ถ้าจะเลิกกับแฟนที่เป็นไบโพล่าภาวะซึมเศร้า เราจะดูเป็นคนเห็นแก่ตัวเกินไปไหมคะ

ตามหัวข้อเลยค่ะ ดิฉันคบกับแฟนจะเข้าปีที่4แล้วค่ะ เรายังไม่ได้แต่งงานกัน แต่อาศัยอยู่ด้วยค่ะ และเรากำลังจะซื้อบ้านด้วยกันในเร็วๆนี้ 
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า ก่อนที่เขาจะเป็นไบโพล่าภาวะซึมเศร้านี้ ครอบครัวของเขาไม่ค่อยอบอุ่นเท่าไหร่ค่ะ พ่อกับแม่ของเขาแยกทางกันตั้งแต่เขายังเด็ก เขาเลยอาศัยอยู่กับปู่กับย่าของเขา เพราะพ่อแม่ของเขาได้ไปมีครอบครัวใหม่กันทั้งสองฝ่าย เขาขาดความรักของพ่อกับแม่มาตั้งแต่เด็ก ไม่กลับมาสนใจอะไรเขามากนัก เอาเป็นว่าครอบครัวของเขามีเรื่องวุ่นวายมากค่ะมาจนถึงปัจจุบัน ฉันก็คิดมาตลอดว่าเขามีปมมาตั้งแต่เด็ก เขาขาดความอบอุ่น
" ปัจจุบันเขามีอาชีพเป็นศิลปินค่ะ ซึ่งเราสองคนไม่ได้เปิดเผยผ่านโลกโซเชี่ยลค่ะ ซึ่งเขามีแฟนคลับเยอะ แน่นอนค่ะถ้าเราเปิดเผยงานจะหายแฟนคลับจะหายในทันที แต่ครอบครัวเรารับรู้ทั้งสองฝ่าย เพื่อนๆเรารับรู้ คนที่ทำงานเรารับรู้ " เขาเป็นผู้ชายที่หึงหวงดิฉันมาก เขาไม่เคยนอกใจดิฉันทั้งๆที่เขามีโอกาส มีต้วเลือกมากมาย แต่เขาไม่เคยทำแม้สักครั้ง  มีอะไรเขาก็บอกดิฉันทุกอย่าง เพราะดูเหมือนโลกของเขามีดิฉันอยู่คนเดียวที่เป็นแฟนเป็นเพื่อนโอบกอดเขาเวลาเขามีเรื่องไม่บายใจ เขาเคยบอกว่าอยู่กับดิฉันเขารู้สึกปลอดภัย เหมือนดิฉันปกป้องเขาไว้ตลอด แน่นอนค่ะเขามีปัญหาอะไรเขาไม่เคยคุยกับครอบครัวเขาเลย เขาเคยบอกว่าในครอบครัวของเขา เขารักและไว้ใจแต่ย่าเขาคนเดียว เขาออกมาทำงานตั้งแต่เขาเรียนจบและพึ่งได้ออกมาสัมผัสกับโลกภายนอก ได้มาทำงานหาเงินใช้เอง และได้มาเจอกับดิฉัน เราอาศัยอยู่ด้วยกันจนถึงปัจจุบัน เราสองคนตัวติดกันแทบจะทุกเวลา เขาไม่ยอมให้ดิฉันห่าง ซึ่งเขาเป็นคนขี้หึง เราสองคนสู้มาด้วยกันจนเรามีรถสองคันและกำลังจะมีบ้าน
ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่า เราใช้เงินคนละกระเป๋า ข้าวเราต้องหารกัน ค่าห้องเราก็ต้องหาร อยากได้อะไรก็ต้องเป็นเงินของตัวเองค่ะ 
** ปีแรกที่คบกัน ** ดิฉันก็เริ่มสังเกตอาการของเขานะคะว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมห่างดิฉัน ให้ดิฉันไปทำงานด้วยตลอด และบอกให้ดิฉันออกจากงานประจำ เขาจะเลี้ยงดูเอง ( แน่นอนค่ะอย่าไปชื่อคำพูดแบบนี้ ) การส่งเสียเลี้ยงดูไม่มีจริงค่ะ ดิฉันได้ใช้เงินเก็บของดิฉันทั้งหมด จนเงินเก็บเริ่มจะหมดเลยไปหางานที่เราสามารถอยู่กับเขาได้ (รักเค้า) 😂 จนเขาเริ่มเอาแต่ใจตัวเอง งอแงเหมือนเด็ก เขาเป็นคนที่อ่อนแอมากเจอเรื่องอะไรเขาจะร้องไห้ตลอด เขาเป็นคนที่คิดมาก วิตกกังวลกับเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดตลอด ฉันได้แต่คอยโอบกอดและให้คำปรึกษาเขา 
** เข้าปีที่2** เขาเริ่มยิ่งเอาใจตัวเองมากขึ้น เจ้าอารมณ์ เริ่มทำร้ายตัวเอง ชวนทะเลาะบ่อย เวลานอนต้องนอนกอดเขาห้ามปล่อย ถ้าปล่อยเขาจะชวนทะเลาะและทำร้ายตัวเองในทันที ทำเป็นผีเข้าให้เราสงสารบ้าง ทำเหมือนจะฆ่าตัวตายเรียกร้องให้เราสนใจบ้าง เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ชวนทะเลาะ ดีหน่อยที่ดิฉันเป็นคนใจเย็น ได้เข้าใจและศึกษาในโรคที่เขาเป็นอยู่ ได้แต่คิดตลอดว่าเขาเป็นซึมเศร้าตั้งแต่เด็ก เราต้องช่วยเขาผ่านจุดนี้  เขาเป็นผู้ชายที่ติดเซ็กมาก ต้องมีอะไรกับเขาทุกวัน ถ้าไม่คือเขาจะงอลและหาเรื่องทะเลาะ เริ่มไม่ให้ดิฉันออกไปไหนมาไหน ไม่ให้ไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อน หิวข้าวก็สั่งแกปมากินที่ห้องถ้าไม่ได้ไปงานด้วยกับเขา ถ้าจะไปเที่ยวไปดื่มก็ต้องไปกับเขา รอวันที่เขาว่าง ฉันก็ยอมเขาตลอดเพราะรู้ว่านิสัยเขาเอาแต่ใจ โกรธง่าย มีหลายครั้งที่เราสองคนทะเลาะต่อหน้าเพื่อนของฉันโดยที่เรื่องไม่เป็นเรื่องเขาก็โกรธ ฉันก็เป็นคนใจเย็นมาตลอดนะ ต้องยอมต้องง้อตลอดเพราะรู้ว่าเขาเป็นโรคอะไร จนเพื่อนของดิฉันไม่อยากพบดิฉันและแฟนของดิฉันอีกเลย พวกเขาเอือมระอากับพฤติกรรมที่ทะเลาะกันบ่อย และความเอาแต่ใจของแฟนดิฉัน พวกเขาจึงหลีกเลี่ยงที่จะพบดิฉันอีกเลยเพื่อไม่ให้มีปัญหา (ฉันต้องกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน😂) เพื่อนดิฉันบอกกับฉันเสมอว่าหันมายังเจอพวกกูนะถ้าไม่ไหว 🥹
**เข้าปีที่3** เริ่มหนักขึ้น เวลาทะเลาะกันเริ่มด่าทอดิฉันรุนแรงขึ้น ( ไม่เหนื่อยหรือไงชวนทะเลาะตลอด ) นั่งอยู่เฉยๆยังชวนทะเลาะ ถ้าเขานึกอะไรขึ้นได้เขาจะด่าขึ้นมาทันที  (ต้องบอกก่อนนะคะว่าฉันเคยคบแฟนเป็นคนต่างชาติค่ะ) อย่างเช่นมีโฆษณาหนังฝรั่ง เขาจะด่าดิฉันในทันทีหาเรื่องทะเลาะกันทันทีว่าเขาไม่ชอบอย่างนั้นอย่างนี้ อดีตเคยคบกับฝรั่งมากูไม่ชอบมันของใหญ่กว่ากู บลาๆๆๆ นิสัยฝรั่งอย่างนั้นอย่างนี้ ที่ผ่านมาเขาไม่ได้รักจริงหรอก เป็นของเล่นเขา บลาๆๆๆ ( ชอบพูดให้ตัวเองสูงขึ้นและกดขี่ให้ทุกคนต่ำลง) ( จะคนประเทศไหนเขาก็เป็นคนเหมือนกันเปล่าวะ) ห้ามให้ดิฉันดูหนังฝรั่ง และห้ามฟังเพลงฝรั่ง จนดิฉันจะลืมภาภาอังกฤษแล้วค่ะ  ทุกครั้งที่ทะเลาะกันดิฉันจะเดินหนี หรือไม่ก็เงียบไม่พูด เพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ ทุกๆครั้งเขาก็ด่าไม่หยุด เขาคิดอะไรได้เขาจะพูดออกมา เอาเป็นว่ามันเป็นคำไม่ดี ( ส่วนอดีตของเขา ฉันไม่เคยเก็บมาใส่ใจ แม้เขาจะเคยอยู่กินกับผู้ชาย ฉันไม่เคยสนเรื่องอดีตของเขาเลย และไม่เคยด่าเขาเลย กลัวว่าเขาจะคิดมากและเสียใจ ) ทะเลาะกันแทบทุกวัน โดยที่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ แต่ฉันทนนะเพราะฉันรักเขาและสงสารเขาที่เขาเป็นโรคนี้ อยากให้อาการเขาดีขึ้น 
# จากที่แต่ก่อนเขาทำร้ายตัวเองเขาไม่ทำแล้วค่ะ เขาหันมาใช้ความรุนแรงกับฉันแทน ทุกครั้งที่เขาทะเลาะกับฉัน เขาจะทุบตีดิฉัน จนร่างกายฉันเขียวช้ำตลอด ถามว่าฉันต่อสู้คืนได้ไหม ได้นะ แต่ฉันไม่ทำ เพราะฉันกลัวเขาเจ็บ เขาคือคนป่วย ฉันบอกกับตัวเองเสมอต้องพาเขาไปรักษาให้ได้ แต่เขาไม่ยอมไปเลยสักครั้ง แต่เขารู้ตัวเองว่าป่วย เขาบอกกับฉันเสมอว่าเขาป่วย เขาไม่อยากทำแบบนี้ เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ 
**เข้าปีที4** มันเริ่มรุนแรงขึ้นจากที่มีแต่รอยเขียวช้ำก็มีเลือดตกยางออก จากที่ใช้แต่มือใช้แต่กำปั้น ก็เริ่มใช้เท้าเตะถีบบ้าง เวลาเขาตีฉัน ฉันไม่เคยร้องเสียงดังให้คนอื่นได้ยิน ฉันกลัวฉันอายคนและเขาอายคนอื่นที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ด่าสาดเสียเทเสียคิดอะไรได้ก็ด่าไปหมด ดูถูกการศึกษาบ้าง ด่าผู้ชายว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ด่าผู้หญิงว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ชอบยกตัวเองเหนือกว่าคนอื่น แน่นอนค่ะเขาไม่ใช่ผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาเป็นไบค่ะ เขาบอกว่าเขาชอบผู้หญิงมากกว่า อารมณ์ยิ่งกว่าผู้หญิงโกรธง่ายงอนง่าย อารมณ์สองขั้วเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย พูดอะไรที่ไม่ถูกใจตัวเองหน่อยก็โกรธ
🔸 เวลาเขาอยู่คนเดียวเขาจะมีอาการเศร้า อารมณ์เศร้าๆ คิดเรื่อยเปื่อย ซึ่งเขาจะอยู่คนเดียวไม่ได้ค่ะ ชอบตัดพ้อว่าพ่อแม่ไม่รักบ้าง เหนื่อยกับงานบ้าง แต่เขาก็ทุ่มเทให้งานนะคะ อยู่กับดิฉันเขาจะเป็นคนอ่อนแอ มีแต่เรื่องเศร้าๆหรือปัญหามาเล่าให้ฟังตลอด แต่เวลาอารมณ์ดีเขาจะเป็นคนอีกแบบนึงคนละคนกันเลยค่ะ แต่เขาจะมีมุมเศร้ามากกว่า อยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาจะเป็นคนที่เข้มแข็งมากชองทำให้คนอื่นยิ้มหัวเราะ จนไม่มีใครมองออกว่าเขาเป็นโรคนี้อยู่ 
🔸 ข้อดี เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความรัก มุ่งมั่นสร้างครอบครัว อยู่ต่อหน้าเพื่อนร่วมงานของเขา เขาจะทำเป็นรักดิฉันมาก พูดแต่ข้อดีของดิฉันให้คนอื่นฟังเสมอ และเขาไม่เคยนอกใจฉันเลย อีกอย่างเขาเข้ากับพ่อแม่ฉันได้ดี ซึ่งพ่อแม่ของฉันรักเขามาก 
🔸 ตั้งแต่ฉันคบกับเขามาเกือบจะ4ปี ฉันมีความทุกข์มากกว่าความสุข ฉันไม่มีอิสระ ชอบบงการชีวิตฉันต้องให้เป็นแบบที่เขาอยากให้เป็น ชอบบังคับฉันทุกอย่าง แม้แต่การเดิน การพูด ทุกวันนี้ฉันไม่มีเพื่อน ฉันไม่ได้คุยกับเพื่อนๆเหมือนแต่ก่อน ฉันไม่รู้จะปรึกษาใครได้ ได้แต่คุยกับต้วเองตลอด ร้องไห้บ่อยมาก บังคับการใช้ชีวิต จากที่ฉันมีเพื่อนเยอะก็ไม่เหลือใครเลย จากที่เรยสนุกเฮาฮากับเพื่อน เขามาเปลี่ยนโลกของฉันทันที จากที่เคยได้ท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ หรือท่องเที่ยวต่างประเทศ ฉันก็ไม่เคยได้สัมผัสมันอีกเลย 
ฉันต้องอยู่ในกรอบที่เขาตีให้ไว้ตลอดระยะเวลาเกิอบ4ปี  ตอนนี้ฉันเครียดไปหมด จนฉันจะเป็นซึมเศร้าต้องมารักษาตัวเองแทนแล้ว  รู้สึกสงสารตัวเองมากตอนนี้ ถ้าจะเลิกกับเขาก็กลัวคนอื่นมองว่าเราเห็นแก่ตัวเกินไป หรือมีวิธีไหนที่ทำให้ชีวิตคู่มันดำเนินต่อไปดีคะ อีกอย่างเราก็อยากให้เขาหายเพราะเราสงสารและรักเขา จนตัวเองได้มาเป็นแทน 😭😭
** ยาวหน่อยนะคะ มีอีกหลายอย่างที่ดิฉันไม่สามารถพิมพ์ได้หมด หรือไม่สามารถบอกได้ สรุปมาให้แค่นี้ค่ะ ***
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่เลยครับ ถ้าผู้ชายแย่ขนาดนี้
คือ โรคซึมเศร้า โรคไบโพล่า มันไม่ใช่ข้ออ้างในการละเมิดคนอื่นนะครับ

"เฮ้ย ผมเป็นโรคซึมเศร้า โดนแฟนทิ้ง โดนนายไล่ออกจากงาน โดนโกงหมดตัว
ผมเอาปืนไปไล่ยิงเด็ก ยิงคนแก่ ยิงคนที่ไม่เกี่ยวข้องในห้าง ดีกว่า"

"เฮ้ย ผมเป็นไบโพล่า ผมอารมณ์ศิลปิน ผมมีสิทธิ์ด่าแฟน หาเรื่องทะเลาะ ทำร้ายร่างกาย"
มันไม่ใช่
ถ้ารับแฟนตัวเองไม่ได้ก็เลิกไปสิ จะไปรั้งเขาไว้ทำไม

ใครจะมองยังไงก็ช่าง คุณต้องปกป้องตัวเองก่อนครับ
ถ้าคุณเสียชื่อ คุณก็ต้องแก้ต่าง แต่สิ่งที่คุณควรทำคือรักษาสุขภาพจิตของตัวเอง ไม่อย่างนั้นคุณจะพลอยเป็นซึมเศร้าไปกับเข้าด้วย ปล่อยไว้หมักหมม นานๆเข้ามันแก้ยาก ไม่คุ้มเลยครับ
โลกโซเชียลน่ะอย่าไปใส่ใจมากครับ อินเตอร์เนทใครจะพูดอะไรก็ได้ เราโพสแก้ต่าง ปิดคอมเม้นท์ งดเล่น จบครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่