เพื่อไทย ยืนยันค่าไฟแพงไม่ใช่โทษรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ต้องโทษประยุทธ์
https://www.matichon.co.th/clips/news_3960186

ทีมพรรคเพื่อไทย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, จาตุรนต์ ฉายแสง และเผ่าภูมิ โรจนสกุล ตอบคำถามกรณีเวทีดีเบตมีการพาดพิงว่า ค่าไฟแพงเพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยืนยันจุดเปลี่ยนสำคัญคือ รัฐประหารและการตัดสินใจหลังจากนั้น

---

‘ชัยธวัช’ ชี้ผลโพลก้าวไกลพุ่ง ขวางลุงๆ ตั้ง รบ.ข้างน้อย เชื่อจับมือ พท.ได้ 300 เสียงขึ้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_3959584

‘ชัยธวัช’ เชื่อ ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ รวม ส.ส.เกิน 300 เสียง จัดตั้งรัฐบาลได้ ปิดทาง ‘ตาอยู่’ หยิบชิ้นปลามัน จ่อตั้งเงื่อนไขร่วมทำนโยบายหลัก ‘แก้ รธน.-ปฏิรูปกองทัพ’ ชี้โพลนิยมก้าวไกลพุ่ง สะท้อน ปชช.อยากเปลี่ยน ปท.-‘พิธา’ เป็นนายกฯ
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ที่อาคารอนาคตใหม่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงโพลคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องว่า เป็นเป้าหมายที่เราวางไว้และต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ตอบรับ และเข้าใจสิ่งที่เราพยายามสื่อสารตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สะท้อนว่าพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ต้องการได้นายกฯ ที่ชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯของพรรค ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าอิงจากนิด้าโพลขณะนี้มีโอกาสที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จะทะลุ 35 คน ที่เหลือจะเป็น ส.ส.เขต เพราะเรามีเขตยุทธศาสตร์อยู่จำนวนกว่า 100 เขต ดังนั้น เมื่อรวมกัน จึงรวมกันถึง 160 ที่นั่งได้
 
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า สถานการณ์ในวันนี้ไม่เหมือนการเลือกตั้งปี 2562 ถ้าเราดูแนวโน้มจากโพลต่างๆ ที่ออกมา ประกอบกับโพลของฝ่ายความมั่นคงล่าสุดและโพลที่พรรคการเมืองต่างๆ ทำสอดคล้องกันหมดในภาพรวม สิ่งที่ต่างมากๆ ในการเลือกตั้งรอบนี้กับรอบปี 2562 คือ ขั้วรัฐบาลเดิมจะไม่มีโอกาสที่จะได้ ส.ส.รวมกันเกิน 180 ที่นั่ง ขณะที่ขั้วพรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคหลักคือพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่รวมกันมีแนวโน้มชัดเจนที่จะได้ ส.ส.มากว่า 300 เสียง
 
ดังนั้น ความห่างของพรรคขั้วรัฐบาลอันดับหนึ่งของขั้วรัฐบาลเดิมจะห่างมากๆ ประมาณ 100 เสียง ความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลจึงเป็นไปไม่ได้ และไม่ต้องกังวลด้วยว่าเสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะตัดกันเอง แล้วทำให้พรรคอันดับสามขึ้นมาแทรก เพราะสถานการณ์โดยรวมขณะนี้จากโพลทั้งหมด พบว่าโดยทั่วไปสองพรรคหลัก เฉลี่ยอยู่ที่ 70% ยกเว้นในภาคใต้ที่อาจจะรวมกันแล้วอยู่ที่ 50% ถ้าเป็นปี 2562 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 50%  หมายความว่าเมื่อสองพรรคหลักรวมกันเป็น 70% จะเกิดสถานการณ์เรือล่มในหนอง จะไม่ใช่สถานการณ์ตาอยู่ คือจะได้เสียงร่วมกัน 300 บวก

ความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลจากเสียงข้างน้อย จากขั้วรัฐบาลเดิมจะเป็นไปได้ยาก ยกตัวอย่างพรรคของ 2 ลุงได้ไม่เกิน 40 เสียงต่อพรรค และก็ยากมากที่จะทำให้ส.ว.ฝืนมติมหาชน เราจึงยังเชื่อมั่นว่าพรรคจากขั้วฝ่ายค้านเดิม จะได้จัดตั้งรัฐบาลแน่นอน และตอนนี้สำหรับตำแหน่งนายกฯ นายพิธา ขึ้นเป็นที่ 1 อย่างชัดเจน และเชื่อมั่นว่าจะเป็นกระแสแบบนี้ไปจนถึงการเลือกตั้ง ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าถ้าในช่วง 10 วันสุดท้ายถ้าเราทำงานอย่างหนักเข้าถึงประชาชนให้มากที่สุดคะแนนนิยมเราจะพุ่งขึ้นอีกง
 
“สิ่งที่เราเห็นจากเวทีปราศรัยสามย่าน มิตรทาวน์พระราม 2 ภูเก็ต เชียงใหม่ เชียงราย อุดรธานีและชลบุรีเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าออนไลน์และออนกราวด์มีส่วนสำคัญอย่างแยกไม่ออก สำหรับเขตชนบท พี่น้องประชาชนตอบรับนโยบายดีมาก ทั้งนโยบายสวัสดิการ นโยบายปลดล็อกชนบท และปลดล็อกที่ดิน เพราะเป็นเรื่องที่การเมืองในอดีตไม่เคยตอบสนองปัญหาที่ค้างคามา 40 ถึง 50 ปีได้” นายชัยธวัชกล่าว
 
นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม โพลเป็นทิศทางใหญ่ และแต่ละพรรคการเมืองก็ทำโพลในระดับเขตด้วย เชื่อว่าโพลของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ต่างกัน แต่คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลในพื้นที่ภาคใต้มีมากกว่าพรรคเพื่อไทย ส่วนกระแสภาคพื้นดิน แน่นอนว่า อาจจะไม่ได้ตามโพล 100% แต่จะยังอยู่ในทิศทางเช่นนั้น เราจึงไม่กังวลใจมาก เพราะฐานคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลค่อนข้างแน่นอน ไม่สามารถถูกดึงไปได้ด้วยวิธีการใต้ดิน เป้าหมายตอนนี้คือ เราต้องการเป็นฝ่ายเลือก และแน่นอนว่ารัฐบาลก้าวไกลจะไม่มีพรรคของสองลุง
 
นายชัยธวัชกล่าวว่า เรื่องการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาฐานความผิดหมิ่นประมาทรวมทั้งหมด พรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างแก้ไขไว้แล้วในสภา เมื่อสภาเปิดเราจะดำเนินการต่อตามกระบวนการนิติบัญญัติ การจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน สิ่งที่เราอยากเห็นคือการทำข้อตกลงที่เปิดเผยต่อสาธารณะในประเด็นที่ใหญ่ๆ รวมกัน เช่น ต้องมีคำมั่นสัญญาว่าจะจัดการลงประชามติถามประชาชนว่าต้องการจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงหรือไม่ จะปฏิรูปกองทัพโดยเริ่มต้นจากการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร สุราก้าวหน้า และสมรสเท่าเทียมจะต้องดำเนินการต่อ
 
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการปลดล็อกท้องถิ่นที่สามารถเริ่มได้เลย เช่น การยกเลิกประกาศคำสั่ง คสช. ที่ไปลดอำนาจของท้องถิ่น การแก้กฎกระทรวงมหาดไทย การแก้กฎหมายเพิ่มส่วนแบ่งของภาษีสำคัญให้กับท้องถิ่นและเป้าหมายสุดท้ายที่พรรคก้าวไกลเสนอคือการจัดทำประชามติถามพี่น้องประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ คิดว่ามีเรื่องหลักๆ หลายเรื่องที่น่าจะเห็นร่วมกันได้ แน่นอนว่า ข้อตกลงที่จะเป็นวาระของพรรคก้าวไกลจะไปอยู่ในข้อตกลงร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลหรือเอ็มโอยูได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับจำนวนเสียง ส.ส.ของพรรคก้าวไกล เช่นกัน
 
นายชัยธวัชกล่าวว่า ความจริงพรรคก้าวไกลไม่ได้ตั้งเงื่อนไขเยอะ การลงประชามติเลือก ส.ส.ร. คิดว่าพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ปฏิเสธ รวมถึงเรื่องการปฏิรูปกองทัพเช่นกัน การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารไม่ได้เท่ากับการยกเลิกทหารประจำการ แต่เราบอกว่าการยกเลิกการบังคับเกณท์ทหาร คือให้เหลือแค่ทหารประจำการที่สมัครใจ ลด จำนวนกำลังพลที่ไม่จำเป็นลง แล้วนำงบประมาณส่วนนั้นไปใช้ในนโยบายอื่น รวมถึงแบ่งมายกระดับคุณภาพสวัสดิการและความเป็นมืออาชีพของทหารประจำการ แต่กลับพบว่ามีหลายคนพยายามสร้างความสับสนและกล่าวหาว่าเราจะยกเลิกทหารประจำการ จนไม่มีทหารไว้ป้องกันประเทศ ถ้าไม่ตั้งใจบิดเบือน ก็สะท้อนความสามารถในการอ่านหนังสือว่าอ่านไม่แตก
 
นายชัยธวัชกล่าวถึงการปั่นกระแสในโลกโซเชียลว่า คิดว่าคนที่เล่นโซเชียลมีเดียจะแยกออกว่าอะไรเป็นไอโอ และอันไหนเป็นของจริงทรรศนะของพรรครัฐบาลเดิมมาจากความคุ้นเคยและพฤติกรรมที่ถนัดในการใช้ไอโอจากกองทัพ และฝ่ายความมั่นคงเพื่อมาปั่นกระแสสร้างข้อมูลเท็จและสร้างความแตกแยกในสังคมมาตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนนี้เป็นคำตอบที่ออกมาจากสามัญสำนึกและพฤติกรรมที่ตัวเองเคยชิน ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ทำ อย่าว่าแต่ไอโอ ขนาดซื้อโฆษณาเฟซบุ๊กเรายังไม่ซื้อสักบาทหนึ่งเลย
 

---

สมชัย แนะกกต. ใช้เซนส์หน่อย ภาพบัตรกองเป็นปึก มันใช่สมัครสมาชิกพรรคจริงๆหรือ?
https://www.matichon.co.th/politics/news_3959185

สมชัย แนะ กกต. ใช้เซนส์หน่อย ภาพบัตรกองเป็นปึก มันใช่สมัครสมาชิกพรรคจริงๆ หรือ? ใบสมัคร-รูปถ่าย ก็ไม่มี 
 
จากกรณีที่ปรากฏภาพเผยแพ่ในโลกออนไลน์ ตั้งโต๊ะรับบัตรประชาชนที่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยระบุว่า เป็นเวทีปราศรัยของพรรคการเมืองหนึ่ง จากนั้น กกต.ได้ออกเอกสารชี้แจงว่า เป็นการดำเนินการเพื่อกรอกข้อมูลการสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาแล้วนั้น

ล่าสุด (1 พ.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวว่า

“Sense สำหรับคนคุมกติกา
 
คนคุมกติกา ต้องมี sense ในการเห็นพฤติกรรมของผู้เล่น ว่าสิ่งนั้นปกติ หรือผิดปกติ
การรับสมัครสมาชิกพรรคการเมือง ต้องมีหลักฐาน
 
1.ใบสมัครที่เขียนโดยประชาชน มีการลงลายเซ็น
2.รูปถ่าย 1 นิ้ว เพื่อทำบัตรสมาชิก
3.สำเนาบัตรประชาชน (ใช้ scan ได้)
4.สำเนาทะเบียนบ้าน (ส่งภายหลังได้)
5.เงินค่าสมัครสมาชิก 100 บาทต่อปี หรือ 2,000 บาทตลอดชีพ (กม.ใหม่ 20 บาทและ 200 บาท)
6.มีการออกใบเสร็จรับเงิน และออกบัตรสมาชิกให้
 
ไม่รวมถึงคนสมัครควรยืนกำกับการ scan บัตรของตนเพื่อป้องกันการนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ
 
Sense ง่ายๆ แบบนี้ ผู้คุมกติกาต้องรู้ ไม่ใช่เออออห่อหมกตาม เขาว่า สมัครสมาชิก ก็สมัครสมาชิก ไม่คิดสืบสวน ไต่สวนต่อ
ตกลงมี กกต.ไว้ทำอะไรครับ”
 
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid02MHLVxWg76NLT6EyYbvdvfXSZbwzY7hWFApoN6Mkh1MtMLeua7ia1dAMCJ1yc7RWKl
 

---

  
กกต.โคราช รับเรื่องแจกเงินฟังปราศรัย-ผู้สมัครพาผู้นำชุมชนเที่ยวแพ ไว้สอบสวนแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_3959971

กกต.โคราช รับ 2 เรื่องกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้ากระบวนการสอบสวน
 
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กกต.) จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์สืบสวนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งได้รับการพิจารณาและดำเนินการตามกระบวนการ 2 เรื่อง 
 
1. เป็นความที่ปรากฏคลิปชาวบ้านมาฟังการปราศรัยย่อยได้เดินมาหาชายไทยไม่ทราบชื่อและที่อยู่ โดยนำแผ่นพับของผู้สมัครมายื่นให้เพื่อแลกกับธนบัตรฉบับละ 100 บาท ส่วนผู้เสียหายได้มอบอำนาจให้นายสถาพร โชติกลาง มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนเวร สภ.ประทาย อ.ประทาย อ้างเป็นการใส่ร้ายให้ได้รับความเสียหายในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นแต่อย่างใด

ผอ.กกต.โคราชกล่าวว่า ล่าสุดรับรายงานจากชุดป้องปรามและชุดข่าวลงพื้นที่แสวงหาข้อมูลระบุเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เมืองยาง ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุเป็นการจัดฉากกลั่นแกล้ง หรือเป็นเรื่องจริง อยู่ระหว่างติดตามตัวบุคคลที่ปรากฏในคลิปมาสอบสวน
 
ผอ.กกต.โคราชกล่าวว่า และ 2.และเรื่องที่ปรากฏในกลุ่มเพจโหนกระแส กรณีผู้ประกอบการล่องแพเขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี ถูกผู้สมัคร ส.ส.พรรคดังนำคณะทัวร์ผู้นำชุมชน 210 คน มาจัดเลี้ยงเกษียณให้วันที่ 6 เมษายน ได้ว่าจ้างแพทั้งหมด 7 ลำ และสั่งอาหารสำหรับแพ 7 ลำ ใช้แม่ครัว 14 คน รวมยอดทั้งหมด 66,500 บาท แต่มัดจำ 12,000 บาท และจ่ายหลังจากล่องเสร็จอีก 5,500 บาท ซึ่งยังมียอดค้างชำระ 49,000 บาท ล่าสุดได้ชำระเงินให้ครบตามจำนวน แต่พฤติการณ์เข้าข่ายนำบุคคลที่มีสิทธิเลือกตั้งไปจัดเลี้ยงเพื่อจูงใจให้ได้คะแนนเสียง แม้ว่าอยู่นอกเขตพื้นที่หาเสียงก็ถือเป็นความผิด และสามารถนำเข้าสู่กระบวนการร้องเรียนได้