'จิราพร-ชญาภา' ปราศรัยใหญ่ ชูนโยบายหมัดเด็ดแบบจุกๆ ขอเพื่อไทยแลนด์สไลด์
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7590528
‘จิราพร-ชญาภา’ ปราศรัยใหญ่ ชูนโยบายหมัดเด็ดแบบจุกๆ ทั้งยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ประกาศขอเพื่อไทยแลนด์สไลด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29-30 ม.ค. น.ส.
จิราพร สินธุไพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย และน.ส.
ชญาภา สินธุไพร ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. ร้อยเอ็ด เขต 8 พรรคเพื่อไทย จัดปราศรัยใหญ่ขึ้นที่จ.ร้อยเอ็ด ทั้งในพื้นที่ ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ , ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี , ต.หัวช้าง อ.จตุรพักตรพิมาน , ที่โรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร อ.พนมไพร และโรงเรียนอาจสามารถวิทยา อ.อาจสามารถ โดยมีนาย
สุทิน คลังแสง และนาย
อดิศร เพียงเกษ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมปราศรัยบนเวทีด้วย
น.ส.
ชญาภา ปราศรัยว่า จากการเลือกตั้งนายอบจ.ร้อยเอ็ดที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าประชาชนต้องการเปลี่ยแปลงประเทศ จึงเกิดปราฏการณ์ร้อยเอ็ดแลนด์สไลด์ และปักธงประชาธิปไตยขึ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าคนไทยต้องการเปลี่ยนแปลงจริงๆ จึงขอโอกาสคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทยเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ ด้วยการเลือกทั้งคนทั้งพรรคในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เพื่อเป็นปากเสียงให้พี่น้องประชาชน
น.ส.
ชญาภา ปราศรัยอีกว่า พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายที่คิดใหญ่และทำเป็น ทั้งนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันภายในปี 2570 อย่างที่เคยทำให้เห็นมาแล้วและทำได้จริงในสมัยรัฐบาลน.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ลูกหลานที่เรียนจบมาจะได้เงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี อีกทั้งยังมีนโยบายดีๆ ที่ต่อยอดจากพรรคไทยรักไทย ด้วยการยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวสามารถรักษาฟรีทั่วประเทศ เพื่อดูแลประชาชน ทั้งคนรวยและคนจนต้องได้รับการรักษาดีเหมือนกัน เพราะถือเป็นความเท่าเทียมกันของความเป็นมนุษย์ที่พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นในจุดนี้
ด้านน.ส.
จิราพร ปราศรัยว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ขอโอกาสชาวร้อยเอ็ดเลือกพรรคเพื่อไทย โดยเลือกทั้งตนและน.ส.ชญาภา เข้าไปทำหน้าที่ส.ส. เพื่อเป็นปากเสียงให้กับประชาชน และก้าวไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ ให้พรรคเพื่อไทยได้เข้าไปบริหารประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกคนอยู่ดีกินดีขึ้น
น.ส.
จิราพร ปราศรัยอีกว่า นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายดีๆ อย่างกระเป๋าเงินดิจิทัล ให้กับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้จ่ายใกล้บ้าน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนครั้งใหญ่ และเตรียมคนไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก หากพี่น้องประชาชนท่านใดไม่มีโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ตก็ไม่ต้องกังวล เพราะพรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายอินเทอร์เน็ตฟรีทุกหมู่บ้าน และทุกครอบครัวจะได้แท็บเล็ตฟรี 1 เครื่อง อีกมุมหนึ่งยังทำให้ลูกหลานเข้าถึงข้อมูลและการเรียนออนไลน์ได้มากขึ้นด้วย ดังนั้นการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ขอให้ชาวร้อยเอ็ดและประชาชนทั่วประเทศเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
‘ก้าวไกล’ รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ตามหน่วยจับใบดำ-ใบแดง ทั่วประเทศ
https://www.matichon.co.th/election66/news_3904822
‘ก้าวไกล’ รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ตามหน่วยจับใบดำ-ใบแดง ทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 เมษายน นาย
พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นาย
ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และนาย
ปิยรัฐ จงเทพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เข้าสังเกตการณ์ ชวนพูดคุย และทำโพลสำรวจความเห็นต่อข้อเสนอยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ที่หน่วยจับใบดำ-ใบแดง เขตพระโขนง โดยมีผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั่วประเทศกระจายทำกิจกรรมรณงค์ลักษณะเดียวกันในเขตเลือกตั้งของตนเองด้วย
นาย
พริษฐ์ กล่าวว่า หากพรรค ก.ก. เป็นรัฐบาล จะยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารภายใน 1 ปี เพื่อให้เมษายนปีนี้ เป็นครั้งสุดท้าย ที่ต้องมีคนมาจับใบดำ-ใบแดง หรือต้องมีคนเป็นทหารทั้งที่ไม่อยากเป็น เหตุผลที่จะยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เพราะระบบเกณฑ์ทหารทำให้เกิดความสูญเสียในสองระดับด้วยกัน คือ การสูญเสียเสรีภาพในระดับปัจเจกบุคคล ซึ่งกระทบต่อเสรีภาพในการประกอบอาชีพ โอกาสความก้าวหน้าทางการงาน และเวลาที่ได้อยู่กับครอบครัว ส่วนอีกระดับหนึ่งคือ การสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับประเทศ เพราะเป็นการดึงทรัพยากรมนุษย์ออกจากตลาดแรงงานในวันที่ประเทศไทยเผชิญกับสังคมสูงวัย และโครงสร้างประชากรที่มีสัดส่วนคนวัยทำงานที่ลดลง
นาย
พริษฐ์ กล่าวว่า การยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารจะไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะหากลดยอดกำลังพลที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง เช่น พลทหารรับใช้ ควบคู่กับการยกระดับสวัสดิการสวัสดิภาพของพลทหารและการกำจัดความรุนแรงในค่าย ยอดทหารที่สมัครใจเข้ามาจะเพิ่มขึ้นและเพียงพอต่อภารกิจการรักษาความมั่นคงของประเทศ หากการยกเลิกเกณฑ์ทหารสามารถเกิดขึ้นได้จริงจะส่งผลดีกับทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่กองทัพ ที่จะได้ลบข้อครหาว่าเป็นสถาบันอำนาจนิยมและก้าวสู่กองทัพยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยบุคลากรที่สมัครใจทำงานและพร้อมทุ่มเทให้องค์กรอย่างแท้จริง
ด้าน นาย
วิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าสามารถเปลี่ยนจากการบังคับเกณฑ์ทหารมาเน้นเป็นการสมัครใจทั้งหมด สวัสดิภาพและสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อยจะได้รับการเอาใจใส่มากขึ้น และจะเกิดความสบายใจให้กับทุกคน ทหารไม่ใช่อาชีพเดียวที่รับใช้ชาติ แต่ทุกอาชีพมีส่วนในการร่วมกันรับใช้ชาติทั้งหมด การจ่ายภาษีให้กับรัฐก็สามารถนับเป็นการรับใช้ชาติได้เช่นกัน การถูกเกณฑ์เข้าไปดูแลบ้านหรือครอบครัวของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ต่างหากที่น่าตั้งคำถามว่าเป็นการรับใช้ชาติจริงหรือ ทั้งนี้ หากการบังคับเกณฑ์ทหารถูกยกเลิกได้จริง จะทำให้งบประมาณจำนวนมหาศาลได้รับการจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอัตโนมัติ
นาย
วิโรจน์ กล่าวว่า การยกเลิกการเกณฑ์ทหารเป็นหนึ่งนโยบายปฏิรูปกองทัพของพรรคก.ก. ที่ครอบคลุมอีกหลายวาระ ตั้งแต่การปิดช่องรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองโดยกองทัพ การโอนธุรกิจกองทัพมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความโปร่งใส รวมถึงการแก้กฎหมายและระเบียบกลาโหมทั้งหมดเพื่อให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนที่ยึดโยงกับประชาชน ซึ่งจะทำให้ทหารทุกคนได้ทำหน้าที่เป็นทหารอาชีพอย่างแท้จริง
‘แอตต้า’ จี้รัฐบาลเตรียมรับมือ ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ คืนชีพ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3904562
‘แอตต้า’ จี้รัฐบาลเตรียมรับมือ ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ คืนชีพ
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ขณะนี้เมื่อตลาดจีนเริ่มฟื้นตัวมากขึ้นแล้ว แต่มีบริษัททัวร์ในประเทศจีนหลายแห่งยังไม่กลับมาเปิดกิจการ หรือแม้กลับมาดำเนินกิจการแล้ว แต่ไม่สามารถจัดหาตั๋วเครื่องบินเพื่อจัดทำแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวได้ เนื่องจากบริษัททัวร์รายใหญ่ของจีนเหมาบัตรโดยสารไปก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย อาทิ ธุรกิจรถเช่าเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนธุรกิจโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มกลับมาเปิดให้บริการเป็นบางส่วน ยังไม่เปิดบริการเต็มที่นัก
นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการบริษัททัวร์ เริ่มพบสัญญาณการตั้งราคาขายแพคเกจทัวร์ในราคาที่ต่ำลง รวมถึงมีสมาชิกของสมาคมฯ พูดถึงประเด็นทัวร์ศูนย์เหรียญบ้างแล้ว แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าได้รับผลกระทบทางตรงอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมากับทัวร์ยังมีจำนวนน้อยอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาครัฐเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ มีความเอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหา เข้าใจโครงสร้างการออกแบบแพคเกจทัวร์ศูนย์เหรียญ รวมถึงพร้อมสื่อสารทำความเข้าใจไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอยากให้นักท่องเที่ยวเข้าใจว่าทัวร์ที่ดีราคาไม่ถูก ถ้าทัวร์พาไปทานอาหารดีๆหมายถึงราคาทัวร์ก็ต้องสูงขึ้นอยู่แล้ว
“การมีไกด์เถื่อนต่างชาติลักลอบเข้ามาทำงานในไทย ต้องยอมรับว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวประสบปัญหาดังกล่าวมาสักระยะแล้ว เนื่องจากมัคคุเทศก์ที่มีความรู้ภาษาต่างประเทศยังขาดแคลน จึงอยากอยากให้ใช้โมเดล Siting Guild ชาวไทยจำนวน 1 คน และมีชาวต่างชาติอีกหนึ่งราย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาด้านข้อกฎหมายดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาไกด์เถื่อนให้ได้” นายศิษฎิวัชร กล่าว
JJNY : 'จิราพร-ชญาภา'ปราศรัยใหญ่│‘ก้าวไกล’รณรงค์ยกเลิกเกณฑ์ทหาร│‘แอตต้า’จี้รับมือทัวร์ศูนย์เหรียญ│แพทย์ทหารญ.รัสเซียเผย
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7590528
‘จิราพร-ชญาภา’ ปราศรัยใหญ่ ชูนโยบายหมัดเด็ดแบบจุกๆ ทั้งยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ประกาศขอเพื่อไทยแลนด์สไลด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29-30 ม.ค. น.ส.จิราพร สินธุไพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย และน.ส.ชญาภา สินธุไพร ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. ร้อยเอ็ด เขต 8 พรรคเพื่อไทย จัดปราศรัยใหญ่ขึ้นที่จ.ร้อยเอ็ด ทั้งในพื้นที่ ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ , ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี , ต.หัวช้าง อ.จตุรพักตรพิมาน , ที่โรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร อ.พนมไพร และโรงเรียนอาจสามารถวิทยา อ.อาจสามารถ โดยมีนายสุทิน คลังแสง และนายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมปราศรัยบนเวทีด้วย
น.ส.ชญาภา ปราศรัยว่า จากการเลือกตั้งนายอบจ.ร้อยเอ็ดที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าประชาชนต้องการเปลี่ยแปลงประเทศ จึงเกิดปราฏการณ์ร้อยเอ็ดแลนด์สไลด์ และปักธงประชาธิปไตยขึ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าคนไทยต้องการเปลี่ยนแปลงจริงๆ จึงขอโอกาสคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทยเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ ด้วยการเลือกทั้งคนทั้งพรรคในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เพื่อเป็นปากเสียงให้พี่น้องประชาชน
น.ส.ชญาภา ปราศรัยอีกว่า พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายที่คิดใหญ่และทำเป็น ทั้งนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันภายในปี 2570 อย่างที่เคยทำให้เห็นมาแล้วและทำได้จริงในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ลูกหลานที่เรียนจบมาจะได้เงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี อีกทั้งยังมีนโยบายดีๆ ที่ต่อยอดจากพรรคไทยรักไทย ด้วยการยกระดับโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวสามารถรักษาฟรีทั่วประเทศ เพื่อดูแลประชาชน ทั้งคนรวยและคนจนต้องได้รับการรักษาดีเหมือนกัน เพราะถือเป็นความเท่าเทียมกันของความเป็นมนุษย์ที่พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นในจุดนี้
ด้านน.ส.จิราพร ปราศรัยว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ขอโอกาสชาวร้อยเอ็ดเลือกพรรคเพื่อไทย โดยเลือกทั้งตนและน.ส.ชญาภา เข้าไปทำหน้าที่ส.ส. เพื่อเป็นปากเสียงให้กับประชาชน และก้าวไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ ให้พรรคเพื่อไทยได้เข้าไปบริหารประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกคนอยู่ดีกินดีขึ้น
น.ส.จิราพร ปราศรัยอีกว่า นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายดีๆ อย่างกระเป๋าเงินดิจิทัล ให้กับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้จ่ายใกล้บ้าน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนครั้งใหญ่ และเตรียมคนไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก หากพี่น้องประชาชนท่านใดไม่มีโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ตก็ไม่ต้องกังวล เพราะพรรคเพื่อไทยยังมีนโยบายอินเทอร์เน็ตฟรีทุกหมู่บ้าน และทุกครอบครัวจะได้แท็บเล็ตฟรี 1 เครื่อง อีกมุมหนึ่งยังทำให้ลูกหลานเข้าถึงข้อมูลและการเรียนออนไลน์ได้มากขึ้นด้วย ดังนั้นการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ ขอให้ชาวร้อยเอ็ดและประชาชนทั่วประเทศเลือกพรรคเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
‘ก้าวไกล’ รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ตามหน่วยจับใบดำ-ใบแดง ทั่วประเทศ
https://www.matichon.co.th/election66/news_3904822
‘ก้าวไกล’ รณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ตามหน่วยจับใบดำ-ใบแดง ทั่วประเทศ
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 เมษายน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และนายปิยรัฐ จงเทพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เข้าสังเกตการณ์ ชวนพูดคุย และทำโพลสำรวจความเห็นต่อข้อเสนอยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ที่หน่วยจับใบดำ-ใบแดง เขตพระโขนง โดยมีผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั่วประเทศกระจายทำกิจกรรมรณงค์ลักษณะเดียวกันในเขตเลือกตั้งของตนเองด้วย
นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากพรรค ก.ก. เป็นรัฐบาล จะยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารภายใน 1 ปี เพื่อให้เมษายนปีนี้ เป็นครั้งสุดท้าย ที่ต้องมีคนมาจับใบดำ-ใบแดง หรือต้องมีคนเป็นทหารทั้งที่ไม่อยากเป็น เหตุผลที่จะยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เพราะระบบเกณฑ์ทหารทำให้เกิดความสูญเสียในสองระดับด้วยกัน คือ การสูญเสียเสรีภาพในระดับปัจเจกบุคคล ซึ่งกระทบต่อเสรีภาพในการประกอบอาชีพ โอกาสความก้าวหน้าทางการงาน และเวลาที่ได้อยู่กับครอบครัว ส่วนอีกระดับหนึ่งคือ การสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับประเทศ เพราะเป็นการดึงทรัพยากรมนุษย์ออกจากตลาดแรงงานในวันที่ประเทศไทยเผชิญกับสังคมสูงวัย และโครงสร้างประชากรที่มีสัดส่วนคนวัยทำงานที่ลดลง
นายพริษฐ์ กล่าวว่า การยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารจะไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะหากลดยอดกำลังพลที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง เช่น พลทหารรับใช้ ควบคู่กับการยกระดับสวัสดิการสวัสดิภาพของพลทหารและการกำจัดความรุนแรงในค่าย ยอดทหารที่สมัครใจเข้ามาจะเพิ่มขึ้นและเพียงพอต่อภารกิจการรักษาความมั่นคงของประเทศ หากการยกเลิกเกณฑ์ทหารสามารถเกิดขึ้นได้จริงจะส่งผลดีกับทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่กองทัพ ที่จะได้ลบข้อครหาว่าเป็นสถาบันอำนาจนิยมและก้าวสู่กองทัพยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยบุคลากรที่สมัครใจทำงานและพร้อมทุ่มเทให้องค์กรอย่างแท้จริง
ด้าน นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าสามารถเปลี่ยนจากการบังคับเกณฑ์ทหารมาเน้นเป็นการสมัครใจทั้งหมด สวัสดิภาพและสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อยจะได้รับการเอาใจใส่มากขึ้น และจะเกิดความสบายใจให้กับทุกคน ทหารไม่ใช่อาชีพเดียวที่รับใช้ชาติ แต่ทุกอาชีพมีส่วนในการร่วมกันรับใช้ชาติทั้งหมด การจ่ายภาษีให้กับรัฐก็สามารถนับเป็นการรับใช้ชาติได้เช่นกัน การถูกเกณฑ์เข้าไปดูแลบ้านหรือครอบครัวของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ต่างหากที่น่าตั้งคำถามว่าเป็นการรับใช้ชาติจริงหรือ ทั้งนี้ หากการบังคับเกณฑ์ทหารถูกยกเลิกได้จริง จะทำให้งบประมาณจำนวนมหาศาลได้รับการจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอัตโนมัติ
นายวิโรจน์ กล่าวว่า การยกเลิกการเกณฑ์ทหารเป็นหนึ่งนโยบายปฏิรูปกองทัพของพรรคก.ก. ที่ครอบคลุมอีกหลายวาระ ตั้งแต่การปิดช่องรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองโดยกองทัพ การโอนธุรกิจกองทัพมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความโปร่งใส รวมถึงการแก้กฎหมายและระเบียบกลาโหมทั้งหมดเพื่อให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนที่ยึดโยงกับประชาชน ซึ่งจะทำให้ทหารทุกคนได้ทำหน้าที่เป็นทหารอาชีพอย่างแท้จริง
‘แอตต้า’ จี้รัฐบาลเตรียมรับมือ ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ คืนชีพ
https://www.matichon.co.th/economy/news_3904562
‘แอตต้า’ จี้รัฐบาลเตรียมรับมือ ‘ทัวร์ศูนย์เหรียญ’ คืนชีพ
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ขณะนี้เมื่อตลาดจีนเริ่มฟื้นตัวมากขึ้นแล้ว แต่มีบริษัททัวร์ในประเทศจีนหลายแห่งยังไม่กลับมาเปิดกิจการ หรือแม้กลับมาดำเนินกิจการแล้ว แต่ไม่สามารถจัดหาตั๋วเครื่องบินเพื่อจัดทำแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวได้ เนื่องจากบริษัททัวร์รายใหญ่ของจีนเหมาบัตรโดยสารไปก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย อาทิ ธุรกิจรถเช่าเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนธุรกิจโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเริ่มกลับมาเปิดให้บริการเป็นบางส่วน ยังไม่เปิดบริการเต็มที่นัก
นายศิษฎิวัชร กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการบริษัททัวร์ เริ่มพบสัญญาณการตั้งราคาขายแพคเกจทัวร์ในราคาที่ต่ำลง รวมถึงมีสมาชิกของสมาคมฯ พูดถึงประเด็นทัวร์ศูนย์เหรียญบ้างแล้ว แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าได้รับผลกระทบทางตรงอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมากับทัวร์ยังมีจำนวนน้อยอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม อยากให้ภาครัฐเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ มีความเอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหา เข้าใจโครงสร้างการออกแบบแพคเกจทัวร์ศูนย์เหรียญ รวมถึงพร้อมสื่อสารทำความเข้าใจไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอยากให้นักท่องเที่ยวเข้าใจว่าทัวร์ที่ดีราคาไม่ถูก ถ้าทัวร์พาไปทานอาหารดีๆหมายถึงราคาทัวร์ก็ต้องสูงขึ้นอยู่แล้ว
“การมีไกด์เถื่อนต่างชาติลักลอบเข้ามาทำงานในไทย ต้องยอมรับว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวประสบปัญหาดังกล่าวมาสักระยะแล้ว เนื่องจากมัคคุเทศก์ที่มีความรู้ภาษาต่างประเทศยังขาดแคลน จึงอยากอยากให้ใช้โมเดล Siting Guild ชาวไทยจำนวน 1 คน และมีชาวต่างชาติอีกหนึ่งราย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาด้านข้อกฎหมายดังกล่าว เพื่อแก้ไขปัญหาไกด์เถื่อนให้ได้” นายศิษฎิวัชร กล่าว