ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ พร้อมสมาชิกครอบครัว เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัท SC Asset กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดิน เพื่อเสนอขายบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีตระกูลชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และขอให้มีการตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบการดำเนินกิจการของบริษัท และผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจ ที่ขาดความโปร่งใสและไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้น และนักลงทุน รวมถึงตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของบริษัทเอสซีฯ ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน
สืบเนื่องจากบริษัท SC Asset เป็นนิติบุคคล ประเภทบริษัท มหาชน จำกัด อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประชาชนทั่วไปสามารถทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทได้ โดยมีนายณัฐพงษ์ คุณากรวงษ์ เป็นประธานบริหาร หรือ CEO โดยมี นางสาวพิณทองธา ชินวัตร คุณากรวงษ์ ภรรยาเป็น ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ส่วน สาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง น้องสาว ซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็น ผู้ถือหุ้นอันดับที่ 1 โดยที่ผ่านมา ครอบครัวรัตนพันธ์ ต้องสูญเสียบ้านและที่ดิน เนื่องจากบริษัท บริษัท SC Asset ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย ฉบับวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2559
ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนและครอบครัว เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัท SC Asset และผู้ที่เกี่ยวข้อง จากกรณีที่ได้มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์ โดยหนังสือที่มีการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์เลขที่ SC -l 004/2566 ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง ทำให้นักลงทุน หรือให้ประชาชนและผู้ถือหุ้นหลงผิดในสาระสำคัญ ซึ่งมีความสำคัญต่อประชาชนหรือนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ลวงให้นักลงทุนหลงซื้อหุ้นของบริษัท SC Asset โดยข้อมูลดังกล่าว เป็นความเท็จและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ยังไม่ได้มีการตัดสินชี้ขาดว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด แต่บริษัท SC Asset กลับตั้งตนเป็นศาลตัดสินว่า เป็นความเท็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นเหตุให้ต้องเข้าแจ้งความในวันนี้
สำหรับการเผยแพร่ของประเด็นดังกล่าวนี้มีการเผยแพร่ผ่านในระบบของตลาดหลักทรัพย์ และเผยแพร่ผ่านองค์กรสื่อสารของบริษัทที่กระจายข่าว เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเรื่อง 1,503 ล้าน เราจึงต้องทำจดหมายเปิดผนึก เพื่อให้ชี้แจงหรือแจ้งข่าวตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับพบว่า บริษัทฯได้ชี้แจงในข้อความที่บิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีตนและครอบครัว
ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่มาจากรายงานกระบวนพิจารณาของศาล และข้อร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีที่มีพยานหลักฐานอื่นๆ ไม่ว่าของกระทรวงยุติธรรมและหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มาจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งความคืบหน้า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการ มายังตลาดหลักทรัพย์ DSI และสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว
ทั้งนี้ ช่วงบ่าย ตนและครอบครัวจะเดินทางไปที่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อ ติดตามความคืบหน้า กรณีการดำเนินคดีกับ บริษัท SC Asset นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เชิงเดี่ยว ซึ่งผู้ลงทะเบียนข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ที่จะสามารถใช้ข้อมูลได้ เป็นการให้ข้อมูลโจมตีอย่างฝ่ายเดียวถือว่า ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมกับคู่กรณี และประชาชน และข้อความดังกล่าวนี้ก็ยังคงค้างอยู่ในระบบข้อมูล ยังไม่มีการแก้ไขใดๆทั้งที่เราได้มีการแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์แล้ว ซึ่งทางครอบครัวรัตนพันธ์ เตรียมยื่นหนังสือให้ตลาดหลักทรัพย์ และ SET ในวันเดียวกัน เพื่อให้ไต่สวนลงโทษ บริษัท SC Asset ฐานนำความเท็จ ปกปิดข้อมูลที่ควรแจ้ง บิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายป้ายสีครอบครัวรัตนพันธ์ให้ได้รับความเสียหายเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของ SET
cr.
https://www.topnews.co.th/news/645183
ครอบครัวรัตนพันธ์ เดินหน้าทวงความเป็นธรรม ร้อง ปอท.เอาผิดอาญา SC Asset
สืบเนื่องจากบริษัท SC Asset เป็นนิติบุคคล ประเภทบริษัท มหาชน จำกัด อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประชาชนทั่วไปสามารถทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทได้ โดยมีนายณัฐพงษ์ คุณากรวงษ์ เป็นประธานบริหาร หรือ CEO โดยมี นางสาวพิณทองธา ชินวัตร คุณากรวงษ์ ภรรยาเป็น ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ส่วน สาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง น้องสาว ซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็น ผู้ถือหุ้นอันดับที่ 1 โดยที่ผ่านมา ครอบครัวรัตนพันธ์ ต้องสูญเสียบ้านและที่ดิน เนื่องจากบริษัท บริษัท SC Asset ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย ฉบับวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2559
ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนและครอบครัว เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัท SC Asset และผู้ที่เกี่ยวข้อง จากกรณีที่ได้มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์ โดยหนังสือที่มีการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์เลขที่ SC -l 004/2566 ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง ทำให้นักลงทุน หรือให้ประชาชนและผู้ถือหุ้นหลงผิดในสาระสำคัญ ซึ่งมีความสำคัญต่อประชาชนหรือนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ลวงให้นักลงทุนหลงซื้อหุ้นของบริษัท SC Asset โดยข้อมูลดังกล่าว เป็นความเท็จและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ยังไม่ได้มีการตัดสินชี้ขาดว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด แต่บริษัท SC Asset กลับตั้งตนเป็นศาลตัดสินว่า เป็นความเท็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นเหตุให้ต้องเข้าแจ้งความในวันนี้
สำหรับการเผยแพร่ของประเด็นดังกล่าวนี้มีการเผยแพร่ผ่านในระบบของตลาดหลักทรัพย์ และเผยแพร่ผ่านองค์กรสื่อสารของบริษัทที่กระจายข่าว เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเรื่อง 1,503 ล้าน เราจึงต้องทำจดหมายเปิดผนึก เพื่อให้ชี้แจงหรือแจ้งข่าวตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับพบว่า บริษัทฯได้ชี้แจงในข้อความที่บิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีตนและครอบครัว
ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่มาจากรายงานกระบวนพิจารณาของศาล และข้อร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีที่มีพยานหลักฐานอื่นๆ ไม่ว่าของกระทรวงยุติธรรมและหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มาจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งความคืบหน้า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการ มายังตลาดหลักทรัพย์ DSI และสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว
ทั้งนี้ ช่วงบ่าย ตนและครอบครัวจะเดินทางไปที่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อ ติดตามความคืบหน้า กรณีการดำเนินคดีกับ บริษัท SC Asset นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เชิงเดี่ยว ซึ่งผู้ลงทะเบียนข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ที่จะสามารถใช้ข้อมูลได้ เป็นการให้ข้อมูลโจมตีอย่างฝ่ายเดียวถือว่า ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมกับคู่กรณี และประชาชน และข้อความดังกล่าวนี้ก็ยังคงค้างอยู่ในระบบข้อมูล ยังไม่มีการแก้ไขใดๆทั้งที่เราได้มีการแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์แล้ว ซึ่งทางครอบครัวรัตนพันธ์ เตรียมยื่นหนังสือให้ตลาดหลักทรัพย์ และ SET ในวันเดียวกัน เพื่อให้ไต่สวนลงโทษ บริษัท SC Asset ฐานนำความเท็จ ปกปิดข้อมูลที่ควรแจ้ง บิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายป้ายสีครอบครัวรัตนพันธ์ให้ได้รับความเสียหายเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของ SET
cr. https://www.topnews.co.th/news/645183