เล่าประสบการณ์ในการเคลมประกันรถยนต์ (สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเคลม) การเบิกค่าขาดประโยชน์ และค่าอื่นๆ

สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ในการเคลมประกันรถยนต์ (สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบนะครับ) ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง และต้องถามอะไรบ้างกับทางอู่ให้ชัดเจน ย้ำ ถามให้ชัดเจน

24/02/2566 - รถผมเกิดอุบัติเหตุ โดน 10 ล้อชนท้าย (ตั้งใจชนเรา) เราเป็นฝ่ายถูก (เราใช้รถยนต์ Mazda 2) แต่คู่กรณีลงมาโวยวายเราซะงั้น ว่าเราเบรคให้เขาชนท้าย เราก็งง ว่าเห้ย มีด้วยเหรอว่าจะเบรคให้คนมาชนรถตัวเอง บ้าบอ เราก็เลยไม่คุย ให้ประกันคุยแทน เราก็แจ้ง ตร. ซักพักก็มาโบกรถให้จอดด้านขอบทางซ้าย จากนั้น ก็กลับ สน. โอเคร เล่าเท่านี้ละกัน เดี๋ยวยาว ..

เราก็โทรหาประกันเรา (ของเราเป็น ประกันชั้น 1 ซ่อมอู่) รอไม่นาน เจ้าหน้าที่ประกันเราก็มา ถ่ายรูป ลงข้อมูล โน่นนี่นั่น กลางแดดร้อนๆ ตอนนี้รอแค่ประกันคู่กรณี ประมาณ 30 นาทีได้ ซักพักก็มา ถือว่ามาช้ามาก จากนั้นก็ได้เอกสารใบเคลม เราก็ไปที่อู่ประกันในสัญญาของเรา

เอารถมาอู่ - เจ้าหน้าที่ก็มาดู และก็บอกกับเราว่า ลูกค้าจะจอด หรือ จะไม่จอด อันนี้คือ เราสามารถเลือกได้ว่า เราจะจอดไว้อู่เลยไหม กรณีถ้ารถขับไม่ได้ แนะนำให้จอดครับ แต่ของเรารถขับได้ปกติ แค่ท้ายยุบ  เราก็เลยบอกไม่จอด เพราะเราใช้รถทุกวัน  รออะไหล่มาก่อน ค่อยเอารถเข้ามาจอด เพราะทางอู่จะต้องรอ บ.ประกัน สั่งอะไหล่ ส่งมาที่อู่ก่อนถึงจะทำได้ จากนั้น เขาก็ลงระบบในอู่ให้เรียบร้อย แล้วเขาบอกเขาจะโทรแจ้ง เราก็เอารถไปใช้ ปกติ 

10/03/2566 -  ทางอู่แจ้งมาว่า วันที่ 15/03/2566 ให้เอารถเข้ามาที่อู่ได้เลย อะไหล่า น่าจะมาถึงอู่ ประมาณวันนี้ ช่วงเย็น (10/03/2566) เราก็แจ้งกลับไปว่า โอเครเราจะเอาเข้าไปวันที่ 15/03/2566

15/03/2566 - 08.30 น. เอารถมาจอดไว้อู่ เราก็ถามว่าแล้วเราจะเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง อู่ตอบว่า รอรถเสร็จก่อน (ที่ต้องถามก่อนเพราะเราไม่รู้ว่าต้องดำเนินการอย่างไร และมีเงื่อนไขอะไร การนับวันอย่างไร) อู่ก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรเลย 

ระหว่างนี้เราเช่ารถวันล่ะ 1,000 บาท รถ Eco Car ไม่มีให้เช่าเลยสั่งที่เพราะคนเช่าเต็มหมดแล้ว เราเลยได้รถ Toyota Altis มาใช้  (สัญญาเช่ารถ 15/03/2566 - 15/04/2566) 

20/03/2566 - ทางอู่แจ้งมาว่า มีอะไหล่ชิ้นเล็กๆ ต้องสั่งเพิ่มเติม 

22/03/2566 - โทรตามว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเราต้องใช้รถไปตจว. วันที่  7/04/2566 เรากลัวไม่ทัน เพราะรถที่เราเช่า เขาไม่ให้นำรถไปใช้นอกพื้นที่ ถ้าไม่ทันเราจะได้หาทาง แก้ปัญหาต่อไป ทางอู่ตอบเรามาว่า

อู่ - เบื้องต้นนัดไว้ 1/04/2566 นะคะ รบกวนใกล้ๆถึงวันรับ หากไม่ทัน หรือเลื่อนจะแจ้งคะ ตอนนี้ช่างดำเนินการซ่อมอยู่ คะ 
เรา - ครับ
(ในความรู้สึกเรา เรารู้ว่านัดวันที่เท่าไหร่ เราก็ไม่ได้ตามบ่อย เราแค่อยากวางแผนว่าเราจะทำยังไงต่อ ถ้าไม่ทัน ประมาณนี้)

25/03/2566 - ทางอู่ส่งรูปรถ และอะไหล่ มาให้ดูว่า กำลังดำเนินการ เราก็ดีใจว่า น่าจะทันเพราะ รถก็เสร็จไปเยอะแล้ว

31/03/2566 - อู่ส่งรูปมาและแจ้งว่า รอคิว ขัดยา เคลือบเงา เที่ยงวันเดียวกัน อู่แจ้งมาว่า พรุ่งนี้มารับรถได้เลย เราก็โอเคร แต่เราก็ถามเรื่องการเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม เขาก็บอก พรุ่งนี้มารับรถจะเอาเอกสารให้ 

01/04/2566 - มารับรถที่อู่ บอกเลยว่า ช่างที่นี่ฝีมือดีครับ ทำออกมาได้ดีมาก อันนี้ไม่ติเลย ขอชื่นชม ทางอู่ก็ให้เอกสารมา 1 ชุด ในนั้นก็จะมีเอกสารใบรับรถ ต่างๆ ที่เราต้องนำมาใช้เพื่อยื่นเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม กับบริษัทประกันภัยคู่กรณี อันนี้เราต้องโทรไปถามประกันเราว่า ประกันคู่กรณี เป็นของบริษัท อะไร และเลขทะเบียนรถอะไร เลนกรมธรรม์ อะไร เพื่อเราจะต้องเดินเรื่องเองทั้งหมด

Timeline ทั้งหมดประมาณนี้ ทีนี้จะมาบอกสิ่งที่เราต้องรู้ว่า จะต้องรู้อะไรบ้าง ในการเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม หรือ ถ้ามีประกันเสริมอื่นๆ อีก ก็ดำเนินการคล้ายๆกัน ของผมจะมีประกันเสริมอีก 1 กรมธรรม์ แต่จะคนละบริษัทฯ กับประกันชั้น 1 ของเรา (อันนี้รื้อเอกสารเลยเจอ เพราะจำไม่ได้ว่าทำอะไรไปบ้าง

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม นั้นแต่ละบริษัทฯ อาจมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป แต่ก็น่าจะคล้ายๆ กัน

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็จะเริ่มเข้าถึง สาระสำคัญ!!! สิ่งที่ต้องรู้ไว้เลยจะได้ไม่โง่ เหมือนผม ซึ่งเราเองก็ไม่รู้และไม่เคยเคลมมาก่อน ถามใครเขาก็ไม่ให้คำตอบ ถามอู่ อู่ก็ตอบอย่างที่เห็น 

1. การนับวันในการจอดรถเพื่อมาคำนวน ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม 
        การนับวันนั้นสำคัญมากที่เราต้องรู้ เพราะจะมีผลกับค่าขาดประโยชน์ที่เราเบิก การนับวันที่รถจอดซ่อมนั้น ย้ำ!!! เป็นเงื่อนไขหรือตามระบบเบียบของอู่เท่านั้น อันนี้ต้องถามอู่ให้ชัดเจนนะครับ ว่าเขานับยังไง เบื้องต้นอู่ที่ผมทำ นับแค่ วันจันทร์-วันเสาร์ (คือวันที่อู่ทำงาน) ส่วนวันที่ไม่นับคือ วันอาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ ซึ่งบางอู่ อาจจะหยุดวันเสาร์ด้วย อันนี้ต้องถามนะครับ เงื่อนไขอู่ ผมโดนมากับตัว อู่ไม่ยอดบอกอะไรเลย ทั้งๆ ที่เราถามมาตลอด

2. ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
      อันนี้ยอดเงินที่เราจะเอามาคำรวณ บวกกับวันที่จอดอู่ จากข้อที่  1 ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม นั้นจะแตกต่างออกไปตามรุ่นรถและชนิดของรถ และความเสียหาย ของผม Eco Car เต็มที่ ให้ได้ 500 บาท/วัน เท่านั้น ไม่ว่าจะเรียกเท่าไหร่ เขาให้เท่านั้น 

- เคสนี้ผมก็โดนอีก ผมเช่ารถ ไม่ใช่รถลักษณะเดียวกัน เช่น ถ้ารถผม Eco Car ก็ต้องเช่ารุ่นเดียวกัน เอาเข้าจริงๆ รถอีโก้คาร์ ก็เช่า 800-1200 บาทอยู่แล้ว แล้วแต่บริษัทเช่ารถ เราก็พลาดตรงที่ เราหาเช่ารถ ชนิดหรือระดับเดียวกันไม่ได้ อันนี้ถ้าใครเช่ารถรุ่นเดียวกันได้จะดีมาก และต้องเช่ากับบริษัท ที่สามารถออกเอกสารใบเสร็จค่าเช่า แบบเต็มรูปแบบเท่านั้น เพื่อให้ทางประกัน คู่กรณี พิจารณาเพิ่มเติม ว่าจะจ่ายมากกว่า 500 บาทได้หรือไม่

ข้อ 2 นี้ สำคัญ แนะนำให้เช่ากับบริษัทเช่ารถที่สามารถออกใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบเท่านั้น เพื่อให้เขาพิจารณาเพิ่มเติม สำคัญมาก

- ต้องไปเซ็นเอกสารที่สำนักงาน ของประกันฝั่งที่เราขอเบิก เท่านั้น ถึงจะเร็ว เพราะเขาอาจจะส่งเอกสารมาให้เราเซ็น และส่งเอกสารกับไปให้เขาอีก อันนี้ก็จะใช้เวลาหลายวันเลย แนะนำ ขอเขาไปเซ็นที่สำนักงานเขาเลย (ถ้าสะดวก)

3.กรมธรรม์อื่นๆ (ถ้ามี)
- อันนี้แนะนำให้เช็คดีๆ อย่างของผมมีทำเสริมไว้กับอีกที่ คือ กรมธรรม์ประกันภัยชดเชยผลประโยชน์จากอุบัติเหตุหรือการใช้รถยนต์ อันนี้ผมมาเห็นตอนที่หาเอกสารต่างๆ ในกรมธรรม์นี้ มีเข้าข่ายของผมคือ ผมเป็นฝ่ายถูก ผมจะสามารถเบิกค่า ชดเชยค่าเดินทางระหว่างรถยนต์เข้าอู่ซ่อมจากอุบัติเหตุ
และในเงื่อนไข เราต้องเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น ถ้าเราผิด ไม่ได้จร้า อันนี้จะได้ 3,000 บาท/ครั้ง

เมื่อเราทราบสิ่งที่เราต้องรู้เพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์ที่เราจะได้รับนั่นเอง 

ถ้ารถเราซ่อมเรียบร้อย อย่าลืม!!!
- ตรวจสอบรถให้เรียบร้อยว่าซ่อมแล้วใช้งานได้ไหม เช็คสีรอบคันว่า ปกติไหม (ของผมมีคราบละอองสีโดนเขาคงไม่เห็น เราก็เพิ่งมาเห็น เป็นผมสากๆเลย แต่ไม่กลับไปล่ะอู่เดิม ไม่ประทับใจเจ้าหน้าที่เคลม ไม่ขอเล่า)
- เช็คการทำงานต่างๆของระบบไฟทุกระบบเพราะบางทีรถจอดนาน หรือสายอาจจะขาด 
- ก่อนออกจากอู่เช็คเอกสาร ให้เรียบร้อย เอกสารรับรถ อันนี้สำคัญมาก ให้ดูว่าเขาลงวันที่รับรถตรงไหม เพราะจะมีผลต่อการเบิกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม อันนี้ระวังดีๆ ถามเงื่อนไขการนับอย่างที่แจ้งไป และวันที่ ที่ลงในเอกสาร ให้ดีๆว่าเรารับวันไหน ถ้าให้ดี เขียนวันที่รับ เวลา ลงในช่องที่เราเซ็นรับด้วยเลย

ก็มาแชร์ประสบการณ์สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบนะครับ และอยากฝากไปถึงอู่ต่างๆ ให้เข้าใจลูกค้าด้วย ลูกค้าไม่ได้ทราบเงื่อนไขอะไรเลย คุณควรแจ้งรายละเอียดต่างๆ ที่ลุกค้าควรจะทราบไว้ ให้เขารู้ก่อนด้วย คุณรู้คุณชำนาญ เข้าใจ แต่ลูกค้าคือ 0 ไม่มีความรู้เลยเรื่องนี้ การพูดจา ควรเครพลูกค้า ไม่ใช่ พูดข่มลูกค้า ถึงจะใช้คำสภาพ แต่ลูกค้ารู้ว่า น้ำเสียงที่คุณพูดมา มันสื่อถึงอะไร คุณไม่ได้ทำให้เราฟรีนะครับ อันนี้ผมว่าอู่รู้ดี เพราะคุณคืออู่ในเครือของประกันเรา ช่างคุณผมขอชื่นชมครับว่าฝีมือดีมาก ทำงานออกมาดี 

ฝากแชร์เท่านี้ครับใครมีอะไรมาแชร์ก็ สามารถแชร์ได้นะครับ ไม่พาดพิงใครให้เสียหายนะครับ

ขั้นตอนและเอกสารในการยื่นเดี๋ยวจะไปต่อใน Comment นะครับ

ยังไงก็ตามที อุบัติเหตุ เป็นเรื่องที่ใคร ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็ฝากกันไว้ครับ ไม่เกิดจะดีที่สุด เสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินเสียทั้งโอกาส ขับรถก็ไม่ประมาทนะครับเดินทางปลอดภัยเที่ยวให้สนุกกันทุกคนนะครับ

เพี้ยนเซ็งเป็ดเพี้ยนเซ็งเป็ดเพี้ยนเซ็งเป็ด

สอบถามเพิ่มเติมหลังไมค์ได้นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่