JJNY : 5in1 เศรษฐาย้ำจุดยืน│ไอโอโป๊ะแตก│เสียงจากเชียงใหม่│เฟดชี้ เงินเฟ้อมะกันอาจยืด│รัสเซียใช้ ‘ติ๊กตอก’เผยแพร่ข่าว

เศรษฐา ย้ำจุดยืนเพื่อไทย “เกณฑ์ทหารต้องเป็นระบบสมัครใจ”
https://www.matichon.co.th/election66/news_3905327
 
 
เศรษฐา ย้ำจุดยืนเพื่อไทย “เกณฑ์ทหารต้องเป็นระบบสมัครใจ”
 
วันที่ 1 เมษายน นายเศรษฐา ทวีศิลป์  ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ ทวิตเตอร์ ใน Srettha Thavisin ว่า
 
การเกณฑ์ทหารวันแรกได้เริ่มขึ้นแล้วครับ ผมจึงอยากใช้โอกาสนี้ในการย้ำจุดยืนของพรรคเพื่อไทยว่า การเกณฑ์ทหารต้องเป็นระบบสมัครใจ นี่ไม่ใช่การบอกว่าทหารเกณฑ์ไม่จำเป็น แต่ในทางกลับกัน จะยิ่งเป็นการทำให้สถาบันทหารมีความน่าเคารพนับถือ และมีคุณค่ามากขึ้น รวมทั้งเรายังจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้สถาบันทหารเป็นวิทยาลัยเพื่อการเรียนรู้ และเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ที่สมัครใจเข้ามา
 
เพื่อที่เมื่อกลับออกไปก็จะมีวิชาชีพ มีความรู้ติดตัวที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดชีวิต และขับเคลื่อนสังคมต่อไปได้ครับ งบประมาณที่ต้องใช้สำหรับการบังคับเกณฑ์ทหารก็จะลดน้อยลง
 
สามารถนำไปพัฒนา ปรับปรุงส่วนอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการของทหารเอง การฝึกอบรม หรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เราต้องอยากทำให้สถาบันทหาร เป็นสถาบันที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และน่ายกย่องครับ สมกับที่เป็นรั้วของชาติที่แข็งแกร่งครับ
 
https://twitter.com/Thavisin/status/1642071707698749441
 


ไอโอโป๊ะแตก ปั่นเฟกนิวส์ซัดก้าวไกล ปมยกเลิกบำนาญ แต่ด่าเพลินลืมเปลี่ยนโปรไฟล์
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7591392

ไอโอโป๊ะแตก ปั่นเฟกนิวส์ซัดก้าวไกล ปมยกเลิกบำนาญ แต่ด่าเพลินลืมเปลี่ยนโปรไฟล์ พบเป็นทหาร ศูนย์สงครามพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ลพบุรี
 
1 เม.ย. 2566 – นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า 
 
โป๊ะแตก! รู้แล้วว่าทำไมข่าวปลอม “พรรคก้าวไกลยกเลิกบำนาญ” ถึงถูกปั่นไม่เลิก ทั้ง ๆ ที่ชี้แจงมาโดยตลอดว่า “ไม่เป็นความจริง” ที่แท้เพราะมีขบวนการ IO สีเขียวลายพราง ปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังอย่างต่อเนื่อง นี่เอง
 
ต้องขอบคุณ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่พิษณุโลกมากเลยครับ ที่สืบเสาะจนพบว่า กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังการปลุกปั่นข่าวปลอม เรื่อง “พรรคก้าวไกลจะยกเลิกบำนาญ” เป็นขบวนการ IO เขียวลายพราง
 
พอค้นประวัติดู ไม่ธรรมดาครับ น่าจะเป็นพลร่มป่าหวาย ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ “ศูนย์สงครามพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ลพบุรี”
 
อย่างไรผมขอฝากเรื่องถึงผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ให้ช่วยสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยนะครับ ว่ามีหน่วยงานใต้บังคับบัญชา เอาเงินภาษีของประชาชน มาประพฤติตนนอกรีต ปล่อยข่าวปลอมแบบนี้หรือไม่ สงครามพิเศษ เดี๋ยวนี้คือ การเอาข่าวปลอมมายุยงปลุกปั่นทำลายระบอบประชาธิปไตย แล้วหรือครับ
 
ยืนยันอีกครั้งตรงนี้ครับว่า “พรรคก้าวไกล” ไม่มีความคิดที่จะยกเลิกบำนาญของข้าราชการ อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมที่ปลุกปั่นโดยขบวนการ IO เขียวลายพราง
 
ที่เรากังวลก็คือ การกู้หนี้สาธารณะก้อนมหาศาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียวกู้มาถึง 5.16 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับนายกฯ 28 ตนก่อนหน้ารวมกัน (5.53 ล้านล้านบาท) แล้วเอาเงินที่กู้มา มาผลาญไปกับการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ และการก่อหนี้ผูกพันของกระทรวงกลาโหม
 
ซึ่งปัจจุบัน ผลกระทบที่เห็นๆ ก็คือ หน้าที่งานที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน อย่างพยาบาล กลับมีอัตราบรรจุที่จำกัดมาก แม้แต่แพทย์ ก็มีความกังวลว่าแพทย์ที่จบใหม่ อาจจะมีอัตราบรรจุไม่ครบ งานที่จำเป็น แทนที่จะมีงบจัดจ้าง กลับอยู่ในรูปแบบอาสาสมัคร ที่ได้รับการดูแลแบบกระเบียดกระเสียร อย่างเช่น อาสาสมัครสาธารณสุข อาสาสมัครเฝ้าระวังไฟป่า อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า ครูพี่เลี้ยง ฯลฯ
ถ้าปล่อยให้หนี้ก้อนโต ที่เปรียบเสมือนช้าง เอามาผลาญกับการซื้ออาวุธ จนเป็น ‘ช้างป่วย’ แบบนี้ ในระยะยาว ก็เสี่ยงอย่างมากที่จะกระทบกับสวัสดิการของประชาชน และข้าราชการ
 
เรื่องนี้จริงๆ ได้ทำความเข้าใจกับสมาพันธ์ข้าราชการบำนาญแห่งประเทศไทย ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ 14 กันยายน 65 แต่เข้าใจว่า ขบวนการ IO เขียวลายพราง น่าจะได้รับภารกิจให้ปลุกปั่นไม่เลิก
 
ถ้าทำ ก็เลิกเถอะครับ เอาเวลาไปสะสางเรื่อง เงินกู้สวัสดิการทหารบก’ ที่เป็นต้นตอของเหตุกราดยิงโคราช น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการกอบกู้เกียรติภูมิของกองทัพได้มากกว่า
 
https://www.facebook.com/wirojlak/posts/714815933768297
 

  
เสียงจากเชียงใหม่ แม่สะเทือนใจ ลูกบอก "ถ้าจมูกหายใจไม่ได้ ใช้ปากหายใจแทนได้ไหม"
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7591355

เสียงครวญจากเชียงใหม่ แม่สะเทือนใจ ลูกบอก “ถ้าจมูกหายใจไม่ได้ ใช้ปากหายใจแทนได้ไหม” เผย เด็กบางคนเลือดกำเดาไหล ขนาดบ้านมีเครื่องฟอก

1 เม.ย. 2566 – เฟซบุ๊ก Drama-addict ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนชาวเชียงใหม่ ถึงสถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5 ในจังหวัด ที่กำลังอยู่ในขั้นวิกฤต ส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกาย
 
แฟนเพจระบุว่า “เสียงครวญจากลูกเพจชาวเชียงใหม่”
 
“จ่าคะ ภายใต้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ภาคเหนือ เหมือนอยู่ในสงครามที่ขาดแม่ทัพใหญ่ เราสู้เองไม่ได้ เราสู้เพื่อลูกและคนที่เรารักได้แค่นี้”
 
“ลูกสาวถามว่า ถ้าจมูกเราหายใจไม่ได้…เราใช้ปากหายใจแทนได้มั้ย”
 
“รีบเอาไฟฉายมาส่องเข้าไปในจมูกบวมแดงมาก ปิดมิดเลยข้างนึง อีกข้างรูเล็กมาก…ก่อนหน้านี้ผื่นขึ้นทั้งตัวไม่ทราบสาเหตุ เด็ก ๆ บางคนเลือดกำเดาไหล คนแก่ต้องหายใจเอาอนุภาคนี้เข้าไปทุกวัน นี่ขนาดที่บ้านมีเครื่องฟอกนะคะ”
 
“คนไทยภาคเหนือจะทำยังไงได้ บ้างนอกจากรอให้ผลของฝุ่นที่กำลังจะเกิดเป็นมะเร็งในอีกไม่กี่ปี…และมันมองเห็นผลของมันโดยไม่ต้องทำวิจัยเลยก็ได้ ได้ยินจาก ผู้หลักผู้ใหญ่บอกว่า ไม่ต้องห่วง รพ เพียงพอ คนไข้จากฝุ่นยังรับได้…..ฟังแล้วอ่อนใจมาก ได้แต่รอ….รอปาฏิหารย์”

https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10161248326223291



เฟดชี้ ศึกคุมเงินเฟ้อมะกันอาจยืดเยื้อ หลังภาพรวมย่ำแย่ลงตั้งแต่ต้นปี
https://www.matichon.co.th/foreign/news_3905263
 
เฟดชี้ ศึกคุมเงินเฟ้อมะกันอาจยืดเยื้อ หลังภาพรวมย่ำแย่ลงตั้งแต่ต้นปี
 
คณะกรรมการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) กล่าวเตือนเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ภาพรวมเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาย่ำแย่ลงตั้งแต่ต้นปี อาจทำให้การต่อสู้เพื่อควบคุมราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นของเฟดยืดยาวต่อไป
 
ลิซา คุก หนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด กล่าวในการเตรียมการประชุมทางเศรษฐกิจของเฟดที่รัฐโอไฮโอ ว่าธนาคารกลางอาจมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ หากข้อมูลออกมาบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่งและภาวะเงินฝืดชะลอตัว
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาตรฐาน 9 ครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งของความพยายามเชิงรุกที่จะกดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ให้ลดลงสู่เป้าหมายระยะยาวที่ 2%
 
แต่ความปั่นป่วนในภาคธนาคารที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ จากการล้มลงของธนาคารซิลลิคอนวัลเลย์ และ ธนาคารซิกเนเจอร์ของสหรัฐ ท่ามกลางความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย ทำให้เฟดต้องทบทวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเลือกที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เพียง 0.25% แทน
เจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟด เสนอแนะหลังการตัดสินใจว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนที่จะยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ยในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี นางคุกกล่าวเตือนในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ยังคงสูงกว่าระดับที่เฟดต้องการเห็น “ภาพเงินเฟ้อนั้นยังน่าพอใจน้อยกว่าเมื่อต้นปีนี้ โดยรวมแล้วข้อมูลที่กำลังออกมาจะบ่งบอกถึงอัตราเงินเฟ้อที่ค่อนข้างสูงสำหรับปีนี้และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น
 
แต่คุกกล่าวเสริมว่า จะเฝ้าดูพัฒนาการในภาคธนาคารอย่างใกล้ชิด ที่มีศักยภาพที่จะเข้มงวดกับเงื่อนไขการให้สินเชื่อและลดผลกระทบแรงผลักบางอย่างในระบบเศรษฐกิจ และว่า กระบวนการทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ที่ระดับ 2% นั้น ยังมีหนทางอีกยาวไกลและอาจไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่