คอลัมน์ - ในกระแส โดย..
All about News
เห็น “ชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านอย่างสุดกำลังว่า ไม่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ที่มี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นหัวหน้าพรรค
แล้วให้นึกถึงเมื่อครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2562
ในปีนั้นหลังการเลือกตั้ง สส.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พรรคประชาธิปัตย์ได้ สส. 53 ที่นั่ง ทำให้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบตามสัญญาที่เคยให้ไว้ หากทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำลง
กระทั่งวันที่ 5 มิถุนายน 2562 หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาล ส่ง พล.อ.ประยุทธ์กลับเข้าทำเนียบรัฐบาล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2
“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ก็ได้ประกาศลาออกจากการเป็น สส. ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อาจสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะเป็นสัญญาประชาคมทึ่เคยให้ไว้เมื่อครั้งช่วงการหาเสียง
“จะให้ผมเดินเข้าไปแล้วออกเสียงว่า ผมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมก็ทำไม่ได้ เพราะยิ่งใหญ่กว่ามติพรรคเสียอีกคือ สัญญาประชาคม ที่ผมให้ไว้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ”
มาวันนี้ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ยิ้มรับกับข่าวที่พรรคเพื่อไทยส่งเทียบเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” ที่จะมองกี่ทีก็เห็นร่างเงาของ “ทักษิณ ชินวัตร” อยู่เบื้องหลัง
จึงไม่แปลกใจที่ “ชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยขับเคี่ยวในเวทีการเมืองกับ “ทักษิณ ชินวัตร” มาตั้งแต่ยุค “ไทยรักไทย” จะออกมาค้าน
“ไม่ใช่เพราะว่าเป็นเรื่องโกรธแค้นกับใคร แต่เป็นเพราะผมรณรงค์ว่า ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกพรรคเพื่อไทยก่อน จังหวัดอื่นเอาไว้ทีหลัง ภาคใต้จึงได้รับผลกระทบ แม้กระทั่งการซ่อมถนนก็ยังมีการแกล้งกัน”
“การรณรงค์ของผมเห็นผลว่า ในการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยไม่มี สส.แม้แต่คนเดียวในภาคใต้ ทั้งที่ภาคอื่นได้ผู้แทนท่วมท้นแบบแลนด์สไลด์อย่างที่ประกาศไว้ ดังนั้น ผมจะกลับลำมาหนุนได้อย่างไร จะเท่ากับว่าเป็นการทรยศประชาชน”
อย่างไรก็ตาม นอกจาก “ชวน หลีกภัย” จะนึกถึงประชาชนแล้ว อยากถามว่า “ชวน หลีกภัย” ยังจำเหตุการณ์เมื่อปี 2562 ได้หรือไม่ เพราะในปีนั้น พรรคประชาธิปัตย์ต่อรองการเข้าร่วมรัฐบาลด้วยข้อเสนอขอตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” แล้วคนที่นั่งตำแหน่งนี้ก็คือ “ชวน หลีกภัย”
ที่สำคัญ ยากจะปฏิเสธได้ว่า เหตุการณ์เมื่อครั้งปี 2562 นั้น ยิ่งเป็นตัวฉุดพรรคประชาธิปัตย์ให้ตกต่ำลงไปอีก เหมือนกับที่ “ชวน หลีกภัย” เป็นห่วงในวันนี้ว่า การเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมเสีย
เพราะครั้งนั้น ก็นับได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์หักหลังประชาชน ไม่ต่างจากครั้งนี้ ที่ “ชวน หลีกภัย” คิดไว้เช่นกัน
ที่มา -
https://www.allaboutnewsth.com/2024/08/blog-post_28.html
พรรคประชาธิปัตย์หักหลังประชาชนอีกครั้ง?!
เห็น “ชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาคัดค้านอย่างสุดกำลังว่า ไม่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ที่มี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นหัวหน้าพรรค
แล้วให้นึกถึงเมื่อครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2562
ในปีนั้นหลังการเลือกตั้ง สส.เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พรรคประชาธิปัตย์ได้ สส. 53 ที่นั่ง ทำให้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแสดงความรับผิดชอบตามสัญญาที่เคยให้ไว้ หากทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำลง
กระทั่งวันที่ 5 มิถุนายน 2562 หลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาล ส่ง พล.อ.ประยุทธ์กลับเข้าทำเนียบรัฐบาล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2
“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ก็ได้ประกาศลาออกจากการเป็น สส. ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อาจสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะเป็นสัญญาประชาคมทึ่เคยให้ไว้เมื่อครั้งช่วงการหาเสียง
“จะให้ผมเดินเข้าไปแล้วออกเสียงว่า ผมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผมก็ทำไม่ได้ เพราะยิ่งใหญ่กว่ามติพรรคเสียอีกคือ สัญญาประชาคม ที่ผมให้ไว้กับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ”
มาวันนี้ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน ยิ้มรับกับข่าวที่พรรคเพื่อไทยส่งเทียบเชิญให้เข้าร่วมรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” ที่จะมองกี่ทีก็เห็นร่างเงาของ “ทักษิณ ชินวัตร” อยู่เบื้องหลัง
จึงไม่แปลกใจที่ “ชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยขับเคี่ยวในเวทีการเมืองกับ “ทักษิณ ชินวัตร” มาตั้งแต่ยุค “ไทยรักไทย” จะออกมาค้าน
“ไม่ใช่เพราะว่าเป็นเรื่องโกรธแค้นกับใคร แต่เป็นเพราะผมรณรงค์ว่า ไม่เลือกพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยประกาศชัดเจนจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกพรรคเพื่อไทยก่อน จังหวัดอื่นเอาไว้ทีหลัง ภาคใต้จึงได้รับผลกระทบ แม้กระทั่งการซ่อมถนนก็ยังมีการแกล้งกัน”
“การรณรงค์ของผมเห็นผลว่า ในการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยไม่มี สส.แม้แต่คนเดียวในภาคใต้ ทั้งที่ภาคอื่นได้ผู้แทนท่วมท้นแบบแลนด์สไลด์อย่างที่ประกาศไว้ ดังนั้น ผมจะกลับลำมาหนุนได้อย่างไร จะเท่ากับว่าเป็นการทรยศประชาชน”
อย่างไรก็ตาม นอกจาก “ชวน หลีกภัย” จะนึกถึงประชาชนแล้ว อยากถามว่า “ชวน หลีกภัย” ยังจำเหตุการณ์เมื่อปี 2562 ได้หรือไม่ เพราะในปีนั้น พรรคประชาธิปัตย์ต่อรองการเข้าร่วมรัฐบาลด้วยข้อเสนอขอตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” แล้วคนที่นั่งตำแหน่งนี้ก็คือ “ชวน หลีกภัย”
ที่สำคัญ ยากจะปฏิเสธได้ว่า เหตุการณ์เมื่อครั้งปี 2562 นั้น ยิ่งเป็นตัวฉุดพรรคประชาธิปัตย์ให้ตกต่ำลงไปอีก เหมือนกับที่ “ชวน หลีกภัย” เป็นห่วงในวันนี้ว่า การเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมเสีย
เพราะครั้งนั้น ก็นับได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์หักหลังประชาชน ไม่ต่างจากครั้งนี้ ที่ “ชวน หลีกภัย” คิดไว้เช่นกัน
ที่มา - https://www.allaboutnewsth.com/2024/08/blog-post_28.html