Update! แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้สิทธิเฟส 3 โอนเข้าทางรัฐ อายุ 16-59 ปี [6 มี.ค.2568]

แจกเงินดิจิทัลวอลเลต ให้สิทธิเฟส 3 เข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท โอนเข้าแอปทางรัฐได้วันไหน



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าสำหรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท หรือโครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเลต เฟส 3 ซึ่งเป็นการแจกเงินให้กลุ่มที่มีอายุ 16-59 ปี ที่ไม่ติดเงื่อนไขการครอบครองทรัพย์สิน และมีรายได้ตามเกณฑ์ที่รัฐบาลกำหนด ประมาณ 15 ล้านคน คาดว่าจะใช้เม็ดเงินราว 1.5 แสนล้านบาท

รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า จะเริ่มแจกเงินได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/2568 หรืออย่างเร็วที่สุดคือประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป และระหว่างนี้ กระทรวงการคลัง และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA เตรียมทดสอบระบบเพย์เมนต์ (ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์) เชื่อมกับระบบของธนาคารพาณิชย์ คาดว่าจะเริ่มทดสอบทั้งระบบในเดือนมีนาคม และยืนยันไม่มีการแจกเป็นเงินสด

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้ช่วงไหน
ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือน ก.พ. 2568 หรือช่วงต้นเดือน มี.ค. 2568 คาดว่าจะนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 เฟส 3 จะเหลืออีกประมาณ 15 ล้านคน กลุ่มอายุ 16-59 ปี ที่ไม่ติดเงื่อนไขทรัพย์สิน และรายได้ตามเกณฑ์ รัฐบาลยืนยันว่าเตรียมการไว้แล้ว โดยยืนยันคำเดิมคือแจกในไตรมาส 2 ปี 2568 คือในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย.นี้

ส่วนในเรื่องการทำระบบ Open Loop กับสถาบันการเงิน ตอนนี้ระบบเสร็จแล้ว และอยู่ในช่วงของการทดลองระบบ คาดว่าจะใช้เวลาทดลองประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ระบบรัดกุม ขณะที่กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนยังเดินหน้าต่อเปิดลงทะเบียนแน่นอน และกำลังหาวิธีอยู่ ยืนยันว่ากลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนจะได้รับเงิน 10,000 บาทอย่างแน่นอน

สอดคล้องกับความเห็นของนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ระบุว่าระบบเพย์เมนต์ไม่มีปัญหา น่าจะจบแล้ว มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างโดยได้ผู้ชนะในการเสนอราคาพัฒนาระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าบริษัทที่ชนะจะส่งมอบงานในปลายเดือนกุมภาพันธ์ และจะมีการทดลองระบบทั้งระบบในเดือน มี.ค.นี้

กลุ่มไม่มีสามาร์ทโฟน ลงทะเบียนผ่านธนาคารรัฐ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาเงื่อนไข ว่าจะเปิดลงทะเบียนในช่วงเวลาไหน และจะใช้เงื่อนไขอะไรวัดกลุ่มคนไม่มีสมาร์ทโฟน สำหรับกลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะเปิดให้ลงทะเบียน ประชาชนสามารถเดินทางไปลงทะเบียนผ่านธนาคารเฉพาะกิจของรัฐดังนี้
-ธนาคารออมสิน
-ธนาคารอาคารสงเคราะห์
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
-ไปรษณีย์ไทย

โดยจะมีเจ้าหน้าที่ช่วยลงทะเบียนให้ หลังจากลงทะเบียนเสร็จต้องตรวจสอบการไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเช็กไปที่จะใช้ดาต้าว่า ย้อนหลังกี่เดือน และต้องมีการใช้สมาร์ทโฟนไม่เกินเท่าไร โดยถ้าไปลงทะเบียน และตามบัญชีของท่านไม่มีการใช้ดาต้าเกิน 500 MB ในรอบ 3 เดือนย้อนหลัง ถ้าไม่เกินจำนวนนี้ก็แสดงว่าไม่มีสมาร์ทโฟน แต่ทั้งหมดต้องรอการพิจารณาครั้งสุดท้ายอีกครั้ง

กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเป็นเงินสด ส่วนจะได้เงินเมื่อไหร่นั้น ตอนนี้ต้องเปิดลงทะเบียนร้านค้า และเปิดลงทะเบียนประชาชน ขณะนี้มี 3 ไทม์ไลน์ รัฐบาลกำลังกำหนดความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และวุ่นวาย

บลูบิค ชนะระบบเพย์เมนต์
สำหรับบริษัทที่ชนะการเสนอราคา ระบบแพลตฟอร์มการชำระเงิน หรือ Payment Platform คือ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้พัฒนาแพลตฟอร์มแอปทางรัฐ ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักในการลงทะเบียนในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเลต

สำหรับบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ได้คะแนนด้านคุณภาพมากที่สุด โดยเสนอราคาวงเงิน 90 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งหมด

ตัวแทนของบริษัท บลูบิค ยืนยันว่า การพัฒนาระบบ Payment Platform จะเร่งดำเนินการได้ตามเวลาที่รัฐบาลกำหนด

ก่อนหน้านี้ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับงานเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นซูเปอร์แอปของภาครัฐ เพื่อรองรับการให้บริการประชาชน และการ “ลงทะเบียน” ข้อมูลประชาชนและร้านค้า

ซึ่งการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน โดย DGA เป็นผู้จัดจ้าง ส่วนการพัฒนาระบบลงทะเบียนร้านค้าผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง เป็นบริษัท เด็พธเฟิร์สท จำกัด (Depth First) เป็นผู้พัฒนา

ผ่อนปรนใช้จ่ายง่ายขึ้น
ก่อนหน้านี้ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ระหว่างพิจารณาผ่อนปรนให้ร้านค้าและประชาชนสามารถใช้ดิจิทัลวอลเลตได้ง่ายขึ้น เช่น ในมิติของร้านค้าจะผ่อนปรนให้นำวงเงินจากดิจิทัลวอลเลตออกมาใช้ได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่กำหนดให้ร้านค้าถอนเงินสดได้ เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่ในรอบที่ 2 เป็นต้นไป และร้านค้าที่ถอนเงินสดได้ต้องอยู่ในระบบภาษีเท่านั้น

ขณะที่ในด้านประชาชนนั้น จะปรับเงื่อนไขให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับเงื่อนไขให้ประชาชนใช้จ่ายเป็นเงินสดได้ ยืนยันว่ารูปแบบการใช้จ่ายยังเป็นการใช้ในระบบดิจิทัลวอลเลต ขณะที่เรื่องเงื่อนไขการจำกัดใช้จ่ายเฉพาะพื้นที่อำเภอตามทะเบียนบ้านนั้น รอข้อสรุปจากคณะกรรมการ แต่มีแนวโน้มที่จะใช้เป็นพื้นที่เหมือนเดิม

เงื่อนไขกลุ่มคนได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3
-กลุ่มลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567
-อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน
-สัญชาติไทย
-ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566 โดยกรมสรรพากรประมวลผลข้อมูล ผู้มีรายได้ 7 วัน ก่อนเปิดลงทะเบียนโครงการ

วิธีตรวจสอบสิทธิผ่านแอปทางรัฐ
1.เปิดแอปทางรัฐ เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย จากนั้นกดปุ่มตรวจสอบสถานะ
2.ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กดปุ่มยืนยันข้อมูล
3.กรอกเบอร์โทรศัพท์และกดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
4.กรอกรหัส OTP และกดปุ่มยืนยันโทรศัพท์มือถือ
5.กดปุ่มอนุญาต ให้แอปพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
6.ระบบจะแสดงผลสถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่าอยู่ในขั้นตอนใด หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือไม่ได้รับสิทธิ หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่