ขอขอบคุณเพจ ป.ปืน อย่างสูงครับ

https://www.facebook.com/Porpeunbybaster



หลังมีการใช้ปืนในระบบ Percussion lock หรือปืนแก๊ปมากขึ้น ก็เริ่มมีการออกแบบผลิตปืนชนิดนี้ออกมาแทนที่ผินในระบบคอบศิลา(flintlock)แบบเก่า ในช่วงปี 1839 อังกฤษได้นำระบบใหม่มาทดแทนอย่างเป็นทางการ และสิ่งที่เริ่มเป็นมาตราฐานของปืนเล็กยาวในช่วงนั้นคือปืนลำกล้องมีเกลียว/ rifle ยุคแรกนั้นกระสุนลูกปืนที่ใช้สำหรับปืนแบบนี้ก็ยังเป็นกระสุนเม็กกลมอยู่ ซึ่งมั้กจะเกิดความยากลำบากในการบรรจุจึงทำให้อัตราการยิงน้อย 2-3 นัดต่อนาที
Royal Small Arms Factory ที่ Enfield ได้ทำการออกแบบปืนเล็กยาวในระบบบรรจุปากลำกล้องมีเกลียว นั้นคือ Brunswick rifle ที่มาของชื่อมาจากในช่วงนั้น ราชวงศ์ ฮันโนเฟอร์(https://th.wikipedia.org/wiki/ /ราชวงศ์ฮันโนเฟอร์) มีอำนาจปกครอง Brunswick ซึ่งเป็นช่วงที่มีการทดลองระบบปืนแก๊ปที่เรียกว่า Hanoverian percussion cap
หลักการของ Brunswick rifle มีร่องเกลียวอยู่2 ร่อง ซึ่งจะต้องใช้กระสุนที่เรียกว่า Girdled bullet ซึ่งจะมีวงแหวนรอบๆตัวกระสุนซึ่งวงแหวนนี้จะมีขนาดเท่าๆกับร่องเกลียวของลำกล้องปืน พอดี ทำให้เมื่อทำการยิงกระสุนจะหมุนตัวตามที่ร่องเกลียวบังคับ ทำให้สามารถบรรจุกระสุนลงในลำกล้องได้ง่ายขึ้น อัตราการยิงของปืนจึงอยู่ที่ 3-4 นัดต่อนาที
ปืนมีลำกล้องยาว30นิ้ว ใช้กระสุนขนาด .654 นิ้ว มีแท่นดาบปลายปืนอยู่ด้านขวาของปากลำกล้อง มีช่องเก็บอุปกรณ์ของปืนที่พานท้าย รูปแบบคล้ายๆ Baker rifle.



ในเดือนธันวาคม ปี 1836 ได้มีการนำ Brunswick rifle มาทดสอบกับ Baker rifle. ผลการทดสอบออกมาว่า Brunswick rifle ในพิสัยใกล้มีความแม่นยำเท่ากัน (100หลา) แต่ในพิสัยไกล (300 หลา)มีความแม่นยำมากกว่า อีกทั้งลำกล้องทนทานต่อสิ่งสกปรกมากกว่า ผู้เชี่ยวชาญยังสรุปว่าระบบเกลียวของ Brunswick rifle มีความทนทานมากกว่า จึงมีการให้อนุมัติการผลิต ในเดือนมกราคม ปี 1837
แต่ลำกล้องถูกเปลี่ยนจากขนาด 0.654 นิ้ว เป็น 0.704 นิ้ว ในเดือนสิงหาคม ปี1837 และ เดือน ตุลาคม ปีเดียวกันแบบที่ปรับปรุงใหม่มียอดสั่งผลิต 1000 กระบอก เดือนมกราคมมีคำสั่งเร่งด่วนโดย Battalion of the Rifle Brigade ของ Col. Brown' จำนวน 600 กระบอก ทาง Enfield จึงต้องปล่อยสัญญาจ้างผลิตให้แก่ผู้ผลิตรายอื่นโดยทำให้ปืน Brunswick rifle รุ่นแรกมีผู้ผลิตได้แก่ ได้แก่

Tomas Potts, 212;
Wm. Heptinstall, 55;
Barnett & Co., 212;
Reynolds & Son, 55;
Lacy & Reynolds, 210;
Yeoman's & Son, 55;
E. J. Baker, 146;
Thomas Leigh, 55;
William Parker, 80;
W. Mills & Son, 55;
R. E. Pritchett, 80;
W. T. Bond, 55;
Thomas Ashton, 80.



มีนาคมปี 1838 ได้มีปืนจำนวนมากถูกผลิตให้กรมกองต่างๆเช่น Rifle Brigade, the Canadian Rifle Regiment และหน่วยรบอื่นๆ จนถึงปี1840 ถึงแม้จะมีการระบุว่าเป็นปืนที่บรรจุกระสุนได้ยากกว่ากระสุนแบบใหม่อย่าง Minié ball ในช่วงปลายศตวรรษ Brunswick rifle ก็ยังผลิตต่อมาอีกถึง50 ปี ยุติการผลิตในปี 1885
มีการผลิต Brunswick rifle โดยเบลเยี่ยมซึ่งถูกส่งมาขายในอเมริกา ถูกใช้โดย 26th Louisiana Infantry, ในการปิดล้อม Vicksburg.
มีรุ่นต่างๆคือ
Pattern 1836 ระบบดั่งเดิมเปลี่ยนมาใช้กระสุนขนาด 0.704 นิ้ว
Pattern 1840 มีช่องเก็บอุปกรณ์ สองช่อง
Pattern 1841 เป็นรุ่นที่ขึ้นลำกล้องทำเกลียวด้วยการหมุนดัดแทนการครูดเกลียว
Pattern 1848 รุ่นปรับปรุงใช้ดาบปลายปืนแบบซ๊อกเก็ต
มีรุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 0.796 นิ้ว สำหรับราชนาวีอังกฤษ
มีการผลิตเนปาลได้ สำเนาช่วง 1840-1860 มีจำนวนประมาณ 10,000 - 12,000 กระบอก

ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดๆมา ณ. ที่นี้ครับ

Cr.
https://collections.museumsvictoria.com.au/items/382695
https://guns.fandom.com/wiki/Brunswick_rifle
https://en.wikipedia.org/wiki/Brunswick_rifle
https://collections.royalarmouries.org/object/rac-object-396
#Brunswick_rifle #ป_ปืน