สู้เลือกตั้ง! เศรษฐา เปิดเฟซบุ๊ก สื่อสารอีกทาง ย้ำ “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน”
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7549692
เศรษฐา ทวีสิน รุกงานการเมืองเต็มตัว เปิดช่องทางสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก ย้ำ “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” บนพื้นสีแดง เดินหน้าสู้เลือกตั้ง
วันที่ 9 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย
เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถือเป็นหนึ่งในนักบริหารที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสื่อสารความเห็นต่างๆ ถูกเรียกว่าเป็น ซีอีโอสาย Call Out ผ่าน ทวิตเตอร์
ล่าสุด ได้เปิดอีกหนึ่งช่องทางสื่อสารนั่นคือ Facebook
เศรษฐา ทวีสิน – Srettha Thavisin ที่มาพร้อมข้อความตัวหนังสือสีขาว “
คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” บนพื้นสีแดง เพื่อเดินหน้าสู้เลือกตั้งเต็มตัว
โดยโพสต์แรก ได้โพสต์จดหมายขอลางานแสนสิริชั่วคราว โดยระบุว่า เพื่อแสดงความตั้งใจจริง วันนี้ผมได้ลางานชั่วคราวโดยไม่รับค่าตอบแทนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้เต็มที่
“ไพศาล” ชี้ ถ้าไม่ยุบสภา ต้องเลือกตั้งตามไทม์ไลน์ กกต. ชี้นักการเมืองที่ยังไร้สังกัดมีหนาว!
https://www.matichon.co.th/politics/news_3863448
“ไพศาล” ชี้ ถ้าไม่ยุบสภา วันเลือกตั้งต้องตาม กกต.กำหนด 7 พ.ค. ชี้นักการเมืองที่ยังไม่สังกัดพรรคต้องเสี่ยงดวง
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นาย
ไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องการยุบสภา โดยมีรายละเอียดว่า
“เตรียมยุบสภา-ยุบได้ไหม?”
1.การเตรียมร่างพระ ราชกฤษฎีกายุบสภาพร้อมอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ชัดว่าจะเสนอต่อสำนักราชเลขาธิการวันไหน? เพราะรัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาเองไม่ได้ต้องขอรับพระบรมราชโองการตราพระราชกฤษฎีกาจึงจะมีผลเป็นการยุบสภา และขณะนี้มีผู้ถวายฎีกาคัดค้านถึงสำนักราชเลขาธิการแล้ว
2.ภท.ถูกเจาะยางอย่างเป็นขบวน ต้องจับตาดูว่าจะเป็นไผ่แยกกอน้ำแยกสายอีกพรรคหรือไม่ ถ้าประเมินครูใหญ่บุรีรัมย์ต่ำไป ก็จะหงายท้องไม่เป็นท่า
3. พท.ทราบผลวิจัยอย่างชัดเจนแล้วว่าความต้องการของประชาชนขั้นสูงสุดในขณะนี้คือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและหนี้สิน ดังนั้นจึงเปิดตัวโชว์ทีมเศรษฐกิจ ให้เห็นกันจะๆ สะเทือนสะท้านบู๊ลิ้ม ในขณะที่ รทสช.-ปชป. ยังโหมกระแสข่าวเพิ่มค่าตอบแทนแก่ อสม.เดือนละพันบาทในปีงบประมาณหน้าอยู่
ส่วน พปชร.กลับไม่มีท่าทีในเรื่องนี้เพราะประเมินว่า”เสียแต้ม” เพราะประชาชนรู้ว่าค่าตอบแทนที่ไปเพิ่มให้นั้นประชาชนจะต้องเพิ่มภาระภาษีเอาไปจ่ายในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มร่วม 3 ล้านคน เห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไม่ได้รับเพิ่มบ้าง จึงเกิดเป็นปฏิกิริยาเชิงลบอย่างกว้างขวาง
4.ตราบใดที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาก็ต้องถือว่าการเลือกตั้งเป็นไปตามที่กกต.กำหนดไว้แล้วคือ 7 พ.ค.66 และผู้สมัครของพรรคการเมืองใดต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นอยู่ ณ วันที่ 7 ก.พ 66 ใครที่ยังไม่ได้เข้าสังกัดพรรค ณ.เวลานี้ ก็เสี่ยงดวงกันเอง!!!!
#นับถอยหลังการเลือกตั้ง
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid03q3A1oboLWreGsY9Kf2nEsu89vdz6j4oLqquGX7KYFkaVYjVD9GpiGN5TDJe4GZel
2 องค์กรจี้นายกฯอุ้มแรงงานสตรี
https://siamrath.co.th/n/429106
สรส.-คสรท. ผนึกกำลังบุกทำเนียบฯ ยื่น นายกฯ 9 ข้อ เรียกร้องสิทธิสตรี ยกระดับสิทธิและสวัสดิภาพคนงานหญิงให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีในสังคม
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 8 มี.ค.66 สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ร่วมกับคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) จัดกิจกรรมเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันสตรีสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มี.ค.ของทุกปี ทั่วทั้งโลก
โดยระบุว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ.2518) เป็นต้นมา สหประชาชาติ ให้ความสำคัญจัดงานอย่างเป็นทางการ ประกาศให้เป็น"วันสตรีสากล" (International Women's Day) ด้านหนึ่งเป็นวันที่จะเฉลิมฉลองเพื่อให้สตรีมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในภาคสังคม การเมืองและเศรษฐกิจ อีกด้านหนึ่งเพื่อสร้างความตระหนักให้เห็นถึงความไม่เสมอภาค เท่าเทียม ที่ยังดำรงอยู่ปัจจุบันผู้หญิงได้เข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก พัฒนาสังคมประเทศ และมีผู้หญิงในหลายประเทศก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ สำหรับประเทศไทยจากการเคลื่อนไหวของเครือข่ายขบวนการแรงงานและเครือข่ายผู้หญิง กลุ่มเพศสภาพ และสาขาอาชีพต่างๆ ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้เรื่องสิทธิ เสรีภาพ มากยิ่งขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายและมีการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิ สวัสดิภาพของผู้หญิงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงผู้หญิงยังคงถูกเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกมากมายหลายมิติ วันสตรีสากลในปีนี้ เครือข่ายแรงงาน เครือข่ายผู้หญิง ต้องการให้รัฐบาลบูรณาการแก้ไข ดำเนินการทางนโยบาย กฎหมาย เพื่อปกป้องคุ้มครอง และเยียวยาสิทธิของผู้หญิงให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ตามหลักการองค์การระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำธุรกิจต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน จากสถานการณ์วิกฤติโควิด ที่ส่งผลกระทบให้แรงงานหญิง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ต้องเผชิญการถูกเลิกจ้าง ลอยแพ และการถูกละเมิดสิทธิทางเพศ ถูกเอารัดเอาเปรียบที่รุนแรงเพิ่มเป็นทวีคูณมากขึ้น
ความล่าช้า ความยากลำบากในการเรียกร้องความเป็นธรรมต่อขบวนการยุติธรรมที่ประชาชนเข้าไม่ถึง ทั้งช่องว่างของกฎหมายทำให้สูญเสียสิทธิ และขาดโอกาสในการทำงานที่มั่นคง ยั่งยืน ไร้ความเป็นธรรมส่งผลถึงคุณภาพชีวิตทั้งตนเองครอบครัว สังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ "
ต่อต้านทุนนิยมเสรีกดขี่แรงงาน-หญิง" จึงถูกกำหนดให้เป็นคำขวัญในการรณรงค์วันสตรีสากลเพื่อสะท้อนสภาพปัญหาดังกล่าว และข้อเรียกร้องในวันสตรีสากล ให้เกิดขึ้น คสรท. และสรส. จึงขอเสนอข้อเรียกร้องเนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ดังนี้
1. รัฐต้องรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับต่าง ๆ ดังนี้ ฉบับที่ 177 ว่าด้วยงานที่รับไปทำที่บ้าน ฉบับที่ 183 ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิความเป็นมารดา ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้างทำงานบ้าน ฉบับที่ 190 ว่าด้วยการขจัดความรุนแรงและการล่วงละเมิดในโลกแห่งการทำงาน โดยเฉพาะการเลิกจ้างหญิงตั้งครรภ์ และการล่วงละเมิดทางเพศให้เป็นคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้
2. รัฐต้องกำหนดให้ผู้หญิงมีสิทธิลาคลอดได้ 180 วัน และให้ผู้ชายลาไปดูแลภรรยาคลอดบุตรได้ 30 วัน โดยได้รับค่าจ้างตามที่จ่ายจริง 100% และให้เร่งรัดการจ่ายค่าจ้างวันลาคลอด 98 วันตามมติ ครม. ที่เห็นชอบ ให้ครบถ้วน
3. รัฐต้องกำหนดมาตรการเพื่อขจัดการละเมิดสิทธิแรงงานทุกรูปแบบ รวมถึงหามาตรการปกป้อง คุ้มครอง และเยียวยา เพื่อสร้างความมั่นคงในการทำงานและเข้าถึงสิทธิสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมให้เป็นไปตามหลักการการดำเนินธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNGP) ที่รัฐบาลไทยได้ให้สัตยาบัน
4. รัฐต้องให้เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า 0-6 ปีเดือนละ 3,000 บาท
5. รัฐต้องกำหนดสัดส่วนหญิง ชาย และเพศสภาพ ในการตัดสินใจของคณะกรรมการทุกมิติ ทุกระดับ อย่างน้อย 1 ใน 3 เพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม
6. รัฐต้องกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี เป็นวันหยุดตามประเพณี
7. รัฐต้องจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นไปตามหลักการองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ให้สามารถ เลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
8. รัฐต้องให้ลูกจ้างทำงานบ้านเข้าถึงสิทธิประกันสังคม มาตรา 33
9.ขอให้รัฐบาลไทยเจรจากับทางการพม่าให้แรงงานสามารถต่อเอกสารในประเทศไทยได้ข้อเรียกร้องนี้ ได้เสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมานานหลายปี เพื่อตอกย้ำให้รัฐบาลทุกรัฐบาลได้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงหน้าที่ในการดูแลประชาชน คนงาน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนงานทุกภาคส่วน
ดังนั้น คสรท.และ สรส. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านนายกฯ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาล จะให้ความสำคัญกับสิทธิและบทบาทของคนงานหญิง ด้วยการดำเนินการตามข้อเรียกร้องวันสตรีสากล เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจของรัฐบาล ในการยกระดับสิทธิและสวัสดิภาพของคนงานหญิงให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีในสังคมต่อไป
JJNY : เศรษฐา เปิดเฟซบุ๊ก│“ไพศาล” ชี้นักการเมืองที่ยังไร้สังกัดมีหนาว!│2 องค์กรจี้นายกฯอุ้มแรงงานสตรี│สหภาพกฟผ.จี้รัฐ
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7549692
เศรษฐา ทวีสิน รุกงานการเมืองเต็มตัว เปิดช่องทางสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก ย้ำ “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” บนพื้นสีแดง เดินหน้าสู้เลือกตั้ง
วันที่ 9 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถือเป็นหนึ่งในนักบริหารที่ใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสื่อสารความเห็นต่างๆ ถูกเรียกว่าเป็น ซีอีโอสาย Call Out ผ่าน ทวิตเตอร์
ล่าสุด ได้เปิดอีกหนึ่งช่องทางสื่อสารนั่นคือ Facebook เศรษฐา ทวีสิน – Srettha Thavisin ที่มาพร้อมข้อความตัวหนังสือสีขาว “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” บนพื้นสีแดง เพื่อเดินหน้าสู้เลือกตั้งเต็มตัว
โดยโพสต์แรก ได้โพสต์จดหมายขอลางานแสนสิริชั่วคราว โดยระบุว่า เพื่อแสดงความตั้งใจจริง วันนี้ผมได้ลางานชั่วคราวโดยไม่รับค่าตอบแทนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้เต็มที่
“ไพศาล” ชี้ ถ้าไม่ยุบสภา ต้องเลือกตั้งตามไทม์ไลน์ กกต. ชี้นักการเมืองที่ยังไร้สังกัดมีหนาว!
https://www.matichon.co.th/politics/news_3863448
“ไพศาล” ชี้ ถ้าไม่ยุบสภา วันเลือกตั้งต้องตาม กกต.กำหนด 7 พ.ค. ชี้นักการเมืองที่ยังไม่สังกัดพรรคต้องเสี่ยงดวง
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องการยุบสภา โดยมีรายละเอียดว่า
“เตรียมยุบสภา-ยุบได้ไหม?”
1.การเตรียมร่างพระ ราชกฤษฎีกายุบสภาพร้อมอยู่แล้ว แต่ไม่แน่ชัดว่าจะเสนอต่อสำนักราชเลขาธิการวันไหน? เพราะรัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาเองไม่ได้ต้องขอรับพระบรมราชโองการตราพระราชกฤษฎีกาจึงจะมีผลเป็นการยุบสภา และขณะนี้มีผู้ถวายฎีกาคัดค้านถึงสำนักราชเลขาธิการแล้ว
2.ภท.ถูกเจาะยางอย่างเป็นขบวน ต้องจับตาดูว่าจะเป็นไผ่แยกกอน้ำแยกสายอีกพรรคหรือไม่ ถ้าประเมินครูใหญ่บุรีรัมย์ต่ำไป ก็จะหงายท้องไม่เป็นท่า
3. พท.ทราบผลวิจัยอย่างชัดเจนแล้วว่าความต้องการของประชาชนขั้นสูงสุดในขณะนี้คือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและหนี้สิน ดังนั้นจึงเปิดตัวโชว์ทีมเศรษฐกิจ ให้เห็นกันจะๆ สะเทือนสะท้านบู๊ลิ้ม ในขณะที่ รทสช.-ปชป. ยังโหมกระแสข่าวเพิ่มค่าตอบแทนแก่ อสม.เดือนละพันบาทในปีงบประมาณหน้าอยู่
ส่วน พปชร.กลับไม่มีท่าทีในเรื่องนี้เพราะประเมินว่า”เสียแต้ม” เพราะประชาชนรู้ว่าค่าตอบแทนที่ไปเพิ่มให้นั้นประชาชนจะต้องเพิ่มภาระภาษีเอาไปจ่ายในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มร่วม 3 ล้านคน เห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะไม่ได้รับเพิ่มบ้าง จึงเกิดเป็นปฏิกิริยาเชิงลบอย่างกว้างขวาง
4.ตราบใดที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาก็ต้องถือว่าการเลือกตั้งเป็นไปตามที่กกต.กำหนดไว้แล้วคือ 7 พ.ค.66 และผู้สมัครของพรรคการเมืองใดต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นอยู่ ณ วันที่ 7 ก.พ 66 ใครที่ยังไม่ได้เข้าสังกัดพรรค ณ.เวลานี้ ก็เสี่ยงดวงกันเอง!!!!
#นับถอยหลังการเลือกตั้ง
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid03q3A1oboLWreGsY9Kf2nEsu89vdz6j4oLqquGX7KYFkaVYjVD9GpiGN5TDJe4GZel
2 องค์กรจี้นายกฯอุ้มแรงงานสตรี
https://siamrath.co.th/n/429106
สรส.-คสรท. ผนึกกำลังบุกทำเนียบฯ ยื่น นายกฯ 9 ข้อ เรียกร้องสิทธิสตรี ยกระดับสิทธิและสวัสดิภาพคนงานหญิงให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีในสังคม
ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 8 มี.ค.66 สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ร่วมกับคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(คสรท.) จัดกิจกรรมเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันสตรีสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มี.ค.ของทุกปี ทั่วทั้งโลก
โดยระบุว่า นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 (พ.ศ.2518) เป็นต้นมา สหประชาชาติ ให้ความสำคัญจัดงานอย่างเป็นทางการ ประกาศให้เป็น"วันสตรีสากล" (International Women's Day) ด้านหนึ่งเป็นวันที่จะเฉลิมฉลองเพื่อให้สตรีมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในภาคสังคม การเมืองและเศรษฐกิจ อีกด้านหนึ่งเพื่อสร้างความตระหนักให้เห็นถึงความไม่เสมอภาค เท่าเทียม ที่ยังดำรงอยู่ปัจจุบันผู้หญิงได้เข้ามามีบทบาทอย่างสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก พัฒนาสังคมประเทศ และมีผู้หญิงในหลายประเทศก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ สำหรับประเทศไทยจากการเคลื่อนไหวของเครือข่ายขบวนการแรงงานและเครือข่ายผู้หญิง กลุ่มเพศสภาพ และสาขาอาชีพต่างๆ ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้เรื่องสิทธิ เสรีภาพ มากยิ่งขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายและมีการออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิ สวัสดิภาพของผู้หญิงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงผู้หญิงยังคงถูกเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกมากมายหลายมิติ วันสตรีสากลในปีนี้ เครือข่ายแรงงาน เครือข่ายผู้หญิง ต้องการให้รัฐบาลบูรณาการแก้ไข ดำเนินการทางนโยบาย กฎหมาย เพื่อปกป้องคุ้มครอง และเยียวยาสิทธิของผู้หญิงให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ตามหลักการองค์การระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำธุรกิจต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน จากสถานการณ์วิกฤติโควิด ที่ส่งผลกระทบให้แรงงานหญิง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่ต้องเผชิญการถูกเลิกจ้าง ลอยแพ และการถูกละเมิดสิทธิทางเพศ ถูกเอารัดเอาเปรียบที่รุนแรงเพิ่มเป็นทวีคูณมากขึ้น
ความล่าช้า ความยากลำบากในการเรียกร้องความเป็นธรรมต่อขบวนการยุติธรรมที่ประชาชนเข้าไม่ถึง ทั้งช่องว่างของกฎหมายทำให้สูญเสียสิทธิ และขาดโอกาสในการทำงานที่มั่นคง ยั่งยืน ไร้ความเป็นธรรมส่งผลถึงคุณภาพชีวิตทั้งตนเองครอบครัว สังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ "ต่อต้านทุนนิยมเสรีกดขี่แรงงาน-หญิง" จึงถูกกำหนดให้เป็นคำขวัญในการรณรงค์วันสตรีสากลเพื่อสะท้อนสภาพปัญหาดังกล่าว และข้อเรียกร้องในวันสตรีสากล ให้เกิดขึ้น คสรท. และสรส. จึงขอเสนอข้อเรียกร้องเนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ดังนี้
1. รัฐต้องรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับต่าง ๆ ดังนี้ ฉบับที่ 177 ว่าด้วยงานที่รับไปทำที่บ้าน ฉบับที่ 183 ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิความเป็นมารดา ฉบับที่ 189 ว่าด้วยงานที่มีคุณค่าสำหรับลูกจ้างทำงานบ้าน ฉบับที่ 190 ว่าด้วยการขจัดความรุนแรงและการล่วงละเมิดในโลกแห่งการทำงาน โดยเฉพาะการเลิกจ้างหญิงตั้งครรภ์ และการล่วงละเมิดทางเพศให้เป็นคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้
2. รัฐต้องกำหนดให้ผู้หญิงมีสิทธิลาคลอดได้ 180 วัน และให้ผู้ชายลาไปดูแลภรรยาคลอดบุตรได้ 30 วัน โดยได้รับค่าจ้างตามที่จ่ายจริง 100% และให้เร่งรัดการจ่ายค่าจ้างวันลาคลอด 98 วันตามมติ ครม. ที่เห็นชอบ ให้ครบถ้วน
3. รัฐต้องกำหนดมาตรการเพื่อขจัดการละเมิดสิทธิแรงงานทุกรูปแบบ รวมถึงหามาตรการปกป้อง คุ้มครอง และเยียวยา เพื่อสร้างความมั่นคงในการทำงานและเข้าถึงสิทธิสวัสดิการอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมให้เป็นไปตามหลักการการดำเนินธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNGP) ที่รัฐบาลไทยได้ให้สัตยาบัน
4. รัฐต้องให้เงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า 0-6 ปีเดือนละ 3,000 บาท
5. รัฐต้องกำหนดสัดส่วนหญิง ชาย และเพศสภาพ ในการตัดสินใจของคณะกรรมการทุกมิติ ทุกระดับ อย่างน้อย 1 ใน 3 เพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม
6. รัฐต้องกำหนดให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี เป็นวันหยุดตามประเพณี
7. รัฐต้องจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นไปตามหลักการองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ให้สามารถ เลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
8. รัฐต้องให้ลูกจ้างทำงานบ้านเข้าถึงสิทธิประกันสังคม มาตรา 33
9.ขอให้รัฐบาลไทยเจรจากับทางการพม่าให้แรงงานสามารถต่อเอกสารในประเทศไทยได้ข้อเรียกร้องนี้ ได้เสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมานานหลายปี เพื่อตอกย้ำให้รัฐบาลทุกรัฐบาลได้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงหน้าที่ในการดูแลประชาชน คนงาน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนงานทุกภาคส่วน
ดังนั้น คสรท.และ สรส. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาล จะให้ความสำคัญกับสิทธิและบทบาทของคนงานหญิง ด้วยการดำเนินการตามข้อเรียกร้องวันสตรีสากล เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจของรัฐบาล ในการยกระดับสิทธิและสวัสดิภาพของคนงานหญิงให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีในสังคมต่อไป