั้งชุดอย่างถึงที่สุด
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02JSyH3umBfGVkLU57goTyD11yTzki6ZVnisj8qSTk5av1f8gzQjzTunWEJ9njFYsAl