ขอเชิญมาเที่ยวกันต่อครับ
จากกระทู้แรก
https://ppantip.com/topic/41969334
วันที่ 3 หลังจากกินอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็แวะไปดื่มกาแฟที่ร้าน Temple café บรรยากาศและรสชาติกาแฟดีกว่าร้านเมื่อวาน
จึงได้กินร้านนี้ต่ออีก 2 วัน แล้วไปเที่ยวต่อครับ เริ่มที่
ปราสาทบึงมาลา (ปราสาทเบ็งเมเลีย Beng Mealea)
เป็นปราสาทมหึมา ขนาดประมาณ 2/3 ของปราสาทนครวัด ปราสาทนี้ถูกทิ้งไปปรักหักพังในป่ารกร้างนานนับร้อยปี จนนักโบราณคดีและสถาปนิกจากสำนักฝรั่งเศสแห่งปลายบูรพาทิศมาพบและขนานนามว่า นครวัดตะวันออก
ผ่านมาอีกกว่า 100 ปี สงครามกลางเมืองของชาวกัมพูชายุคใหม่ ช่วยซ่อนตัวมหาปราสาทไว้ในท่ามกลางดงกับระเบิดและเขตสงคราม ยอดปราสาทหลายหลังของปราสาทถูกวางระเบิดให้ถล่มลงมา เมื่อสงครามสงบ องค์กร Halo Trust ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ได้เริ่มเข้ามาทำการเก็บกู้กับระเบิดออกจากบริเวณปราสาท และเริ่มมีการปรับปรุงเส้นทางถนน มหาปราสาทศิลา นิทรานคร จึงได้เริ่ม ตื่นจากนิทรา กลับมาเผยโฉม ประกาศความมีตัวตนต่อโลก อีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2541 – 42
ลักษณะสถาปัตยกรรมและรูปแบบศิลปกรรมของปราสาทบึงมาลา ล้วนแต่แสดงเรื่องราว อวตารในแต่ละภาคของพระวิษณุ โดยเฉพาะ พระกฤษณะ มหาภารตะ รามายณะ และเรื่องราวของ ตรีมูรติจากเหล่าคัมภีร์ปุราณะ ได้ถูกนำมาถ่ายทอดลงสู่ภาพสลักในศิลปะ ผสมผสานที่มีเอกลักษณ์ ในยุคสมัยเดียวกับนครวัด แต่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียด
ทางเข้าด้านหน้าทั้ง 4 ทิศ ทำเป็น สะพานนาคราชหรือสะพานสายรุ้ง ข้ามคูน้ำที่มีความหมายถึงสีทันดรมหาสมุทร ว่ากันว่านาคที่นี่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในศิลปะนครวัด
มณฑปซุ้มประตูหรือ "โคปุระ" ทางทิศใต้ ยอดปราสาทถล่มลงมาเป็นกองหิน
ซุ้มประตูหลอก มุมวิหาร หน้าบันเป็นรูปพระอัคนี
ทับหลังนี้เป็นรูปบุคคลนอนในบึงบัว ไกด์ท้องถิ่นบอกว่าเป็นที่มาของชื่อปราสาทเบ็งเมเลีย (เบ็งเมเลีย หรือ บึงมาลา แปลว่า บึงน้ำดอกไม้หอม)
มีจระเข้ด้วยนิ
ทับหลังประตูกลางเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ เทพเจ้าประจำทิศตะวันออก
หน้าบันของซุ้มประตูหลอกทางทิศเหนือ เป็นภาพเรื่อง รามายณะ ตอนนางสีดาลุยไฟเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
สภาพปราสาทที่ยังคงมีป่าขึ้นปกคลุม มีรากไม้น้อยใหญ่ ที่ชอนไชไปทั่วทุกหนแห่งของปราสาท สลับกับสีสันของตะไคร่น้ำและไลเคนที่ชอบอากาศชื้นแฉะ พื้นดินทับถมก้อนศิลาโผล่ขึ้นมาเพียงบางส่วน
ช่วยสร้างภาพ จินตนาการ ความเป็นนิทรานครให้กับผู้พบเห็น
ศิลาขนาดใหญ่ถล่มลงเป็นซากปรักหักพัง สลับกันเส้นทางเดินที่คดเคี้ยวและต้องปีนป่ายไปบนยอดผนังและหลังคา ได้สร้างความนิยมให้กับท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการค้นพบ ปราสาทร้างกลางป่าที่ลึกลับ นครศิลาสาบสูญที่ต้องสำรวจ ค้นหาและเดินป่าผจญภัยแบบยากลำบาก แต่ก็ไม่อยากเหนื่อยนัก
ทับหลังรูป พระกฤษณะสังหารนาคกาลียะ วางนอนอยู่ใกล้กองหิน ดูมีเสน่ห์และสวยงามด้วยศิลปะผสมผสานทั้งบาปวน นครวัดและบึงมาลา
อิ่มเอมกับปราสาทนี้แล้วก็ไปกินอาหารกลางวันกันครับ
[CR] เสียมเรียบ, Cambodia 5 วัน: มหัศจรรย์ unseen และเที่ยวไม่เรียบ (ตอนจบครับ)
ขอเชิญมาเที่ยวกันต่อครับ
จากกระทู้แรก
https://ppantip.com/topic/41969334
วันที่ 3 หลังจากกินอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็แวะไปดื่มกาแฟที่ร้าน Temple café บรรยากาศและรสชาติกาแฟดีกว่าร้านเมื่อวาน
จึงได้กินร้านนี้ต่ออีก 2 วัน แล้วไปเที่ยวต่อครับ เริ่มที่
ปราสาทบึงมาลา (ปราสาทเบ็งเมเลีย Beng Mealea)
เป็นปราสาทมหึมา ขนาดประมาณ 2/3 ของปราสาทนครวัด ปราสาทนี้ถูกทิ้งไปปรักหักพังในป่ารกร้างนานนับร้อยปี จนนักโบราณคดีและสถาปนิกจากสำนักฝรั่งเศสแห่งปลายบูรพาทิศมาพบและขนานนามว่า นครวัดตะวันออก
ผ่านมาอีกกว่า 100 ปี สงครามกลางเมืองของชาวกัมพูชายุคใหม่ ช่วยซ่อนตัวมหาปราสาทไว้ในท่ามกลางดงกับระเบิดและเขตสงคราม ยอดปราสาทหลายหลังของปราสาทถูกวางระเบิดให้ถล่มลงมา เมื่อสงครามสงบ องค์กร Halo Trust ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตก ได้เริ่มเข้ามาทำการเก็บกู้กับระเบิดออกจากบริเวณปราสาท และเริ่มมีการปรับปรุงเส้นทางถนน มหาปราสาทศิลา นิทรานคร จึงได้เริ่ม ตื่นจากนิทรา กลับมาเผยโฉม ประกาศความมีตัวตนต่อโลก อีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ปี 2541 – 42
ลักษณะสถาปัตยกรรมและรูปแบบศิลปกรรมของปราสาทบึงมาลา ล้วนแต่แสดงเรื่องราว อวตารในแต่ละภาคของพระวิษณุ โดยเฉพาะ พระกฤษณะ มหาภารตะ รามายณะ และเรื่องราวของ ตรีมูรติจากเหล่าคัมภีร์ปุราณะ ได้ถูกนำมาถ่ายทอดลงสู่ภาพสลักในศิลปะ ผสมผสานที่มีเอกลักษณ์ ในยุคสมัยเดียวกับนครวัด แต่ก็มีความแตกต่างในรายละเอียด
ทางเข้าด้านหน้าทั้ง 4 ทิศ ทำเป็น สะพานนาคราชหรือสะพานสายรุ้ง ข้ามคูน้ำที่มีความหมายถึงสีทันดรมหาสมุทร ว่ากันว่านาคที่นี่สวยและสมบูรณ์ที่สุดในศิลปะนครวัด
มณฑปซุ้มประตูหรือ "โคปุระ" ทางทิศใต้ ยอดปราสาทถล่มลงมาเป็นกองหิน
ซุ้มประตูหลอก มุมวิหาร หน้าบันเป็นรูปพระอัคนี
ทับหลังนี้เป็นรูปบุคคลนอนในบึงบัว ไกด์ท้องถิ่นบอกว่าเป็นที่มาของชื่อปราสาทเบ็งเมเลีย (เบ็งเมเลีย หรือ บึงมาลา แปลว่า บึงน้ำดอกไม้หอม)
มีจระเข้ด้วยนิ
ทับหลังประตูกลางเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ เทพเจ้าประจำทิศตะวันออก
หน้าบันของซุ้มประตูหลอกทางทิศเหนือ เป็นภาพเรื่อง รามายณะ ตอนนางสีดาลุยไฟเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
สภาพปราสาทที่ยังคงมีป่าขึ้นปกคลุม มีรากไม้น้อยใหญ่ ที่ชอนไชไปทั่วทุกหนแห่งของปราสาท สลับกับสีสันของตะไคร่น้ำและไลเคนที่ชอบอากาศชื้นแฉะ พื้นดินทับถมก้อนศิลาโผล่ขึ้นมาเพียงบางส่วน
ช่วยสร้างภาพ จินตนาการ ความเป็นนิทรานครให้กับผู้พบเห็น
ศิลาขนาดใหญ่ถล่มลงเป็นซากปรักหักพัง สลับกันเส้นทางเดินที่คดเคี้ยวและต้องปีนป่ายไปบนยอดผนังและหลังคา ได้สร้างความนิยมให้กับท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการค้นพบ ปราสาทร้างกลางป่าที่ลึกลับ นครศิลาสาบสูญที่ต้องสำรวจ ค้นหาและเดินป่าผจญภัยแบบยากลำบาก แต่ก็ไม่อยากเหนื่อยนัก
ทับหลังรูป พระกฤษณะสังหารนาคกาลียะ วางนอนอยู่ใกล้กองหิน ดูมีเสน่ห์และสวยงามด้วยศิลปะผสมผสานทั้งบาปวน นครวัดและบึงมาลา
อิ่มเอมกับปราสาทนี้แล้วก็ไปกินอาหารกลางวันกันครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้