ล่าสุดทางทีมข่าว TOP NEWS ได้ตรวจสอบไปยังดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า บริษัท เอสซี แอสเสทฯ ได้ให้ TOPNEWS ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่ ก.ล.ต.เอง และทางดร.ศรายุทธ ได้แจ้งกับทีมข่าวว่า ทางผู้บริหาร ก.ล.ต.หลายท่าน ได้ติดต่อมาที่ ครอบครัวรัตนพันธ์ เพื่อสอบถามข้อมูล และเชิญมาให้ข้อมูลในวันอังคารที่ 14 มี.ค.66
ดร.ศรายุทธ ระบุว่า ตนยังไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรไป และชี้แจงไปว่า ถ้าต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ทางครอบครัวรัตนพันธ์ ต้องการนั่งคุยกันมากกว่าจะคุยกันแค่ทางโทรศัพท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นที่ก.ล.ต.สอบถาม มานั้น เป็นประเด็นที่ทางครอบครัวฯ ได้เปิดเผยผ่านสื่อเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่ ดร.ศรายุทธ ระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นประเด็นนั้น เพราะก.ล.ต.แจ้งว่า จะสอบถามข้อมูลที่เป็นข่าวอยู่ ณ ปัจจุบัน คือ ข่าวของ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ว่าเรื่องราวปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรบ้าง และอยากให้ทางครอบครัวรัตนพันธ์ นำข้อมูลส่งเพิ่มเติม เพื่อจะให้ก.ล.ต.รับทราบ และจะได้ดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายศรายุทธ ยอมรับว่า ได้เคยไปยื่นเรื่องดังกล่าว ต่อทั้งก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ มาแล้ว โดย 2 ครั้งแรก ยื่นเรื่องด้วยตนเองต่อก.ล.ต. และมีอยู่ 1 ครั้งที่ให้ทนายความ ทนายเกิดผล แก้วเกิด เป็นผู้ยื่น ซึ่งได้ไปยื่นที่ SET เลย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ซึ่งคุณย่า ก็ไปด้วย โดยข้อมูลที่ได้ยื่นไปนั้นเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน แต่ทุกวันนี้ มีอะไรที่คืบหน้ามากกว่า ณ ตอนนั้น แต่ฐานข้อมูลคือ เนื้อเรื่องเดียวกัน
นายศรายุทธ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องผิดปกติ ค่อนข้างหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะเวลานั้นที่เรายื่นไป มองว่า ก.ล.ต.พึงปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความเสมอภาคทั้ง 2 ฝ่าย ควรจะเชิญเราชี้แจงข้อเท็จจริง ณ เวลานั้น แต่ ก.ล.ต.กลับเพิกเฉย ไม่ยอมให้เราเข้าไปชี้แจง และมาสรุปกับ SC กันว่าไม่ผิด เท่านี้พอแล้ว ยุติ จึงอยากจะถามว่า การที่ยุติเรื่อง ใครมีอำนาจยุติเรื่องของเรา ก.ล.ต.เหรอ SC เหรอ ยุติเราไปได้ยังไง ในเมื่อเรื่องมันเกิด และเรากำลังเดินเรื่องเพื่อหาความจริงให้สังคมรับทราบ แต่ก.ล.ต.มีหนังสือแจ้ง ให้ SC เอาหนังสือแจ้งออกมา มาเข้าสู่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า SC ชี้แจงกับก.ล.ต.เป็นที่เข้าใจ และยุติเรื่องแล้ว ถ้ายุติเรื่องแล้ว ศาลไม่รับฟ้อง 1,500 ล้านบาทเศษหรอก
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า สำหรับข้อมูลที่เตรียมไปพบก.ล.ต.วันอังคาร ที่ 14 มี.ค.นี้ เป็นข้อมูลชุดไหนอย่างไร?
ดร.ศรายุทธ ระบุว่า ข้อมูลหลัก ๆ เป็นข้อมูลพื้นฐานเดิม ตั้งแต่เริ่มต้นรายละเอียด เหมือนกับที่ดีเอสไอได้สอบถาม ไม่ต่างกัน เป็นข้อมูลความจริงชุดเดียวกัน ให้พูดกี่ร้อยครั้ง ก็คือเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องอื่นไม่ได้ มันหนีจากความจริงไม่ได้ ไม่มีใครหนีความจริงได้
“ เอสซี แอสเสทฯ จะแพ้ ก็แพ้ความจริง ไม่ได้แพ้ครอบครัวรัตนพันธ์ แพ้ความจริงที่ต้องถูกเปิดเผย ไม่ได้แพ้ใครเลย เค้าแพ้ภัยตัวเค้าเอง แพ้ความจริง และเราจะเอาความจริง นอกจากที่เปิดกับดีเอสไอแล้ว จะเอาความจริงเปิดกับก.ล.ต. ผมจะลองดู ผมจะมองดู ว่าใครจะชนะความจริงไปได้ เรื่องนี้เรื่องสำคัญ”
เมื่อถามถึงเป้าหมายสูงสุดที่คาดหวังอยากให้ก.ล.ต.ดำเนินการจริง ๆ คือเรื่องอะไร?
ดร.ศรายุทธ ระบุว่า ความยุติธรรมครับ ความเป็นธรรมครับ อะไรถูกก็ว่าไปตามถูก อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ใช่ว่า ใครยิ่งใหญ่แล้วทำผิด ก็บอกไม่ผิด มันไม่ใช่ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องของสังคม เรื่องที่สังคมต้องรับทราบ เรื่องที่ครอบครัวๆ หนึ่งต้องโดนกระทำโหดร้ายอย่างกับไม่ใช่มนุษย์ เค้าก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา แต่เค้าทำเรารุนแรง ร้ายกาจมาก คนครอบครัวนี้ร้ายกาจมากจริง ๆ ครับ
ที่มาข่าว.
https://www.topnews.co.th/news/618365
SC asset ใหญ่คับฟ้าจริงๆ ขนาด ก.ล.ต.เมินเฉย ยอมดองข้อมูลหลักฐานครอบครัว รัตนพันธ์ ที่ไร้ธุรกิจสำนักข่าว
ดร.ศรายุทธ ระบุว่า ตนยังไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรไป และชี้แจงไปว่า ถ้าต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติม ทางครอบครัวรัตนพันธ์ ต้องการนั่งคุยกันมากกว่าจะคุยกันแค่ทางโทรศัพท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นที่ก.ล.ต.สอบถาม มานั้น เป็นประเด็นที่ทางครอบครัวฯ ได้เปิดเผยผ่านสื่อเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือไม่ ดร.ศรายุทธ ระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นประเด็นนั้น เพราะก.ล.ต.แจ้งว่า จะสอบถามข้อมูลที่เป็นข่าวอยู่ ณ ปัจจุบัน คือ ข่าวของ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ว่าเรื่องราวปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรบ้าง และอยากให้ทางครอบครัวรัตนพันธ์ นำข้อมูลส่งเพิ่มเติม เพื่อจะให้ก.ล.ต.รับทราบ และจะได้ดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายศรายุทธ ยอมรับว่า ได้เคยไปยื่นเรื่องดังกล่าว ต่อทั้งก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ มาแล้ว โดย 2 ครั้งแรก ยื่นเรื่องด้วยตนเองต่อก.ล.ต. และมีอยู่ 1 ครั้งที่ให้ทนายความ ทนายเกิดผล แก้วเกิด เป็นผู้ยื่น ซึ่งได้ไปยื่นที่ SET เลย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ซึ่งคุณย่า ก็ไปด้วย โดยข้อมูลที่ได้ยื่นไปนั้นเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน แต่ทุกวันนี้ มีอะไรที่คืบหน้ามากกว่า ณ ตอนนั้น แต่ฐานข้อมูลคือ เนื้อเรื่องเดียวกัน
นายศรายุทธ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องผิดปกติ ค่อนข้างหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะเวลานั้นที่เรายื่นไป มองว่า ก.ล.ต.พึงปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความเสมอภาคทั้ง 2 ฝ่าย ควรจะเชิญเราชี้แจงข้อเท็จจริง ณ เวลานั้น แต่ ก.ล.ต.กลับเพิกเฉย ไม่ยอมให้เราเข้าไปชี้แจง และมาสรุปกับ SC กันว่าไม่ผิด เท่านี้พอแล้ว ยุติ จึงอยากจะถามว่า การที่ยุติเรื่อง ใครมีอำนาจยุติเรื่องของเรา ก.ล.ต.เหรอ SC เหรอ ยุติเราไปได้ยังไง ในเมื่อเรื่องมันเกิด และเรากำลังเดินเรื่องเพื่อหาความจริงให้สังคมรับทราบ แต่ก.ล.ต.มีหนังสือแจ้ง ให้ SC เอาหนังสือแจ้งออกมา มาเข้าสู่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า SC ชี้แจงกับก.ล.ต.เป็นที่เข้าใจ และยุติเรื่องแล้ว ถ้ายุติเรื่องแล้ว ศาลไม่รับฟ้อง 1,500 ล้านบาทเศษหรอก
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า สำหรับข้อมูลที่เตรียมไปพบก.ล.ต.วันอังคาร ที่ 14 มี.ค.นี้ เป็นข้อมูลชุดไหนอย่างไร?
ดร.ศรายุทธ ระบุว่า ข้อมูลหลัก ๆ เป็นข้อมูลพื้นฐานเดิม ตั้งแต่เริ่มต้นรายละเอียด เหมือนกับที่ดีเอสไอได้สอบถาม ไม่ต่างกัน เป็นข้อมูลความจริงชุดเดียวกัน ให้พูดกี่ร้อยครั้ง ก็คือเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องอื่นไม่ได้ มันหนีจากความจริงไม่ได้ ไม่มีใครหนีความจริงได้
“ เอสซี แอสเสทฯ จะแพ้ ก็แพ้ความจริง ไม่ได้แพ้ครอบครัวรัตนพันธ์ แพ้ความจริงที่ต้องถูกเปิดเผย ไม่ได้แพ้ใครเลย เค้าแพ้ภัยตัวเค้าเอง แพ้ความจริง และเราจะเอาความจริง นอกจากที่เปิดกับดีเอสไอแล้ว จะเอาความจริงเปิดกับก.ล.ต. ผมจะลองดู ผมจะมองดู ว่าใครจะชนะความจริงไปได้ เรื่องนี้เรื่องสำคัญ”
เมื่อถามถึงเป้าหมายสูงสุดที่คาดหวังอยากให้ก.ล.ต.ดำเนินการจริง ๆ คือเรื่องอะไร?
ดร.ศรายุทธ ระบุว่า ความยุติธรรมครับ ความเป็นธรรมครับ อะไรถูกก็ว่าไปตามถูก อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่ใช่ว่า ใครยิ่งใหญ่แล้วทำผิด ก็บอกไม่ผิด มันไม่ใช่ครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องของสังคม เรื่องที่สังคมต้องรับทราบ เรื่องที่ครอบครัวๆ หนึ่งต้องโดนกระทำโหดร้ายอย่างกับไม่ใช่มนุษย์ เค้าก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา แต่เค้าทำเรารุนแรง ร้ายกาจมาก คนครอบครัวนี้ร้ายกาจมากจริง ๆ ครับ
ที่มาข่าว. https://www.topnews.co.th/news/618365