ไวน์กับความสัมพันธ์มีส่วนเหมือนกันตรงไหนคะ ?
อย่าตอบนะคะว่า ทำให้มึนเมาได้เหมือนกัน (แม้มันจะมีส่วนจริงอยู่บ้างก็เถอะค่ะ)
สำหรับดิฉัน คำตอบคือ
ไวน์กับความสัมพันธ์ เหมือนกันตรงที่ว่า มันดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่มากขึ้น
เมื่อวานมีโอกาสดีที่ได้คุยงานกับพี่สาวที่เคารพท่านหนึ่ง และเนื่องด้วยงานนั้นมีส่วนของระบบที่สามีของพี่เชี่ยวชาญมาก พี่สาวก็เลยหนีบเอาสามีมาด้วย ดิฉันในฐานะน้องที่พี่สาวเมตตาเอ็นดูก็เลยได้คำชี้แนะ คำปรึกษาฟรีอย่างละเอียดละออจากคอนซัลท์มือทองที่ปกติฐานะของบริษัทเราเอื้อมไม่ถึง
นอกจากข้อมูล ความรู้ การเปิดโลก เปิดกะลาหลาย ๆ เรื่องแล้ว
สิ่งที่ดิฉันสังเกตเห็นและพลอยทำให้ยิ้มและชื่นบานไปด้วย ก็คือ เคมีและปฏิสัมพันธ์ที่พี่ทั้งสองมีต่อกัน ทั้งเสียงหัวเราะ ความสนิทสนม ความเป็นเพื่อน ความเป็นคู่ชีวิต ภาษากายที่อ่านได้ว่าต่างฝ่ายต่างสบายอกสบายใจ มีความสุข อุ่นใจที่ได้อยู่ใกล้ ๆ กันมาก
คือ พี่ผู้ชายเป็นคนเรียบร้อยนะคะ เก่ง ฉลาด ความคิดเป็นระบบ ฟังแกอธิบายสั้น ๆ และตั้งคำถามก็รู้เลยว่า มองขาด มองทะลุถึงปัญหาจริง ๆ สมกับเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองของคณะที่คะแนนสูงสุดของมหาวิทยาลัยเก่าแก่สุดในประเทศนี้ ส่วนพี่ผู้หญิงจะเป็นคนโผงผางฉาดฉานกว่า แต่ก็แหลมคมมากเช่นกัน
แอบเห็นพี่ผู้ชาย เดี๋ยวก็เอียงตัว เอียงศีรษะมาใกล้ ๆ พี่ผู้หญิงอยู่เรื่อย ๆ คือ มันไม่ได้ดูโจ่งแจ้งโฉ่งฉ่าง แต่ดูรู้เลยว่า คู่นี้สัมพันธภาพแนบแน่นมาก
ยิ่งช่วงนี้ ลูกของทั้งคู่ไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน เดี๋ยวเค้าก็ไปเที่ยว ไปกินของอร่อยที่นั่นที่นี่กัน
ดิฉันยังแซวว่า “แหมพี่...เดทกันสองคน เหมือนกลับไปอายุ 14 เลยนะคะ”
รู้มาว่าเค้ารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาโท คบกันและแต่งงานกันมาจนวัยใกล้เกษียณ
นี่เลยทำให้กลับมานั่งคิดถึงคำที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า ความสัมพันธ์ดี ๆ ที่ประคับประคองกันมายาวนานเนี่ย มันเหมือนไวน์บางรุ่นจริง ๆ ยิ่งบ่มยาว ยิ่งดี
ทีนี้ ก็เกิดสงสัยขึ้นมาอีกว่า แล้วคำว่า “ความสัมพันธ์ดี ๆ “ เนี่ยควรจะนิยามมันว่ายังไง ? แบบไหนถึงเรียกว่าดี
ในความคิดส่วนตัว ความสัมพันธ์ที่ดี คือ ความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างมีความสุข เกื้อกูลกันและเอื้อให้อีกฝ่ายเกิดการพัฒนาหรือรักษาไว้ซึ่งร่างกายที่แข็งแรง จิตใจที่ผาสุก และมีความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ตามแต่อัตภาพของแต่ละคู่
มีงานวิจัย (อย่าถามหา reference นะคะ อ่านมาหลายแหล่งแบบผ่าน ๆ ) ต่างลงความเห็นเหมือนกันว่า คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้ระดับความเครียดลดลง ถ้าต้องผ่าตัดก็ฟื้นตัวเร็วขึ้น มีสุขภาวะที่ดี และมีอายุที่ยืนยาวกว่า
เลยลองไปค้นอากู๋ (นี่ก็ว่าอีกหน่อยคงต้องไปถาม ChatGPT บ้าง) ดูว่า คำว่า ความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดีมันเป็นยังไง ?
อ่าน ๆ ดูแล้วชอบคำตอบนี้ที่สุดค่ะ
เค้าบอกว่า
ความสัมพันธ์ที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์ ความไว้วางใจ ความเคารพ และการสื่อสารที่เปิดกว้างสำหรับคู่รัก ทั้งคู่ต้องพยายามที่จะประนีประนอมกันด้วย ไม่มีใครข่มใครจนเสียดุลย์ ต่างฝ่ายต่างเคารพความเป็นอิสระของกันและกัน สามารถตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ เองได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกทำโทษหรือถูกแก้แค้นเอาคืน และยังสามารถร่วมตัดสินใจในบางเรื่องด้วยกันได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้What is a healthy long-term relationship like?
Healthy relationships involve honesty, trust, respect and open communication between partners and they take effort and compromise from both people. There is no imbalance of power. Partners respect each other's independence, can make their own decisions without fear of retribution or retaliation, and share decisions.
คือประเภท มา act กลัวเมีย ให้ภรรยาเก็บเงิน ตัวเองเบิกค่าข้าววันละ 100
หรือในอีกทางตรงข้าม ฝ่ายหญิงเองก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้สามีพอใจ แม้ว่าตัวเองจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
แล้วเราก็เรียกมันว่า ความเสียสละ ?
มันใช่แบบนั้นจริง ๆ รึเปล่า ?
เอาจริง ๆ นะคะ
คำว่า ความสัมพันธ์ดี ๆ กว่ามันจะดีได้ มันไม่ใช่อยู่ ๆ มันจะดีขึ้นมาเลย
มันอาศัยการดูแล เลี้ยงดู ปรับแต่ง ความพยายาม การปรับตัว อะไร ๆ อีกหลายอย่างที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า “ลงทุน” ซึ่งเอาจริง ๆ มันเป็นการลงทุน
และการลงทุนในความสัมพันธ์นี่ มันมีมิติที่เข้มข้นที่มากกว่าแค่เงินด้วย แต่เป็นเรื่องของเวลา เรื่องของใจ และความทุ่มเทอะไร ๆ อีกหลายอย่าง
แน่นอนค่ะ
คำพูดที่ กลต. บังคับให้ใส่ใน script โฆษณาของการซื้อกองทุนทุกประเภท ยังคงใช้ได้เสมอ
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต”
ค่อย ๆ อ่านไปช้า ๆ นะคะ Wording พวกนี้เอามาใช้กับการลงทุนด้านความสัมพันธ์ได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน
เรา decode ได้ว่ายังไงบ้าง ?
การลงทุนมีความเสี่ยง -- จะจีบใคร หรือสนิทกับใคร ก็เสี่ยงทั้งนั้น เสี่ยงถูกปฏิเสธ เสี่ยงว่าพอเข้าไปสนิทแล้วจะเข้ากันไม่ได้
ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน -- ควรค่อย ๆ ศึกษา และทำความเข้าใจว่า คนที่คุณจะเข้าไปจีบ ทำความสนิทสนมนั้น ๆ เป็นคนแบบไหน ชอบอะไร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง (อันนี้ก็ร้อยแปดพันเก้านะคะ ตั้งเงื่อนไขอะไรมาก็ไม่ใช่เรื่องผิดทั้งนั้น อยากได้คนสวยเลิศ คนหล่อล่ำ คนเงินเดือน 2 แสน คนที่เป็นดาวคณะ ฯลฯ คุณตั้ง offer ไป จะมีคนมา bid ไหม นั่นอีกเรื่อง)
ผลตอบแทนและความเสี่ยงมีอะไรบ้าง -- สาย VI ก็อาจมองคนที่ยังไม่เด่นนักแต่มีศักยภาพ สายเสี่ยง high risk high return ก็อาจจะวางเดิมพันไว้อีก
อย่าง
สาย day trade นี่ตัดทิ้งไปได้เลย ความสัมพันธ์ที่ดี ไม่สามารถใช้มุมมองของ day trade ซื้อง่าย ขายเร็ว มาจับได้
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต -- การที่เค้าหรือเธอดีกับแฟนคนเก่า ไม่ได้แปลว่า เค้าจะดีกับคุณเท่ากับที่เค้าเคยดีกับคนเก่านะจ๊ะ
คำว่า “ไม่เท่า” อาจแปลได้ว่า มากกว่า หรือ น้อยกว่า ก็ได้ค่ะ
ถ้าลงทุนในกองทุน เราใช้เงิน
ถ้าลงทุนในความสัมพันธ์ เราใช้อะไรล่ะ ?
ตอบแบบลุ่น ๆ ไม่ต้องคิด ก็คงตอบว่า “เงิน” อีก
มีส่วนถูกค่ะ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
คือ ถ้าบอกว่าไม่ใช้เงินเลย ก็ดูเลื่อนลอย เพราะในการทำความรู้จักขั้นต้น กินข้าว ดูหนัง ไปเดินเล่น นั่งรถไฟฟ้า มันก็ต้องจ่ายด้วยเงินทั้งนั้น
แต่ที่มากกว่านั้น และสำคัญที่สุดคือ
ความซื่อสัตย์ และความจริงใจ
ไหน ๆ เราพูดกันในสายลงทุน
ก็ต้องขอยก quote อันแสนคลาสสิคของปู่ Warren Buffet ที่ทุกคนคงคุ้นเคยกันดี
ปู่พูดไว้อย่างเจ็บแสบว่า
ความซื่อสัตย์เป็นของขวัญราคาแพง อย่าไปหวังว่าจะได้มันมาจากคนราคาถูก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้“Honesty is a very expensive gift. Don't expect it from cheap people.”
แต่พูดกันอย่างยุติธรรมและเปิดกว้าง
ต้องบอกว่า ในความสัมพันธ์ มิติของคำว่าซื่อสัตย์ และนอกใจ มันมีหลายเหตุผล หลายระนาบที่ซับซ้อนมากกว่าการซื้อกองทุนรวมหลายเท่า
เดี๋ยวมีเวลายาว ๆ จะเขียนกระทู้เกี่ยวกับเรื่องสถิติการนอกใจ (ช่องทางการเข้าถึง สาเหตุ และตัวเลข) มาแชร์กันพอสนุก ๆ
กระนั้น ความซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน ถือเป็นสิ่งที่ต้องลงทุนอย่างมากในความสัมพันธ์
เพราะมันนำไปสู่ความไว้ใจ
ซึ่งความไว้ใจหรือ trust นี่แหละ ที่มันบางเบาแต่หนักแน่นเพี้ยงพสุธาและดิ่งลึกกว่ามหาสมุทร (สำนวนลิเกมาก ธาราสินธุ์)
มันยิ่งกว่าความรัก ความหวือหวา หรือองค์ประกอบอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
คู่ที่อยู่กันยาว ๆ หลายคู่ที่ดิฉันเห็นมา ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด หรือยังคงเหลือความรู้สึกดี ๆ ต่อกันมากอยู่ส่วนหนึ่ง เพราะ trust หรือความรู้สึกว่า เราเชื่อใจคนนี้ได้
การมีคนรักและความสัมพันธ์ที่ healthy อย่างที่เกริ่นไว้ด้านบน ไม่เพียงแต่ทำให้มีความสุขในชีวิต แต่มันยังทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย รู้สึกว่าตัวเองโชคดี และถ้าจะมองถึงผลตอบแทนในเชิงเศรษฐกิจจากการมีความสัมพันธ์ที่ดี ก็พบว่า มันช่วยประหยัดอะไร ๆ ได้หลายอย่าง ทั้งเงินทอง เวลา และสุขภาพ
การนอกใจนี่จริง ๆ แล้วมันมีต้นทุนที่สูงมาก ทั้งต้นทุนตรงและแฝง
เพราะฉะนั้น การลงทุนอย่างตั้งใจกับความสัมพันธ์ให้มันดีเนี่ย ชีวิตมันจะง่ายกว่าเยอะ แล้วคุณจะเหลือพลังงานไปทำอย่างอื่นในชีวิตได้ดีขึ้น
ปล.
เขียนเล่น ๆ คลายเครียด หลังจากการคุยงานเรื่องเครียด ๆ อย่างหนักหน่วงในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะต่อไปอีกหลายเดือนจากนี้
ลงทุนในความสัมพันธ์
อย่าตอบนะคะว่า ทำให้มึนเมาได้เหมือนกัน (แม้มันจะมีส่วนจริงอยู่บ้างก็เถอะค่ะ)
สำหรับดิฉัน คำตอบคือ
ไวน์กับความสัมพันธ์ เหมือนกันตรงที่ว่า มันดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่มากขึ้น
เมื่อวานมีโอกาสดีที่ได้คุยงานกับพี่สาวที่เคารพท่านหนึ่ง และเนื่องด้วยงานนั้นมีส่วนของระบบที่สามีของพี่เชี่ยวชาญมาก พี่สาวก็เลยหนีบเอาสามีมาด้วย ดิฉันในฐานะน้องที่พี่สาวเมตตาเอ็นดูก็เลยได้คำชี้แนะ คำปรึกษาฟรีอย่างละเอียดละออจากคอนซัลท์มือทองที่ปกติฐานะของบริษัทเราเอื้อมไม่ถึง
นอกจากข้อมูล ความรู้ การเปิดโลก เปิดกะลาหลาย ๆ เรื่องแล้ว
สิ่งที่ดิฉันสังเกตเห็นและพลอยทำให้ยิ้มและชื่นบานไปด้วย ก็คือ เคมีและปฏิสัมพันธ์ที่พี่ทั้งสองมีต่อกัน ทั้งเสียงหัวเราะ ความสนิทสนม ความเป็นเพื่อน ความเป็นคู่ชีวิต ภาษากายที่อ่านได้ว่าต่างฝ่ายต่างสบายอกสบายใจ มีความสุข อุ่นใจที่ได้อยู่ใกล้ ๆ กันมาก
คือ พี่ผู้ชายเป็นคนเรียบร้อยนะคะ เก่ง ฉลาด ความคิดเป็นระบบ ฟังแกอธิบายสั้น ๆ และตั้งคำถามก็รู้เลยว่า มองขาด มองทะลุถึงปัญหาจริง ๆ สมกับเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองของคณะที่คะแนนสูงสุดของมหาวิทยาลัยเก่าแก่สุดในประเทศนี้ ส่วนพี่ผู้หญิงจะเป็นคนโผงผางฉาดฉานกว่า แต่ก็แหลมคมมากเช่นกัน
แอบเห็นพี่ผู้ชาย เดี๋ยวก็เอียงตัว เอียงศีรษะมาใกล้ ๆ พี่ผู้หญิงอยู่เรื่อย ๆ คือ มันไม่ได้ดูโจ่งแจ้งโฉ่งฉ่าง แต่ดูรู้เลยว่า คู่นี้สัมพันธภาพแนบแน่นมาก
ยิ่งช่วงนี้ ลูกของทั้งคู่ไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน เดี๋ยวเค้าก็ไปเที่ยว ไปกินของอร่อยที่นั่นที่นี่กัน
ดิฉันยังแซวว่า “แหมพี่...เดทกันสองคน เหมือนกลับไปอายุ 14 เลยนะคะ”
รู้มาว่าเค้ารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาโท คบกันและแต่งงานกันมาจนวัยใกล้เกษียณ
นี่เลยทำให้กลับมานั่งคิดถึงคำที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า ความสัมพันธ์ดี ๆ ที่ประคับประคองกันมายาวนานเนี่ย มันเหมือนไวน์บางรุ่นจริง ๆ ยิ่งบ่มยาว ยิ่งดี
ทีนี้ ก็เกิดสงสัยขึ้นมาอีกว่า แล้วคำว่า “ความสัมพันธ์ดี ๆ “ เนี่ยควรจะนิยามมันว่ายังไง ? แบบไหนถึงเรียกว่าดี
ในความคิดส่วนตัว ความสัมพันธ์ที่ดี คือ ความสัมพันธ์ที่ต่างฝ่ายต่างมีความสุข เกื้อกูลกันและเอื้อให้อีกฝ่ายเกิดการพัฒนาหรือรักษาไว้ซึ่งร่างกายที่แข็งแรง จิตใจที่ผาสุก และมีความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ตามแต่อัตภาพของแต่ละคู่
มีงานวิจัย (อย่าถามหา reference นะคะ อ่านมาหลายแหล่งแบบผ่าน ๆ ) ต่างลงความเห็นเหมือนกันว่า คนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้ระดับความเครียดลดลง ถ้าต้องผ่าตัดก็ฟื้นตัวเร็วขึ้น มีสุขภาวะที่ดี และมีอายุที่ยืนยาวกว่า
เลยลองไปค้นอากู๋ (นี่ก็ว่าอีกหน่อยคงต้องไปถาม ChatGPT บ้าง) ดูว่า คำว่า ความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดีมันเป็นยังไง ?
อ่าน ๆ ดูแล้วชอบคำตอบนี้ที่สุดค่ะ
เค้าบอกว่า
ความสัมพันธ์ที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์ ความไว้วางใจ ความเคารพ และการสื่อสารที่เปิดกว้างสำหรับคู่รัก ทั้งคู่ต้องพยายามที่จะประนีประนอมกันด้วย ไม่มีใครข่มใครจนเสียดุลย์ ต่างฝ่ายต่างเคารพความเป็นอิสระของกันและกัน สามารถตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ เองได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกทำโทษหรือถูกแก้แค้นเอาคืน และยังสามารถร่วมตัดสินใจในบางเรื่องด้วยกันได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือประเภท มา act กลัวเมีย ให้ภรรยาเก็บเงิน ตัวเองเบิกค่าข้าววันละ 100
หรือในอีกทางตรงข้าม ฝ่ายหญิงเองก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้สามีพอใจ แม้ว่าตัวเองจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
แล้วเราก็เรียกมันว่า ความเสียสละ ?
มันใช่แบบนั้นจริง ๆ รึเปล่า ?
เอาจริง ๆ นะคะ
คำว่า ความสัมพันธ์ดี ๆ กว่ามันจะดีได้ มันไม่ใช่อยู่ ๆ มันจะดีขึ้นมาเลย
มันอาศัยการดูแล เลี้ยงดู ปรับแต่ง ความพยายาม การปรับตัว อะไร ๆ อีกหลายอย่างที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า “ลงทุน” ซึ่งเอาจริง ๆ มันเป็นการลงทุน
และการลงทุนในความสัมพันธ์นี่ มันมีมิติที่เข้มข้นที่มากกว่าแค่เงินด้วย แต่เป็นเรื่องของเวลา เรื่องของใจ และความทุ่มเทอะไร ๆ อีกหลายอย่าง
แน่นอนค่ะ
คำพูดที่ กลต. บังคับให้ใส่ใน script โฆษณาของการซื้อกองทุนทุกประเภท ยังคงใช้ได้เสมอ
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต”
ค่อย ๆ อ่านไปช้า ๆ นะคะ Wording พวกนี้เอามาใช้กับการลงทุนด้านความสัมพันธ์ได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน
เรา decode ได้ว่ายังไงบ้าง ?
การลงทุนมีความเสี่ยง -- จะจีบใคร หรือสนิทกับใคร ก็เสี่ยงทั้งนั้น เสี่ยงถูกปฏิเสธ เสี่ยงว่าพอเข้าไปสนิทแล้วจะเข้ากันไม่ได้
ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน -- ควรค่อย ๆ ศึกษา และทำความเข้าใจว่า คนที่คุณจะเข้าไปจีบ ทำความสนิทสนมนั้น ๆ เป็นคนแบบไหน ชอบอะไร มีเงื่อนไขอะไรบ้าง (อันนี้ก็ร้อยแปดพันเก้านะคะ ตั้งเงื่อนไขอะไรมาก็ไม่ใช่เรื่องผิดทั้งนั้น อยากได้คนสวยเลิศ คนหล่อล่ำ คนเงินเดือน 2 แสน คนที่เป็นดาวคณะ ฯลฯ คุณตั้ง offer ไป จะมีคนมา bid ไหม นั่นอีกเรื่อง)
ผลตอบแทนและความเสี่ยงมีอะไรบ้าง -- สาย VI ก็อาจมองคนที่ยังไม่เด่นนักแต่มีศักยภาพ สายเสี่ยง high risk high return ก็อาจจะวางเดิมพันไว้อีก
อย่าง
สาย day trade นี่ตัดทิ้งไปได้เลย ความสัมพันธ์ที่ดี ไม่สามารถใช้มุมมองของ day trade ซื้อง่าย ขายเร็ว มาจับได้
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต -- การที่เค้าหรือเธอดีกับแฟนคนเก่า ไม่ได้แปลว่า เค้าจะดีกับคุณเท่ากับที่เค้าเคยดีกับคนเก่านะจ๊ะ
คำว่า “ไม่เท่า” อาจแปลได้ว่า มากกว่า หรือ น้อยกว่า ก็ได้ค่ะ
ถ้าลงทุนในกองทุน เราใช้เงิน
ถ้าลงทุนในความสัมพันธ์ เราใช้อะไรล่ะ ?
ตอบแบบลุ่น ๆ ไม่ต้องคิด ก็คงตอบว่า “เงิน” อีก
มีส่วนถูกค่ะ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
คือ ถ้าบอกว่าไม่ใช้เงินเลย ก็ดูเลื่อนลอย เพราะในการทำความรู้จักขั้นต้น กินข้าว ดูหนัง ไปเดินเล่น นั่งรถไฟฟ้า มันก็ต้องจ่ายด้วยเงินทั้งนั้น
แต่ที่มากกว่านั้น และสำคัญที่สุดคือ
ความซื่อสัตย์ และความจริงใจ
ไหน ๆ เราพูดกันในสายลงทุน
ก็ต้องขอยก quote อันแสนคลาสสิคของปู่ Warren Buffet ที่ทุกคนคงคุ้นเคยกันดี
ปู่พูดไว้อย่างเจ็บแสบว่า
ความซื่อสัตย์เป็นของขวัญราคาแพง อย่าไปหวังว่าจะได้มันมาจากคนราคาถูก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่พูดกันอย่างยุติธรรมและเปิดกว้าง
ต้องบอกว่า ในความสัมพันธ์ มิติของคำว่าซื่อสัตย์ และนอกใจ มันมีหลายเหตุผล หลายระนาบที่ซับซ้อนมากกว่าการซื้อกองทุนรวมหลายเท่า
เดี๋ยวมีเวลายาว ๆ จะเขียนกระทู้เกี่ยวกับเรื่องสถิติการนอกใจ (ช่องทางการเข้าถึง สาเหตุ และตัวเลข) มาแชร์กันพอสนุก ๆ
กระนั้น ความซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน ถือเป็นสิ่งที่ต้องลงทุนอย่างมากในความสัมพันธ์
เพราะมันนำไปสู่ความไว้ใจ
ซึ่งความไว้ใจหรือ trust นี่แหละ ที่มันบางเบาแต่หนักแน่นเพี้ยงพสุธาและดิ่งลึกกว่ามหาสมุทร (สำนวนลิเกมาก ธาราสินธุ์)
มันยิ่งกว่าความรัก ความหวือหวา หรือองค์ประกอบอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
คู่ที่อยู่กันยาว ๆ หลายคู่ที่ดิฉันเห็นมา ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาด หรือยังคงเหลือความรู้สึกดี ๆ ต่อกันมากอยู่ส่วนหนึ่ง เพราะ trust หรือความรู้สึกว่า เราเชื่อใจคนนี้ได้
การมีคนรักและความสัมพันธ์ที่ healthy อย่างที่เกริ่นไว้ด้านบน ไม่เพียงแต่ทำให้มีความสุขในชีวิต แต่มันยังทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีความหมาย รู้สึกว่าตัวเองโชคดี และถ้าจะมองถึงผลตอบแทนในเชิงเศรษฐกิจจากการมีความสัมพันธ์ที่ดี ก็พบว่า มันช่วยประหยัดอะไร ๆ ได้หลายอย่าง ทั้งเงินทอง เวลา และสุขภาพ
การนอกใจนี่จริง ๆ แล้วมันมีต้นทุนที่สูงมาก ทั้งต้นทุนตรงและแฝง
เพราะฉะนั้น การลงทุนอย่างตั้งใจกับความสัมพันธ์ให้มันดีเนี่ย ชีวิตมันจะง่ายกว่าเยอะ แล้วคุณจะเหลือพลังงานไปทำอย่างอื่นในชีวิตได้ดีขึ้น
ปล.
เขียนเล่น ๆ คลายเครียด หลังจากการคุยงานเรื่องเครียด ๆ อย่างหนักหน่วงในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะต่อไปอีกหลายเดือนจากนี้