++มีใครเคยนำเงินไปฝากแล้วเจ้าหน้าที่ธนาคารนับเงินฝากเราไม่ครบบ้างมั้ยคะ? ทางธนาคารเค้าจะคืนเงินให้เรามั้ย?++ T_T

เนื่องจากนี่เป็นกระทู้แรกของเราเลย สมัครมาเพื่อสอบถามจริงๆ อาจจะยาวหน่อยนะคะ เพราะเราพยายามจะลงรายละเอียดทั้งหมดเท่าที่เราจำได้ รบกวนทุกคนช่วยเข้ามาแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ


เรามีเงินอยู่จำนวน 240,000 บาท (เป็นเงินที่เราและพี่ๆรวบรวมกันเพื่อจะนำไปให้แม่ คิดว่าจะทำเซอร์ไพรส์แม่) แบ่งเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท 100 ใบ จำนวน 2 มัด และ ธนบัตรใบละ 1,000 บาท ที่แยกมัดออกมาอีก 40 ใบ (ขอใช้คำว่า มัด เพราะไปเบิกออกมาจากธ.แห่งหนึ่ง “ธนาคาร B” ที่เค้าใส่สายรัดธนบัตรเอาไว้ เราเข้าใจว่าหมายถึง มัดนี้มี 100 ใบ โดยที่สายรัดมีรอยดินสอเขียนว่า 100 อยู่ด้วย) เงินจำนวนนี้เรานับแล้ว 3 รอบว่าครบจำนวนตั้งแต่ที่อยู่ใน“ธนาคาร B” แล้วพอกลับมาถึงบ้านก่อนใส่ตู้เซฟก็นับอีกครั้งก่อนจะเก็บ

เหตุการณ์มันมีอยู่ว่า.....เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เรากับแม่ ได้นำเงินไปฝากที่ธ.แห่งหนึ่ง ขอใช้เป็นคำว่า ธนาคาร A ที่เป็นสาขาที่ตั้งอยู่ในห้าง เมื่อเราไปถึงเราก็กดคิว เพื่อรอฝาก แล้วก็ไปนั่งรออยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์รับฝากเงิน ระหว่างนั้น เราก็ได้นำเงินจากที่ใส่อยู่ในซองน้ำตาลของ“ธนาคาร B” ออกมานับ  โดยเราเองนับเงินแค่ 40,000 บาทจากมัดที่เป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาท 40 ใบ ส่วนอีก 200,000 บาท เราคิดว่าเรานับมาแล้วหลายรอบแล้ว เราเลยไม่ได้นับที่ธนาคาร A อีกครั้ง และเมื่อหยิบออกมาดู สายรัดก็ยังแน่นปกติ เลยคิดว่าครบ 100 ใบแน่ๆ (à คิดว่าเป็นจุดที่เราสะเพร่าจุดที่ 1) พอนับเสร็จ 40 ใบเราก็เก็บเข้าซอง ระหว่างนั้นก็นั่งคุยเล่นกับแม่ไปเรื่อยๆ

ต่อมา เมื่อถึงคิวเรา เมื่อไปถึงหน้าเคาน์เตอร์สมมติว่าเป็น “เคาน์เตอร์ 1” เราแจ้งจนท.ธ. ว่าเราจะฝากเงิน 240,000 บาท จนท.ธ.ก็หยิบใบฝากมาให้เรา แล้วเค้าก็ขอซองน้ำตาลที่ใส่เงินของเราไป ช่วงจังหวะนั้นเราก้มลงเขียนใบฝาก โดยที่ไม่ได้มองว่าจนท.ธ. กำลังแกะสายรัดเงินของเราออกทั้งหมด (à คิดว่าเป็นจุดที่เราสะเพร่าจุดที่ 2 เพราะเค้าไม่ได้เรียกเราว่าเค้าแกะสายรัดออกมา จะนับเงินแล้วนะ เราเลยไม่ทันได้มอง) แล้วจนท.ธ. ก็นำไปเข้าเครื่องนับเงินที่วางอยู่ในเคาน์เตอร์ของจนท.ธ. (เป็นเครื่องนับธนบัตรเครื่องเล็ก ที่เค้าใช้ตรวจแบงค์ปลอม & นับเงินในเครื่องเดียว ที่เราจะเห็นแค่หน้าจอมอนิเตอร์เล็กๆ ว่าเครื่องนับได้เป็นจำนวนเท่าไร) ผลปรากฏว่า เครื่องนับได้แค่ 235,000 บาท ตอนนี้เงินเราหายไป 5,000 บาท T_T
พอจนท.ธ. แจ้งว่ามีแค่ 235,000 บาท เราก็ยืนยันว่า เรานำเงินมาฝาก 240,000 บาทแน่ๆ ให้จนท.ธ. ดูบริเวณนั้นว่าทำเงินหล่นมั้ย พร้อมกับที่เราก็รีบเปิดกระเป๋าดูว่า นำเงินออกมาครบมั้ย และไปดูบริเวณที่เรานั่งรอ เผื่อว่าเราทำเงินหล่น แต่ก็ไม่เจอ ระหว่างนั้นเราเองก็เพิ่งสังเกตเห็นว่า เครื่องนับเงินที่เค้าใช้นับให้เรา “จนท.ธ. เคาน์เตอร์ 2” ที่อยู่ข้างๆก็ใช้เครื่องนับเงินเครื่องนี้ด้วย เราก็รีบบอกว่า เงินมันติดอยู่ในเครื่องหรือเปล่า ให้รีบตรวจสอบ แต่ “จนท.ธ. เคาน์เตอร์ 2” ก็ได้ใช้เครื่องนั้นไปแล้ว นับเงินลงลิ้นชักไปแล้ว ค่อยแจ้งว่าไม่มีเงินติดอยู่ในเครื่อง ตอนนั้นเราเริ่มใจไม่ดีแล้ว เพราะเคยได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่า มีคนนำเงินไปฝากแล้วพอเค้านับเงินแล้วก็เจอว่าเงินไม่ครบ เราก็เลยพยายามแจ้งให้จนท.ธ. “เคาน์เตอร์ 1” ที่รับเงินไปจากเราให้หาดีๆ ซึ่งสุดท้ายก็หาไม่เจอ เค้าจึงไปแจ้งผจก. สาขา โดยในตอนแรกผจก. สาขา เค้าติดเคสอื่นอยู่ในห้องทำงานของเค้า เค้าจึงให้เรารออยู่หน้าห้องประมาณครึ่งชม. โดยที่ จนท.ธ. “เคาน์เตอร์ 1” กลับไปทำงานตามปกติ ไม่ได้มาสนใจอะไรเราเลย ระหว่างนั้นเราก็รีบหาข้อมูลว่า ใครเจอแบบเราบ้าง แล้วเค้าต้องทำยังไง เราก็เจอว่าต้องไปแจ้งความเพื่อมาขอดูกล้อง พอเราได้เข้าพบผจก.สาขา. เราเลยลองขอดูกล้อง เค้าก็ให้เราดู ซึ่งทำให้เรารู้ว่า มีจุดน่าสงสัยหลายจุด 

เราขอเรียงลำดับเหตุการณ์จากที่เราเห็นในกล้องที่ส่องออกจาก“เคาน์เตอร์ 1” ดังนี้

1. กล้องจับภาพเรากำลังนั่งนับเงินได้อยู่ไม่ไกลมาก เห็นเป็นเราขยับมือประมาณ 37-38 ครั้งแล้วเราทำมือรวบเก็บ ซึ่งตรงนี้พอเวลาเรานับเงินแบบนับทีละใบ วางเงินไว้ที่มือซ้าย 40 ใบแล้วใช้มือขวา-นิ้วโป้งหยิบออกมานับทีละใบ แล้วตอนสุดท้ายเราเห็นว่ามีเหลืออยู่ที่มือซ้าย 2-3 ใบเราก็ไม่ได้นับต่ออีก ทุกคนนึกภาพออกมั้ยคะ ตรงจุดนี้กล้องเลยเห็นเราขยับมือประมาณ 37-38 ครั้ง ตอนแรกเราก็ว่าเราโชคดี บังเอิญมานั่งอยู่แถวๆที่มีกล้องแต่กล้องธนาคารคุณภาพแย่มากกกกกก ไม่มีความคมชัดเลย จึงบอกได้แค่ว่าเห็นเราขยับมือแค่นั้นเอง

2. เมื่อเรามาถึง “เคาน์เตอร์ 1” เราพูด - จนท.ธ.ยื่นใบฝาก และขอซองน้ำตาลของเราไป - เราก้มลงเขียนใบฝาก จนท.ธ.ดึงเงินออกมา - คืนซองน้ำตาลให้เรา - แล้วจนท.ธ.“เคาน์เตอร์ 1” ก็แกะสายรัดเงินของเราออกมา โดยนำไปเข้า “เครื่องนับเงินเครื่องที่ 1” ที่วางอยู่ซ้ายมือของจนท.ธ.“เคาน์เตอร์ 1” แล้วเครื่องน่าจะมีปัญหา (เพราะเราเห็นเค้าดึงเงินของเราจากที่เหลืออยู่ด้านบนและด้านล่าง) - เอาไปเข้า“เครื่องนับเงินเครื่องที่ 2” ที่อยู่ด้านขวาของเค้า และเป็นเครื่องของ “จนท.ธ.เคาน์เตอร์ 2” à เราก้มเขียนอยู่ จนท.ธ. ไม่ได้แจ้งเราเลยว่าเข้ามีการนับเงินแล้ว หรือขอย้ายเครื่องนับเงิน (ตอนแรกไม่รู้ตัวเลยว่าเค้าย้ายเครื่อง)

3. ระหว่างที่จนท.ธ. ใช้ “เครื่องนับเงินเครื่องที่ 2” เราสังเกตเห็นว่า เค้าไม่ได้นับครั้งละมัด เค้าแกะสายรัดของเราออกทั้งหมด แล้ววางต่อๆกันบน “เครื่องนับเงินเครื่องที่ 2” เลย ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินหายไปจากมัดไหน ซึ่งจากที่เราสอบถาม พอเครื่องนี้นับครบ 100 มันจะหยุดแล้วจนท.ธ.จะเอาสายรัดของธนาคาร A มารัดแทน ซึ่งเค้ามัดได้ 2 มัด จังหวะนี้เราเงยหน้าขึ้นมามองเราเห็นว่า นับได้ 100 อยู่ 2 ครั้ง แล้วครั้งสุดท้ายคือ 35 ซึ่งเราก็แปลกใจว่าทำไมได้แค่ 35 แต่ก็นึกว่ามันอาจจะค้างอยู่ข้างล่างหรือเปล่า แต่จริงๆจุดนี้คือเงินหายไปแล้ว

จุดที่เราคาใจ คือ 
1. ทำไมจนท.ธ. ที่รับเงินจากเราไป ไม่เรียกเราดูว่า เค้ากำลังนับเงินของเราอยู่ เพราะจำนวนมันก็ไม่ใช่น้อยๆ

2. ทำไมจนท.ธ. ไม่ใช้เครื่องนับเงินเครื่องใหญ่ที่อยู่ด้านหลังเพื่อให้เราเห็นเงินของเรา เพราะเค้าใช้เครื่องนับธนบัตรเครื่องเล็กที่วางอยู่ในเคาน์เตอร์ของเค้า เราจะเห็นแค่หน้าจอ แต่ไม่เห็นว่า เงินเราหล่นลงไปที่ไหน เพราะเคาน์เตอร์มันบังอยู่

(เราใช้ ธนาคาร A บ่อยๆเนื่องจากเป็นบช.เงินเดือน ปกติถ้านำเงินไปฝากเข้าเยอะๆ ขั้นตอนแรกเค้าจะแจ้งเราก่อนเอาเงินเข้าเครื่องนับที่เป็นเครื่องปั่น หลังจากนั้นเค้าจะมานับมือ แล้วค่อย confirm ยอดฝากกับเรา à ซึ่งขั้นตอนแบบนี้ เราไปที่ธนาคารไหนถ้าฝากเงินเกิน 100 ใบ จะทำแบบนี้ทั้งหมด เรามีบช.เงินออมอยู่หลายธนาคาร ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่ผิดขั้นตอนแบบนี้ เลยไม่ทันได้ระวัง)

3. หลังจากที่เรายืนยันว่าเรานำเงินไปฝากครบ แล้วตั้งข้อสงสัยว่า เงินติดอยู่ใน“เครื่องนับเงินเครื่องที่ 2” หรือไม่ ทำไม“จนท.ธ.เคาน์เตอร์ 2” ยังคงใช้เครื่องต่อไป โดยที่ไม่หยุดแกะเครื่อง ตรวจสอบให้เราก่อน แล้วก็มัดเงินเก็บลงไปที่ลิ้นชักของเค้าโดยที่ไม่สนใจเราเลย

จากเหตุการณ์นี้ เราได้โทรไปร้องเรียนกับ Call center ของธนาคาร A นี้เลย ตั้งแต่เราอยู่ในธนาคาร เค้าแจ้งว่าจะรีบประสานงานแล้วตรวจสอบให้ และมีข้อความส่งมา ประมาณว่า ธนาคารจะดำเนินการขั้นตอนต่อไปภายใน 3 วันทำการ แล้วเราก็ได้แจ้งฝ่ายประสานงานของทางห้างเพื่อสอบถามหาว่าห้างนี้มีตำรวจสายตรวจหรือไม่ ซึ่งทางห้างก็ดีมากๆ ได้ส่งจนท.มาช่วยเหลือและคอยประสานงานเรียกตำรวจสายตรวจมาให้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องไปสถานีตำรวจเองอีกครั้ง เพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดและลงบันทึกไว้อีกที โดยเราและตำรวจสายสืบ ได้กลับมาที่ห้างอีกครั้ง พร้อมทั้งดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ทางสายสืบก็ออกมาบอกกับเราว่า เค้ามองไม่เห็นว่า จนท.ธ. เอาเงินเราไป พูดประมาณว่าให้เราทำใจ เพราะเค้าเองก็ไม่เห็นว่าใครเอาเงินไป หากเราจะแจ้งความ หลักฐานก็อ่อนมาก เราก็ใจเสียแล้ว แต่แม่เราก็มั่นใจว่าหายที่ธนาคารนี้แน่ๆ เพราะนับกันมาหลายรอบจริงๆ เลยกลับไปแจ้งความแล้วลงบันทึกไว้ที่สน.อีกที จากที่เรานำเงินไปฝาก แล้วเงินหาย จนไปแจ้งความ ตั้งแต่ 11.30 น. จนแล้วเสร็จ 23.00 น. โดยประมาณ 

ซึ่งในระหว่างที่เรานั่งรออยู่ในธนาคารประมาณ 5 ชั่วโมง ทางผจก.สาขา ได้มาพูดกับเราหลายรอบ โดยครั้งแรก ได้มายอมรับกับเราว่า ทางน้องจนท.ธ.“เคาน์เตอร์ 1” ได้ทำการนับเงินผิดขั้นตอนจริง แต่ขอให้เรายอมรับสภาพไปว่า ตอนนี้มีเงินแค่ 235,000 บาท เพราะไม่รู้ว่าหายตรงไหน ซึ่งทางเราไม่ยอม จนมารอบหลังๆ ก็มาพูดว่าน้องไม่มีเงินมาชดใช้ให้เราหรอก ให้เรายอมๆไป จนเราต้องโทรหา Call center และทางห้างตามที่เราเล่ามา

สิ่งที่เราสงสัยและมาขอความคิดเห็นเพื่อนๆ คือว่า จากที่เราเล่ามา เรามีโอกาสได้เงินคืนหรือไม่คะ?

เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องวันที่ 25 มี.ค. ต่อมาวันที่ 29 มี.ค. มีข้อความส่งมาว่า ดำเนินการแก้ไขข้อร้องเรียนเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีใครโทรมาแจ้งอะไรกับเราเลย จนวันต่อมาเราต้องโทรไปหา Call center เอง เค้าก็แจ้งว่ามันจำเป็นจะต้องปิดตามระบบภายใน 3 วันประมาณนั้น ไม่ได้หมายความว่าจบเรื่อง เค้าก็กำลังให้ตำรวจดูให้อยู่ แล้วหลังจากนั้นเราก็ยังไม่ได้คำตอบอีกเลย เราเลยมาตั้งกระทู้ถาม ว่าเราจะมีโอกาสได้เงินคืนหรือไม่คะ ทางธนาคารเค้าจะแก้ปัญหาให้เราอย่างไรได้บ้างคะ เพราะเรามั่นใจว่าเรานำไปฝากครบจริงๆ มาหายที่ธนาคาร A แน่ๆค่ะ 

ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยแสดงความคิดเห็นล่วงหน้าเลยค่ะ -/\-

ปล.เราไม่ใช่มิจฉาชีพนะ เป็นเพียงแค่คนที่พยายามเก็บออมจริงๆ แล้วก็อุตส่าห์เปิดบช.ออนไลน์ให้แม่ที่ได้ดอกเบี้ย 1.5% จะได้ให้แม่มีดอกใช้เยอะๆ ซึ่งเงินตรงนี้เป็นเงินที่รวบรวมมาจากลูกๆหลายๆคน ตั้งใจนำมาให้แม่ กะไว้ว่าให้แม่ชื่นใจ เลยรวบรวบกันแล้วไปเบิกออกมาทีเดียวเพื่อจะได้ให้เงินแม่เป็นมัดๆ ให้แม่ได้จับเงินเป็นปึกๆ อารมณ์ที่เราตั้งใจคือประมาณนี้ แต่สรุปว่าวันนั้น คือเสียใจไปเลย ที่เกิดเรื่องขึ้นทั้งหมด เพราะจริงๆแค่โอนไปเข้าบช.แม่ก็จบแล้ว ไม่น่าคิดเซอร์ไพรส์เลย T_T ถึงเงินจะไม่ได้เยอะมากแต่เราก็ตั้งใจเก็บกันมา 5,000 บาทที่เสียไป มันก็น่าเสียดายอยู่ที่ต้องมาหายไปแบบนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่