---
#### เหตุผลในการออกกฎหมาย
เพื่อพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นต่อไป ร่างกฎหมายนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมความโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลสาธารณะ เช่น การใช้จ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการลงทุนของหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล และตั้งหน่วยงานความโปร่งใสที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเพื่อกำกับดูแล
---
### พระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมความโปร่งใส พ.ศ. 2568
#### หมวด 1: บททั่วไป
**มาตรา 1**
พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมความโปร่งใส พ.ศ. 2568”
**มาตรา 2**
พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
**มาตรา 3**
ในพระราชบัญญัตินี้
- **“หน่วยงานของรัฐ”** หมายถึง หน่วยงานของรัฐทุกประเภท รวมถึงหน่วยงานในฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ รัฐสภา ศาล หน่วยงานที่ตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจากรัฐ หน่วยงานที่ดำเนินการในนามของรัฐ รวมถึงบริษัทหรือองค์กรที่รัฐถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50
- **“ข้อมูลสาธารณะ”** หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร รายงาน เอกสาร หรือบันทึกใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ รวมถึงงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง การตัดสินใจเชิงนโยบาย การลงทุน ผลการดำเนินงาน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณะ
- **“ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว”** หมายถึง ข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยของประชาชน ความเป็นอิสระของหน่วยงานตามรัฐธรรมนูญ หรือผลประโยชน์สาธารณะ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- **“การลงทุน”** หมายถึง การใช้เงินหรือทรัพย์สินของหน่วยงานของรัฐเพื่อลงทุนในรูปแบบใดๆ เช่น การลงทุนในหุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ กองทุน หรือการบริหารจัดการเงินของกองทุนที่อยู่ในกำกับของหน่วยงานของรัฐ
- **“ข้อมูลสถานะการดำเนินงาน”** หมายถึง ข้อมูลที่ระบุสถานะของกระบวนการดำเนินงาน เช่น การจัดทำ การพิจารณา การตรวจสอบ หรือการส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่น
- **“แพลตฟอร์มดิจิทัล”** หมายถึง แอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นโดยรัฐเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสาธารณะ
- **“หน่วยงานความโปร่งใส”** หมายถึง หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้เพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ โดยมีสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
- **“วันทำการ”** หมายถึง วันทำงานของหน่วยงานของรัฐตามปกติ ไม่รวมวันหยุดราชการ วันหยุดประจำปี หรือวันหยุดพิเศษที่กำหนดโดยรัฐบาล
- **“ผู้รับผิดชอบ”** หมายถึง บุคคลหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการดำเนินงานหรือกำกับดูแลโครงการตามที่ระบุในตารางรายงาน
**มาตรา 4**
วัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้
1. เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและการตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
2. เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสาธารณะได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทันท่วงที
3. เพื่อจัดตั้งหน่วยงานความโปร่งใสที่เป็นอิสระและมาจากการเลือกตั้งของประชาชน
4. เพื่อป้องกันการทุจริตและการใช้ข้อมูลสาธารณะในทางที่ผิด
---
#### หมวด 2: การจัดตั้งและบริหารจัดการแพลตฟอร์มดิจิทัล
**มาตรา 6**
ให้ทุกหน่วยงานของรัฐจัดทำและเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยข้อมูลดังกล่าวต้อง
1. เป็นข้อมูลสถานะการดำเนินงาน โดยต้องเผยแพร่ไม่ช้ากว่า 7 วันทำการหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงสถานะ
2. มีการจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และค้นหาได้ง่าย
3. มีการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล วันที่ปรับปรุงสถานะ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ
(1) สำหรับโครงการหรือการลงทุนที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป หรือการลงทุนที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท ให้จัดทำรายงานในรูปแบบตาราง ระบุชื่อโครงการหรือการลงทุน มูลค่าการลงทุน สถานะขั้นตอน วันที่เริ่มต้น วันที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ วันที่อัพเดทสถานะ ชื่อและตำแหน่งผู้รับผิดชอบ และสำหรับการลงทุนให้ระบุประเภทการลงทุน (เช่น หุ้น พันธบัตร) และผลตอบแทนที่คาดหวัง
(2) สำหรับโครงการหรือการลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่า 5,000 บาท หรือการลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ล้านบาท ให้จัดทำรายงานในรูปแบบตาราง ระบุข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อโครงการหรือการลงทุน มูลค่า สถานะ วันที่เริ่มต้น วันที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ วันที่อัพเดทสถานะ และผลลัพธ์เมื่อสิ้นสุด โดยอัพโหลดเป็นรายไตรมาส (ทุก 90 วันทำการ)
(3) รายงานดังกล่าวต้องมีการเซ็นกำกับโดยผู้รับผิดชอบ และอยู่ในรูปแบบที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย
4. ปราศจากการแก้ไขหรือบิดเบือนจากความเป็นจริง
**มาตรา 7**
ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวตามที่กำหนดในมาตรา 3 ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยของประชาชน ความเป็นอิสระหรือการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานตามรัฐธรรมนูญ หรือผลประโยชน์สาธารณะ ให้ได้รับการยกเว้นจากการเผยแพร่ตามที่กำหนดในมาตรา 6 โดยให้หน่วยงานของรัฐจัดทำรายงานสรุปที่ไม่ขัดต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยของประชาชน ความเป็นอิสระของหน่วยงานตามรัฐธรรมนูญ หรือผลประโยชน์สาธารณะ และเผยแพร่รายงานสรุปดังกล่าวภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ครบกำหนดการเผยแพร่ตามมาตรา 6 หรือตามระยะเวลาที่กำหนดเพิ่มเติมในกฎกระทรวง
ทั้งนี้ ในกรณีที่ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนของหน่วยงานของรัฐอาจกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินหรือผลประโยชน์สาธารณะ ให้หน่วยงานของรัฐจัดทำรายงานสรุปที่ระบุถึงวัตถุประสงค์ของการลงทุนและผลกระทบที่คาดหวัง โดยให้เผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง
---
#### หมวด 3: การจัดตั้งหน่วยงานความโปร่งใส
**มาตรา 10**
ให้จัดตั้ง “สำนักงานคณะกรรมการความโปร่งใสแห่งชาติ” เพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัตินี้
**มาตรา 14**
หน้าที่ของคณะกรรมการความโปร่งใส
1. ตรวจสอบและรายงานผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
2. รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการทุจริต
3. เสนอนโยบายเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสต่อรัฐสภา
4. ตรวจสอบและติดตามการจัดทำตารางรายงานตามมาตรา 6
---
#### หมวด 4: การมีส่วนร่วมของประชาชน
**มาตรา 17**
ประชาชนมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลสาธารณะผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตได้
---
#### หมวด 5: บทกำหนดโทษ
**มาตรา 21**
ผู้ใดจงใจบิดเบือนหรือปกปิดข้อมูลสาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
---
#### หมวด 6: บทเฉพาะกาล
**มาตรา 24**
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งแพลตฟอร์มดิจิทัลและจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการความโปร่งใสให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับจากวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้
**มาตรา 26**
ให้มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลและการจัดการข้อมูลสาธารณะภายใน 180 วันนับจากวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้
---
### คำอธิบายเพิ่มเติม
ร่างนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานประกันสังคม (สปส.) หรือกองทุนอื่นๆ ที่นำเงินไปลงทุน ต้องรายงานข้อมูลให้ประชาชนทราบ เช่น การลงทุนในหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท ต้องระบุว่าเงินไปอยู่ที่ไหน ผลตอบแทนเท่าไหร่ และใครรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หากข้อมูลนั้นมีความอ่อนไหว
(เช่น อาจกระทบต่อผลประโยชน์สาธารณะ) ก็จะยกเว้น แต่ต้องมีรายงานสรุปให้ประชาชนรู้ในระดับหนึ่ง
--
นาย ธ. มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก
พระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมความโปร่งใส พ.ศ. 2568
#### เหตุผลในการออกกฎหมาย
เพื่อพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นต่อไป ร่างกฎหมายนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมความโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลสาธารณะ เช่น การใช้จ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการลงทุนของหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล และตั้งหน่วยงานความโปร่งใสที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเพื่อกำกับดูแล
---
### พระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมความโปร่งใส พ.ศ. 2568
#### หมวด 1: บททั่วไป
**มาตรา 1**
พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมความโปร่งใส พ.ศ. 2568”
**มาตรา 2**
พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
**มาตรา 3**
ในพระราชบัญญัตินี้
- **“หน่วยงานของรัฐ”** หมายถึง หน่วยงานของรัฐทุกประเภท รวมถึงหน่วยงานในฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ รัฐสภา ศาล หน่วยงานที่ตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจากรัฐ หน่วยงานที่ดำเนินการในนามของรัฐ รวมถึงบริษัทหรือองค์กรที่รัฐถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50
- **“ข้อมูลสาธารณะ”** หมายถึง ข้อมูล ข่าวสาร รายงาน เอกสาร หรือบันทึกใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ รวมถึงงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง การตัดสินใจเชิงนโยบาย การลงทุน ผลการดำเนินงาน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณะ
- **“ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว”** หมายถึง ข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยของประชาชน ความเป็นอิสระของหน่วยงานตามรัฐธรรมนูญ หรือผลประโยชน์สาธารณะ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- **“การลงทุน”** หมายถึง การใช้เงินหรือทรัพย์สินของหน่วยงานของรัฐเพื่อลงทุนในรูปแบบใดๆ เช่น การลงทุนในหุ้น พันธบัตร อสังหาริมทรัพย์ กองทุน หรือการบริหารจัดการเงินของกองทุนที่อยู่ในกำกับของหน่วยงานของรัฐ
- **“ข้อมูลสถานะการดำเนินงาน”** หมายถึง ข้อมูลที่ระบุสถานะของกระบวนการดำเนินงาน เช่น การจัดทำ การพิจารณา การตรวจสอบ หรือการส่งต่อไปยังหน่วยงานอื่น
- **“แพลตฟอร์มดิจิทัล”** หมายถึง แอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นโดยรัฐเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลสาธารณะ
- **“หน่วยงานความโปร่งใส”** หมายถึง หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้เพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ โดยมีสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
- **“วันทำการ”** หมายถึง วันทำงานของหน่วยงานของรัฐตามปกติ ไม่รวมวันหยุดราชการ วันหยุดประจำปี หรือวันหยุดพิเศษที่กำหนดโดยรัฐบาล
- **“ผู้รับผิดชอบ”** หมายถึง บุคคลหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการดำเนินงานหรือกำกับดูแลโครงการตามที่ระบุในตารางรายงาน
**มาตรา 4**
วัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้
1. เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและการตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
2. เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสาธารณะได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทันท่วงที
3. เพื่อจัดตั้งหน่วยงานความโปร่งใสที่เป็นอิสระและมาจากการเลือกตั้งของประชาชน
4. เพื่อป้องกันการทุจริตและการใช้ข้อมูลสาธารณะในทางที่ผิด
---
#### หมวด 2: การจัดตั้งและบริหารจัดการแพลตฟอร์มดิจิทัล
**มาตรา 6**
ให้ทุกหน่วยงานของรัฐจัดทำและเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยข้อมูลดังกล่าวต้อง
1. เป็นข้อมูลสถานะการดำเนินงาน โดยต้องเผยแพร่ไม่ช้ากว่า 7 วันทำการหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงสถานะ
2. มีการจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และค้นหาได้ง่าย
3. มีการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล วันที่ปรับปรุงสถานะ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ
(1) สำหรับโครงการหรือการลงทุนที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป หรือการลงทุนที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท ให้จัดทำรายงานในรูปแบบตาราง ระบุชื่อโครงการหรือการลงทุน มูลค่าการลงทุน สถานะขั้นตอน วันที่เริ่มต้น วันที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ วันที่อัพเดทสถานะ ชื่อและตำแหน่งผู้รับผิดชอบ และสำหรับการลงทุนให้ระบุประเภทการลงทุน (เช่น หุ้น พันธบัตร) และผลตอบแทนที่คาดหวัง
(2) สำหรับโครงการหรือการลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่า 5,000 บาท หรือการลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1 ล้านบาท ให้จัดทำรายงานในรูปแบบตาราง ระบุข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อโครงการหรือการลงทุน มูลค่า สถานะ วันที่เริ่มต้น วันที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ วันที่อัพเดทสถานะ และผลลัพธ์เมื่อสิ้นสุด โดยอัพโหลดเป็นรายไตรมาส (ทุก 90 วันทำการ)
(3) รายงานดังกล่าวต้องมีการเซ็นกำกับโดยผู้รับผิดชอบ และอยู่ในรูปแบบที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย
4. ปราศจากการแก้ไขหรือบิดเบือนจากความเป็นจริง
**มาตรา 7**
ข้อมูลที่มีความอ่อนไหวตามที่กำหนดในมาตรา 3 ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยของประชาชน ความเป็นอิสระหรือการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานตามรัฐธรรมนูญ หรือผลประโยชน์สาธารณะ ให้ได้รับการยกเว้นจากการเผยแพร่ตามที่กำหนดในมาตรา 6 โดยให้หน่วยงานของรัฐจัดทำรายงานสรุปที่ไม่ขัดต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยของประชาชน ความเป็นอิสระของหน่วยงานตามรัฐธรรมนูญ หรือผลประโยชน์สาธารณะ และเผยแพร่รายงานสรุปดังกล่าวภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ครบกำหนดการเผยแพร่ตามมาตรา 6 หรือตามระยะเวลาที่กำหนดเพิ่มเติมในกฎกระทรวง
ทั้งนี้ ในกรณีที่ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนของหน่วยงานของรัฐอาจกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินหรือผลประโยชน์สาธารณะ ให้หน่วยงานของรัฐจัดทำรายงานสรุปที่ระบุถึงวัตถุประสงค์ของการลงทุนและผลกระทบที่คาดหวัง โดยให้เผยแพร่ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง
---
#### หมวด 3: การจัดตั้งหน่วยงานความโปร่งใส
**มาตรา 10**
ให้จัดตั้ง “สำนักงานคณะกรรมการความโปร่งใสแห่งชาติ” เพื่อกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัตินี้
**มาตรา 14**
หน้าที่ของคณะกรรมการความโปร่งใส
1. ตรวจสอบและรายงานผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
2. รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการทุจริต
3. เสนอนโยบายเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสต่อรัฐสภา
4. ตรวจสอบและติดตามการจัดทำตารางรายงานตามมาตรา 6
---
#### หมวด 4: การมีส่วนร่วมของประชาชน
**มาตรา 17**
ประชาชนมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลสาธารณะผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตได้
---
#### หมวด 5: บทกำหนดโทษ
**มาตรา 21**
ผู้ใดจงใจบิดเบือนหรือปกปิดข้อมูลสาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
---
#### หมวด 6: บทเฉพาะกาล
**มาตรา 24**
ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งแพลตฟอร์มดิจิทัลและจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการความโปร่งใสให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับจากวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้
**มาตรา 26**
ให้มีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการใช้งานแพลตฟอร์มดิจิทัลและการจัดการข้อมูลสาธารณะภายใน 180 วันนับจากวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้
---
### คำอธิบายเพิ่มเติม
ร่างนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานประกันสังคม (สปส.) หรือกองทุนอื่นๆ ที่นำเงินไปลงทุน ต้องรายงานข้อมูลให้ประชาชนทราบ เช่น การลงทุนในหุ้นหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาท ต้องระบุว่าเงินไปอยู่ที่ไหน ผลตอบแทนเท่าไหร่ และใครรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หากข้อมูลนั้นมีความอ่อนไหว
(เช่น อาจกระทบต่อผลประโยชน์สาธารณะ) ก็จะยกเว้น แต่ต้องมีรายงานสรุปให้ประชาชนรู้ในระดับหนึ่ง
--
นาย ธ. มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก