การเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินเดือน 10,000 บาท อาจดูเหมือนเป็นเรื่องท้าทาย แต่จริง ๆ แล้วเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีถ้าคุณมีวินัยและวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ต่อไปนี้คือคำแนะนำที่เป็นมิตรและเข้าใจง่ายสำหรับการเริ่มต้น:
1. เริ่มจากการจัดการรายได้-รายจ่าย
ก่อนจะเริ่มลงทุน คุณต้องแน่ใจก่อนว่าเงินเดือนของคุณถูกจัดสรรอย่างเหมาะสม:
30%: ใช้จ่ายจำเป็น (ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าน้ำ-ไฟ)
20%: เก็บออม (เงินฉุกเฉิน)
30%: ค่าเช่าหรือผ่อนที่พัก
20%: ลงทุนหรือความสุขส่วนตัว
ถ้ารู้สึกว่าใช้จ่ายเกิน ลองปรับลดหมวด "ความสุขส่วนตัว" หรือหาวิธีลดค่าใช้จ่ายจำเป็นค่ะ
2. เก็บเงินฉุกเฉินก่อน
ก่อนลงทุน ควรมี "เงินฉุกเฉิน" ไว้ประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ถ้าค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 7,000 บาท ควรมีเงินฉุกเฉินประมาณ 21,000-42,000 บาท
เก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำที่ถอนง่าย
ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย ตกงาน
3. เริ่มลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ
หากมีเงินออมฉุกเฉินครบแล้ว คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น:
✅ กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)
เหมาะสำหรับมือใหม่และเน้นความปลอดภัย
ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดอกเบี้ยเงินฝาก แต่สภาพคล่องดีกว่า
สามารถเริ่มลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
✅ พันธบัตรรัฐบาล หรือ สลากออมสิน
ความเสี่ยงต่ำมาก เหมือนฝากเงินกับรัฐ
ผลตอบแทนอาจไม่สูง แต่มั่นคง
4. ลงทุนในความรู้
เงินเดือน 10,000 อาจไม่ได้มากพอจะลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่การลงทุนในความรู้จะช่วยเพิ่มโอกาสในอนาคต เช่น:
ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน หรือพัฒนาทักษะใหม่ ๆ
เรียนคอร์สออนไลน์ในเรื่องที่คุณสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรม การออกแบบ หรือภาษา
5. ลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging)
ลงทุนทีละน้อยอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เช่น 500 หรือ 1,000 บาท
ตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่:กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) เช่น SET50
หุ้นพื้นฐานดี (สำหรับคนศึกษาหุ้นแล้ว)
กองทุนรวมผสม (Balanced Fund)
6. ใช้แอปพลิเคชันช่วยวางแผนการลงทุน
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายและไม่มีขั้นต่ำ เช่น:
FINNOMENA: แนะนำกองทุนรวม
SCB Easy Invest: ลงทุนกองทุนและพันธบัตร
Bitkub: สำหรับผู้ที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัล (ต้องเข้าใจความเสี่ยงก่อนลงทุน)
7. สร้างรายได้เสริมควบคู่ไปกับการลงทุน
ถ้าเงินเดือน 10,000 บาทรู้สึกตึงตัวเกินไป ลองหารายได้เสริมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการลงทุน เช่น:
ขายของออนไลน์
รับงานฟรีแลนซ์
เขียนบล็อก/ทำคอนเทนต์ในหัวข้อที่คุณสนใจ
ตัวอย่างแผนการลงทุน
เดือนที่ 1-6: สร้างเงินฉุกเฉิน เดือนละ 2,000 บาท
เดือนที่ 7-12: เริ่มลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน เดือนละ 1,000 บาท
ปีถัดไป: เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนความเสี่ยงปานกลาง
ถ้าเงินเดือน 10,000 ควรเริ่มลงทุนยังไง? (แนวคิด)
1. เริ่มจากการจัดการรายได้-รายจ่าย
ก่อนจะเริ่มลงทุน คุณต้องแน่ใจก่อนว่าเงินเดือนของคุณถูกจัดสรรอย่างเหมาะสม:
30%: ใช้จ่ายจำเป็น (ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าน้ำ-ไฟ)
20%: เก็บออม (เงินฉุกเฉิน)
30%: ค่าเช่าหรือผ่อนที่พัก
20%: ลงทุนหรือความสุขส่วนตัว
ถ้ารู้สึกว่าใช้จ่ายเกิน ลองปรับลดหมวด "ความสุขส่วนตัว" หรือหาวิธีลดค่าใช้จ่ายจำเป็นค่ะ
2. เก็บเงินฉุกเฉินก่อน
ก่อนลงทุน ควรมี "เงินฉุกเฉิน" ไว้ประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ถ้าค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 7,000 บาท ควรมีเงินฉุกเฉินประมาณ 21,000-42,000 บาท
เก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์หรือฝากประจำที่ถอนง่าย
ใช้สำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น เจ็บป่วย ตกงาน
3. เริ่มลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ
หากมีเงินออมฉุกเฉินครบแล้ว คุณสามารถเริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น:
✅ กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Fund)
เหมาะสำหรับมือใหม่และเน้นความปลอดภัย
ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดอกเบี้ยเงินฝาก แต่สภาพคล่องดีกว่า
สามารถเริ่มลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
✅ พันธบัตรรัฐบาล หรือ สลากออมสิน
ความเสี่ยงต่ำมาก เหมือนฝากเงินกับรัฐ
ผลตอบแทนอาจไม่สูง แต่มั่นคง
4. ลงทุนในความรู้
เงินเดือน 10,000 อาจไม่ได้มากพอจะลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง แต่การลงทุนในความรู้จะช่วยเพิ่มโอกาสในอนาคต เช่น:
ซื้อหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน หรือพัฒนาทักษะใหม่ ๆ
เรียนคอร์สออนไลน์ในเรื่องที่คุณสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรม การออกแบบ หรือภาษา
5. ลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging)
ลงทุนทีละน้อยอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เช่น 500 หรือ 1,000 บาท
ตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่:กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) เช่น SET50
หุ้นพื้นฐานดี (สำหรับคนศึกษาหุ้นแล้ว)
กองทุนรวมผสม (Balanced Fund)
6. ใช้แอปพลิเคชันช่วยวางแผนการลงทุน
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายและไม่มีขั้นต่ำ เช่น:
FINNOMENA: แนะนำกองทุนรวม
SCB Easy Invest: ลงทุนกองทุนและพันธบัตร
Bitkub: สำหรับผู้ที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัล (ต้องเข้าใจความเสี่ยงก่อนลงทุน)
7. สร้างรายได้เสริมควบคู่ไปกับการลงทุน
ถ้าเงินเดือน 10,000 บาทรู้สึกตึงตัวเกินไป ลองหารายได้เสริมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการลงทุน เช่น:
ขายของออนไลน์
รับงานฟรีแลนซ์
เขียนบล็อก/ทำคอนเทนต์ในหัวข้อที่คุณสนใจ
ตัวอย่างแผนการลงทุน
เดือนที่ 1-6: สร้างเงินฉุกเฉิน เดือนละ 2,000 บาท
เดือนที่ 7-12: เริ่มลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน เดือนละ 1,000 บาท
ปีถัดไป: เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นหรือกองทุนความเสี่ยงปานกลาง