"ขอขอบคุณเพจ ป ปืนอย่างสูงครับ"
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
หลักจากที่ประสบความสำเร็จกับ FN FAL ขนาด 7.62 แล้ว และเมื่อการมาถึงของกระสุนมาตรฐานใหม่ของ NATO คือ 5.56 x45 mm. NATO ในปี1961 และ FN ก็ตอบสนองกับมาตรฐานใหม่นี้ด้วยการมอบหมายให้ Ernest Vervier เป็นผู้ออกแบบในปี 1963 ปืนเล็กยาวขนาด 5.56 คือ FN CAL (Carabine Automatique Légère หรือ Light Automatic Carbine) ที่เขาออกแบบนี้โดยอาศัย FN FAL ที่ออกแบบโดย Dieudonné Saive เป็นต้นแบบ
ในเรื่องโครงสร้างโดยรวม คือโครงปืนแบบแผ่นเล็กปั๊มขึ้นรูป Steel stampings แต่กลไกการทำงานนั้นแตกต่างกับ FN FAL ที่ใช้ระบบแก๊สลูกสูบช่วงสั้น Short-stroke pistol และ ระบบขัดกลอนแบบตกกลอน Tilting breechblock
แต่เขาเลือกใช้ระบบ ลูกเลื่อนหมุนตัวขัดกลอน Rotating bolt เลื่อนจะมีส่วนประกอบหลักๆอยู่ 6 ชิ้น คือ ลูกเลื่อน โครงนำลูกเลื่อนบน โครงนำลูกเลื่อนล่าง เข็มแทงชนวน แท่งบังคับลูกเบี้ยว สลักยึดเข็มแทงชนวน
บริหารกลไกด้วยแก็สลูกสูบช่วงสั้น Short-stroke gas piston โดยที่ลูกสูบจะอยู่ใต้ศูนย์หน้าแบบระบบปิด Tappet piston rod และจะเมื่อมีแรงดันจะไปดันก้านที่เชื่อมต่อกับลูกเลื่อน คล้ายระบบ M1 Carbine สามารถถอด โครงลูกเลื่อนและก้านนำ โดยการดึงคันรั้งลูกเลื่อนออก
โครงปืนสามารถถอกแยกแบบ AR (Upper and Lower) เพื่อถอดชิ้นส่วนมาทำความสะอาด
ชุดลั่นไกแบบ 4 ตำแหน่ง 4-Position Trigger unit สามรถปรับโหมดการยิงได้ 3 โหมด มี ห้ามไก safety ยิงทีละนัด single shots,ยิงชุดสามนัด 3-round bursts และยิงอัตโนมติ full automatic fire.
สามารถติดเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ M203 grenade launcher ได้
ซองกระสุนขนาด 20 และ 30 นัด
FN CAL ทำการผลิตขายในปี 1966
มีสอง แบบคือMod 1. พานท้ายเต็ม /Mod 2. Para CAL พานท้ายพับข้าง และ Mod. 3 Semi automatic Only
FN CAL ถูกผลิตขึ้นเพียง 12,000-12,500 กระบอกเท่านั้นและก็ทำตลาดได้ไม่ดีเท่าทีควร ถึงแม้จะมีเวอร์ชั่นพลเรือน ( Semi automatic Only) ขนาด 223 Remington เพราะส่วนหนึ่งความซับซ้อนและชิ้นส่วนที่มากมายของมัน จึงมีการยุติการผลิตลงไป
ในบ้านเรา กรมตำรวจ (ณ.ขณะนั้น) ซื้อมาใช้งานในหน่วยตำรวจปฏิบัติการพิเศษ ในช่วงสงครามปราบปรามคอมมิวนิสต์ ประจำการในชื่อ ปืนเล็กยาวแบบ ๑๔ หรือ ปลย.๑๔
FN ก็ไม่ได้ลดละความพยายามในการออกแบบ ปืนเล็กยาวจู่โจม ขนาด 5.56 ในช่วงปี 1975 ถึงปี 1977 ทาง FN ได้มีการทบทวนความล้มเหลวของ FN CAL และได้สร้างปืนต้นแบบคือ FNC 76 prototype หรือโครงการ Fabrique Nationale Carabine หรือ Fabrique Nationale Carbine ในต้นแบบนี้มีการเปลี่ยนแปลงกับระบบบริหารกลไกไปอย่างมาก โดย ระบบแก๊ส และ ลูกเลื่อน มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด และมีลักษณะคล้ายคลึงกับ ระบบของ AK
(* สำคัญเลยผมใช้คำว่า “คล้ายคลึง” / “Strongly resembles” ไม่ใช่คำว่า “พื้นฐานจาก” /Base from หรือ “สำเนา” Coppy เพราะแหล่งข้อมูลอ้างอิ้งว่า “คล้ายคลึง” น่ะครับ)
คือใช้ลูกสูบช่วงยาว Long stroke gas piston และลูกเลื่อนแบบหมุนตัวขัดกลอน Rotating bolt โดยโครงลูกเลื่อน Bolt carrier.เป็นชิ้นเดียวกับลูกสูบ และก้านสูบ รวมถึงแหนบสปริง สอดในก้านลูกสูบ แท่งลูกเบี้ยวเป็นชิ้นเดียวกับลูกเลื่อน
แต่รูปแบบการถอดโครงปืนยังเป็นรูปแบบ AR (Upper and Lower) ใช้ซองกระสุนแบบ STANAG 4179 ของ AR
ซึ่งเท่ากับว่า ปืนต้นแบบนี้ รวมเอาข้อดีของทั้งระบบ AR และ AK เอาไว้ด้วยกัน
แต่เพื่อทำการทดสอบกับ NATO ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะความรีบเร่งพัฒนาเพื่อเข้าทดสอบ จึงทำให้ปืนยังไม่สมบูรณ์แบบ และถอนตัวออกจากการทดสอบ
หลังจากนั้นในช่วงปี1981-82 มีการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นคือ FNC 80 prototype ระบบแก๊สสามารถปรับได้ 2 ระบบ Two-positionsgas regulator มีระบบตัดการทำงานของระบบแก๊สแบบอัตโนมัติ Gas cutoff automatically blocks เมื่อมีการใช้ลูกระเบิดยิงจากปากลำกล้อง Rifle grenades เมื่อยกใบศูนย์เล็งลำหรับยิงลูกระเบิดขึ้น รุ่น PARA พานท้ายพับข้างด้านขวา
เกลียวลำกล้อง6เกลียวเวียนขวา 6 right-hand grooves เกลียวเวียนครบรอบที่ 178 mm (1:7 นิ้ว ) ออกแบบมาสำหรับกระสุน 5.56 x45 mm NATO แบบ SS109
และมีการนำไปทดสอบ โดย Swedish Armed Forces ซึ่งประสิทธิภาพของปืนนั้นสร้างความประทับใจให้แก่ กองทัพสวีเดนเป็นอย่างมาก ซึ่งอยู่ในโครงการ Nytt infanterivapen (New Infantry Weapon) ที่มีการทดสอบปืนเล็กยาวแบบต่างๆมาตั้งแต่ ปี1975 สำกหรับกระสุนแบบ 5.56×45mm NATO ในช่วงปี 1982 กองทัพสวีเดน ได้ให้Bofors Carl Gustaf รับผิดชอบในการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อผลิตในสวีเดน และหลังจากปรับปรุงและตั้งสายการผลิต ในปี 1986 จึงมีการผลิต ปืนเล็กยาวแบบ Ak 5 หรือ Automatkarbin 5 ("Automatic carbine 5", "Automatic carbine" ก็คือ Assault rifle เพราะในช่วงนั้นคำๆนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ) เพื่อมาทดแทนปืนเล็กยาวแบบ Ak.4
ปี 1982 รัฐบาล อินโดนีเซีย ได้ทำการสั่งซื้อ FNC 80 จำนวน 10,000 กระบอกสำหรับกองทัพอากาศ และต่อมาได้ลิขสิทธิ์ มาผลิตที่ PT Pindad (Persero) เพื่อใช้งานใน Indonesian National Armed Forces และประจำการณ์ในชื่อ Pindad SS1 และ Pindad SS2
ในปี1989 ต้นทางอย่าง Belgian Armed Forces ก็ได้ตกลงปลงใจ เลือก FN FNC เข้าประจำการในกองทัพเบลเยี่ยม เพื่อทดแทน FN FAL,
โดยมีรุ่นหลักคือ รุ่นมาตรฐาน "Standard" Model 2000 rifle และรุ่นลำกล้องสั้น "Short" Model 7000 carbine เกลียวเวียนครบรอบที่ 178 mm (1:7 นิ้ว ) ออกแบบมาสำหรับกระสุน 5.56 x45 mm NATO แบบ SS109 ( FN )
และรุ่น Model 0000 rifle และ Model 6000 carbine ที่ใช้เกลียวลำกล้องครบรอบที่ 305 mm (1:12 นิ้ว) สำหรับกระสุนแบบ 5.56 x45 mm NATO แบบ M193 ( U.S.)
รุ่นที่ยิงในระบบกึ่งอัตโนมัติ Semi-automatic-only สำหรับหน่วยงานรักษากฎหมาย Law Enforcement คือ Model 7030 เกลียวลำกล้องครบรอบที่178 mm (1:7 นิ้ว) Model 6040 เกลียวลำกล้องครบรอบที่305 mm (1:12นิ้ว) ใช้ลำกล้องยาว 410 mm (16.1 นิ้ว)
FN FNC และปืนเล็กยาวในตระกูล นี้ ได้รับการยอมรับอีก1 ตระกูลของโลกปืนเล็กยาว และยังมีการผลิต /พัฒนา ใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ. ที่นี้ครับ
CR.
http://www.falfiles.com/forums/printthread.php?t=231055...
http://armamentresearch.com/belgian-fn-herstal-cal-rifle.../
http://modernfirearms.net/.../belgium-assault.../fn-cal-eng/
https://en.wikipedia.org/wiki/FN_CAL
https://www.militaryfactory.com/smallarms/detail.asp...
https://en.wikipedia.org/wiki/FN_FNC
http://modernfirearms.net/.../belgium-assault.../fn-fnc-eng/
https://forum.facepunch.com/.../Firearms-XII-Because.../46/
#FN_CAL #FN_FNC #ป_ปืน
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 559 FNC 5.56 ของ FN
https://www.facebook.com/Porpeunbybaster/
หลักจากที่ประสบความสำเร็จกับ FN FAL ขนาด 7.62 แล้ว และเมื่อการมาถึงของกระสุนมาตรฐานใหม่ของ NATO คือ 5.56 x45 mm. NATO ในปี1961 และ FN ก็ตอบสนองกับมาตรฐานใหม่นี้ด้วยการมอบหมายให้ Ernest Vervier เป็นผู้ออกแบบในปี 1963 ปืนเล็กยาวขนาด 5.56 คือ FN CAL (Carabine Automatique Légère หรือ Light Automatic Carbine) ที่เขาออกแบบนี้โดยอาศัย FN FAL ที่ออกแบบโดย Dieudonné Saive เป็นต้นแบบ
ในเรื่องโครงสร้างโดยรวม คือโครงปืนแบบแผ่นเล็กปั๊มขึ้นรูป Steel stampings แต่กลไกการทำงานนั้นแตกต่างกับ FN FAL ที่ใช้ระบบแก๊สลูกสูบช่วงสั้น Short-stroke pistol และ ระบบขัดกลอนแบบตกกลอน Tilting breechblock
แต่เขาเลือกใช้ระบบ ลูกเลื่อนหมุนตัวขัดกลอน Rotating bolt เลื่อนจะมีส่วนประกอบหลักๆอยู่ 6 ชิ้น คือ ลูกเลื่อน โครงนำลูกเลื่อนบน โครงนำลูกเลื่อนล่าง เข็มแทงชนวน แท่งบังคับลูกเบี้ยว สลักยึดเข็มแทงชนวน
บริหารกลไกด้วยแก็สลูกสูบช่วงสั้น Short-stroke gas piston โดยที่ลูกสูบจะอยู่ใต้ศูนย์หน้าแบบระบบปิด Tappet piston rod และจะเมื่อมีแรงดันจะไปดันก้านที่เชื่อมต่อกับลูกเลื่อน คล้ายระบบ M1 Carbine สามารถถอด โครงลูกเลื่อนและก้านนำ โดยการดึงคันรั้งลูกเลื่อนออก
โครงปืนสามารถถอกแยกแบบ AR (Upper and Lower) เพื่อถอดชิ้นส่วนมาทำความสะอาด
ชุดลั่นไกแบบ 4 ตำแหน่ง 4-Position Trigger unit สามรถปรับโหมดการยิงได้ 3 โหมด มี ห้ามไก safety ยิงทีละนัด single shots,ยิงชุดสามนัด 3-round bursts และยิงอัตโนมติ full automatic fire.
สามารถติดเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ M203 grenade launcher ได้
ซองกระสุนขนาด 20 และ 30 นัด
FN CAL ทำการผลิตขายในปี 1966
มีสอง แบบคือMod 1. พานท้ายเต็ม /Mod 2. Para CAL พานท้ายพับข้าง และ Mod. 3 Semi automatic Only
FN CAL ถูกผลิตขึ้นเพียง 12,000-12,500 กระบอกเท่านั้นและก็ทำตลาดได้ไม่ดีเท่าทีควร ถึงแม้จะมีเวอร์ชั่นพลเรือน ( Semi automatic Only) ขนาด 223 Remington เพราะส่วนหนึ่งความซับซ้อนและชิ้นส่วนที่มากมายของมัน จึงมีการยุติการผลิตลงไป
ในบ้านเรา กรมตำรวจ (ณ.ขณะนั้น) ซื้อมาใช้งานในหน่วยตำรวจปฏิบัติการพิเศษ ในช่วงสงครามปราบปรามคอมมิวนิสต์ ประจำการในชื่อ ปืนเล็กยาวแบบ ๑๔ หรือ ปลย.๑๔
FN ก็ไม่ได้ลดละความพยายามในการออกแบบ ปืนเล็กยาวจู่โจม ขนาด 5.56 ในช่วงปี 1975 ถึงปี 1977 ทาง FN ได้มีการทบทวนความล้มเหลวของ FN CAL และได้สร้างปืนต้นแบบคือ FNC 76 prototype หรือโครงการ Fabrique Nationale Carabine หรือ Fabrique Nationale Carbine ในต้นแบบนี้มีการเปลี่ยนแปลงกับระบบบริหารกลไกไปอย่างมาก โดย ระบบแก๊ส และ ลูกเลื่อน มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด และมีลักษณะคล้ายคลึงกับ ระบบของ AK
(* สำคัญเลยผมใช้คำว่า “คล้ายคลึง” / “Strongly resembles” ไม่ใช่คำว่า “พื้นฐานจาก” /Base from หรือ “สำเนา” Coppy เพราะแหล่งข้อมูลอ้างอิ้งว่า “คล้ายคลึง” น่ะครับ)
คือใช้ลูกสูบช่วงยาว Long stroke gas piston และลูกเลื่อนแบบหมุนตัวขัดกลอน Rotating bolt โดยโครงลูกเลื่อน Bolt carrier.เป็นชิ้นเดียวกับลูกสูบ และก้านสูบ รวมถึงแหนบสปริง สอดในก้านลูกสูบ แท่งลูกเบี้ยวเป็นชิ้นเดียวกับลูกเลื่อน
แต่รูปแบบการถอดโครงปืนยังเป็นรูปแบบ AR (Upper and Lower) ใช้ซองกระสุนแบบ STANAG 4179 ของ AR
ซึ่งเท่ากับว่า ปืนต้นแบบนี้ รวมเอาข้อดีของทั้งระบบ AR และ AK เอาไว้ด้วยกัน
แต่เพื่อทำการทดสอบกับ NATO ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะความรีบเร่งพัฒนาเพื่อเข้าทดสอบ จึงทำให้ปืนยังไม่สมบูรณ์แบบ และถอนตัวออกจากการทดสอบ
หลังจากนั้นในช่วงปี1981-82 มีการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นคือ FNC 80 prototype ระบบแก๊สสามารถปรับได้ 2 ระบบ Two-positionsgas regulator มีระบบตัดการทำงานของระบบแก๊สแบบอัตโนมัติ Gas cutoff automatically blocks เมื่อมีการใช้ลูกระเบิดยิงจากปากลำกล้อง Rifle grenades เมื่อยกใบศูนย์เล็งลำหรับยิงลูกระเบิดขึ้น รุ่น PARA พานท้ายพับข้างด้านขวา
เกลียวลำกล้อง6เกลียวเวียนขวา 6 right-hand grooves เกลียวเวียนครบรอบที่ 178 mm (1:7 นิ้ว ) ออกแบบมาสำหรับกระสุน 5.56 x45 mm NATO แบบ SS109
และมีการนำไปทดสอบ โดย Swedish Armed Forces ซึ่งประสิทธิภาพของปืนนั้นสร้างความประทับใจให้แก่ กองทัพสวีเดนเป็นอย่างมาก ซึ่งอยู่ในโครงการ Nytt infanterivapen (New Infantry Weapon) ที่มีการทดสอบปืนเล็กยาวแบบต่างๆมาตั้งแต่ ปี1975 สำกหรับกระสุนแบบ 5.56×45mm NATO ในช่วงปี 1982 กองทัพสวีเดน ได้ให้Bofors Carl Gustaf รับผิดชอบในการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อผลิตในสวีเดน และหลังจากปรับปรุงและตั้งสายการผลิต ในปี 1986 จึงมีการผลิต ปืนเล็กยาวแบบ Ak 5 หรือ Automatkarbin 5 ("Automatic carbine 5", "Automatic carbine" ก็คือ Assault rifle เพราะในช่วงนั้นคำๆนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ) เพื่อมาทดแทนปืนเล็กยาวแบบ Ak.4
ปี 1982 รัฐบาล อินโดนีเซีย ได้ทำการสั่งซื้อ FNC 80 จำนวน 10,000 กระบอกสำหรับกองทัพอากาศ และต่อมาได้ลิขสิทธิ์ มาผลิตที่ PT Pindad (Persero) เพื่อใช้งานใน Indonesian National Armed Forces และประจำการณ์ในชื่อ Pindad SS1 และ Pindad SS2
ในปี1989 ต้นทางอย่าง Belgian Armed Forces ก็ได้ตกลงปลงใจ เลือก FN FNC เข้าประจำการในกองทัพเบลเยี่ยม เพื่อทดแทน FN FAL,
โดยมีรุ่นหลักคือ รุ่นมาตรฐาน "Standard" Model 2000 rifle และรุ่นลำกล้องสั้น "Short" Model 7000 carbine เกลียวเวียนครบรอบที่ 178 mm (1:7 นิ้ว ) ออกแบบมาสำหรับกระสุน 5.56 x45 mm NATO แบบ SS109 ( FN )
และรุ่น Model 0000 rifle และ Model 6000 carbine ที่ใช้เกลียวลำกล้องครบรอบที่ 305 mm (1:12 นิ้ว) สำหรับกระสุนแบบ 5.56 x45 mm NATO แบบ M193 ( U.S.)
รุ่นที่ยิงในระบบกึ่งอัตโนมัติ Semi-automatic-only สำหรับหน่วยงานรักษากฎหมาย Law Enforcement คือ Model 7030 เกลียวลำกล้องครบรอบที่178 mm (1:7 นิ้ว) Model 6040 เกลียวลำกล้องครบรอบที่305 mm (1:12นิ้ว) ใช้ลำกล้องยาว 410 mm (16.1 นิ้ว)
FN FNC และปืนเล็กยาวในตระกูล นี้ ได้รับการยอมรับอีก1 ตระกูลของโลกปืนเล็กยาว และยังมีการผลิต /พัฒนา ใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ. ที่นี้ครับ
CR. http://www.falfiles.com/forums/printthread.php?t=231055...
http://armamentresearch.com/belgian-fn-herstal-cal-rifle.../
http://modernfirearms.net/.../belgium-assault.../fn-cal-eng/
https://en.wikipedia.org/wiki/FN_CAL
https://www.militaryfactory.com/smallarms/detail.asp...
https://en.wikipedia.org/wiki/FN_FNC
http://modernfirearms.net/.../belgium-assault.../fn-fnc-eng/
https://forum.facepunch.com/.../Firearms-XII-Because.../46/
#FN_CAL #FN_FNC #ป_ปืน