การเลือกตั้ง ครั้งนี้ ประชาขนคนไทยต่างเฝ้าจับตามอง รวมถึงสำนักสื่อต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างคาดหวังว่าจะเป็นการเลือกตั้ง ครั้งที่จะเปลี่ยนประเทศไทย ไปจากเดิม และจะเป็นอีกบทหนึ่งของหน้าประวัติศาตร์การเมืองไทย เป็นการช่วงชิงอำนาจรัฐ ของฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า เสรีประชาธิปไตย จากฝ่าย อนุลักษณ์นิยมประชาธิปไตย ที่ถือครองอำนาจรัฐบริหารประเทศ ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้ง ที่มีเดิมพันสูง เพราะต่างฝ่าย ต่างก็มี Hidden Agenda ที่แอบแฝงไว้ ต่างต้องการได้อำนาจรัฐมาครอบครอง ประมาณการว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีการทุ่มเม็ดเงิน เพื่อซื้อเสียงไม่แพ้ครั้งไหนๆทีผ่านๆมา เพราะ ....... .ประเมินจากการเลือกตั้ง อบต. อบจ. ครั้งที่ผ่านมา แทบจะไม่มีพื้นที่ไหนเลยที่ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ประชาชนคนในท้องถิ่นพื้นที่น่าจะรู้ดีกว่าใครๆ ถ้าจะถามใจตัวเองดู ไม่เลือกเขาเลือกเราว่าเป็นข้างฝ่ายไหน คนที่เราเชียร์พรรคที่เราชอบ ว่าจริงหรือไม่ว่า การเลือกตั้ง อบต. อบจ. ครั้งที่ผ่านมานี่ ฝนตกห่าใหญ่มืดฟ้ามัวดิน ใช้กระสุนสาดเกทับบลัฟแหลก ไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ชนิดที่เงินสะพัดเงินหมุ่นอยู่ในทุกพื้นที่ เขตการเลือกตั้ง หัวคะแนน(ผู้ช่วยหาเสียง) (รายได้จากการหักหัวคิว) ออกรถป้ายแดง ได้สบายๆ แถมมีเงินเหลือใช้อีกต่างหาก ...................................
สนามเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ คงไม่ต้องพูดถึง เงินสะพัดไม่น้อยกว่าการเลือกตั้ง อบต. อบจ. แน่ หรือ จะมีใครกล้าเถียงว่าไม่จริง ก็ถ้าแค่ออกพื้นที่ปราศรัยหาเสียงยังต้องใช้เงินเกณฑฺ์คนเข้าฝังการปราศรัย เพื่อสร้างกระแส ก็คงไม่ต้องพูดถึงอีก ถ้าไม่แก้ไขวัฒนธรรมนี้ (มองว่ามันเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว) (มีการเลือกตั้งต้องมีการซื้อเสียง) เงินไม่มา กาไม่เป็น มีทัศนคติแอดติจูด ที่ผิดจากหลักศีลธรรมที่ควร
ไม่ว่าจะเลือกตั้งสักกี่คร้ั้ง บ้านเมืองก็จะเป็นแบบนี้ เพราะในสภา มีแต่ สส. ที่ซื้อเสียงเข้ามา ทุจริต ครัปชั่น สะสมทุนเพื่อเลือกตั้ง วนกลับเข้ามาใหม่
เป็นวงจรอุบาทอยู่อย่างนี้ แบบนี้เรียกว่า ระบอบธนบัตรประชาธิปไตย ไม่ใช่ ระบอบประชาธิปไตย
9/มีค./2566
เขียนให้คิด
***ธนบัตรประชาธิปไตย --->เงินไม่มา กาไม่เป็น<---***