อดีตกกต. การันตี ‘เศรษฐา’ ไม่ผิด แจกเงินดิจิทัล 1 หมื่น ยกเคสแบบไหน เจอใบแดง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3914935
“สดศรี” การันตี เศรษฐา” ชูนโยบายแจกเงินหมื่นกระตุ้นศก. ได้ ไม่ผิดกม.-เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ ยกเคสสมัยแจกใบแดงเทียบ
เมื่อวันที่ 6 เมษายน นาง
สดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณี นาย
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า การปราศรัยดังกล่าว ไม่เป็นการสัญญาว่า จะให้ เพราะเป็นเรื่องที่สามารถออกเป็นกฎหมายได้ โดยอะไรก็ตามที่เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่สามารถทำได้ ก็นำมาเป็นนโยบายได้ เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ จะเป็นส.ส. จะเสนอออกกฎหมายผ่านสภา ซึ่งเรื่องดังกล่าว ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง หรือ เหนือกว่าอำนาจของผู้ที่จะเป็นส.ส.
“
ท่านนายกฯก็เคยพูดว่า พรรคนั้นให้เงินบัตรสวัสดิการ 700 บาท แต่ของท่าน จะให้ 1,000 บาท หรือบางพรรคก็ระบุว่าผู้สูงอายุจะได้รับเงินตรงนี้มากขึ้น ก็จะมีการต่อรองในลักษณะนี้ หรือบางพรรคเคยหาเสียงว่าจะให้เรียนฟรีจนจบมหาวิทยาลัย ซึ่งนโยบายลักษณะก็สามารถทำได้โดยที่จะต้องเสนองบประมาณผ่านเข้าไปในสภา” นางสดศรี กล่าว
นาง
สดศรี กล่าวว่า ส่วนลักษณะของคำว่าสัญญาว่า จะให้นั้น กกต.เคยให้ใบแดงกรณีผู้สมัครส.ส.ท่านหนึ่งเคยพูดว่า ถ้าได้เป็นส.ส.จะออกตั๋วเครื่องบิน ให้กับชาวมุสลิมไปนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ฟรี ซึ่งเข้าข่ายสัญญาว่า จะให้เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับตัวเอง หรือพรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัด เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะออกกฎหมายในลักษณะที่ให้ทุกคนมีสิทธิได้รับเงินจำนวนนี้ ซึ่งจะเอาเงินที่ไหนมาให้ อะไรก็ตามที่พูดแล้วเป็นไปไม่ได้ หรือไม่ใช่อำนาจของผู้ที่จะเป็นส.ส.ไปดำเนินการอย่างนั้นอย่างนี้ โดยที่ไม่สามารถเป็นไปได้ก็จะถือว่าสัญญาว่าให้เพื่อจูงใจให้ลงคะแนน
ไลน์ ทบ.หลุด สั่งห้ามก้าวไกลไปรณรงค์ ‘ยกเลิกเกณฑ์ทหาร’ ในที่จับใบดำ-ใบแดง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3914969
ไลน์ ทบ.หลุดว่อนโซเชียล สั่งห้ามก้าวไกลไปรณรงค์ ‘ยกเลิกเกณฑ์ทหาร’ ในที่จับใบดำ-ใบแดง
จากกรณีผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เข้าสังเกตการณ์ชวนพูดคุย ทำโพลสำรวจความเห็นต่อข้อเสนอยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ในหน่วยคัดเลือกจับใบดำ-ใบแดง หลายพื้นที่ทั่วประเทศนั้น
ล่าสุด วันที่ 6 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลได้แชร์ภาพข้อความจากไลน์กลุ่มที่หลุดมา โดยมีนายทหารยศ พล.ต. เขียนข้อความแจ้งสมาชิกกลุ่มดังนี้
“
ขอประสานประธานคณะกรรมการตวจเลือกทุกคณะ”
“
มทภ.4 สั่งการ หากกรณีมีพรรคก้าวไกลไปรณรงค์เพื่อไม่ให้มีการเกณฑ์ทหาร บริเวณหน่วยตรวจเลือกฯในพื้นที่ (ตอนนี้ในพื้นที่ภาคกลางเริ่มกระจายไปทั่วแล้ว)”
1. ให้เฝ้าสังเกตและขอความร่วมมือ คุยกับเขาดีๆ อย่าให้เขาถ่ายรูป ขอความร่วมมืออย่าให้มาชูป้ายรณรงค์ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
2. ถ้าไม่ยอม ให้บันทึกภาพเก็บไว้ อย่าให้เข้ามาในหน่วยตรวจเลือกฯ ต้องขอเชิญให้ออกไป เพราะเป็นพื้นที่ของราชการ ที่เราจะดำเนินการให้การตรวจเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกฎกระทรวง ถ้าเป็นไปได้ขอความร่วมมือ แจ้งไปว่าประชาชนต้องการให้มีความสงบสุข ให้เขาไปอยู่ข้างนอก อย่ามาอยู่ในหน่วยตรวจเลือก เราต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน
3. บันทึกภาพทุกอย่าง แล้วรายงานให้ มทภ.4 ทราบโดยตรง บันทึกภาพ สรุป ส่งไลน์มาให้ เพราะต้องส่งรายงานให้ ทบ. ขอเน้นย้ำทุกพื้นที่และรีบรายงานด่วนทันที
ทหารกะเหรี่ยง-กองทัพพม่า ยิงกันต่อเนื่อง ประชาชน 8 พันชีวิต หนีตายข้ามมาฝั่งไทย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7600145
ทหารกะเหรี่ยง-กองทัพพม่า ยิงกันต่อเนื่อง เสียงปืนระเบิดกังไม่หยุด ประชาชน 8 พันชีวิต หนีตายข้ามมาฝั่งไทย ในฐานะผู้หนีภัยการสู้รบชั่วคราว
6 เม.ย. 2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การสู้รบที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งตรงข้ามชายแดน อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด จ.ตาก
โดยช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ (KNLA) หน่วยจู่โจมกองพัน 708 บก.ยุทธการที่ 2 พร้อมดัวยทหารกลุ่มพีดีเอฟ ยังคงยิงปะทะกับทหารกองทัพเมียนมาและทหารกองกำลังพิทักษ์ชายแดนหรือ บีจีเอฟ โดยทหารทั้งสองฝ่ายยังคงเผชิญหน้ากันที่ใกล้ฐานทหาร บีจีเอฟ บ้านทีกอทอ และมีการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักหลายระรอก โดยเสียงปืนเล็กยาวและเสียงเครื่องยิงลูกระเบิดหลายขนาดสามารถได้ยินอย่างชัดเจนจากในฝั่งไทย
ทำให้ชาวบ้านฝั่งไทยที่มีบ้านพักอาศัยใกล้แม่น้ำเมย และใกล้พื้นที่ยิงปะทะ ต่างเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน หลังเกิดการยิงปะทะกันอย่างหนักในฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้มีชาวกะเหรี่ยงในหลายหมู่บ้าน เขตจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา จำนวนมากกว่า 8,000 คน ต่างต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาหลบพักอาศัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ที่ฝ่ายปกครองจัดเตรียมการไว้ให้
โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ฝ่ายปกครอง ตำรวจและอาสาสมัคร ได้นำอาหารและน้ำดื่มรวมถึงยารักษาโรค ให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบชั่วคราว ท่ามกลางเสียงระเบิดที่ยังคงดังต่อเนื่องและสภาพอากาศที่ร้อนจัด
ตลาดหุ้นเอเชียร่วง หวั่นเศรษฐกิจถดถอย หลังการจ้างงานมะกันชะลอตัว
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3914710
ตลาดหุ้นเอเชียร่วง หวั่นเศรษฐกิจถดถอย หลังการจ้างงานมะกันชะลอตัว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 6 เมษายนว่า ความกลัวที่เพิ่มขึ้นต่อความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยส่งผลกระทบต่อตลาดการซื้อขายหุ้นของเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนได้เตรียมพร้อมหลังการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการจ้างงานในสหรัฐ ที่อาจเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
เมื่อวันที่ 5 เมษายน รายงานจากสถาบันบริการการจัดการอุปทาน (Institute for Supply Management) เปิดเผยว่า ภาคบริการของสหรัฐเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคม ในขณะที่รายงานอีกชิ้นหนึ่งชี้ว่า เหล่านายจ้างภาคเอกชนได้ชะลอการจ้างงานเมื่อเดือนที่แล้ว โดยข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่มีการรายงานข่าวว่า อัตราการจ้างงานในสหรัฐได้ดิ่งลงต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021
ขณะที่นักลงทุนมีได้คาดหวังมาอย่างยาวนานให้เกิดภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัวขึ้น รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้เฟดหยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในปัจจุบันกลับมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงและอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว
นอกจากนี้ สถานการณ์ความวุ่นวายของภาคการธนาคาร หลังจากเกิดวิกฤตธนาคารหลายแห่ง ทั้งในสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ยังทำให้หลายคนมองว่าปัญหาดังกล่าวเป็นผลมาจากการรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา
“
แม้ว่าข่าวเศรษฐกิจที่ซบเซานี้อาจถูกมองว่าเป็นข่าวดีในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่พฤติกรรมราคาเมื่อไม่นานมานี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนกำลังประเมินความเป็นไปได้ที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจพบกับแนวต้านมากเกินไปจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนของธนาคารในภูมิภาค ซึ่งอาจผลักให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในที่สุด”
สตีเฟน อินส์ จากบริษัทเอสพีไอ แอ็สเซต แมเน็จเมนท์ (SPI Asset Management) กล่าว
แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอเมริกัน โดยดัชนีหุ้น S&P 500 และ Nasdaq ปิดตัวในแดนลบเมื่อวันที่ 5 เมษายน ขณะที่นักลงทุนหันไปลงทุนในพันธบัตร
ด้านราคาทองคำยังอยู่เหนือกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งมีทิศทางที่จะพุ่งแตะจุดสูงสุดที่ 2,075.47 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำสถิติไว้เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020
ส่วนภาพรวมของตลาดการซื้อขายหุ้นของเอเชียอยู่ในทิศทางขาลง เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้ทยอยปิดการซื้อขายล่วงหน้าช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลอีสเตอร์
โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นปิดตัวลดลง 1.2% อยู่ที่ 27,472.63 เช่นเดียวกับดัชนี KOSPI ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ก็ที่ปิดตัวในแดนลบ อยู่ที่ 2,459.23 ต่ำลง 1.44% รวมถึงตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย อาทิ สิงคโปร์ ซิดนีย์ ไทเป จาการ์ตา และมะนิลา ก็ปรับตัวต่ำลงเช่นกัน
ส่วนดัชนีคอมโพสิตของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ไม่มีความเปลี่ยนแปลง ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตัวในแดนบวกอยู่ที่ 20,331.20 สูงขึ้นเล็กน้อยที่ 0.3%
ด้านราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสลดลง 0.4% อยู่ที่ 80.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ลดลง 0.3% อยู่ที่ 84.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
JJNY : 5in1 อดีตกกต.การันตี‘เศรษฐา’│ไลน์ทบ.หลุด ห้ามก้าวไกล│กะเหรี่ยง-ทัพพม่ายิงกัน│ตลาดหุ้นเอเชียร่วง│หวัง“สี”ดึงสติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3914935
“สดศรี” การันตี เศรษฐา” ชูนโยบายแจกเงินหมื่นกระตุ้นศก. ได้ ไม่ผิดกม.-เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ ยกเคสสมัยแจกใบแดงเทียบ
เมื่อวันที่ 6 เมษายน นางสดศรี สัตยธรรม อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า การปราศรัยดังกล่าว ไม่เป็นการสัญญาว่า จะให้ เพราะเป็นเรื่องที่สามารถออกเป็นกฎหมายได้ โดยอะไรก็ตามที่เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่สามารถทำได้ ก็นำมาเป็นนโยบายได้ เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ จะเป็นส.ส. จะเสนอออกกฎหมายผ่านสภา ซึ่งเรื่องดังกล่าว ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง หรือ เหนือกว่าอำนาจของผู้ที่จะเป็นส.ส.
“ท่านนายกฯก็เคยพูดว่า พรรคนั้นให้เงินบัตรสวัสดิการ 700 บาท แต่ของท่าน จะให้ 1,000 บาท หรือบางพรรคก็ระบุว่าผู้สูงอายุจะได้รับเงินตรงนี้มากขึ้น ก็จะมีการต่อรองในลักษณะนี้ หรือบางพรรคเคยหาเสียงว่าจะให้เรียนฟรีจนจบมหาวิทยาลัย ซึ่งนโยบายลักษณะก็สามารถทำได้โดยที่จะต้องเสนองบประมาณผ่านเข้าไปในสภา” นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวว่า ส่วนลักษณะของคำว่าสัญญาว่า จะให้นั้น กกต.เคยให้ใบแดงกรณีผู้สมัครส.ส.ท่านหนึ่งเคยพูดว่า ถ้าได้เป็นส.ส.จะออกตั๋วเครื่องบิน ให้กับชาวมุสลิมไปนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ฟรี ซึ่งเข้าข่ายสัญญาว่า จะให้เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับตัวเอง หรือพรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัด เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะออกกฎหมายในลักษณะที่ให้ทุกคนมีสิทธิได้รับเงินจำนวนนี้ ซึ่งจะเอาเงินที่ไหนมาให้ อะไรก็ตามที่พูดแล้วเป็นไปไม่ได้ หรือไม่ใช่อำนาจของผู้ที่จะเป็นส.ส.ไปดำเนินการอย่างนั้นอย่างนี้ โดยที่ไม่สามารถเป็นไปได้ก็จะถือว่าสัญญาว่าให้เพื่อจูงใจให้ลงคะแนน
ไลน์ ทบ.หลุด สั่งห้ามก้าวไกลไปรณรงค์ ‘ยกเลิกเกณฑ์ทหาร’ ในที่จับใบดำ-ใบแดง
https://www.matichon.co.th/politics/news_3914969
ไลน์ ทบ.หลุดว่อนโซเชียล สั่งห้ามก้าวไกลไปรณรงค์ ‘ยกเลิกเกณฑ์ทหาร’ ในที่จับใบดำ-ใบแดง
จากกรณีผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เข้าสังเกตการณ์ชวนพูดคุย ทำโพลสำรวจความเห็นต่อข้อเสนอยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ในหน่วยคัดเลือกจับใบดำ-ใบแดง หลายพื้นที่ทั่วประเทศนั้น
ล่าสุด วันที่ 6 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลได้แชร์ภาพข้อความจากไลน์กลุ่มที่หลุดมา โดยมีนายทหารยศ พล.ต. เขียนข้อความแจ้งสมาชิกกลุ่มดังนี้
“ขอประสานประธานคณะกรรมการตวจเลือกทุกคณะ”
“มทภ.4 สั่งการ หากกรณีมีพรรคก้าวไกลไปรณรงค์เพื่อไม่ให้มีการเกณฑ์ทหาร บริเวณหน่วยตรวจเลือกฯในพื้นที่ (ตอนนี้ในพื้นที่ภาคกลางเริ่มกระจายไปทั่วแล้ว)”
1. ให้เฝ้าสังเกตและขอความร่วมมือ คุยกับเขาดีๆ อย่าให้เขาถ่ายรูป ขอความร่วมมืออย่าให้มาชูป้ายรณรงค์ยกเลิกเกณฑ์ทหาร
2. ถ้าไม่ยอม ให้บันทึกภาพเก็บไว้ อย่าให้เข้ามาในหน่วยตรวจเลือกฯ ต้องขอเชิญให้ออกไป เพราะเป็นพื้นที่ของราชการ ที่เราจะดำเนินการให้การตรวจเลือกเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกฎกระทรวง ถ้าเป็นไปได้ขอความร่วมมือ แจ้งไปว่าประชาชนต้องการให้มีความสงบสุข ให้เขาไปอยู่ข้างนอก อย่ามาอยู่ในหน่วยตรวจเลือก เราต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน
3. บันทึกภาพทุกอย่าง แล้วรายงานให้ มทภ.4 ทราบโดยตรง บันทึกภาพ สรุป ส่งไลน์มาให้ เพราะต้องส่งรายงานให้ ทบ. ขอเน้นย้ำทุกพื้นที่และรีบรายงานด่วนทันที
ทหารกะเหรี่ยง-กองทัพพม่า ยิงกันต่อเนื่อง ประชาชน 8 พันชีวิต หนีตายข้ามมาฝั่งไทย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7600145
ทหารกะเหรี่ยง-กองทัพพม่า ยิงกันต่อเนื่อง เสียงปืนระเบิดกังไม่หยุด ประชาชน 8 พันชีวิต หนีตายข้ามมาฝั่งไทย ในฐานะผู้หนีภัยการสู้รบชั่วคราว
6 เม.ย. 2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การสู้รบที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งตรงข้ามชายแดน อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด จ.ตาก
โดยช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ (KNLA) หน่วยจู่โจมกองพัน 708 บก.ยุทธการที่ 2 พร้อมดัวยทหารกลุ่มพีดีเอฟ ยังคงยิงปะทะกับทหารกองทัพเมียนมาและทหารกองกำลังพิทักษ์ชายแดนหรือ บีจีเอฟ โดยทหารทั้งสองฝ่ายยังคงเผชิญหน้ากันที่ใกล้ฐานทหาร บีจีเอฟ บ้านทีกอทอ และมีการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักหลายระรอก โดยเสียงปืนเล็กยาวและเสียงเครื่องยิงลูกระเบิดหลายขนาดสามารถได้ยินอย่างชัดเจนจากในฝั่งไทย
ทำให้ชาวบ้านฝั่งไทยที่มีบ้านพักอาศัยใกล้แม่น้ำเมย และใกล้พื้นที่ยิงปะทะ ต่างเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน หลังเกิดการยิงปะทะกันอย่างหนักในฝั่งประเทศเมียนมา ทำให้มีชาวกะเหรี่ยงในหลายหมู่บ้าน เขตจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา จำนวนมากกว่า 8,000 คน ต่างต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยเข้ามาหลบพักอาศัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ที่ฝ่ายปกครองจัดเตรียมการไว้ให้
โดยวันนี้ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ฝ่ายปกครอง ตำรวจและอาสาสมัคร ได้นำอาหารและน้ำดื่มรวมถึงยารักษาโรค ให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบชั่วคราว ท่ามกลางเสียงระเบิดที่ยังคงดังต่อเนื่องและสภาพอากาศที่ร้อนจัด
ตลาดหุ้นเอเชียร่วง หวั่นเศรษฐกิจถดถอย หลังการจ้างงานมะกันชะลอตัว
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3914710
ตลาดหุ้นเอเชียร่วง หวั่นเศรษฐกิจถดถอย หลังการจ้างงานมะกันชะลอตัว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 6 เมษายนว่า ความกลัวที่เพิ่มขึ้นต่อความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยส่งผลกระทบต่อตลาดการซื้อขายหุ้นของเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนได้เตรียมพร้อมหลังการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการจ้างงานในสหรัฐ ที่อาจเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
เมื่อวันที่ 5 เมษายน รายงานจากสถาบันบริการการจัดการอุปทาน (Institute for Supply Management) เปิดเผยว่า ภาคบริการของสหรัฐเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคม ในขณะที่รายงานอีกชิ้นหนึ่งชี้ว่า เหล่านายจ้างภาคเอกชนได้ชะลอการจ้างงานเมื่อเดือนที่แล้ว โดยข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่มีการรายงานข่าวว่า อัตราการจ้างงานในสหรัฐได้ดิ่งลงต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2021
ขณะที่นักลงทุนมีได้คาดหวังมาอย่างยาวนานให้เกิดภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัวขึ้น รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้เฟดหยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในปัจจุบันกลับมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงและอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นตัว
นอกจากนี้ สถานการณ์ความวุ่นวายของภาคการธนาคาร หลังจากเกิดวิกฤตธนาคารหลายแห่ง ทั้งในสหรัฐและสวิตเซอร์แลนด์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ยังทำให้หลายคนมองว่าปัญหาดังกล่าวเป็นผลมาจากการรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา
“แม้ว่าข่าวเศรษฐกิจที่ซบเซานี้อาจถูกมองว่าเป็นข่าวดีในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่พฤติกรรมราคาเมื่อไม่นานมานี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนกำลังประเมินความเป็นไปได้ที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจพบกับแนวต้านมากเกินไปจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนของธนาคารในภูมิภาค ซึ่งอาจผลักให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในที่สุด” สตีเฟน อินส์ จากบริษัทเอสพีไอ แอ็สเซต แมเน็จเมนท์ (SPI Asset Management) กล่าว
แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นอเมริกัน โดยดัชนีหุ้น S&P 500 และ Nasdaq ปิดตัวในแดนลบเมื่อวันที่ 5 เมษายน ขณะที่นักลงทุนหันไปลงทุนในพันธบัตร
ด้านราคาทองคำยังอยู่เหนือกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งมีทิศทางที่จะพุ่งแตะจุดสูงสุดที่ 2,075.47 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำสถิติไว้เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020
ส่วนภาพรวมของตลาดการซื้อขายหุ้นของเอเชียอยู่ในทิศทางขาลง เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ได้ทยอยปิดการซื้อขายล่วงหน้าช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลอีสเตอร์
โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นปิดตัวลดลง 1.2% อยู่ที่ 27,472.63 เช่นเดียวกับดัชนี KOSPI ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ก็ที่ปิดตัวในแดนลบ อยู่ที่ 2,459.23 ต่ำลง 1.44% รวมถึงตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย อาทิ สิงคโปร์ ซิดนีย์ ไทเป จาการ์ตา และมะนิลา ก็ปรับตัวต่ำลงเช่นกัน
ส่วนดัชนีคอมโพสิตของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ไม่มีความเปลี่ยนแปลง ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตัวในแดนบวกอยู่ที่ 20,331.20 สูงขึ้นเล็กน้อยที่ 0.3%
ด้านราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสลดลง 0.4% อยู่ที่ 80.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ลดลง 0.3% อยู่ที่ 84.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล