ก่อนอื่นเลยขอเล่าที่มาของเรื่องก่อนนะครับ บ้านผมทุกวันนี้อยู่กันมีแม่ผมมีภรรยากับลูกผมแล้วก็น้องชายผม(ทำงานตจวไปๆมาๆ) พ่อกับแม่ผมเลิกกันตั้งแต่ผมและน้องชายยังเด็กคุณแม่เลี้ยงดูมาเป็น single mom แต่คุณพ่อก็ส่งเงินให้ตลอดทั้งๆที่เขาไปมีครอบครัวใหม่เเล้ว คุณแม่ผมเป็นเจ้าระเบียบมาก ของไรวางไม่ถูกที่ถูกตาเขาจะไม่พอใจแล้วไล่จัดทุกอย่าง พอทำเสร็จก็บ่นแล้วก็มาลงที่ผมว่าอยู่บ้านนะไม่ใช่โรงแรมให้ช่วยกันด้วย (ผมจ้างแม่บ้านไว้ให้2คนเพื่อตัดปัญหายังเอาไม่อยู่) ผมจะทำอะไรจะไปไหนถ้าเขาไม่รับรู้หรือไม่มีส่วนร่วมก็จะน้อยใจ ส่วนน้องชายก็จะติสๆหน่อยไม่ค่อยเข้ากับใครได้แล้วชอบอยู่คนเดียว
ด้วยความที่ในบ้านเราเป็นลูกคนโตความรับผิดชอบหลายๆอย่างมันก็ตกมาที่ผม ผมหยุดเรียนตั้งแต่อายุ20เริ่มทำงานหารายได้เลี้ยงดูและซัพพอรตที่บ้านซะส่วนใหญ่ อยู่ดีกินดีกันทุกคนมีไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง (คุณพ่อให้เงินลงทุนมาก้อนนึงแล้วหลังจากนั้นให้เราดูแลรับผิดชอบเองทั้งหมด) ผมก็รู้สึกกดดันนะด้วยความที่ตอนนั้นเรายังอายุน้อยอ่อนประสบการมากแต่ไม่เคยท้อก็เลยผ่านมาด้วยดีถึงทุกวันนี้ได้
ปัญหาหลักเกิดหลังจากผมได้แต่งงานกับแฟนที่คบหากันมาหลายปี ระหว่างคบกันก่อนแต่งงานก็พาไปพบเจอที่บ้านเป็นประจำทุกคนโอเคกันหมดแล้วเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเราหลังแต่ง แรกๆก็ปัญหาทั่วไปต่างคนต่างสไตล์ในการดำเนินชีวิตแต่พอผ่านหลายปีปัญหามันก็เริ่มหนักและกวนใจขึ้นเรื่อยๆ ภรรยากับแม่ผมนั้นต่างไม่ค่อยกล้าพูดคุยกันตรงๆจะชอบมาผ่านผม แล้วผมนิสัยเป็นคนไม่ชอบอะไรจุกจิกมีเรื่องเล็กน้อยอะไรก็จะพูดเป็นกลางแล้วบอกให้ต่างคนพยายามเข้าใจอีกฝ่าย คุณแม่ผมนั้นอยากได้ชีวิตแบบละครที่ลูกสะใภ้ค่อยเอาอกเอาใจแต่ผมกับภรรยาเป็นคนทำงานทั้งคู่ไม่ค่อยมีเวลาแถมต้องเลี้ยงลูกเล็กด้วยเลยอาจจะไม่ได้เอาใจใส่มากนักคุณแม่ก็น้อยใจเป็นประจำแล้วก็พูดประชดตามภาษาผู้ใหญ่ทำให้ผมกับภรรยารู้สึกอึดอัดเวลาอยู่บ้าน เป็นตัวของตัวเองไม่ได้ แล้วก็ต้องค่อยระวังไม่ทำไรผิดทุกฝีก้าวเพราะคำถามจะตามมาเพียบ อีกเรื่องก็คือผมและภรรยาชอบชวนเพื่อนมาบ้านมานั่งคุยนั่งดิ่มบ้างนานๆทีแต่แม่และน้องไม่พอใจทุกรอบด้วยเหตุผลว่าเสียงดังรบกวนเขา เขาอยากอยู่แบบสงบๆ เรื่องนี้หนักจนพ่อแม่พี่น้องภรรยาผมไม่กล้ามาหาที่บ้านเพราะกลัวจะทำแม่ผมไม่พอใจ ปัญหามีอีกเยอะแต่ผมขี้เกียจเล่าเพราะมันก็เรื่องคล้ายๆกันหมด คนนึงทำให้อีกคนไม่พอใจแล้วไม่เคลียร์กันปล่อยสะสมจนระเบิดทั้งคู่ แล้วระเบิดใส่ใคร? ก็ผมนี้ไงตัวรับ
ก็เลยมาถึงตอนนี้ทุกคนได้พูดคุยกันแล้วตกลงว่าจะแยกบ้านกัน ผมกับลูกและภรรยาจะย้ายออกและน้องชายอยู่กับแม่ แต่! เรื่องก็มาเพิ่มเพราะญาติพี่น้องของฝ่ายพ่อและแม่ผมนั้นตำหนิผมว่าคนทิ้งแม่ไม่มีวันเจริญ คำพูดแนวนี้มันบาดใจผมมากเพราะผมไม่เคยละเลยหน้าที่ดูแลเขา รถผมก็ซื้อให้เวลาเขาจะไปเที่ยวก็ให้เงินตลอดค่าใช้จ่ายรายเดีอนก็ออกให้ส่วนใหญ่แต่คนนอกไม่รับรู้แล้วพูดซ้ำเติมแม่ว่าทำไมถึงไม่อยู่ด้วยกันใครจะดูแลตอนแก่(ตอนนี้เขาอายุ50กลางๆ) เหมือนว่ามีผมคนเดียวที่ทำได้หรือไง ผมได้หาที่อยู่ใหม่ได้แล้วแต่ยังไม่ได้ย้ายออกเพราะอยากมั่นใจก่อนว่าทุกคนจะออกกันด้วยดีไม่มีเรื่องค้างคาใจ แต่หลังๆมาคุณแม่เริ่มพูดกับผมบ่อยขึ้นว่าเขาทำไม่ดีตรงไหนทำไมต้องแยกกันด้วยอะไรแนวนี้ทุกวัน ผมไม่อยากพูดทำร้ายจิตใจใครก็เลยตอบผ่านๆตลอด เลือกที่จะตอบแบบถึงจะแยกกันอยู่แต่ก็ยังไปมาหากันได้ตลอดไม่ได้ตัดขาดกันสักหน่อย
ผมเข้าใจแหละว่าการที่เขาอยู่โดยไม่มีคู่ชีวิตมันทำให้เขาตั้งความหวังไว้กับลูกๆมากเกินไป แต่ผมผิดไหมที่อยากจะใช้ชีวิตในแบบของตัวเองโดยไม่มีข้อกำหนดว่าเราจะทำไรได้ไม่ได้แล้วเลี้ยงดูครอบครัวตัวเองในแบบของเราเองผมไม่ใช่คนเกเรไร เที่ยวบ้างดื่มบ้างแต่ก็ไม่เคยทิ้งความรับผิดชอบเรื่องเงินให้ใครแล้วก็จะทำแบบเดิมต่อไปแต่ทำไมรู้สึกเหมือนพ่อและแม่ผมไม่เคารพในการตัดสินใจของผมแล้วพยายามพูดชวนให้เปลี่ยนใจโดยใช้เหตุว่าคนไม่ดูแลพ่อแม่ไม่มีวันเจริญอยู่บ่อยๆ
ขอความเห็นจากผู้เคยผ่านเหตุการคล้ายกันครับว่าท่านผ่านจุดนี้ไปได้ยังไงแล้วผมทำผิดตรงไหนแล้วควรแก้ยังไง ขอบพระคุณมากครับ
ปล.ขออภัยครับอาจจะมีพิมผิดหลายๆคำ 555
ผิดมั้ยครับที่ผมกำลังจะแยกบ้านออกมา
ด้วยความที่ในบ้านเราเป็นลูกคนโตความรับผิดชอบหลายๆอย่างมันก็ตกมาที่ผม ผมหยุดเรียนตั้งแต่อายุ20เริ่มทำงานหารายได้เลี้ยงดูและซัพพอรตที่บ้านซะส่วนใหญ่ อยู่ดีกินดีกันทุกคนมีไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง (คุณพ่อให้เงินลงทุนมาก้อนนึงแล้วหลังจากนั้นให้เราดูแลรับผิดชอบเองทั้งหมด) ผมก็รู้สึกกดดันนะด้วยความที่ตอนนั้นเรายังอายุน้อยอ่อนประสบการมากแต่ไม่เคยท้อก็เลยผ่านมาด้วยดีถึงทุกวันนี้ได้
ปัญหาหลักเกิดหลังจากผมได้แต่งงานกับแฟนที่คบหากันมาหลายปี ระหว่างคบกันก่อนแต่งงานก็พาไปพบเจอที่บ้านเป็นประจำทุกคนโอเคกันหมดแล้วเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเราหลังแต่ง แรกๆก็ปัญหาทั่วไปต่างคนต่างสไตล์ในการดำเนินชีวิตแต่พอผ่านหลายปีปัญหามันก็เริ่มหนักและกวนใจขึ้นเรื่อยๆ ภรรยากับแม่ผมนั้นต่างไม่ค่อยกล้าพูดคุยกันตรงๆจะชอบมาผ่านผม แล้วผมนิสัยเป็นคนไม่ชอบอะไรจุกจิกมีเรื่องเล็กน้อยอะไรก็จะพูดเป็นกลางแล้วบอกให้ต่างคนพยายามเข้าใจอีกฝ่าย คุณแม่ผมนั้นอยากได้ชีวิตแบบละครที่ลูกสะใภ้ค่อยเอาอกเอาใจแต่ผมกับภรรยาเป็นคนทำงานทั้งคู่ไม่ค่อยมีเวลาแถมต้องเลี้ยงลูกเล็กด้วยเลยอาจจะไม่ได้เอาใจใส่มากนักคุณแม่ก็น้อยใจเป็นประจำแล้วก็พูดประชดตามภาษาผู้ใหญ่ทำให้ผมกับภรรยารู้สึกอึดอัดเวลาอยู่บ้าน เป็นตัวของตัวเองไม่ได้ แล้วก็ต้องค่อยระวังไม่ทำไรผิดทุกฝีก้าวเพราะคำถามจะตามมาเพียบ อีกเรื่องก็คือผมและภรรยาชอบชวนเพื่อนมาบ้านมานั่งคุยนั่งดิ่มบ้างนานๆทีแต่แม่และน้องไม่พอใจทุกรอบด้วยเหตุผลว่าเสียงดังรบกวนเขา เขาอยากอยู่แบบสงบๆ เรื่องนี้หนักจนพ่อแม่พี่น้องภรรยาผมไม่กล้ามาหาที่บ้านเพราะกลัวจะทำแม่ผมไม่พอใจ ปัญหามีอีกเยอะแต่ผมขี้เกียจเล่าเพราะมันก็เรื่องคล้ายๆกันหมด คนนึงทำให้อีกคนไม่พอใจแล้วไม่เคลียร์กันปล่อยสะสมจนระเบิดทั้งคู่ แล้วระเบิดใส่ใคร? ก็ผมนี้ไงตัวรับ
ก็เลยมาถึงตอนนี้ทุกคนได้พูดคุยกันแล้วตกลงว่าจะแยกบ้านกัน ผมกับลูกและภรรยาจะย้ายออกและน้องชายอยู่กับแม่ แต่! เรื่องก็มาเพิ่มเพราะญาติพี่น้องของฝ่ายพ่อและแม่ผมนั้นตำหนิผมว่าคนทิ้งแม่ไม่มีวันเจริญ คำพูดแนวนี้มันบาดใจผมมากเพราะผมไม่เคยละเลยหน้าที่ดูแลเขา รถผมก็ซื้อให้เวลาเขาจะไปเที่ยวก็ให้เงินตลอดค่าใช้จ่ายรายเดีอนก็ออกให้ส่วนใหญ่แต่คนนอกไม่รับรู้แล้วพูดซ้ำเติมแม่ว่าทำไมถึงไม่อยู่ด้วยกันใครจะดูแลตอนแก่(ตอนนี้เขาอายุ50กลางๆ) เหมือนว่ามีผมคนเดียวที่ทำได้หรือไง ผมได้หาที่อยู่ใหม่ได้แล้วแต่ยังไม่ได้ย้ายออกเพราะอยากมั่นใจก่อนว่าทุกคนจะออกกันด้วยดีไม่มีเรื่องค้างคาใจ แต่หลังๆมาคุณแม่เริ่มพูดกับผมบ่อยขึ้นว่าเขาทำไม่ดีตรงไหนทำไมต้องแยกกันด้วยอะไรแนวนี้ทุกวัน ผมไม่อยากพูดทำร้ายจิตใจใครก็เลยตอบผ่านๆตลอด เลือกที่จะตอบแบบถึงจะแยกกันอยู่แต่ก็ยังไปมาหากันได้ตลอดไม่ได้ตัดขาดกันสักหน่อย
ผมเข้าใจแหละว่าการที่เขาอยู่โดยไม่มีคู่ชีวิตมันทำให้เขาตั้งความหวังไว้กับลูกๆมากเกินไป แต่ผมผิดไหมที่อยากจะใช้ชีวิตในแบบของตัวเองโดยไม่มีข้อกำหนดว่าเราจะทำไรได้ไม่ได้แล้วเลี้ยงดูครอบครัวตัวเองในแบบของเราเองผมไม่ใช่คนเกเรไร เที่ยวบ้างดื่มบ้างแต่ก็ไม่เคยทิ้งความรับผิดชอบเรื่องเงินให้ใครแล้วก็จะทำแบบเดิมต่อไปแต่ทำไมรู้สึกเหมือนพ่อและแม่ผมไม่เคารพในการตัดสินใจของผมแล้วพยายามพูดชวนให้เปลี่ยนใจโดยใช้เหตุว่าคนไม่ดูแลพ่อแม่ไม่มีวันเจริญอยู่บ่อยๆ
ขอความเห็นจากผู้เคยผ่านเหตุการคล้ายกันครับว่าท่านผ่านจุดนี้ไปได้ยังไงแล้วผมทำผิดตรงไหนแล้วควรแก้ยังไง ขอบพระคุณมากครับ
ปล.ขออภัยครับอาจจะมีพิมผิดหลายๆคำ 555