ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภหลวงตารูปหนึ่งผู้วิ่งหนีตายไปตกหลุมส้วมเปื้อนอุจจาระเต็มตัว ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นราชสีห์อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งที่ภูเขาในป่าหิมพานต์ ในที่ไม่ไกลจากภูเขานั้นมีหมูป่าฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ริมสระน้ำแห่งหนึ่ง และที่ใกล้ๆ สระน้ำนั้นมีฤาษีกลุ่มหนึ่งบำเพ็ญเพียรอยู่
อยู่มาวันหนึ่ง ราชสีห์เที่ยวหาอาหารกินอิ่มแล้วได้มาดื่มน้ำที่สระนั้น ขณะนั้นมีหมูป่าอ้วนตัวหนึ่งเที่ยวหากินอยู่ริมสระนั่นพอดี ราชสีห์พอเห็นหมูนั้นแล้วก็นึกในใจว่า
"สักวันหนึ่ง เราจะมาจับหมูตัวนี้กิน แต่ถ้ามันเห็นเรา มันจะไม่มาที่นี่อีก"
เพราะกลัวหมูนั่นเห็น ราชสีห์จึงหลบไปเสียอีกทางหนึ่ง ฝ่ายเจ้าหมูอ้วนตัวนั้นพอเห็นราชสีห์แอบไปข้างหนึ่ง กลับคิดในใจว่า
"ราชสีห์ตัวนี้กลัวเรา พอเห็นหน้าเราแล้วก็วิ่งหลบหนีไป วันนี้เราจะต่อสู้กับราชสีห์ตัวนี้ล่ะ"
หมูจึงชูหัวร้องเรียกราชสีห์ให้มาต่อสู้กันว่า
"สหาย เราก็มี ๔ เท้า ท่านก็มี ๔ เท้าเหมือนกัน กลับมาสู้กันก่อนเถิด ท่านกลัวเราหรือจึงวิ่งหนีไป?"
ราชสีห์พอได้ฟังคำท้าของหมูป่านั้นก็พูดขึ้นว่า
"เจ้าหมูป่าเพื่อนเกลอ วันนี้เราไม่สู้กับท่านหรอก แต่อีก ๗ วัน เรามาสู้กันที่นี่ก็แล้วกันนะ"
ทั้งสองตกลงกันตามนั้นแล้วราชสีห์ก็กลับเข้าป่าไป ฝ่ายเจ้าหมูป่ารู้สึกเบิกบานใจที่จะได้ต่อสู้กับราชสีห์ จึงนำเรื่องนี้กลับไปเล่าอวดพวกพ้องของตนเป็นการใหญ่ พวกหมูป่าต่างตกใจด่ามันว่า
"เจ้าหมูอ้วนบ้า เจ้าหาเรื่องsิบหายมาให้พวกเราเสียแล้ว เจ้าไม่เจียมหัวกบาลตัวเองแท้ๆ ไปท้าสู้กับเจ้าไพร ราชสีห์จะมาเขมือบพวกเราก็ครั้งนี้ละ"
มันพอทราบว่าเป็นความผิดร้ายแรงที่ไปท้าสู้กับราชสีห์ ก็เลยเกิดกลัวตายขึ้นมา จึงถามว่า
"แล้วทีนี้ฉันจะทำอย่างไรดีละท่านทั้งหลาย?"
พวกหมูป่าจึงแนะนำมันว่า "เพื่อนเอ๋ย เจ้าจงไปที่ถ่ายอุจจาระของพวกฤาษี เกลือกตัวด้วยอุจจาระนั้นแล้วปล่อยให้แห้งติดตัวสัก ๗ วัน พอถึงวันที่ ๗ ก็เกลือกตัวให้ชุ่มด้วยน้ำค้างตอนเช้า แล้วไปยืนอยู่เหนือลมก่อนที่ราชสีห์จะมา ชีวิตเจ้าก็จะรอดมาได้"
หมูอ้วนได้ตกลงทำตามนั้น
ในวันนัดต่อสู้กัน ราชสีห์พอมาถึงได้กลิ่นตัวหมูป่าอ้วนตัวนั้นก็พูดขึ้นว่า
"เจ้าหมูป่าเพื่อนเกลอ ท่านช่างคิดหาชั้นเชิงได้ดีมาก หากท่านไม่เปื้อนอุจจาระเราจะเขมือบท่านเสียตรงนี้แหละ ครั้งนี้เราขอยอมแพ้ ให้ท่านเป็นฝ่ายชนะก็แล้วกัน" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"สุกร..เจ้าเป็นสัตว์สกปรก มีขนเหม็นเน่า มีกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไป สหาย..หากท่านประสงค์จะสู้กับเรา เราขอยกชัยชนะให้แก่ท่าน"
ว่าแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว
ฝ่ายเจ้าหมูป่าอ้วนก็รีบกลับไปบอกถึงชัยชนะของตนแก่พวกพ้องทราบ แล้วก็พากันอพยพหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะกลัวราชสีห์จะมารังควาน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
( ที่มา : หนังสือนิทานชาดก โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม
http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt42.php )
🌷🤍🌷 นิทานชาดก ๐๔๒ (สูกรชาดก) : หมูท้าชนราชสีห์ 🌷🤍🌷
"สักวันหนึ่ง เราจะมาจับหมูตัวนี้กิน แต่ถ้ามันเห็นเรา มันจะไม่มาที่นี่อีก"
"ราชสีห์ตัวนี้กลัวเรา พอเห็นหน้าเราแล้วก็วิ่งหลบหนีไป วันนี้เราจะต่อสู้กับราชสีห์ตัวนี้ล่ะ"
"สหาย เราก็มี ๔ เท้า ท่านก็มี ๔ เท้าเหมือนกัน กลับมาสู้กันก่อนเถิด ท่านกลัวเราหรือจึงวิ่งหนีไป?"
ราชสีห์พอได้ฟังคำท้าของหมูป่านั้นก็พูดขึ้นว่า
"เจ้าหมูป่าเพื่อนเกลอ วันนี้เราไม่สู้กับท่านหรอก แต่อีก ๗ วัน เรามาสู้กันที่นี่ก็แล้วกันนะ"
"เจ้าหมูอ้วนบ้า เจ้าหาเรื่องsิบหายมาให้พวกเราเสียแล้ว เจ้าไม่เจียมหัวกบาลตัวเองแท้ๆ ไปท้าสู้กับเจ้าไพร ราชสีห์จะมาเขมือบพวกเราก็ครั้งนี้ละ"
มันพอทราบว่าเป็นความผิดร้ายแรงที่ไปท้าสู้กับราชสีห์ ก็เลยเกิดกลัวตายขึ้นมา จึงถามว่า
"แล้วทีนี้ฉันจะทำอย่างไรดีละท่านทั้งหลาย?"
พวกหมูป่าจึงแนะนำมันว่า "เพื่อนเอ๋ย เจ้าจงไปที่ถ่ายอุจจาระของพวกฤาษี เกลือกตัวด้วยอุจจาระนั้นแล้วปล่อยให้แห้งติดตัวสัก ๗ วัน พอถึงวันที่ ๗ ก็เกลือกตัวให้ชุ่มด้วยน้ำค้างตอนเช้า แล้วไปยืนอยู่เหนือลมก่อนที่ราชสีห์จะมา ชีวิตเจ้าก็จะรอดมาได้"
หมูอ้วนได้ตกลงทำตามนั้น
"เจ้าหมูป่าเพื่อนเกลอ ท่านช่างคิดหาชั้นเชิงได้ดีมาก หากท่านไม่เปื้อนอุจจาระเราจะเขมือบท่านเสียตรงนี้แหละ ครั้งนี้เราขอยอมแพ้ ให้ท่านเป็นฝ่ายชนะก็แล้วกัน" แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า
"สุกร..เจ้าเป็นสัตว์สกปรก มีขนเหม็นเน่า มีกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไป สหาย..หากท่านประสงค์จะสู้กับเรา เราขอยกชัยชนะให้แก่ท่าน"
ว่าแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว