เรื่องมีอยู่ว่า... เรากับแฟนคบกันมาเกือบ ๆ สามปีแล้ว
เขามักบ่นว่าเราไม่ช่วยเขาทำความสะอาด มีแต่เขาที่คอยทำให้เรา ซัพพอตเรา
ช่วงแรก ๆ เราก็ขอโทษ รู้สึกผิดจริง ๆ ติดนิสัยเวลาอยู่คนเดียว ถ้าสกปรกจริง ๆ ถึงจะมองเห็นและทำ
จนมาพักหลัง ๆ เราคิดว่าเราดีขึ้น เพราะปกติส้วม ที่ต้องรอให้เขียว ถึงจะขัด
กลายเป็นขัดอาทิตย์ 2-3 ครั้ง ได้เลย เก็บเศษผมที่พื้นห้อง ในห้องน้ำ ตามท่อตลอด
เช็ดกระจกในห้องน้ำทุกครั้ง เวลาที่เห็นว่าเริ่มเขลอะ ดูดฝุ่น ถูพื้นบ่อยขึ้นที่มีโอกาส เพราะแฟนไม่ให้ดูดฝุ่นตอนดึก รบกวนข้างห้อง
อีกทั้ง พอเราซื้อเครื่องดูดฝุ่นใหม่ ที่ถูพื้นใหม่ มันก็สะดวกขึ้น ทำได้บ่อยขึ้น
แต่มาพักหลังนี้ เราทำงานข้างนอกบ้านมากขึ้น (ปกติทำฟรีแลนซ์ข้างนอกอยู่แล้ว) แต่โปรเจคนี้คือออกจากห้องเช้า และกลับดึก
ปัญหาคือ แฟนบอกว่า "เราให้ค่างานของเราสูงกว่างานของเขา" เลยเลือกที่จะทิ้งภาระที่ "รับผิดชอบด้วยกันในห้อง" ให้เขา
ซึ่งเขาก็มีโปรเจคที่ต้องทำเช่นกัน แต่ทำที่บ้าน แถมเขายังต้องมาทำ งานบ้านที่เรา "เลือกทิ้ง" ให้เขาทำ
เขาบอกว่าเราเหยียดงานของเขา เราเห็นแก่ตัว ไม่จัดการเวลา รู้ทั้งรู้ว่ารับงานนี้แล้วจะไม่มีเวลารับผิดชอบงานบ้าน ที่ควรจะช่วยกัน
แต่เราก็เลือกงานของตัวเอง.... โมโหยกใหญ่ เก็บมาเยอะจริง ๆ เพราะส่วนมาก เราก็พลาดบ่อย ๆ โดยเฉพาะงานบ้านที่เกี่ยวกับอาหาร
(แฟนเรามักจะเลือกทำอาหารกินเอง เพราะประหยัดกว่า... แล้วก็จะต้องมีอาหารในตู้เย็นตลอด)
คือแฟนเรา เขาบอกไม่ได้ต้องการแม่บ้านนะ แต่ขอให้พวกเราช่วยกันทำ โดยที่ไม่ต้องมีใครเตือนใคร เขาทำนู่นทำนี่ด้วยตัวเขาเองอยู่บ่อย ๆ โดยที่เราไม่ต้องเตือน แต่สำหรับเรา เราออกไปทำงานข้างนอกบ่อยกว่ามาก เลยไม่มีโอกาสได้ทำ แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นสำหรับเขา เขาก็ยังคงบอกว่าเรา "เลือกงาน" มากกว่าอยู่ดี... เลือกงานที่ทำให้เราไม่มีเวลารับผิดชอบงานบ้านอ่ะ (เคยยื่นข้อเสนอว่าจะจ้างแม่บ้าน แล้วเราเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเอง ก็ไม่เอา / ยื่นข้อเสนอให้แบ่งหน้าที่ไปเลย ก็ไม่เอา เขาบอกความคิดเรามันเห็นแก่ตัวอยู่ดี งงอีก1)
และเขาก็บอกว่า เพราะเราเลือกงานที่เราอยากทำ ทำตามความต้องการของตัวเอง ไม่ได้คิดถึงตัวเขา ว่าเขาจะรู้สึกยังไง หรือเราจะทิ้งอะไรไว้ข้างหลัง เขาน้อยใจเรามาก ว่าในขณะที่เขาโปรเจค เขาก็ยังต้องมาตามล้างตามเช็ด ส่วนที่พวกเราควรจะรับผิดชอบด้วยกัน เขารู้สึกว่าเขาอยู่ข้างหลังเราตลอด
ไม่เคยได้เดินไปด้วยกัน และเพราะเราก็เดินอยู่ข้างหน้า ทำตามใจตัวเอง อยู่เพื่อตัวเอง แต่ไม่ค่อยได้หันหลัง หรือหยุดเพื่อมาซัพพอตเขา
ซึ่งเราเองก็รู้สึกผิดและเสียใจมาก เคยคิดว่าเขาเยอะ แต่เราไม่ได้คิดเหมือนกัน ว่าถ้าเราเป็นเขาจะรู้สึกยังไง
ตอนนี้อยู่ในขั้นที่เลิกกัน แต่ยังอยู่ห้องเดียวกัน เพราะเขายังหาห้องใหม่ไม่ได้... เขาบอกว่าคงยากสำหรับเขาเหมือนกันที่ต้องออกไป
"สมองเขาให้เลิก ถ้าเลิกแล้วชีวิตเขาคงไม่ต้องอยู่ข้างหลังใคร" และตอนนี้เขาก็บอกว่าเขาไม่เชื่อคำพูดเราอีกแล้ว (เราเคยบอกว่าจะเปลี่ยน แต่ก็พลาดบ้างเป็นครั้งคราว ยังไม่เสถียร) เลยอยากถามเพื่อน ๆ ว่า
1. กับเวลาที่เหลือถึงสิ้นเดือน ควรง้อต่อไปไหม / ง้อยังไงต่อดี
2. แฟนเราเยอะ หรือเราคิดน้อยไปเอง
3. อยากเปลี่ยนนิสัย "เห็นแก่ตัว" ต้องทำยังไง
4. อยากพบผู้เชี่ยวชาญ ที่ให้คำปรึกษาด้านการเปลี่ยนนิสัย มีใครพอแนะนำได้บ้าง
ขอบคุณมากนะ เพื่อนมนุษย์
โดนแฟนบอกเลิก เพราะเขาบอกเราเห็นแก่ตัว ไปต่อไง??
เขามักบ่นว่าเราไม่ช่วยเขาทำความสะอาด มีแต่เขาที่คอยทำให้เรา ซัพพอตเรา
ช่วงแรก ๆ เราก็ขอโทษ รู้สึกผิดจริง ๆ ติดนิสัยเวลาอยู่คนเดียว ถ้าสกปรกจริง ๆ ถึงจะมองเห็นและทำ
จนมาพักหลัง ๆ เราคิดว่าเราดีขึ้น เพราะปกติส้วม ที่ต้องรอให้เขียว ถึงจะขัด
กลายเป็นขัดอาทิตย์ 2-3 ครั้ง ได้เลย เก็บเศษผมที่พื้นห้อง ในห้องน้ำ ตามท่อตลอด
เช็ดกระจกในห้องน้ำทุกครั้ง เวลาที่เห็นว่าเริ่มเขลอะ ดูดฝุ่น ถูพื้นบ่อยขึ้นที่มีโอกาส เพราะแฟนไม่ให้ดูดฝุ่นตอนดึก รบกวนข้างห้อง
อีกทั้ง พอเราซื้อเครื่องดูดฝุ่นใหม่ ที่ถูพื้นใหม่ มันก็สะดวกขึ้น ทำได้บ่อยขึ้น
แต่มาพักหลังนี้ เราทำงานข้างนอกบ้านมากขึ้น (ปกติทำฟรีแลนซ์ข้างนอกอยู่แล้ว) แต่โปรเจคนี้คือออกจากห้องเช้า และกลับดึก
ปัญหาคือ แฟนบอกว่า "เราให้ค่างานของเราสูงกว่างานของเขา" เลยเลือกที่จะทิ้งภาระที่ "รับผิดชอบด้วยกันในห้อง" ให้เขา
ซึ่งเขาก็มีโปรเจคที่ต้องทำเช่นกัน แต่ทำที่บ้าน แถมเขายังต้องมาทำ งานบ้านที่เรา "เลือกทิ้ง" ให้เขาทำ
เขาบอกว่าเราเหยียดงานของเขา เราเห็นแก่ตัว ไม่จัดการเวลา รู้ทั้งรู้ว่ารับงานนี้แล้วจะไม่มีเวลารับผิดชอบงานบ้าน ที่ควรจะช่วยกัน
แต่เราก็เลือกงานของตัวเอง.... โมโหยกใหญ่ เก็บมาเยอะจริง ๆ เพราะส่วนมาก เราก็พลาดบ่อย ๆ โดยเฉพาะงานบ้านที่เกี่ยวกับอาหาร
(แฟนเรามักจะเลือกทำอาหารกินเอง เพราะประหยัดกว่า... แล้วก็จะต้องมีอาหารในตู้เย็นตลอด)
คือแฟนเรา เขาบอกไม่ได้ต้องการแม่บ้านนะ แต่ขอให้พวกเราช่วยกันทำ โดยที่ไม่ต้องมีใครเตือนใคร เขาทำนู่นทำนี่ด้วยตัวเขาเองอยู่บ่อย ๆ โดยที่เราไม่ต้องเตือน แต่สำหรับเรา เราออกไปทำงานข้างนอกบ่อยกว่ามาก เลยไม่มีโอกาสได้ทำ แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นสำหรับเขา เขาก็ยังคงบอกว่าเรา "เลือกงาน" มากกว่าอยู่ดี... เลือกงานที่ทำให้เราไม่มีเวลารับผิดชอบงานบ้านอ่ะ (เคยยื่นข้อเสนอว่าจะจ้างแม่บ้าน แล้วเราเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเอง ก็ไม่เอา / ยื่นข้อเสนอให้แบ่งหน้าที่ไปเลย ก็ไม่เอา เขาบอกความคิดเรามันเห็นแก่ตัวอยู่ดี งงอีก1)
และเขาก็บอกว่า เพราะเราเลือกงานที่เราอยากทำ ทำตามความต้องการของตัวเอง ไม่ได้คิดถึงตัวเขา ว่าเขาจะรู้สึกยังไง หรือเราจะทิ้งอะไรไว้ข้างหลัง เขาน้อยใจเรามาก ว่าในขณะที่เขาโปรเจค เขาก็ยังต้องมาตามล้างตามเช็ด ส่วนที่พวกเราควรจะรับผิดชอบด้วยกัน เขารู้สึกว่าเขาอยู่ข้างหลังเราตลอด
ไม่เคยได้เดินไปด้วยกัน และเพราะเราก็เดินอยู่ข้างหน้า ทำตามใจตัวเอง อยู่เพื่อตัวเอง แต่ไม่ค่อยได้หันหลัง หรือหยุดเพื่อมาซัพพอตเขา
ซึ่งเราเองก็รู้สึกผิดและเสียใจมาก เคยคิดว่าเขาเยอะ แต่เราไม่ได้คิดเหมือนกัน ว่าถ้าเราเป็นเขาจะรู้สึกยังไง
ตอนนี้อยู่ในขั้นที่เลิกกัน แต่ยังอยู่ห้องเดียวกัน เพราะเขายังหาห้องใหม่ไม่ได้... เขาบอกว่าคงยากสำหรับเขาเหมือนกันที่ต้องออกไป
"สมองเขาให้เลิก ถ้าเลิกแล้วชีวิตเขาคงไม่ต้องอยู่ข้างหลังใคร" และตอนนี้เขาก็บอกว่าเขาไม่เชื่อคำพูดเราอีกแล้ว (เราเคยบอกว่าจะเปลี่ยน แต่ก็พลาดบ้างเป็นครั้งคราว ยังไม่เสถียร) เลยอยากถามเพื่อน ๆ ว่า
1. กับเวลาที่เหลือถึงสิ้นเดือน ควรง้อต่อไปไหม / ง้อยังไงต่อดี
2. แฟนเราเยอะ หรือเราคิดน้อยไปเอง
3. อยากเปลี่ยนนิสัย "เห็นแก่ตัว" ต้องทำยังไง
4. อยากพบผู้เชี่ยวชาญ ที่ให้คำปรึกษาด้านการเปลี่ยนนิสัย มีใครพอแนะนำได้บ้าง
ขอบคุณมากนะ เพื่อนมนุษย์