ตามคำถามเลยค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะ
เราไม่ทราบมาก่อนว่าเธอคนนั้น(ใช้ชื่อ 'ม.' นะคะ)เป็นภรรยาน้อยผู้อื่น
เรากับ ม รู้จักกันที่ทำงานไม่ได้ทำงานด้วยกัน แต่แค่ได้ประสานงานกันเล็กน้อย แล้วนิสัยเราเป็นพวกรับฟัง ก็มักจะมีคนมาบ่น มาระบายเรื่องคับแค้นใจ (แต่พอเราจะระบายบ้าง...กลับเป็นมาเล่าให้แม่ฟัง แต่คนอื่นที่มาระบายกับเรากลับไม่รับฟังบ้างเลย) แล้วเราก็ไม่เอาไปพูดกับใครเหมือนกับระบายไปกับน้ำแล้วให้มันหายไป ม.ก็เป็นอีกคนที่ชอบมาเล่าอะไรให้ฟัง รวมทั้งปัญหาชีวิตความรัก
ม. พูดจนเราคิดว่า เขาคือแฟนตัวจริงของนายยศสูงท่านหนึ่งเท่าที่รู้มาอายุราวๆจะ 50 ปี ส่วน ม. อายุต่ำกว่า 30 ปีมาก!
เหตุที่เราทราบว่าเป็นภรยาน้อย เพราะคำพูดเล่าลือของแต่ละคน และ ม. ก็ทำนิสัยไม่ดีกับเรา จนทำให้เราโกรธ เพียงแต่เราเก็บกดไว้ไม่พูดอะไร ทั้งๆที่เราก็หวังดีกับทุกคน ม. ทำยูทูปท่องเที่ยว เราก็โฆษณากับคนอื่นให้ บอกว่า ม. น่ารัก เก่ง แต่จริงๆแล้ว...ตรงข้ามเลยด้วยซ้ำ
เหมืนกับพอเราหมดผลประโยชน์ก็เขี่ยจัดการทิ้ง แต่พอเรามีผลประโยชน์ถามงานนู่นนี่นั่นก็จะมาคุยดี
แล้วที่เรารู้สึกว่าตัวเองบาป เพราะ ม. เคยปรึกษาว่าทะเลาะกับแฟนเพราะเหมือนมีมือที่สามเข้ามายุ่งวุ่นวาย ก็ก็แนะนำว่าให้พูดคุยกันดีๆ ให้ถามอีกฝ่าย ไม่ก็ค่อยๆแอบไปดูให้เห็นคาตาเลยก็ได้
พอเรามานั่งคิดย้อนกลับ ที่เราหวังดี ปรารถนาดี หรือเอ็นดูเพราะอายุน้อยกว่าเรานั้น...เราไปช่วยภรรยาน้อยคนอื่นเหรอ?
เพราะตอนที่ดีๆกันอยู่ก็มีคนมาเล่ามาพูดให้ฟัง ว่า “ม.ใช่ย่อยนะ ระวังไว้อย่าไปสนิทมากนัก” บ้างละ
กับที่ได้ยินมากที่สุด “ม. ชอบถือไมค์ร้องเพลง”
(ตอนแรกเราคิดไม่ถึงเพราะหลายคนพูดมากๆๆๆๆๆ เราก็คิดว่าร้องเพลงจริงๆ แต่ไม่ใช่! มันเปรียบเป็น...อวัยวะหนึ่งของเพศชาย เหมือนเราเป็นคนปัญญาอ่อนไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย)
และรู้กระทั่งว่า ม. คบชู้มากกว่า 2 คน จากที่รู้จริง ม. มักจะโกหกผู้อื่นว่า ‘ไม่มีแฟน’ รถที่ขับก็บอกว่าเป็นของพี่ชาย ไม่ก็พ่อ แต่จริงๆเป็นของแฟนอีกคนต่างหาก
และที่เราเห็นคาตาเลยน่าจะเป็นผู้ชายที่มาหาสลับเวลารวมถึงสลับหน้ามาด้วย และผู้ชายทั้งสองคนนั้นก็ยังเข้ามาคุยกับผู้ปกครองของเราเองด้วยว่า “เป็นแฟน” แต่ละคนที่ ม. เข้าหาจะมียศชั้นสูงทั้งหมด ไม่มียศชั้นประทวน แต่คนยศสูงนั้นจะต้องมีประวัติจบจากโรงเรียนที่ได้รับการยอมรับที่ผลิตบุคคลเหล่านั้นมาบริหารองค์กร หน่วยงานราชการ
คือเรารู้สึกเฟลมาก เหมือนคนทำบุญคนไม่ขึ้น แล้วเราก็นิสัยเหมือนกับให้ใจ และหวังดีกับผู้อื่นมากไป แต่สิ่งที่คนที่เราหวังดีนั้น...มันมาแทงข้างหลัง พูดนินทาเสียหาย แถม ม. เคยอ้างผู้ชายคนหนึ่งเป็นสามีทิพย์ให้เราอีกด้วย แถมรู้ว่าเป็นภรรยาน้อยคนอื่นอีก เราไม่อยากเชื่อใจใครอีก และจะไม่มองโลกในแง่ดีแล้วค่ะ
เผลอไปหวังดีภรรยาน้อยคนอื่น บาปไหม?
เราไม่ทราบมาก่อนว่าเธอคนนั้น(ใช้ชื่อ 'ม.' นะคะ)เป็นภรรยาน้อยผู้อื่น
เรากับ ม รู้จักกันที่ทำงานไม่ได้ทำงานด้วยกัน แต่แค่ได้ประสานงานกันเล็กน้อย แล้วนิสัยเราเป็นพวกรับฟัง ก็มักจะมีคนมาบ่น มาระบายเรื่องคับแค้นใจ (แต่พอเราจะระบายบ้าง...กลับเป็นมาเล่าให้แม่ฟัง แต่คนอื่นที่มาระบายกับเรากลับไม่รับฟังบ้างเลย) แล้วเราก็ไม่เอาไปพูดกับใครเหมือนกับระบายไปกับน้ำแล้วให้มันหายไป ม.ก็เป็นอีกคนที่ชอบมาเล่าอะไรให้ฟัง รวมทั้งปัญหาชีวิตความรัก
ม. พูดจนเราคิดว่า เขาคือแฟนตัวจริงของนายยศสูงท่านหนึ่งเท่าที่รู้มาอายุราวๆจะ 50 ปี ส่วน ม. อายุต่ำกว่า 30 ปีมาก!
เหตุที่เราทราบว่าเป็นภรยาน้อย เพราะคำพูดเล่าลือของแต่ละคน และ ม. ก็ทำนิสัยไม่ดีกับเรา จนทำให้เราโกรธ เพียงแต่เราเก็บกดไว้ไม่พูดอะไร ทั้งๆที่เราก็หวังดีกับทุกคน ม. ทำยูทูปท่องเที่ยว เราก็โฆษณากับคนอื่นให้ บอกว่า ม. น่ารัก เก่ง แต่จริงๆแล้ว...ตรงข้ามเลยด้วยซ้ำ
เหมืนกับพอเราหมดผลประโยชน์ก็เขี่ยจัดการทิ้ง แต่พอเรามีผลประโยชน์ถามงานนู่นนี่นั่นก็จะมาคุยดี
แล้วที่เรารู้สึกว่าตัวเองบาป เพราะ ม. เคยปรึกษาว่าทะเลาะกับแฟนเพราะเหมือนมีมือที่สามเข้ามายุ่งวุ่นวาย ก็ก็แนะนำว่าให้พูดคุยกันดีๆ ให้ถามอีกฝ่าย ไม่ก็ค่อยๆแอบไปดูให้เห็นคาตาเลยก็ได้
พอเรามานั่งคิดย้อนกลับ ที่เราหวังดี ปรารถนาดี หรือเอ็นดูเพราะอายุน้อยกว่าเรานั้น...เราไปช่วยภรรยาน้อยคนอื่นเหรอ?
เพราะตอนที่ดีๆกันอยู่ก็มีคนมาเล่ามาพูดให้ฟัง ว่า “ม.ใช่ย่อยนะ ระวังไว้อย่าไปสนิทมากนัก” บ้างละ
กับที่ได้ยินมากที่สุด “ม. ชอบถือไมค์ร้องเพลง”
(ตอนแรกเราคิดไม่ถึงเพราะหลายคนพูดมากๆๆๆๆๆ เราก็คิดว่าร้องเพลงจริงๆ แต่ไม่ใช่! มันเปรียบเป็น...อวัยวะหนึ่งของเพศชาย เหมือนเราเป็นคนปัญญาอ่อนไม่รู้เรื่องอะไรเอาเสียเลย)
และรู้กระทั่งว่า ม. คบชู้มากกว่า 2 คน จากที่รู้จริง ม. มักจะโกหกผู้อื่นว่า ‘ไม่มีแฟน’ รถที่ขับก็บอกว่าเป็นของพี่ชาย ไม่ก็พ่อ แต่จริงๆเป็นของแฟนอีกคนต่างหาก
และที่เราเห็นคาตาเลยน่าจะเป็นผู้ชายที่มาหาสลับเวลารวมถึงสลับหน้ามาด้วย และผู้ชายทั้งสองคนนั้นก็ยังเข้ามาคุยกับผู้ปกครองของเราเองด้วยว่า “เป็นแฟน” แต่ละคนที่ ม. เข้าหาจะมียศชั้นสูงทั้งหมด ไม่มียศชั้นประทวน แต่คนยศสูงนั้นจะต้องมีประวัติจบจากโรงเรียนที่ได้รับการยอมรับที่ผลิตบุคคลเหล่านั้นมาบริหารองค์กร หน่วยงานราชการ
คือเรารู้สึกเฟลมาก เหมือนคนทำบุญคนไม่ขึ้น แล้วเราก็นิสัยเหมือนกับให้ใจ และหวังดีกับผู้อื่นมากไป แต่สิ่งที่คนที่เราหวังดีนั้น...มันมาแทงข้างหลัง พูดนินทาเสียหาย แถม ม. เคยอ้างผู้ชายคนหนึ่งเป็นสามีทิพย์ให้เราอีกด้วย แถมรู้ว่าเป็นภรรยาน้อยคนอื่นอีก เราไม่อยากเชื่อใจใครอีก และจะไม่มองโลกในแง่ดีแล้วค่ะ