เนชั่นโพล 'แพทองธาร' เต็ง1นายกฯ - พท.'ส.ส.' - 'พลังเงียบ' 32% ชี้ขาดแลนด์สไลด์
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1063656
เนชั่นโพล" เปิดผลสำรวจครั้งที่1 "แพทองธาร" เต็ง1นายกฯ -พท."ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อ" ลุ้น "พลังเงียบ" 32% ชี้ขาดแลนด์สไลด์ ส่วน"พิธา-ก้าวไกล" ตีคู่ ขณะที่"ขั้วอนุรักษ์" ตัดแต้มกันเอง
เนชั่นโพล สำรวจการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี พ.ศ. 2566 การสำรวจครั้งที่ 1 ช่วงเวลาสำรวจ 7 – 12 เมษายน พ.ศ. 2566 ข้อมูล/ข้อสังเกตจากทีมทำโพล “เนชั่นโพล ครั้งที่ 1” ณ วันที่ 15 เม.ย.66 ภายหลังจากตรวจสอบจำนวนตัวอย่างครบตามเป้าหมาย
เป็นการสำรวจแบบ 8 ภูมิภาค และ กทม. 33 เขต รวมทั้งหมด 39,687 ตัวอย่าง จำแนกเป็น
• กรุงเทพมหานคร 35,411 ตัวอย่าง (33 เขตเลือกตั้ง เขตละ 1,072 ตัวอย่าง)
• ภาคเหนือตอนบน 406 ตัวอย่าง
• ภาคเหนือตอนล่าง 417 ตัวอย่าง
• ภาคกลางและภาคตะวันตก 723 ตัวอย่าง
• ภาคตะวันออก 420 ตัวอย่าง
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 722 ตัวอย่าง
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 726 ตัวอย่าง
• ภาคใต้ 11 จังหวัด 461 ตัวอย่าง
3 จังหวัดชายแดนใต้ 401 ตัวอย่าง
- วิธีสุ่มตัวอย่างแบบ Stratified Five-Stage Random Sampling (ภูมิภาค) และ Stratified Three-Stage Random Sampling (กทม.)
• สุ่มตัวอย่างใน 8 ภูมิภาค จำนวน 31 จังหวัด ที่ระดับความผิดพลาด 5%
• สุ่มตัวอย่างใน กทม. จำนวน 33 เขตเลือกตั้ง ที่ระดับความผิดพลาด 3%
• ใช้ค่าถ่วงน้ำหนัก (Sampling weight) ในการประมาณค่าประชากร
- สถิติที่ใช้นำเสนอผลการสำรวจ
• สถิติเชิงบรรยาย (Descriptive statistics)
• สถิติเชิงอนุมาน (Inferential statistics)
• "เพื่อไทย-ก้าวไกล" คู่คี่
ผลสำรวจ 18 ประเด็นสำคัญ มีดังนี้
1.เพื่อไทย นำอันดับ 1 ก้าวไกล อันดับ 2 (ภาพรวมทั้งประเทศ ทั้งระบบแบ่งเขต และปาร์ตี้ลิสต์) สาเหตุที่เพื่อไทยนำโด่งเกือบทุกพื้นที่ สาเหตุจากช่วงเวลาที่ทีมลงพื้นที่สำรวจโพลระหว่าง 7-12 เม.ย. ตรงกับช่วงการประกาศนโยบายแจก 1 หมื่นต่อคน (55 ล้านคน ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป) เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งนโยบายนี้ติดกระแสแรงทางสื่อมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ สอดคล้องกับเหตุผลของผู้ตอบแบบสำรวจที่เลือกพรรคการเมืองโดยพิจารณาจากวิสัยทัศน์และนโยบายพรรค (% เหตุผลข้อนี้มาเป็นอันดับแรก) จึงเหมาะเจาะทางช่วงเวลาทำให้ดีดคะแนนนิยมเพื่อไทยพุ่งสูงโดยเฉพาะยิ่งแรงมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ
• "เศรษฐา " คะแนนดีขึ้น
2.แคนดิเดตนายกฯ ภาพรวมทั้งประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน ก้าวขึ้นมาติด 4 อันดับแรก (รายชื่อบุคคล) ผลจากการเปิดตัวคุณเศรษฐาในฐานะแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการเมื่อ 5 เม.ย. และนโยบายแจก 1 หมื่นต่อคนติดภาพตัวคุณเศรษฐา ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ทีมลงพื้นที่สำรวจโพลระหว่าง 7-12 เม.ย. ทำให้กระแสตัวคุณเศรษฐาจึงพุ่งขึ้นมา
3.แคนดิเดตนายกฯ ภาพรวมทั้งประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาติด Top 3 ต่อจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อันดับ1 และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อันดับ2 ส่วนในภูมิภาคใต้ตอนบน 11 จังหวัด คะแนนเลือก พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นอันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นที่นิยมในภาคใต้สำหรับฝั่งอนุรักษ์นิยม
4.สัดส่วน % ของผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกปาร์ตี้ลิสต์และระบบเขตมาเป็นอันดับ 1 ในภาคกลางและตะวันตก ภาคเหนือตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน 11 จังหวัด และกลุ่มสามจังหวัดชายแดนใต้
• "แลนด์สไลด์เพื่อไทย" แค่เหนืออีสาน
5.เพื่อไทยรับประกันแลนด์สไลด์ได้เพียง 2 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือบน และภาคอีสานบน เท่านั้น
6.แคนดิเดตนายกฯ เฉพาะการสำรวจใน กทม. คุณจุรินทร์ตาม พล.อ.ประยุทธ์ไม่ห่าง แต่ในการสำรวจภาพรวมระดับประเทศ พล.อ.ประยุทธ์นำคุณจุรินทร์พอควร เนื่องจาก % ที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ในภาคใต้ 11 จังหวัดตอนบนสูงมาก (มาเป็นอันดับ 1) จึงทำให้ % ภาพรวมระดับประเทศถีบตัวสูงขึ้น
7.คะแนนของประชาธิปัตย์ ทั้งปาร์ตี้ลิสต์และแบ่งเขตในกรุงเทพฯ เป็นรองแค่เพื่อไทยและก้าวไกล แต่ฝั่งอนุรักษ์นิยมเดียวกัน อยู่เหนือรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจมาจากแคมเปญรณรงค์ของ ปชป. ใน กทม. ที่ประชาชนรับรู้ในวงกว้าง (ผ่านสื่อ) ในช่วงระหว่าง 4-12 เมษายน ส่งผลให้เหนือกว่า รทสช. (ช่วงเดียวกับที่ทีมลงพื้นที่สำรวจโพลปกติระหว่าง 7-12 เม.ย.) ประชาชนน่าจะรับรู้กิจกรรมรณรงค์ของ ปชป. ช่วงดังกล่าวพอดี จึงส่งผลต่อการรับรู้นั่นเอง
8.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหร้าพรรคไทยสร้างไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพปชร.ค่า % ความนิยมตัวบุคคลตามหลังคุณจุรินทร์ ในภาพรวมระดับประเทศ
• จับตา"พลังเงียบ" 32% จุดชี้ขาด
9. กลุ่มที่ยัง "
ไม่ตัดสินใจ" ทั้งระดับประเทศและ กทม. ยังมีอีกราวๆ ร้อยละ 32+ (เกือบ 1 ใน 3 ของทั้งหมด)
• ข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ถ้าเป็นฝั่งอนุรักษ์นิยม คือ ยังคิดไม่ตกว่าจะเลือก รทสช. หรือ ปชป. แต่ไม่ข้ามฝั่งไปเลือกเพื่อไทย หรือก้าวไกล
• ข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ถ้าเป็นฝั่งเสรีนิยม ยังคิดไม่ตกว่าจะเลือก พท. หรือ ก้าวไกล แต่ไม่ข้ามฝั่งเช่นกัน
10.กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ยังมีมากพอสมควร ราวๆ ร้อยละ 32+ (เกือบ 1 ใน 3 ของทั้งหมด) จึงเป็นโอกาสของพรรคการเมืองในเวลาที่เหลือราวๆ 29-30 วัน ในการออกแคมเปญเพื่อดึงคะแนนจากกลุ่มนี้
• "ขั้วอนุรักษ์" ตัดแต้มกันเอง
11.แนวโน้มสถิติบ่งชี้ว่า พรรคการเมืองฝั่งอนุรักษ์นิยมตัดคะแนนกันเองมากกว่าฝั่งเสรีนิยม
ยกตัวอย่าง ภาคใต้ คะแนนจากสงขลา นครศรีธรรมราช ฯลฯ รทสช. กับ ปชป. คะแนนทิ้งกันไม่ขาด แถมยังมี ภท.มาแชร์แต้ม ทำให้เพื่อไทยกลับแรงขึ้นมา ทั้งๆ ที่คะแนนนิยมดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ฝั่งอนุรักษ์นิยมมีตัวหารมาก ทำให้คะแนนเหมือนลดลง สะท้อนว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมเสียเปรียบในพื้นที่เป้าหมายของตัวเอง
12.ฐานคะแนนฝั่งเสรีนิยม หลายคนไม่กล้าเลือกก้าวไกล เพราะกลัวเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ แล้วแพ้ 2 ป.
13.ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจทั้งในแบบปาร์ตี้ลิสต์และแบ่งเขต มาเป็นอันดับ 1 เหนือการเลือก ส.ส. ทั้งสองระบบ
14.ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ คนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกเพื่อไทย หรือก้าวไกล จะตอบเสียงดังฟังชัด แต่คนที่เลือกพรรคฝั่งอนุรักษ์นิยม จะตอบแบบไม่เต็มเสียง เหมือนไม่กล้าแสดงตัวมาก
15.คะแนนจากการสำรวจโพลแบบปาร์ตี้ลิสต์รอบที่หนึ่งนี้ สามารถนำมาคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคได้เลย แต่อย่าลืมว่ายังมีคนไม่ตัดสินใจอีกราว ๆ 32 %
16.ส่วน % คะแนน ส.ส.แบบแบ่งเขตใน 8 ภูมิภาค (สำรวจรอบที่หนึ่งนี้) สามารถพิจารณาถึงทิศทางความแรงของพรรคและตัวบุคคลในภูมิภาคนั้น ๆ ได้รายภูมิภาค แต่ยังแปรเป็นจำนวน ส.ส.เขตในแต่ละภูมิภาคอย่างเจาะจงไม่ได้ตามหลักการทางสถิติ เนื่องจากการสำรวจไม่ได้สำรวจรายเขตเลือกตั้ง แต่เป็นการสำรวจความนิยมรายภูมิภาค (โซน) นั่นเอง {ส่วนการสำรวจโพลรอบสองแบบ 400 เขตเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปลายเมษายนนั้น จะทราบถึงหน้าตา ส.ส.เฉพาะเขตเลือกตั้งได้}
17.ผลสำรวจรอบแรก (8 ภูมิภาคและ 33 เขต กทม.) สรุปคือ ตามหลักสถิตินั้น เพื่อไทยยังไม่แลนด์สไลด์ในขณะนี้ แต่ในอนาคตสามารถออกได้ทั้งสองทิศ ระหว่างการแลนด์หรือไม่แลนด์สไลด์
• เพื่อไทยลุ้นกลุ่ม "ไม่ตัดสินใจ"
18.ตัวแปรหลักเพียงหนึ่งเดียวที่บ่งชี้ว่า เพื่อไทยจะก้าวไปถึงการแลนด์สไลด์หรือไม่ จากผลสำรวจโพลในรอบแรก คือ “% จำนวนคนที่ยังไม่ตัดสินใจ” ซึ่งยังมีจำนวนมากนั่นเอง หรืออาจเรียกได้ว่า ขึ้นกับ(พรรค)คนที่ยังไม่ตัดสินใจ
…สรุปคือ โอกาสยังเปิดกว้างสำหรับพรรคอื่น ๆ ในช่วงการหาเสียงที่เหลือ แม้ว่าเพื่อไทยจะมาแรงสุดในขณะนี้ แต่ % การสำรวจบ่งชี้ว่ายังไม่แลนด์สไลด์
ผู้สนใจสามารถดูผลโพลฉบับเต็ม
คลิกที่นี่
‘เศรษฐา’ แจง งบพอเงินดิจิทัล หมื่นบาท ปัด ทีมศก.-กม.แตกคอ แง้มเซอร์ไพรส์โค้งสุดท้าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3931876
‘เศรษฐา’ แจง งบพอทำนโยบายดิจิทัลหมื่นบาท ปัดทีม ศก.-ทีม กม.ขัดแย้ง แย้มมีเซอร์ไพรส์โค้งสุดท้าย
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 เมษายน ที่สาเกตฮอลล์ จ.ร้อยเอ็ด นายเ
ศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ทีมเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมายมีความเห็นคนละทิศทางในการชี้แจงนโยบายเรื่องกระเป๋าเงินดิจิทัลต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน ทั้งทีมเศรษฐกิจและทีมกฎหมายนั่งกับตน ไม่มีความเห็นต่างกันเลย ได้มีการพูดคุยกันแล้ว และเห็นเหมือนกัน ส่วนกระแสที่จะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อนำเงินมาใช้ในนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันอีกครั้งว่าทีมกฎหมายและคณะกรรมการเศรษฐกิจไม่มีแตกคอกัน ทุกอย่างยังคงเดินหน้าเหมือนเดิม
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่างบประมาณปี 2567 ทั้งการจัดเก็บภาษี รีดงบกระทรวง รวมถึงงบกลาง ยังไม่เพียงพอมาจัดทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นาย
เศรษฐากล่าวว่า ตนยืนยันว่างบพอ และได้ส่งเอกสารได้ทันในระยะเวลาที่ กกต.กำหนด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและที่ กกต.ถามมา โดยที่ กกต.ไม่จำเป็นต้องมาทวงถามเพิ่มเติม เรารู้หน้าที่ของเรา
ถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรค พท. นาย
เศรษฐากล่าวว่า เรื่องของเขาให้เขาพูดไป เราพูดแต่เรื่องของพรรคเรา ให้ประชาชนคิดไตร่ตรองให้ดี หน้าที่ของตนคือการนำเสนอนโยบายที่ดีให้กับประชาชนและหากมีข้อสงสัยก็พอที่จะชี้แจง
เมื่อถามถึงปัจจัยที่ทำให้คะแนนนิยมของพรรค พท.ลดลง ขณะที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพิ่มขึ้น นาย
เศรษฐากล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดู แต่เราทำเหมือนเดิมทุกอย่าง แล้ววิเคราะห์ว่าสิ่งใดที่ทำให้คะแนนนิยมลดลงไป อาจจะเป็นเพราะเรายังไม่ได้ลงพื้นที่ก็ได้ ตนคิดว่าหากใช้เวลาสักหน่อย ตนลงพื้นที่มากขึ้น พบปะประชาชนและพูดถึงนโยบายก็น่าจะเข้าใจกันมากขึ้น ส่วนวิธีการทำเพราะของแต่ละคนก็ต่างกันไป บางคนอาจจะเป็นออนไลน์ แต่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยอาจจะเป็นออฟไลน์ก็ได้ จึงจะรับฟังและวิเคราะห์ให้ดี
เมื่อถามว่ายุทธศาสตร์ของพรรค พท.มั่นใจว่ายืนหนึ่งในโพลได้ใช่หรือไม่ นาย
เศรษฐากล่าวว่า “
มั่นใจครับ” ถามต่อว่าพรรค พท.มีโพลของตัวเองใช่หรือไม่ นาย
เศรษฐากล่าวว่า “
มีครับ” เรามีคนที่ทำงานด้านสถิติที่นำสถิติทุกอย่างมาวิเคราะห์ประสมประสานกัน เพื่อให้เราทราบกระแสและวางยุทธศาสตร์ในช่วงโค้งสุดท้ายต่อไป
เมื่อถามว่าจะต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมาย 376 เสียงหรือไม่ นาย
เศรษฐากล่าวว่า “
ไม่หรอกครับ เราปรับตลอดอยู่แล้ว” ถามต่อว่าจะมีเซอร์ไพรส์อีกหรือไม่ นาย
เศรษฐากล่าวว่า ขอให้รอดูต่อไป
JJNY : 5in1 เนชั่นโพล'แพทองธาร' เต็ง1นายกฯ│‘เศรษฐา’แจงเงินดิจิทัล│ก้าวไกลฉะกกต.│หัวมันแพง│จี7 รับไม่ได้ติดอาวุธเบลารุส
https://www.bangkokbiznews.com/politics/1063656
เนชั่นโพล" เปิดผลสำรวจครั้งที่1 "แพทองธาร" เต็ง1นายกฯ -พท."ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อ" ลุ้น "พลังเงียบ" 32% ชี้ขาดแลนด์สไลด์ ส่วน"พิธา-ก้าวไกล" ตีคู่ ขณะที่"ขั้วอนุรักษ์" ตัดแต้มกันเอง
เนชั่นโพล สำรวจการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี พ.ศ. 2566 การสำรวจครั้งที่ 1 ช่วงเวลาสำรวจ 7 – 12 เมษายน พ.ศ. 2566 ข้อมูล/ข้อสังเกตจากทีมทำโพล “เนชั่นโพล ครั้งที่ 1” ณ วันที่ 15 เม.ย.66 ภายหลังจากตรวจสอบจำนวนตัวอย่างครบตามเป้าหมาย
เป็นการสำรวจแบบ 8 ภูมิภาค และ กทม. 33 เขต รวมทั้งหมด 39,687 ตัวอย่าง จำแนกเป็น
• กรุงเทพมหานคร 35,411 ตัวอย่าง (33 เขตเลือกตั้ง เขตละ 1,072 ตัวอย่าง)
• ภาคเหนือตอนบน 406 ตัวอย่าง
• ภาคเหนือตอนล่าง 417 ตัวอย่าง
• ภาคกลางและภาคตะวันตก 723 ตัวอย่าง
• ภาคตะวันออก 420 ตัวอย่าง
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 722 ตัวอย่าง
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 726 ตัวอย่าง
• ภาคใต้ 11 จังหวัด 461 ตัวอย่าง
3 จังหวัดชายแดนใต้ 401 ตัวอย่าง
- วิธีสุ่มตัวอย่างแบบ Stratified Five-Stage Random Sampling (ภูมิภาค) และ Stratified Three-Stage Random Sampling (กทม.)
• สุ่มตัวอย่างใน 8 ภูมิภาค จำนวน 31 จังหวัด ที่ระดับความผิดพลาด 5%
• สุ่มตัวอย่างใน กทม. จำนวน 33 เขตเลือกตั้ง ที่ระดับความผิดพลาด 3%
• ใช้ค่าถ่วงน้ำหนัก (Sampling weight) ในการประมาณค่าประชากร
- สถิติที่ใช้นำเสนอผลการสำรวจ
• สถิติเชิงบรรยาย (Descriptive statistics)
• สถิติเชิงอนุมาน (Inferential statistics)
• "เพื่อไทย-ก้าวไกล" คู่คี่
ผลสำรวจ 18 ประเด็นสำคัญ มีดังนี้
1.เพื่อไทย นำอันดับ 1 ก้าวไกล อันดับ 2 (ภาพรวมทั้งประเทศ ทั้งระบบแบ่งเขต และปาร์ตี้ลิสต์) สาเหตุที่เพื่อไทยนำโด่งเกือบทุกพื้นที่ สาเหตุจากช่วงเวลาที่ทีมลงพื้นที่สำรวจโพลระหว่าง 7-12 เม.ย. ตรงกับช่วงการประกาศนโยบายแจก 1 หมื่นต่อคน (55 ล้านคน ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป) เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งนโยบายนี้ติดกระแสแรงทางสื่อมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ สอดคล้องกับเหตุผลของผู้ตอบแบบสำรวจที่เลือกพรรคการเมืองโดยพิจารณาจากวิสัยทัศน์และนโยบายพรรค (% เหตุผลข้อนี้มาเป็นอันดับแรก) จึงเหมาะเจาะทางช่วงเวลาทำให้ดีดคะแนนนิยมเพื่อไทยพุ่งสูงโดยเฉพาะยิ่งแรงมากขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ
• "เศรษฐา " คะแนนดีขึ้น
2.แคนดิเดตนายกฯ ภาพรวมทั้งประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน ก้าวขึ้นมาติด 4 อันดับแรก (รายชื่อบุคคล) ผลจากการเปิดตัวคุณเศรษฐาในฐานะแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการเมื่อ 5 เม.ย. และนโยบายแจก 1 หมื่นต่อคนติดภาพตัวคุณเศรษฐา ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ทีมลงพื้นที่สำรวจโพลระหว่าง 7-12 เม.ย. ทำให้กระแสตัวคุณเศรษฐาจึงพุ่งขึ้นมา
3.แคนดิเดตนายกฯ ภาพรวมทั้งประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมาติด Top 3 ต่อจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อันดับ1 และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อันดับ2 ส่วนในภูมิภาคใต้ตอนบน 11 จังหวัด คะแนนเลือก พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นอันดับ 1 พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นที่นิยมในภาคใต้สำหรับฝั่งอนุรักษ์นิยม
4.สัดส่วน % ของผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกปาร์ตี้ลิสต์และระบบเขตมาเป็นอันดับ 1 ในภาคกลางและตะวันตก ภาคเหนือตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน 11 จังหวัด และกลุ่มสามจังหวัดชายแดนใต้
• "แลนด์สไลด์เพื่อไทย" แค่เหนืออีสาน
5.เพื่อไทยรับประกันแลนด์สไลด์ได้เพียง 2 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือบน และภาคอีสานบน เท่านั้น
6.แคนดิเดตนายกฯ เฉพาะการสำรวจใน กทม. คุณจุรินทร์ตาม พล.อ.ประยุทธ์ไม่ห่าง แต่ในการสำรวจภาพรวมระดับประเทศ พล.อ.ประยุทธ์นำคุณจุรินทร์พอควร เนื่องจาก % ที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ในภาคใต้ 11 จังหวัดตอนบนสูงมาก (มาเป็นอันดับ 1) จึงทำให้ % ภาพรวมระดับประเทศถีบตัวสูงขึ้น
7.คะแนนของประชาธิปัตย์ ทั้งปาร์ตี้ลิสต์และแบ่งเขตในกรุงเทพฯ เป็นรองแค่เพื่อไทยและก้าวไกล แต่ฝั่งอนุรักษ์นิยมเดียวกัน อยู่เหนือรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจมาจากแคมเปญรณรงค์ของ ปชป. ใน กทม. ที่ประชาชนรับรู้ในวงกว้าง (ผ่านสื่อ) ในช่วงระหว่าง 4-12 เมษายน ส่งผลให้เหนือกว่า รทสช. (ช่วงเดียวกับที่ทีมลงพื้นที่สำรวจโพลปกติระหว่าง 7-12 เม.ย.) ประชาชนน่าจะรับรู้กิจกรรมรณรงค์ของ ปชป. ช่วงดังกล่าวพอดี จึงส่งผลต่อการรับรู้นั่นเอง
8.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหร้าพรรคไทยสร้างไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพปชร.ค่า % ความนิยมตัวบุคคลตามหลังคุณจุรินทร์ ในภาพรวมระดับประเทศ
• จับตา"พลังเงียบ" 32% จุดชี้ขาด
9. กลุ่มที่ยัง "ไม่ตัดสินใจ" ทั้งระดับประเทศและ กทม. ยังมีอีกราวๆ ร้อยละ 32+ (เกือบ 1 ใน 3 ของทั้งหมด)
• ข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ถ้าเป็นฝั่งอนุรักษ์นิยม คือ ยังคิดไม่ตกว่าจะเลือก รทสช. หรือ ปชป. แต่ไม่ข้ามฝั่งไปเลือกเพื่อไทย หรือก้าวไกล
• ข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ถ้าเป็นฝั่งเสรีนิยม ยังคิดไม่ตกว่าจะเลือก พท. หรือ ก้าวไกล แต่ไม่ข้ามฝั่งเช่นกัน
10.กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ ยังมีมากพอสมควร ราวๆ ร้อยละ 32+ (เกือบ 1 ใน 3 ของทั้งหมด) จึงเป็นโอกาสของพรรคการเมืองในเวลาที่เหลือราวๆ 29-30 วัน ในการออกแคมเปญเพื่อดึงคะแนนจากกลุ่มนี้
• "ขั้วอนุรักษ์" ตัดแต้มกันเอง
11.แนวโน้มสถิติบ่งชี้ว่า พรรคการเมืองฝั่งอนุรักษ์นิยมตัดคะแนนกันเองมากกว่าฝั่งเสรีนิยม
ยกตัวอย่าง ภาคใต้ คะแนนจากสงขลา นครศรีธรรมราช ฯลฯ รทสช. กับ ปชป. คะแนนทิ้งกันไม่ขาด แถมยังมี ภท.มาแชร์แต้ม ทำให้เพื่อไทยกลับแรงขึ้นมา ทั้งๆ ที่คะแนนนิยมดีขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ฝั่งอนุรักษ์นิยมมีตัวหารมาก ทำให้คะแนนเหมือนลดลง สะท้อนว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมเสียเปรียบในพื้นที่เป้าหมายของตัวเอง
12.ฐานคะแนนฝั่งเสรีนิยม หลายคนไม่กล้าเลือกก้าวไกล เพราะกลัวเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ แล้วแพ้ 2 ป.
13.ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจทั้งในแบบปาร์ตี้ลิสต์และแบ่งเขต มาเป็นอันดับ 1 เหนือการเลือก ส.ส. ทั้งสองระบบ
14.ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ คนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกเพื่อไทย หรือก้าวไกล จะตอบเสียงดังฟังชัด แต่คนที่เลือกพรรคฝั่งอนุรักษ์นิยม จะตอบแบบไม่เต็มเสียง เหมือนไม่กล้าแสดงตัวมาก
15.คะแนนจากการสำรวจโพลแบบปาร์ตี้ลิสต์รอบที่หนึ่งนี้ สามารถนำมาคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคได้เลย แต่อย่าลืมว่ายังมีคนไม่ตัดสินใจอีกราว ๆ 32 %
16.ส่วน % คะแนน ส.ส.แบบแบ่งเขตใน 8 ภูมิภาค (สำรวจรอบที่หนึ่งนี้) สามารถพิจารณาถึงทิศทางความแรงของพรรคและตัวบุคคลในภูมิภาคนั้น ๆ ได้รายภูมิภาค แต่ยังแปรเป็นจำนวน ส.ส.เขตในแต่ละภูมิภาคอย่างเจาะจงไม่ได้ตามหลักการทางสถิติ เนื่องจากการสำรวจไม่ได้สำรวจรายเขตเลือกตั้ง แต่เป็นการสำรวจความนิยมรายภูมิภาค (โซน) นั่นเอง {ส่วนการสำรวจโพลรอบสองแบบ 400 เขตเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปลายเมษายนนั้น จะทราบถึงหน้าตา ส.ส.เฉพาะเขตเลือกตั้งได้}
17.ผลสำรวจรอบแรก (8 ภูมิภาคและ 33 เขต กทม.) สรุปคือ ตามหลักสถิตินั้น เพื่อไทยยังไม่แลนด์สไลด์ในขณะนี้ แต่ในอนาคตสามารถออกได้ทั้งสองทิศ ระหว่างการแลนด์หรือไม่แลนด์สไลด์
• เพื่อไทยลุ้นกลุ่ม "ไม่ตัดสินใจ"
18.ตัวแปรหลักเพียงหนึ่งเดียวที่บ่งชี้ว่า เพื่อไทยจะก้าวไปถึงการแลนด์สไลด์หรือไม่ จากผลสำรวจโพลในรอบแรก คือ “% จำนวนคนที่ยังไม่ตัดสินใจ” ซึ่งยังมีจำนวนมากนั่นเอง หรืออาจเรียกได้ว่า ขึ้นกับ(พรรค)คนที่ยังไม่ตัดสินใจ
…สรุปคือ โอกาสยังเปิดกว้างสำหรับพรรคอื่น ๆ ในช่วงการหาเสียงที่เหลือ แม้ว่าเพื่อไทยจะมาแรงสุดในขณะนี้ แต่ % การสำรวจบ่งชี้ว่ายังไม่แลนด์สไลด์
ผู้สนใจสามารถดูผลโพลฉบับเต็มคลิกที่นี่
‘เศรษฐา’ แจง งบพอเงินดิจิทัล หมื่นบาท ปัด ทีมศก.-กม.แตกคอ แง้มเซอร์ไพรส์โค้งสุดท้าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_3931876
‘เศรษฐา’ แจง งบพอทำนโยบายดิจิทัลหมื่นบาท ปัดทีม ศก.-ทีม กม.ขัดแย้ง แย้มมีเซอร์ไพรส์โค้งสุดท้าย
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 18 เมษายน ที่สาเกตฮอลล์ จ.ร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ทีมเศรษฐกิจและฝ่ายกฎหมายมีความเห็นคนละทิศทางในการชี้แจงนโยบายเรื่องกระเป๋าเงินดิจิทัลต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน ทั้งทีมเศรษฐกิจและทีมกฎหมายนั่งกับตน ไม่มีความเห็นต่างกันเลย ได้มีการพูดคุยกันแล้ว และเห็นเหมือนกัน ส่วนกระแสที่จะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อนำเงินมาใช้ในนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันอีกครั้งว่าทีมกฎหมายและคณะกรรมการเศรษฐกิจไม่มีแตกคอกัน ทุกอย่างยังคงเดินหน้าเหมือนเดิม
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่างบประมาณปี 2567 ทั้งการจัดเก็บภาษี รีดงบกระทรวง รวมถึงงบกลาง ยังไม่เพียงพอมาจัดทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นายเศรษฐากล่าวว่า ตนยืนยันว่างบพอ และได้ส่งเอกสารได้ทันในระยะเวลาที่ กกต.กำหนด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและที่ กกต.ถามมา โดยที่ กกต.ไม่จำเป็นต้องมาทวงถามเพิ่มเติม เรารู้หน้าที่ของเรา
ถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เตรียมแถลงข่าวเกี่ยวกับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรค พท. นายเศรษฐากล่าวว่า เรื่องของเขาให้เขาพูดไป เราพูดแต่เรื่องของพรรคเรา ให้ประชาชนคิดไตร่ตรองให้ดี หน้าที่ของตนคือการนำเสนอนโยบายที่ดีให้กับประชาชนและหากมีข้อสงสัยก็พอที่จะชี้แจง
เมื่อถามถึงปัจจัยที่ทำให้คะแนนนิยมของพรรค พท.ลดลง ขณะที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพิ่มขึ้น นายเศรษฐากล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดู แต่เราทำเหมือนเดิมทุกอย่าง แล้ววิเคราะห์ว่าสิ่งใดที่ทำให้คะแนนนิยมลดลงไป อาจจะเป็นเพราะเรายังไม่ได้ลงพื้นที่ก็ได้ ตนคิดว่าหากใช้เวลาสักหน่อย ตนลงพื้นที่มากขึ้น พบปะประชาชนและพูดถึงนโยบายก็น่าจะเข้าใจกันมากขึ้น ส่วนวิธีการทำเพราะของแต่ละคนก็ต่างกันไป บางคนอาจจะเป็นออนไลน์ แต่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยอาจจะเป็นออฟไลน์ก็ได้ จึงจะรับฟังและวิเคราะห์ให้ดี
เมื่อถามว่ายุทธศาสตร์ของพรรค พท.มั่นใจว่ายืนหนึ่งในโพลได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “มั่นใจครับ” ถามต่อว่าพรรค พท.มีโพลของตัวเองใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “มีครับ” เรามีคนที่ทำงานด้านสถิติที่นำสถิติทุกอย่างมาวิเคราะห์ประสมประสานกัน เพื่อให้เราทราบกระแสและวางยุทธศาสตร์ในช่วงโค้งสุดท้ายต่อไป
เมื่อถามว่าจะต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมาย 376 เสียงหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ไม่หรอกครับ เราปรับตลอดอยู่แล้ว” ถามต่อว่าจะมีเซอร์ไพรส์อีกหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ขอให้รอดูต่อไป