จะจัดการเรื่องครอบครัวแบบนี้ได้อย่างไร

ชีวิต
จะมาเล่าชีวิตของตัวเองค่ะ เป็นคนที่เกิดมาครอบครัวไม่ได้สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่จำความได้ก็ได้อยู่กับตายาย ตา ถ. ยาย ว. ที่ฐานะแกไม่ได้ร่ำรวยอะไรเรียกว่าจนได้เรย มีบ้านไม้2ชั้นเก่าๆโทรมๆ แต่ก็ถูกเลี้ยงมาอย่างดี มีความสุขมากตอนเด็กๆ ตากับยายเล่าให้ฟังว่า พอแม่คลอดเราได้3เดือนพ่อกับแม่ก็แยกทางกัน ตากับยายก้เรยได้ไปรับเรามาเลี้ยง เพราะแม่เลี้ยงเราไม่ไหว แม่ต้องเลี้ยงพี่เราคนนึงด้วย เป็นพี่สาว ส่วนพอก้ติดสาว ทำร้ายแม่ แม่ก็คงจะทนไม่ไหว
ก็เลยตัดสินใจเลิก แต่ก้สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว เราก้เรยได้มาอยู่กับตายาย อยู่มาเรื่อยๆ ยายก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว ทำให้ที่บ้านเหลือแค่เรา ตา กับน้าชายอีกคน(ที่สติแกไม่ค่อยสมประกอบ แต่ไม่เชิงว่าร้ายแรง แต่ฟิลแบบเด็กน้อยความคิดเด็ก)อยู่มาเรื่อยๆด้วยความที่กำลังเป็นวัยรุ่น ก็จะทะเลาะกับตาบ่อย ตาบางทีก้ชอบไล่ออกจากบ้าน บางทีเราก้ไปนอนบ้านเพื่อน เรียกได้ว่าตอนนั้น เกเรแบบเต้มที่ ใจแตกสุดๆ  แต่ก็มีคนนึง เข้ามาในชีวิตเรา คือน้องสาวของยายเรา ชื่อว่า ยาย พ. แกมีสามีชื่อ ตา น. ยาย พ. เห็นเราไม่อยู่บ้านทะเลาะกับตาบ่อย แกก็เรยชวนเราไปอยู่บ้านแก ซึ่งถัดไปหลายหมู่บ้านอยู่เหมือนกัน แกบอกว่าเวลาทะเลาะก็มาอยู่บ้านนี้ ไม่ต้องไปบ้านเพื่อน คนอื่นเห็นเขาพูดไม่ดี ยาย พ. เป็นคนที่มีเหตุผลมาก ใช้เหตุผลคุย ไม่ใช้อารมณ์ แกดีมากจริงๆ เราก็อยู่มา เวลาทะเลาะกันกับตา ก็จะมาอยูาบ้านยาย พ. ทำให้เราสนิทกับบ้านนี้ขึ้นเรื่อยๆ บ้านยาย พ. จะมี ยาย พ. ตา น. แล้วก็หลานแกเป็นผู้หญิง ชื่อ ฟ. อายุเท่าเราเรย จนกระทั่ง ตา เราเสียชีวิตลง น้าเราก็ได้ไปทำงานกับญาติที่กรุงเทพ ส่วนเราก้ได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านยาย พ.เต็มตัว ซึ่งตอนนี้เราจบแค่ม.3 ไม่ได้เรียน เราเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ รุ้สึกว่ามีความสุขดี ยาย พ.ดีกับเรามากๆ แกเป้นคนขยัน ทำงานบ้านทุกอย่างเรย น้อยมากที่จะให้พวกเราทำ แต่เราก้จะช่วยแกทำเสมอ เพราะไม่ชอบเรยเห็นคนแก่ๆที่ทำงานหนัก มักใจอ่อนกับอะไรแบบนี้ อยู่แรกๆ ไม่ได้ผูกพันเลย พออยูานานๆรู้สึกรักยายคนนี้มาก เพราะแกเป้นคนมีเหตุผล หลายครั้งที่เราทำตัวไม่ดี แกตะไม่ด่าตะหวาด ไม่ตะคอก แกใช้เหตุผล จึงทำให้เราเป้นคนที่ใจเย็นขึ้น มีเหตุผลขึ้น ถ้าไม่ได้ยายคนนี้ช่วยดึงเราขึ้นมา ก้ไม่รุ้ว่าชีวิตจะไปเกเรที่ไหน แต่อยากแอบบ่น บางทีก็น้อยใจ คนชื่อ ฟ. เขาเป้นคนที่กินอะไรยาก กินพวกแกง อ่อม อาหารอีสานนี่ไม่เป้นเรย ชอบกินพวกผัด ปิ้ง ทอด เขาทำอาหารไม่เป้น ทำอะไรไม่เป้น ดังนั้นหน้าที่ส่วนใหญ่จะตกที่เรา ไม่ใช่ว่ายายบังคับให้ทำหรอกนะ ถ้าเกิดว่าไม่มีใครทำ ยายก้จะทำซึ่งเราก้ทนดูไม่ได้ มันก้เรยจำใจที่จะทำ  ในตอนนี้ที่เราไม่ได้เรียนแต่ว่า คนชื่อ ฟ.เขากำลังเรียนอยู่ ประมาณ ม.6 ซึ่งบางทีเราเองได้ทำกับข้าว เตรียมข้าวกล่อง ให้เขาไปกินโรงเรียน ตอนนั้นก้คิดนะว่าแค่ทำข้าวไปกินโรงเรียนเองทำไมทำไม่ได้ ทำไมต้องให้ยายทำ เราแค่ไม่อยากให้ยายมาทำอะไรแบบนี้ เราก้ต้องทำ ซึ่งหน้าที่หลักๆตอนนั้นเรยคือ ตื่นตี5นึ่งข้าว ทำกับข้าว (ซึ่งทำกับข้าวที่ต้องทำแยกนะคะ คือแบบ ตายายเรากินแบบนึง แต่ ฟ.เขาไม่ได้กินแบบที่เรากิน ก้ต้องหาอ่หารพวกผัดทอดเตรียมไว้ให้ ซึ่งเหนื่อยมากจากที่ต้องทำแค่1อย่างกลายเป็น2-3อย่าง)แล้วก้ล้างจาน เรียกได้ว่าทำเองทุกอย่างเพราะเขาเรียน ซึ่งตอนนั้น ยายพ.เลี้ยงวัวด้วย เราก้ต้องไปตัดหญ้าแบกหญ้าให้วัวกับตายายด้วย ตอนนั้นน้อยใจมาก ทำไมเราต้องมาเหนื่อยอะไรแบบนี้คนเดียวด้วยนะ แต่ก้เจียมตัวนะ ก็คิดเสมอว่าเออเราไม่ใช่หลานที่เขาเลี้ยงมาแต่เกิดจะมาให้เขามีความรักความเอ้นดูเท่ากับหลานที่เขาเลี้ยงมาแต่เกิดได้ไง แต่ก้มีความคิดหนึ่งเกิดขึ้นมาว่า ไม่ขอให้รักเท่ากันหรอก ขอแค่ความเท่าเทียมได้ไหมล่ะ  แต่มันอยู่ตรงนี้ก็ใช่จะไม่มีอะไรดีๆ ยายพ.ซัพพอร์ตเราทุกอย่าง อยากได้ไรแกก้ซื้อให้
แกสนใจ เทคแคร์ สิ่งที่ชอบในตัวยายมากที่สุดคือความเอาใจใส่ เวลาเราป่วย ยายจะดูแลอย่างดี ไม่ห่าเรย แต่นั่นแหละสิ่งที่เราต้องเจอทุกๆวัน มันก้น้อยใจทุกๆวัน บางวันก้เจอหนัก เหนื่อยหนัก มีอะไรให้ทำเยอะ จนเหนื่อยเกินไป จนมีความคิดที่จะไม่อยู่บ้านหลังนี้ ก้เลยตัดสินใจไปทำงานที่กรุงเทพกับเพื่อน ยายก็ไม่ว่าอะไร ก้ให้ไป เราไปอยู่ได้ประมาณ2-3เดือน  ช่วงที่เราไป มีวันนึงยายโทรมา ด้วยเสียงสั่นเครือว่า ทำอะไรอยู่ ไม่มีอะไรหรอก แค่คิดถึงอยากให้ดูแลตัวเองดีๆตอนยายไม่อยู่ ก็ตัดสายไป เราก้เลยงง ก้เลยโทรหา ฟ. ว่ายายเป็นอะไร ถึงได้รุ้ว่ายายไปตรวจโรคมา พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งลำไส้ ระยะจะสุดท้าย หมอแนะนำให้ผ่าตัด เราตอนนี้ร้องไห้ออกมาเรย จะทำไงดี จะยังไง ไม่รุ้จะทำไงต่อ งานหล่ะ ยายหล่ะ คิดสับสนไปหมด ไม่กี่วันต่อมา ตา น.ก็โทรมาว่าให้ออกจากงาน กลับมาดูแลยายช่วยกันได้ไหม
ตอนนั้นคือสับสน ต้องเข้าใจว่า ก่อนจะลงมาทำงานคือคิดชีวิตตัวเองแล้วว่า ชีวิตเราจะเป็นยังไงนะ อนาคตล่ะ ต้องทำอะไรสักอย่าง ต้องหางานทำและเรียนไปด้วย ซึ่งเพื่อนก้เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ก้เลยตัดสินใจจะเรียนต่อกับเพื่อน แต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้ก้เลยคิดหนัก ก็เลยบอกกับตาไปว่า เราอยากเรียนต่อนะ อยากมีอนาคตมากกว่านี้อ่ะ ซึ่งแกบอกว่า ก้กลับมาเรียนบ้านเรา มาเรียนตรงนี้ได้เรียนได้ดูแลยายด้วย เราก็เรยตัดสินใจลาออกจากงาน กลับมาหายาย ตอนนั้นเป้นช่วงปิดเทอม ก้ไปยื่นไปสมัคร อะไรเรียบร้อย ช่วงนั้น ฟ.ก็จบม.6พอดี ก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะมีเรื่องแบบนี้ เขาก้เรยตัดสินใจดรอป อยู่ดูแลยายมาเรื่อยๆ 2คนพี่น้อง เราแบ่งหน้าที่กัน ส่วนตา น.เป็นคนที่ติดการพนันมาก ไม่อยู่บ้าน ไปแต่เล่นการพนัน ทำให้เรา2คนต้องช่วยเหลือตัวเอง ทำกับข้าวนึ่งข้าว ทำงานบ้านทุกอย่าง ดูแล หัตถการ ยาย ยายผ่าตัดจะมีถุงที่หน้าท้อง ฟ.เขาจะเป้นคนดูแลเรื่องนี้ เพราะเขาเป้นคนที่หมอสอน แต่เราก้ให้ฟ้าสอนเราเหมือนกันเผื่อยามจำเป้นจะได้ช่วยกัน เราจะรับหน้าที่หลักๆคือ ทำอาหาร เพราะเราทำเป้น  ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริง ที่แท้จริงคือคนคนนี้ ตา น. เขาเป็นคนที่อารมณ์ร้อน ไม่มีเหตุผล ชอบตัวเองเป็นใหญ่ มักใช้อำนาจ เราไม่ชอบเรย แต่ทำไงได้ ทนเพราะรักยาย  คือแกไม่สนใจเมียแกเรยนะ เอาแต่ไปเล่น บางวันไปทั้ววัน ไม่กลับบ้าน บางทีอาการยายไม่ดีนักเข้าร.พ ก้มีแต่เราที่เข้าออกจากบ้านไปร.พ ไม่มีเรยที่จะไปดูเมีย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเรารุ้สึกว่าตาคนนี้โรคจิต รุ้สึกว่าการกระทำเขากับเรามันแปลกๆ เช่นตอนนั้นเราอาบน้ำอยู่แล้วแกหาของไม่เจอก็เลยต้องใส่เสื้อผ้าออกไปหาของให้แก ซึ่งก้ไม่ได้ใส่เสื้อในเกงในอ่ะ พอเราอแกไปหาของให้แกเจอแล้ว ก้บ่นว่านี่ไงของ แกก้หัวเราะแล้วตีก้นเรา คือแบบบบแกกกเราไม่ชอบเรย ตายายแท้ๆเรายังไม่เคยทำแบบนี้อ่ะ บางทีเรานอนอยู่ รุ้สึกตัวอีกทีเห้นแกมายืนอยู่ข้างๆ มีวันนึงนานกับยาย คือแกอาการหนักละแหละ ก้ต้องนอนเฝ้าแก มียาย ถัดมาเป้น ฟ. ถัดมาเป้นเรา ทีแรกนอนรุ้สึกอะไรมาดิ้นๆยุตรงตัว ก้เรยตื่น เห้นตามาอะไรไม่รุ้ตรงข้างๆเราแต่มือยุตรงกางเกงข้างๆ ตอนนั้นตกใจมาก แต่ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ยายฟัง  มีอีก ตอนนั้นคิดไงไม่รุ้เอากล้องเก่าจองตา น. มาเปิดเล่น อี ยิ้มยยยยนี่ยิ้มโรคจิตชัดๆ ยิ้มมีรูปเรานอนอยู่ พอเลื่อไป เห็นรุปถ่ายแต่ถ่ายใกล้แค่ช่วงข้างล่าง พอเลื่อนไปอีก มันแอบถ่ายช่วงล่างเรา รูปคือแบบม่ถ่ายในกางเกง เห็นกางเกงในเราอ่ะ คือตอนนั้นไม่ไหวแล้วเรยเอาให้ ฟ.ดู และเล่าทุกอย่าง ฟ.ก้เข้าใจ แต่มันทำไรไม่ได้ ตอนนั้นก้ทำไรไม่ได้ คือมันติดที่ยาย และมีวันนึงทะเลาะกัน เรื่องไม่เป็นเรื่องเรย เราแช่ปกคอเสื้อนักเรียนแช่ไฮเตอร์ไว้ บอกตาว่าเข้าห้องน้ำอ่ะอย่าทำอะไรกับเสื้อเรานะ เราแช่ไฮเตอร์ไว้ ให้มันเป้นยังไงก้เป้นยังงั้นนะ อย่าไปยุ่งกับมัน แต่สุดท้ายแกเอาเสื้อเราลงไปแช่ไฮเตอร์หมดตัว มันเรยทำให้ชื่อของเราเปลี่ยนสี มันผิดกฎของโรงเรียนที่เราเรียนอยู่ เราก้เรย โวยว่า บอกว่าอย่าไปยุ่งอะไรกับมัน เห้นไหมมันเป้นแบบนี้อ่ะ มันทำให้เสื้อเป้นแบบนี้ แล้วไปเรียนครูจะว่าไง ยิ้มนางก้ขค้นเสียงโวยวายเรย ว่าเรานี่ไม่เห้นหัวนาง ว่านาง ด่านาง ฟ.ได้ยินก้ออกมาห้าม แต่นางเล่าให้ ฟ.ฟังตรงนั้นได้ยิ้มมาก เล่าว่า ดูมัน กูอุส่าหวังดี มันกลับมาด่ากูเหมือนหมูเหมือนหมา ชี้หน้าด่ากู ซึ่งตอนนั้นอีนี่งงเลย กูได้พูดอะไรขนาดนั่นหรอวะ แล้วนางก้ด่าๆๆๆๆบลาๆ บอกอยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ออกไป โครตตะกูลกูไม่มีคน ยิ้มๆแบบ ตอนนั้นใจยิ้มไม่อยู่แบบ จะทนทำไมวะ ใจพร้อมจะไป แต่ญาติพี่น้องมาห้ามไว้ บอกให้เห็นแก่ยาย  เราาาก็เลยต้องทนอยู่ พอยายตาย เรายังไปไหนไม่ได้เพราะเรียนอยู่ บ้านหลังนี้ก็อยู่3คน มี ฟ. มีเรา มีตา น. นั่นแหละค่ะ การที่มีตา น.ยุบ้านเป็นผู้ใหญ่คนเดียวไม่ต้องพุดถึง ไม่เหมือนกับที่มียายยุเรย เครื่องครัว อะไร หมดก้ไม่ซื้อมาเติมไว้ มันไม่เหมือนผู้หญิง ใจก็อยู่ๆไป ทำหูทวนลมถ้าเจอคำด่า ไม่ตอบโต้ ไม่อะไรทั้งนั้น ใจนิ่งๆ
ก้เจอมาเรื่อยๆ เพราะแกเป็นคนประสาท- บาฃทีเล่นไพ่มาทั้งวัน กลับบ้านมาไม่มีอะไรกินก้บ่น ซึ่งเราก้ไม่มีเงินที่จะซื้ออะไรมาเตรียมให้ เรา2คนต้มมาม่ากินกัน แต่ก้นึ่งข้าวไว้ให้แก แต่แกกลับมาอารมณ์เสียใส่ นั่นแหละค่ะเล่นไพ่เสีย กลับมาอย่างแรกก้จะตะคอกเสียงดังใส่ บ่นๆว่า เวลากูไปไหนไม่เคยโทรหา ไม่เคยโทรถามว่าจะกินอะไร เหมือนกูอยู่บ้านคนเดียว แล้วก้จะชอบใช้อำนาจ ก็จะตะคอกดังๆเรียกพวกเราออกไป ให้ทำนุ้นทำนี่ ถ้าทำแล้วไปเถียงแกกลับก้จะโดนด่าให้ไปไหนก้ไป ถ้าไม่ไปก้จะใช้อำนาจบังคับให้ไป เราก้เรามาบ้านก้จะบ่นว่าให้พิจารณาตัวเอง ต่อไปนี้กูจะไม่ดีอะไรกับใครทั้งนั้น อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป ไปให้หมด  แกเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเรย ใช้อารมณ์
แล้วบ้านจะไม่มีห้องอ่ะ แกชอบเดินมาที่เตียงที่พวกเรานอนอยู่ แต่แกจะเลยมาตรงมี่เรานอน มาปลุก ชอบปลุกตอนเช้า ปลุกก่อนเวลาอ่ะซึ่งเราก้ตั้งนาฬิกาไว้แล้ว แล้ววันหนึ่งเราไปดูในโทรศัพท์แก ว่ามีรูปอะไรบ้าง มันรูอะไรบางอย่าง แต่ฉากพื้นหลัง มันเหมือนประตูห้องน้ำบ้านเราเรยหนิ ก็เรยไปดู ยิ้มเจาะรูประตูห้องน้ำ ไม่รุ้ว่านานแค่ไหนแล้ว ทุกวันนี้อาบน้ำทีต้องหาผ้าปิดไว้ เพราะบางทีก้สังเกตนะว่าจะมีเสียงเท้าตรงประตู ไม่แน่มะนอาจส่องเราตอนอาบน้ำ จนมาวันนึงเราเข้ามาแค่สระผม ดีที่วันนั้นสระผม เรยไม่ได้ถอดเสื้อผ้า ก้เรยสระแล้วไปส่องกระจก พอดีเหลือบไปที่รู ยิ้มเห็นตาคน ก้เรยรีบเปิด ก้เห้นหลังไวๆวิ่งไปยิ้มแบบบอิ ยิ้ม ไม่อยากอยู่ตรงนี้แต่ มันไปไม่ได้
1.เรยสังคมที่นี่ ญาติพี่น้อง
2.เรียนอยู่ ชอบสังคมในโรงเรียนนี้ เพื่อนดี ครูดี
3.มีความรักอยู่ที่นี่ อ๊ากกกกที่คือปัญหาใหญ่
แต่ ฟ.ก้คือจะไม่อยู่ตรงนี้แล้ว มันจะไปอยู่กับพ่อแม่มันที่กรุงเทพไปเรียนละทำงานด้วย
เราก้เรยคิดหนัก เพราะอย่างน้อยมันยุที่นี่ เราก้รุ้สคกปลอดภัยมากกว่า ยุคนเดียวกับตา แต่ก้คุยกับมันว่าให้ไปเล้าโลมตา ให้สร้างห้อง ให้ทำห้อง ตอนคุยก้บอกจะทำนะ แต่วันนี้ก้ทะเลาะกันอีกละ เรื่องเดิม ไปเล่นไพ่มาละเสีย ก้เรยมาพาลลูกหลาน
คือตอนนี้แค่ต้องการความคิดเห็นของแต่ละคนที่เจอมาคล้ายๆกัน อยากเอามาคิด อยากรุ้วิธีแก้ปัญหา หรือบางคนอาจมีทางออกที่ดีที่เราคิไม่ได้ มาแชร์กันได้นะคะ ว่าเราควรทำยังไงดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่