เที่ยว 17 / 8 / 62
เพื่อพิสูจน์ชื่อกระทู้ ขอแปะตัวอย่างภาพไว้ก่อนเลย
สาเหตุที่พูดได้อย่างเต็มปากว่า เราสามารถ เดิน 2 ก้าว ถ่าย 3 รูป ได้นั้น
เพราะไกด์เราเป็นตากล้อง ค่ะ !!!!! และ ไกด์ก็ แชะ แชะ แชะ รูปให้แบบรัวๆไปเลย
แต่รูปที่เราจะเอามาลงก็ไม่ได้มาจากกล้องไกด์ทั้งหมดนะคะ มาจากกล้องของผู้ร่วมทริปคนอื่นด้วย
ทริปนี้เราไปกัน 2 วัน 2 คืน แต่ เราจะขอพูดถึงวันที่ไปเที่ยวนครวัด นครธม เป็นหลักนะคะ (เพราะรูปเยอะมาก ๆ)
ทริปนี้เรามีไกด์ 2 ท่านค่ะ

1. น้องสุขเขียน Page FB : Tuktuk Khmer Cambodia
เราติดต่อน้องเรื่องการเดินทาง การจัดทริป และการอำนวยความสะดวกในทริปทั้งหมด แต่เนื่องจากเราติดต่อน้องช้าไป
น้องจึงส่ง ไกด์อีกท่านมาดูแลค่ะ น้องสุขเขียนบริการดีมาก ๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส พูด/พิมพ์ ภาษาไทย คล่องแคล่ว เราติดต่อกันทาง Line แบบไม่ต้องโทรคุย ใช้พิมพ์ภาษาไทยคุยกันได้แบบสบายๆ เลยค่ะ เราเจอน้องวันที่มาถึงและ วันเดินทางกลับค่ะ แต่ในระหว่างทริป น้องก็ยังดูแลเราอยู่ตลอดนะคะ

2. พี่สิทธิชัย Page FB : Tuk Tuk Angkor Cambodia
พี่สิทธิชัย หรือ พี่ตุ๋ย คือไกด์ที่น้องสุขเขียน ส่งมาดูแลเราค่ะ พี่ตุ๋ยพูดภาษไทยคล่องแคล่วและ รู้เรื่องประวัติศาสตร์ดีมาก เล่าเรื่องเก่ง ช่วยให้การเดินทางไกลไม่น่าเบื่อ เล่าไม่หยุดจริง ๆ และ พี่ตุ๋ยนี่แหละ ที่เป็นช่างภาพให้ทริปของเรา เข้าไปชมผลงานของพี่ตุ๋ยในเพจ FB ได้เลยค่ะ


ทริปเรามีผู้ร่วมเดินทาง 11 คน เรามาถึงสนามบิน เสียมเรียบ ประมาณ 21.30 น. น้องสุขเขียน เดินทางมารับที่สนามบิน
สนามบินอยู่ห่างจากตัวเมือง เสียมเรียบประมาณ 10 กม. การเดินทางในทริปนี้ใช้รถมินิบัสค่ะ แต่ช่วงกลางคืนถ้าเราจะออกไปลัลล้าที่ไหน เราจะใช้ตุ๊ก ตุ๊ก ค่ะ เดี๋ยวจะพูดถึงในส่วนต่อไปนะคะ

น้องเขียนเล่าว่า เสียมเรียบ เป็นเมืองที่นักเดินทางจากทั่วโลกเดินทางกันมาเยอะ ในเมืองจึงมีโรงแรมเยอะมาก จนเรียกว่าเป็น “เมืองโรงแรม” ได้เลย ส่วนราคานั้นถูกมากค่ะ ทริปนี้เราจองโรงแรมกันเอง เนื่องจากไม่ได้ถ่ายรูปโรงแรมกันไว้เลย พอหาได้เท่านี้ ห้อง Family ราคาประมาณ 1,500 บาท ห้องใหญ่มากเกินคาดสุดๆ

เราพักกันที่ โรงแรม Solitaire Kamreuk Resort ค่ะ
Credit รูปภาพ จาก Booking.com นะคะ
รูปถ่ายรวมหน้าโรงแรม ของกรุ๊ปเราค่ะ

เพื่อนๆที่จะมาเที่ยว ถ้าเสิร์ชหาใน App. จองโรงแรม จะเห็นเลยว่าโรงแรมในเมืองเสียมเรียบนั้นมีให้เลือกเยอะมาก และ ราคาก็ไม่แพงเลย แนะนำอีกนิด ให้เลือกที่อยู่ใกล้ๆ Pub Street ค่ะ เพราะจะสะดวกต่อการไปแฮงค์เอ้าท์มาก ๆ (จากใจคนขี้เมา)

*** เสริมนิด ที่กัมพูชาใช้เงิน USD ค่ะ ให้แลกเป็นเงิน USD ไปทั้งหมดได้เลย หรือ ติดเงินไทยไป ก็ใช้ได้ค่ะ (ช่วงที่เราไปเงินบาทแข็ง 1 USD ประมาณ 30 บาท ยิ้มเลยค่ะ)

ระยะทางของแต่ละจุดในทริปคร่าวๆ ประมาณนี้นะคะ
- โรงแรม ไป Pub Street 1.3 กม. (นั่ง ตุ๊ก ตุ๊ก ขาละ 2 USD)
- โรงแรม ไป นครวัด 8 กม.
- โรงแรม ไป เบ็งเมเลีย 50 กม.

เบ็งเมเลีย (บึงมาลา) ค่าเข้า 5 USD

เราเลือกเบ็งเมเลีย เป็นสถานที่แรกของวันเพราะห่างตัวเมืองเสียมเรียบ ถึง 50 กม.
ไกด์นัดล้อหมุน 7.00 น. คืนก่อนเดินทางน้องสุขเขียนก็ย้ำนักย้ำหนา ว่าพี่ๆจ๋า อย่าดื่มกันหนักนะครับ

ไกลก็ไกลแต่ที่ต้องบากบั่นกันไป เพราะห้ามพลาดจริงๆ ค่ะ
ตามความรู้ทางประวัติศาสตร์อันน้อยนิดของผู้เขียน + จับใจความไกด์ตุ๋ยเล่า เนี่ย
เบ็งเมเลีย เกิดขึ้นก่อนนครวัด นครธม และ ยังเป็นต้นแบบสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง ให้กับนครวัดอีกด้วย
แต่เนื่องจากอยู่ในป่าลึก และ เก่าแก่มาก จึงเกิดการทรุดโทรมเป็นลักษณะเหมือนถล่มลงมา

สำหรับเราภาพที่อยู่ตรงหน้า มันสร้างความรู้สึกที่เอ่อล้นไปหมด ยิ่งใหญ่ สวยงาม ลึกลับ


ยากจะจินตนาการจริง ๆ ว่า หากเบ็งเมเลียอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สิ่งก่อสร้างนี้จะยิ่งใหญ่มากเพียงใด

ใส่ Effect ขาว-ดำ เพิ่มความลึกลับ และ เสน่ห์ ของเบ็งเมเลีย ขึ้นไปอีก


พี่ตุ๋ยเป็น “ตากล้องไรเฟิล” ยิงระยะไกลเท่านั้นค่ะ เพราะใช้กล้องเลนส์ซูม เน้นถ่ายภาพ Portrait
กว่าภาพจะออกมาได้มุมขนาดนี้ ต้องวิ่งไปหาที่ยิงไกลมาก แล้วคอยตะโกนเรียกเรา ภาพก็จะออกมาประมาณนี้ค่ะ

และแล้วระหว่างทริปฝนก็เทลงมา และ สุด Exclusive เราได้เข้าไปในช่องกำแพงเพื่อหลบฝนด้วย
เข้ากับบรรยากาศ เขียวๆชื้นๆ ของเบ็งเมเลียจริง ๆ

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา มีเสื้อกันฝน ตัวละ 1 USD ของน้อง ๆตัวน้อย มาบริการ (เสื้อกันฝนนี่ช่วยให้ภาพน่ารักขึ้นนะ) ไม่มีอุปสรรคใดจะมาขวางเราได้ค่ะ

ยิ้มหวานๆ ฟ้าหลังฝน 

และ จากเหตุการณ์ฝนตก ก็มีส่วนให้เราล่าช้า จนต้องตัด ปราสาทบันทายสรี ออกไป 

นครวัด , นครธม ค่าเข้า 37 USD

ที่นครวัด เขาจะแยกจุดขายตั๋วไว้อีกจุดหนึ่ง
ซึ่งช่วงเช้าระหว่างเดินทางไปเบ็งเมเลีย ไกด์พาเราเข้าไปซื้อมาแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลา
เนื่องจากการซื้อบัตรต้องใช้เวลาพอควร เพราะต้องถ่ายรูปเราลงในบัตรด้วยค่ะ

บัตรเข้าชมนครวัด จะสามารถใช้เข้าชม นครธม และ ปราสาทโดยรอบได้ด้วยค่ะ ไม่ต้องไปจ่ายเพิ่มอีกแล้ว

เพื่ออธิบายว่านครวัด นครธม ไม่ใช่ที่เดียวกัน เราขออธิบายด้วยภายนะคะ
ตามความเข้าใจของเรา โดยง่าย

นครวัด (Angkor Wat) = ศาสนสถาน
นครธม (Angkor Thom) = เมือง ปราสาทที่มีชื่อเสียงคือ ปราสาทบายน
นอกจากนี้ ทั่วเมืองเสียมเรียบ ยังมีปราสาท ขึ้นอยู่กระจัดกระจาย อีกมากมายหลายแห่งเลยค่ะ

ตามแผนที่ จุดที่เราจะเที่ยวหลังจากนี้
ตามจุดสีเขียวในภาพนะคะ

จุด 2 นครวัด (Angkor Wat)
จุด 4 ปราสาทตาพรหม (นิยมเรียกันว่า Tomb Raider เพราะเคยถูกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ)
และ จุด 3 ปราสาทบายน (ตั้งอยู่ใน นครธม)

เรามาถึงกันก็เกือบ 14.00 น. แล้วค่ะ และ ที่นี่เขาจะปิด 17.00 น. เราเลยต้องทำเวลากันแบบสุดๆเลย

นครวัด (Angkor Wat) 




จุดนี้พี่ไกด์ Confirm เลยว่า ถ่ายได้เห็น ยอดปราสาทแบบครบและไร้คนรบกวน

ถ้าถามว่าจุดนี้อยู่ตรงไหน เราจำได้แต่บอกไม่ถูกจริง ๆ ค่ะ
ลองใช้รูปจากมุมอื่นมาช่วย เผื่อหากันเจอนะคะ


อีกจุดยอดฮิต ริมสระบัว จะได้ภาพเป็นมุมสะท้อนของนครวัดในสระแบบนี้ค่ะ


Part นี้ ผู้เขียนกรี๊ดกร๊าด เป็นการส่วนตัว
ผู้เขียนเองเป็นแฟน(ใหม่) “มหาภารตะ” ทริปนี้ต้องมาตามหา ภาพสลัก “การต่อสู้ที่ทุ่งกุรุเกษตร”
บอกเลยไม่คิดว่าภาพสลักจะใหญ่เพียงนี้

ให้ภาพอธิบายความอินของเราหน่อยละกันนะคะ
สาวสวมหมวก ทำตัวเป็นนางฉอด นางสอน เราเองค่ะ

ขออธิบายเพิ่มเติมด้วยความรู้อันน้อยนิดของผู้เขียน (ผิดถูกประการใดต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า)

นครวัดเป็นศาสนสถาน การก่อสร้างจะแฝงไปด้วยคติ/ความเชื่อ ของผู้สร้างในขณะนั้น และ เนื่องจากการก่อสร้างกินระยะเวลานาน ส่งผลให้การก่อสร้างนครวัดได้รับอิทธิพล จาก 2 ความเชื่อด้วยกัน จากภาพสลักฝาผนัง ฝั่งหนึ่งเป็นเรื่องราวการต่อสู่ที่ทุ่งกุรุเกษตร เรื่องราว มหากาพย์มหาภารตะ (มหากาพย์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู) และ อีกฝั่งเป็นเนื้อหา เกี่ยวกับ สวรรค์ – โลกมนุษย์ - นรก (ความเชื่อเรื่องบาปบุญของศาสนาพุทธ)

.... เดี๋ยวมาต่อกันใน Comment นะคะ