อัพเดทราคาหุ้น TFEX และทองคำ 5/4/2023

สวัสดีครับๆ เพื่อนนักเทรดชาว TFEXCLUB  เป็นอย่างไรบ้างครับวันนี้ 

มาดูข่าวแรกกันนะครับ 
ตลาดหุ้นไทยดัชนีร่วง 6.32 จุด
บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 4 เม.ย. 66 เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ทำให้ตลาดกังวลต่อความตึงตัวของอุปทานและราคาพลังงานที่ฟื้นตัว อาจเป็นปัจจัยกดดันให้เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะมีผลต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมครั้งถัดไป ส่งผลให้ ณ เวลา 17.02 น. ดัชนีปิดที่ 1,594.05 จุด ลดลง 6.32 จุด หรือ 0.39% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 41,628.88 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 536.39 จุด ลดลง 5.25 จุด หรือ 0.97% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,162.82 ล้านบาท
ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดแข็งค่า หลุด 34 ผวาเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักหลังจากที่สหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือน ก.พ. พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานปรับตัวลง 632,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564 และต่ำกว่าระดับ 10 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 10.4 ล้านตำแหน่ง  ปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าการจ้างงานในสหรัฐกำลังชะลอตัวลงมากเกินไป ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจ และอาจฉุดรั้งเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในวันข้างหน้านักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐที่จะประกาศอีกในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันพุธจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ส่วนในวันพฤหัสบดีจะเป็นจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเป็นตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มี.ค.

แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อปิดความเสี่ยงและผู้ส่งออก แนะนำขายเงินตราต่างประเทศที่เหนือระดับ 34.15 บาทต่อดอลลาร์ 


KH  5/4/23
🏍  KTB รุกดิจิทัลเต็มสูบ อัดลงทุน 1.2 หมื่นล้าน
🏍  AOT รับเที่ยวสงกรานต์คึก กำไรปีนี้ทะยาน 1.5 หมื่นล้าน
🏍  CK-BEM จ่อกำไรนิวไฮ รถไฟฟ้า-ทางด่วนขาขึ้น
🏍  AMATA จัดทัพธุรกิจน้ำไฟ สปินออฟลูกเข้าตลาดฯ
🏍  11 หุ้นกองทุนถือมากสุด AOT-GULF-ADVANC นำทีม
🏍  DTCENT อัพไซด์ 62% เป้าหมาย 3.24 บาท
🏍  PRTR ชี้บอยท่าพระจันทร์ เข้าซื้อหุ้นในกระดาน 4.08% ยันผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้ขาย
🏍  RAM เปิด รพ.รามคำแหง 2 ไตรมาสนี้ รายได้ปีนี้โตกว่าปีก่อนรับผู้ป่วยพุ่ง
🏍  ITNS ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 30% จ่อประมูลงานใหม่ 1.4 พันล้าน
🏍  AMR อัดงบ 121 ล้านซื้อหุ้นยูฯ จับมือพันธมิตรตั้ง 2 บ.ร่วมทุน
🏍  JR เฮ! คว้างานกฟน. 51 ล้าน ชูแบ็กล็อกพุ่ง ดันรายได้ปีนี้โต 15-20%
🏍  TPCH โชว์ COD โรงไฟฟ้า PBB ดันกำลังผลิตแตะ 119.30 MW เล็งลงทุนตปท.
🏍  STECH รายได้ปีนี้ 2.25 พันล้านโต 6% แบ็กล็อก 1.2 พันล.คลอดสินค้าใหม่
🏍  PF ลุยเปิด 4 โครงการ 4,950 ล้าน Q2 นี้ เตรียมเซ็นขายที่ดิน 830 ล้าน หวังลดหนี้-ทำกำไร
🏍  EP ปลื้ม!ปิดขายหุ้นกู้ มูลค่ากว่า 1.1 พันล้าน จ่อสร้างโซลาร์ฟาร์ม
🏍  PRIME ลุ้นผลโซลาร์วันนี้ จ่อคว้า 6 โครงการ 125 MW เตรียมลุยเฟส 2
🏍  ตลท. เปิดเทรด SMK ชั่วคราว 10 เม.ย. – 9 พ.ค. ก่อนแขวน SP
🏍  SJWD ผนึกพาร์ตเนอร์ขยายธุรกิจ เปิดสาขาใหม่ ‘พัทยา-บางซื่อ’
🏍  SABUY ลุยจัดแคมเปญ ‘เติมสบายพลัสใจป้ำฯ’ ดันยอดใช้บริการหน้าตู้
🏍  TEAMG ลั่นปีนี้รายได้-กำไรเด้ง โชว์แบ็กล็อก 4.1 พันล้าน ลุ้นสิ้นปีพุ่ง 5 พันล้าน

IQ>   ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 198.77 จุด นลท.กังวลเศรษฐกิจถดถอย

          สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 66)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (4 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย
          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,402.38 จุด ลดลง 198.77 จุด หรือ -0.59%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,100.60 จุด ลดลง 23.91 จุด หรือ -0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,126.33 จุด ลดลง 63.13 จุด หรือ -0.52%
          ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีร่วงลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ประจำเดือนก.พ. พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานปรับตัวลง 632,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2564 และต่ำกว่าระดับ 10 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.4 ล้านตำแหน่ง
          ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS เป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
          หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลข JOLTS ได้ไม่นาน นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 60% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนัก 43.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
          แซล บรูโน นักวิเคราะห์จากบริษัท IndexIQ ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานปรับตัวลดลงอย่างมาก ทำให้นักลงทุนกังวลว่าการจ้างงานในสหรัฐกำลังชะลอตัวลงมากเกินไป ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเศรษฐกิจ และอาจฉุดรั้งเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยในวันข้างหน้า
          ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐร่วงลง 0.7% ในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.5% หลังจากดิ่งลง 2.1% ในเดือนม.ค. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน ลดลง 0.1% ในเดือนก.พ. โดยยอดสั่งซื้อประเภทนี้เป็นมาตรวัดความเชื่อมั่นและแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ
          หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลง 2.25% และดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.72% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น 0.52%
          หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากนายเจมี ไดมอน ซีอีโอของธนาคารเจพีมอร์แกนระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่า "วิกฤตในภาคธนาคารสหรัฐยังคงมีอยู่ และจะส่งผลกระทบต่อเนื่องอีกหลายปี  การล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ และเครดิต สวิสในเดือนที่แล้ว ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอย และแม้เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เหมือนกับปี 2551 แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าวิกฤตการณ์จะสิ้นสุดลงเมื่อใด ขณะที่ตลาดการเงินตึงตัวมากขึ้น เนื่องจากธนาคารและสถาบันการเงินจะใช้นโยบายที่รัดกุมมากขึ้น"
          ทั้งนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.13% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 2.41% หุ้นเจพีมอร์แกน ลดลง 1.34% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.15% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 1.33%
          หุ้นเวอร์จิน ออร์บิต (Virgin Orbit) ซึ่งบริษัทวิศวกรรมการบินของนายริชาร์ด แบรนสัน ดิ่งลง 23.2% หลังจากบริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐเพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรการ 11 ของกฎหมายล้มละลาย ภายหลังจากบริษัทไม่สามารถระดมเงินทุนเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
          นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยในวันพุธจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP ส่วนในวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.
  
โดย รัตนา พงศ์ทวิช
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่