เผย "บิ๊กตู่" สั่งเร่งแก้ปัญหาแล้ว เข้าคิวหน้าธนาคาร รอยืนยันตัวตนบัตรคนจนนาน
วัน 9 มีนาคม 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กังวลภาพประชาชนผู้มีสิทธิ แออัดหน้าธนาคารหรือจุดให้บริการ เพื่อรอเข้าแถว/ต่อคิว รอยืนยันตัวตนตามสาขาธนาคาร ที่ร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 บางสาขาธนาคารในบางวัน ทั้งธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน อาจเปิดให้คิวบริการแบบจำกัดจำนวน เช่น แค่ 100 คิว ทำให้เกิดภาพประชาชนแออัดเบียดเสียดรอรับบริการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หามาตรการแก้ไขหรือวิธีการเพิ่มเติม เพื่อช่วยประชาชนผู้มีสิทธิ สามารถยืนยันตัวตนได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มจำนวนคิวบริการ หรือการเปิดจองคิวก่อนไปธนาคาร เพื่อจะได้ไปยืนยันตัวตน ณ สาขาธนาคารตามเวลาที่กำหนด ทุกฝ่ายที่รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอน ต้องคิดวิธีการทำงานให้เร็วและรอบคอบที่สุด เพราะนายกรัฐมนตรีอยากเห็นประชาชนผู้มีสิทธิได้ใช้ประโยชน์จากสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามกำหนดการและตรงตัวบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่สุด
โดยกระทรวงการคลัง รายงานว่าผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตน โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 สำเร็จแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 2,742,919 ราย (สถานะ 7 มีนาคม 2566) สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติสามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม -1 พฤษภาคม 2566 โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
1.ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์
https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ
https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น.ของทุกวัน
2.ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
ทั้งนี้ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการปี 2565 เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ
https://welfare.mof.go.th
https://www.thaipost.net/x-cite-news/338092/
“ทิพานัน” ยัน “บิ๊กตู่” หารายได้เข้าประเทศหลายทางแบบมั่นคง
ทิพานัน” สอนเพื่อไทยผู้นำหาเงินเป็นอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง “โกงไม่เป็น” ด้วย ชู “พล.อ.ประยุทธ์” ผู้นำฟื้นเศรษฐกิจแกร่งในภาวะวิกฤตอย่างซื่อสัตย์สุจริต เข้าตาสื่อเทศ ยันหารายได้เข้าประเทศหลายทางแบบมั่นคง
วัน 9 มีนาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังการตัดสินใจเดินหน้านโยบายเปิดประเทศตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมาโดนเริ่มจากภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาค โดยปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยังอยู่ที่ภาคการท่องเที่ยว ที่ฟื้นตัวดีขึ้น เป็นที่สนใจของสื่อต่างชาติชั้นนำอย่างรอยเตอร์ ได้นำเสนอข่าว Thailand beats 2022 tourism target with 11.15 mln foreign arrivals ระบุว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนประเทศไทย 11.15 ล้านคน เพิ่มสูงกว่าปี 2564 ที่มีจำนวน 428,000 คน เป็นการเพิ่มขึ้นแบบทะลุเป้าโดยในเดือนธันวาคม 2565 เพียงเดือนเดียว มีชาวต่างชาติไปเที่ยวประเทศไทยมากถึง 2.24 ล้านคน มากกว่าเดือนธันวาคม 2564 ที่มีเพียง 230,497 คน สะท้อนภาพการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนความสำเร็จของนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ที่สื่อต่างชาติเล็งเห็น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับในปี 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคน และคาดว่าจะมีรายได้รวมสูงสุดอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท กลับมาในอัตรา 80% ของปี 2562 การลงทุนภาครัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งตัวเลขเฉพาะเดือนมกราคมที่ผ่านมามีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติแล้ว 5,129 ล้านบาท การลงทุนในพื้นที่ EEC และอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ การสนับสนุนภาคเกษตร เดินหน้านโยบาย BCG โมเดลที่พลิกโฉมประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน หารายได้เข้าประเทศได้หลายทาง กระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ส่วนที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นกรณีครม.อนุมัติงบประมาณเป็นวงเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านบาทว่า พรรคเพื่อไทยสามารถดำเนินการได้ และทำได้ดีกว่าด้วย เพราะหาเงินเป็นว่า ใครก็สามารถพูดได้ว่าหาเงินเป็น แต่การหาเงินภายใต้ภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤตอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำมาแล้ว คือเผชิญทั้งวิกฤตโควิด สงครามการค้าและสงครามในทวีปยุโรปนั้น ไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้ หรืออวดอ้างว่าทำได้ดีกว่า และแม้ไม่รู้จะทำได้ดีกว่าหรือไม่ สิ่งสำคัญที่พี่น้องประชาชนตระหนักดีก็คือ การให้ความไว้วางใจต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ในการบริหารจัดการงบประมาณอย่างซื่อสัตย์ สุจริต ทุกมาตรการ ทุกสิทธิ ส่งตรงถึงมือประชาชน อย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส
“ฉะนั้นคนเป็นผู้นำ หรือรัฐบาล จึงไม่ใช่แค่หาเงินเป็นอย่างเดียว แต่ต้องรักษาเงินให้เป็น และต้องโกงไม่เป็น มีความน่าเชื่อถือ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ ประเทศชาติถึงจะไปรอด ดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินหน้าทำแล้ว ทำอยู่ และพร้อมทำต่อ เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน” น.ส.ทิพานัน กล่าว
https://www.banmuang.co.th/news/politic/319420
...ลุงตู่คิดนโยบายให้สวัสดิการประชาชนแล้วยังห่วงใยในการเข้าถึงนโยบายของประชาชนด้วยนะคะ
เรียกว่า...ท่านใส่ใจต่อฐานรากของบ้านเมืองอย่างแท้จริง
ท่านหาเงินมาใช้ในประเทศได้อย่างมั่นคงยั่งยืน นโยบายไม่ล้มเหลว
ไม่ใช้เงินละลายแม่น้ำ แต่ใช้อย่างเหมาะสม
การคลังของท่านจึงมีคนทำงานเป็นรมว.คลังเอเปก
ท่านไม่ต้องถอนทุนคืนด้วยการโกง เพราะใช้หาเสียงแลนด์สไลด์
ท่านทำได้บริหารแบบมือสะอาด เป็นผู้นำที่ไม่โกง
อยากให้ท่านทำงานต่อไป ชาติจะรุ่งเรืองพัฒนาไปได้ดี ไม่มีปัญหาการเงินการคลังค่ะ
🧡มาลาริน🧡"บิ๊กตู่" สั่งแก้ปัญหาเข้าคิวหน้าธนาคาร รอยืนยันตัวตนบัตรคนจนนาน/ยัน“บิ๊กตู่”หารายได้เข้าปท.หลายทางแบบมั่นคง
วัน 9 มีนาคม 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กังวลภาพประชาชนผู้มีสิทธิ แออัดหน้าธนาคารหรือจุดให้บริการ เพื่อรอเข้าแถว/ต่อคิว รอยืนยันตัวตนตามสาขาธนาคาร ที่ร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 บางสาขาธนาคารในบางวัน ทั้งธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน อาจเปิดให้คิวบริการแบบจำกัดจำนวน เช่น แค่ 100 คิว ทำให้เกิดภาพประชาชนแออัดเบียดเสียดรอรับบริการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หามาตรการแก้ไขหรือวิธีการเพิ่มเติม เพื่อช่วยประชาชนผู้มีสิทธิ สามารถยืนยันตัวตนได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มจำนวนคิวบริการ หรือการเปิดจองคิวก่อนไปธนาคาร เพื่อจะได้ไปยืนยันตัวตน ณ สาขาธนาคารตามเวลาที่กำหนด ทุกฝ่ายที่รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอน ต้องคิดวิธีการทำงานให้เร็วและรอบคอบที่สุด เพราะนายกรัฐมนตรีอยากเห็นประชาชนผู้มีสิทธิได้ใช้ประโยชน์จากสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามกำหนดการและตรงตัวบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่สุด
โดยกระทรวงการคลัง รายงานว่าผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตน โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 สำเร็จแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 2,742,919 ราย (สถานะ 7 มีนาคม 2566) สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติสามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม -1 พฤษภาคม 2566 โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่
1.ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น.ของทุกวัน
2.ขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน
ทั้งนี้ผู้ลงทะเบียนโครงการฯ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการปี 2565 เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
https://www.thaipost.net/x-cite-news/338092/
“ทิพานัน” ยัน “บิ๊กตู่” หารายได้เข้าประเทศหลายทางแบบมั่นคง
ทิพานัน” สอนเพื่อไทยผู้นำหาเงินเป็นอย่างเดียวไม่ได้ ต้อง “โกงไม่เป็น” ด้วย ชู “พล.อ.ประยุทธ์” ผู้นำฟื้นเศรษฐกิจแกร่งในภาวะวิกฤตอย่างซื่อสัตย์สุจริต เข้าตาสื่อเทศ ยันหารายได้เข้าประเทศหลายทางแบบมั่นคง
วัน 9 มีนาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังการตัดสินใจเดินหน้านโยบายเปิดประเทศตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมาโดนเริ่มจากภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาค โดยปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยังอยู่ที่ภาคการท่องเที่ยว ที่ฟื้นตัวดีขึ้น เป็นที่สนใจของสื่อต่างชาติชั้นนำอย่างรอยเตอร์ ได้นำเสนอข่าว Thailand beats 2022 tourism target with 11.15 mln foreign arrivals ระบุว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนประเทศไทย 11.15 ล้านคน เพิ่มสูงกว่าปี 2564 ที่มีจำนวน 428,000 คน เป็นการเพิ่มขึ้นแบบทะลุเป้าโดยในเดือนธันวาคม 2565 เพียงเดือนเดียว มีชาวต่างชาติไปเที่ยวประเทศไทยมากถึง 2.24 ล้านคน มากกว่าเดือนธันวาคม 2564 ที่มีเพียง 230,497 คน สะท้อนภาพการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนความสำเร็จของนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ที่สื่อต่างชาติเล็งเห็น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับในปี 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25 ล้านคน และคาดว่าจะมีรายได้รวมสูงสุดอยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท กลับมาในอัตรา 80% ของปี 2562 การลงทุนภาครัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐาน มาตรการดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งตัวเลขเฉพาะเดือนมกราคมที่ผ่านมามีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติแล้ว 5,129 ล้านบาท การลงทุนในพื้นที่ EEC และอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ การสนับสนุนภาคเกษตร เดินหน้านโยบาย BCG โมเดลที่พลิกโฉมประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน หารายได้เข้าประเทศได้หลายทาง กระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ส่วนที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นกรณีครม.อนุมัติงบประมาณเป็นวงเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านบาทว่า พรรคเพื่อไทยสามารถดำเนินการได้ และทำได้ดีกว่าด้วย เพราะหาเงินเป็นว่า ใครก็สามารถพูดได้ว่าหาเงินเป็น แต่การหาเงินภายใต้ภาวะวิกฤตซ้อนวิกฤตอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำมาแล้ว คือเผชิญทั้งวิกฤตโควิด สงครามการค้าและสงครามในทวีปยุโรปนั้น ไม่ใช่ใครก็สามารถทำได้ หรืออวดอ้างว่าทำได้ดีกว่า และแม้ไม่รู้จะทำได้ดีกว่าหรือไม่ สิ่งสำคัญที่พี่น้องประชาชนตระหนักดีก็คือ การให้ความไว้วางใจต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ในการบริหารจัดการงบประมาณอย่างซื่อสัตย์ สุจริต ทุกมาตรการ ทุกสิทธิ ส่งตรงถึงมือประชาชน อย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใส
“ฉะนั้นคนเป็นผู้นำ หรือรัฐบาล จึงไม่ใช่แค่หาเงินเป็นอย่างเดียว แต่ต้องรักษาเงินให้เป็น และต้องโกงไม่เป็น มีความน่าเชื่อถือ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ ประเทศชาติถึงจะไปรอด ดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินหน้าทำแล้ว ทำอยู่ และพร้อมทำต่อ เพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน” น.ส.ทิพานัน กล่าว
https://www.banmuang.co.th/news/politic/319420
...ลุงตู่คิดนโยบายให้สวัสดิการประชาชนแล้วยังห่วงใยในการเข้าถึงนโยบายของประชาชนด้วยนะคะ
เรียกว่า...ท่านใส่ใจต่อฐานรากของบ้านเมืองอย่างแท้จริง
ท่านหาเงินมาใช้ในประเทศได้อย่างมั่นคงยั่งยืน นโยบายไม่ล้มเหลว
ไม่ใช้เงินละลายแม่น้ำ แต่ใช้อย่างเหมาะสม
การคลังของท่านจึงมีคนทำงานเป็นรมว.คลังเอเปก
ท่านไม่ต้องถอนทุนคืนด้วยการโกง เพราะใช้หาเสียงแลนด์สไลด์
ท่านทำได้บริหารแบบมือสะอาด เป็นผู้นำที่ไม่โกง
อยากให้ท่านทำงานต่อไป ชาติจะรุ่งเรืองพัฒนาไปได้ดี ไม่มีปัญหาการเงินการคลังค่ะ