พระพุทธเจ้าท่านตรัสสรูปให้ไว้แล้ว ว่า..
ว่าด้วยสิ่งที่เป็นอนัตตา
[๓๘๓] พระนครสาวัตถี. ท่านพระราธะได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ที่เรียกว่า อนัตตา อนัตตา ดังนี้ อะไรหนอเป็นอนัตตา?
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า..
ดูกรราธะ รูปเป็นอนัตตา เวทนาเป็นอนัตตา สัญญาเป็นอนัตตา สังขารเป็นอนัตตา วิญญาณ
เป็นอนัตตา
ดูกรราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
เพราะฉนั้นคำว่า "ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา" ก็คือธรรมในหมวดหรือในกรอบนี้นั่นเอง
หาเอานิพพานเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยไม่..
มันเป๋นจะอิ้ๆเน้อ
จะอู้หื้อ.....
นักศึกษาธรรมทั้งหลายโปรดทราบ ?
ว่าด้วยสิ่งที่เป็นอนัตตา
[๓๘๓] พระนครสาวัตถี. ท่านพระราธะได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ ที่เรียกว่า อนัตตา อนัตตา ดังนี้ อะไรหนอเป็นอนัตตา?
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า..
ดูกรราธะ รูปเป็นอนัตตา เวทนาเป็นอนัตตา สัญญาเป็นอนัตตา สังขารเป็นอนัตตา วิญญาณ
เป็นอนัตตา
ดูกรราธะ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ฯลฯ กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.
เพราะฉนั้นคำว่า "ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา" ก็คือธรรมในหมวดหรือในกรอบนี้นั่นเอง
หาเอานิพพานเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยไม่..
มันเป๋นจะอิ้ๆเน้อ
จะอู้หื้อ.....