สมมติ
1. นาย เอ เลือกนักการเมือง บี เพราะเค้าแจกเงินนาย เอ 1000 บาท
สังคมบอกนาย เอ เห็นแก่ตัว
2. นาย ซี เลือกผู้แทนเป็น นาย ดี เพราะนโยบาย แจกเงินพันนึง
สังคมเฉยๆ
.
.
.
ผมสงสัยว่าทำไมถึงเป็นยังงั้นหละ เพราะสุดท้าย คนที่เลือกพรรคการเมืองที่นโยบาย มันก็คือการเลือกคนที่จะเข้ามาให้ผลประโยชน์กับตนเอง
มันต่างกับคนที่เลือกเพราะได้รับเงินพันนึงยังไง แค่คนรับเงินมันได้ประโยชน์เร็วกว่า
อย่างไอ้การแจกวัวแจกควายสมมติล้านตัว ผมสงสัยว่ามันได้ประโยชน์กับใคร แค่คนกลุ่มเกษตรกรหรือเปล่า
สำหรับผม ผมว่ามันต่างกันกับการสร้างสวนสาธารณะ หรือทำรถไฟฟ้า เพราะสวนสาธารณะ ใครอยากจะเข้าไปใช้ก็ได้ หรือรถไฟฟ้า ขอแค่จ่ายเงินคนนั้นก็ได้ใช้
แต่ไอ้คนที่ได้วัวล้านตัว หรือคนที่ได้รับเงินพิเศษในการช่วยเหลือราคาผลิตผลทางการเกษตร มันคือกลุ่มเฉพาะเจาะจงเป็นคนจริงๆ
การเลือกเพราะซื้อเสียง มันต่างกับเลือกเพราะนโยบายอย่างไร
1. นาย เอ เลือกนักการเมือง บี เพราะเค้าแจกเงินนาย เอ 1000 บาท
สังคมบอกนาย เอ เห็นแก่ตัว
2. นาย ซี เลือกผู้แทนเป็น นาย ดี เพราะนโยบาย แจกเงินพันนึง
สังคมเฉยๆ
.
.
.
ผมสงสัยว่าทำไมถึงเป็นยังงั้นหละ เพราะสุดท้าย คนที่เลือกพรรคการเมืองที่นโยบาย มันก็คือการเลือกคนที่จะเข้ามาให้ผลประโยชน์กับตนเอง
มันต่างกับคนที่เลือกเพราะได้รับเงินพันนึงยังไง แค่คนรับเงินมันได้ประโยชน์เร็วกว่า
อย่างไอ้การแจกวัวแจกควายสมมติล้านตัว ผมสงสัยว่ามันได้ประโยชน์กับใคร แค่คนกลุ่มเกษตรกรหรือเปล่า
สำหรับผม ผมว่ามันต่างกันกับการสร้างสวนสาธารณะ หรือทำรถไฟฟ้า เพราะสวนสาธารณะ ใครอยากจะเข้าไปใช้ก็ได้ หรือรถไฟฟ้า ขอแค่จ่ายเงินคนนั้นก็ได้ใช้
แต่ไอ้คนที่ได้วัวล้านตัว หรือคนที่ได้รับเงินพิเศษในการช่วยเหลือราคาผลิตผลทางการเกษตร มันคือกลุ่มเฉพาะเจาะจงเป็นคนจริงๆ