กลุ่มเปราะบางส่อหนี้เสียพุ่ง ธปท.ปรับเกณฑ์ช่วยเหลือ-จ่อต่ออายุพักหนี้
https://www.thairath.co.th/business/economics/2634928
ธปท.เผยรายใหญ่เอสเอ็มอีภาครัฐแห่คืนหนี้ แบงก์ขายพอร์ต สินเชื่อ กดยอดปล่อยสินเชื่อปี 65 โต 2.1% ชะลอลงจากปีก่อน ห่วงกลุ่มเปราะบางหนี้เสียเพิ่ม ปรับเกณฑ์ช่วยเหลือคลินิกแก้หนี้ใหม่ ให้รับแก้หนี้เอ็นพีแอลก่อน 1 ก.พ.66 ได้ ชี้มีโอกาสต่ออายุโครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์พักหนี้ อีก 1 ปี
น.ส.
สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 4 ปี 65 และมาตรการเพิ่มเติมดูแลลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ว่า ธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคง และมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสํารอง และสภาพคล่องระดับสูง สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 30.7% จากปีก่อน แต่การปล่อยสินเชื่อชะลอลงจากไตรมาส 3 จากการชําระคืนหนี้ของธุรกิจขนาดใหญ่ การคืนหนี้ภาครัฐ และการครบระยะเวลาการกู้ยืมของสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี (ซอฟต์โลน) ของทางการ รวมทั้งการโอนพอร์ตรายย่อยไปยังบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งไปยังบริษัทบริหารหนี้ ส่งผลให้ทั้งปี 65 สินเชื่อทั้งระบบขยายตัว 2.1% ชะลอลงจากปีก่อน ทั้งนี้ สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ลดลง 1.3% จากไตรมาสก่อน, สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ลดลง 2.4% ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ส่วนสินเชื่อเพื่อการอุปโภคลดลงทั้งหมด ยกเว้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สินเชื่อบัตรเครดิตที่ลดลง 14.2% เพราะมีการขยายพอร์ตสินเชื่อของบางธนาคาร แต่หากตัดส่วนนี้ไป สินเชื่อบัตรเครดิตจะขยายตัว 6.8% ชะลอจากไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัว 10.9%
ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าวต่อว่า จากการช่วยเหลือลูกหนี้ด้วยการเร่งปรับโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล) ปี 65 อยู่ที่ 499,200 ล้านบาท หรือ 2.73% ของสินเชื่อรวม ลดลงจากไตรมาสก่อน โดยลดลงจากสินเชื่อธุรกิจเป็นหลัก ขณะที่เอ็นพีแอลสินเชื่อเพื่อการบริโภคทรงตัว แต่สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิตมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น “
ธปท.ยังติดตามความสามารถชําระหนี้ของภาคครัวเรือนและการฟื้นตัวของธุรกิจบางกลุ่ม เพราะผลกระทบของโควิดที่ยังมีอยู่ ค่าครองชีพที่สูงขึ้นมาก และดอกเบี้ยที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง ส่งผลให้เอ็นพีแอลยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง แต่การปรับโครงสร้างหนี้จะช่วยไม่ให้เพิ่มขึ้นรุนแรง”
สำหรับหนี้ครัวเรือนล่าสุดไตรมาส 3 มีสัดส่วน 86.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ถือว่าสูง แต่ ธปท.ได้เพิ่มการติดตามหนี้ภาคเอกชน ทำให้หนี้ภาคธุรกิจต่อจีดีพี ไตรมาส 3 อยู่ที่ 87.1% ลดลงจากช่วงโควิด และบริษัทยังรองรับ หนี้ได้ เพราะมีความสามารถในการทำกำไร แต่ต้องติดตามธุรกิจกลุ่มเปราะบางที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้เสียในส่วนของสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ธปท.ได้ปรับเงื่อนไขคุณสมบัติลูกหนี้เอ็นพีแอลที่จะเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ผ่านคลินิกแก้หนี้ โดยให้รับแก้หนี้ของลูกหนี้หนี้เอ็นพีแอลก่อนวันที่ 1 ก.พ.66 เพื่อช่วยลูกหนี้ที่เพิ่งเป็นเอ็นพีแอลในช่วงปลายโควิดได้ โดยที่ผ่านมาคลินิกแก้หนี้ช่วยแก้หนี้แล้ว 150,000 บัญชี จากลูกหนี้ 36,000 ล้านราย (รายละ 2-3 บัญชี) วงเงินที่แก้หนี้ได้ 7,140 ล้านบาท นอกจากนั้นยังกำลังเจรจาเจ้าหนี้เพิ่มเติม เพื่อให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการคลินิกแก้หนี้ จากขณะนี้มี 35 ราย เพื่อให้ครอบคลุมการช่วยเหลือลูกหนี้ให้มากขึ้นจากขณะนี้ประมาณ 70%
“วันที่ 9 เม.ย.นี้ จะครบกำหนดความช่วยเหลือของโครงการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อช่วยเอสเอ็มอีรายเล็ก, โครงการพักทรัพย์พักหนี้ และความช่วยเหลือพิเศษของ ธปท.เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์เร่งปรับโครงสร้างหนี้ แม้จะสิ้นสุดความช่วยเหลือพิเศษ แต่แบงก์จะยังคงมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ต่อเนื่อง ส่วนโครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์พักหนี้ ธปท.กำลังหารือว่าจะต่อโครงการได้หรือไม่ ซึ่งมีโอกาสที่จะต่อโครงการได้อีก 1 ปี”.
“เสรีพิศุทธ์” จัดโต๊ะจีนระดมทุน 1 บาท เหน็บไม่ใช่ราคา 3 ล้านก็อิ่มเหมือนกัน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2634800
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมกิจกรรมจัดโต๊ะจีน ระดมทุนโต๊ะละ 1 บาท ชี้ กินอิ่มเหมือนกันแม้ไม่ใช่โต๊ะจีนโต๊ะละ 3 ล้าน ถามคนอะไรกินมื้อเดียวเป็นแสน-สามแสน
วันที่ 20 ก.พ. 2566 พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมจัดกิจกรรมระดมทุน ณ วัดเจ้าอาม โดยมีแขกพิเศษสุดเซอร์ไพรส์ VVIP จำนวนมาก ว่า “
จริงๆ แล้วแขกvvip คือ พี่น้องประชาชนที่กำลังลำบาก ขัดสนค่าใช้จ่ายค่าครองชีพทั่วไป” โดยมี คุณ
วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามโครงการระดมทุนในครั้งนี้
พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า พรรคการเมืองต่างๆ ระดมทุนในการที่จะหาเสียงเลือกตั้ง เพราะตอนนี้ใกล้ที่จะเลือกตั้งแล้ว บางพรรคก็ขายโต๊ะจีนโต๊ะละ 1 ล้านบาทเท่ากับเก้าอี้ละ 1 แสนบาทบางพรรคก็โต๊ะละ 3 ล้านบาทเก้าอี้ละ 3 แสนบาท คนอะไรกินอะไรนักหนา มื้อเดียวหนึ่งแสน มื้อเดียวสามแสนนะครับ มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นพรรคต่างๆ ก็ระดมทุนไป หานายทุนอะไรต่างๆ อ้างว่าหาระดมเงินทุนเข้าพรรค บางทีไม่รู้หรอกว่าเป็นเงินของพรรคเหรือเปล่า เอาไปให้พ่อค้าแม่ค้ามาจองต่างๆ เหล่านี้ ถึงจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าจริงๆ พรรคการเมืองเหล่านี้ก็ต้องเป็นหนี้บุญคุณเขา ถึงเวลาก็ต้องมอบงานให้แล้วก็กินเปอร์เซ็นต์กัน การทุจริตคอร์รัปชันกันแบบนี้แล้วก็ไม่เคยคิดถึงพี่น้องประชาชนที่ยากจนที่มีอยู่เกินค่อนประเทศเลย
เลือกตั้ง 2566
“
ผมถามพี่น้องประชาชนใครไม่เป็นหนี้บ้างยกมือขึ้น ไม่มีใครยกมือขึ้นเลย เป็นหนี้กันอย่างถ้วนหน้า เพราะฉะนั้นจริงๆ พวกเราต้องคิดว่าจะช่วยเหลือคนจน ให้พ้นจากความเป็นหนี้ให้ได้ ให้กินดีอยู่ดีอย่างมีความสุขได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเมื่อคุณระดมทุนโต๊ะละ 3 ล้านบาทผมก็ระดมทุนได้เหมือนกัน ผมก็หาเพื่อนผม ให้มาช่วยผมระดมทุนหน่อย ผมไม่ต้องลงมือลงแรงเลย เพื่อนผมจัดมาทุกอย่าง ขายโต๊ะละ 1 บาท เก็บ 15 โต๊ะ ก็ 15 บาทมาให้ผม ใช่ไหม ผมก็แค่นี้ 15 บาทก็ 15 บาท ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เราต้องการเห็นสิ่งนี้ให้พี่น้องประชาชนคนยากคนจน ได้กินอิ่มนอนหลับ ได้ทานอาหารดีๆ บ้าง”
พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรายังมีเมนูปลาทอดพริก กระเพาะปลา ยำสามกรอบ แกงจืด ข้าวผัด ลิ้นจี่กระป๋อง เราก็มีให้ครบ ไม่อิ่มเดี๋ยวเติมให้อีกจนกว่าจะอิ่ม แล้วถ้าเหลือให้ห่อกลับบ้านนะ เราหวังว่าถ้าทุกคนทุกพรรค ทำอย่างนี้พี่น้องประชาชนจะมีความสุข และไม่ต้องไปขอใครไม่ต้องไปรีดไถใคร
ระอุ ‘อมรัตน์’ ปราศรัยลั่นบูรพาพยัคฆ์หรือสุนัข ทำไม ‘ประยุทธ์’ ต้องให้ผู้หญิงสั่งสอน
https://www.matichon.co.th/clips/news_3834106
พรรคก้าวไกลเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง โดย
อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ปราศรัยเดือด ประกาศลั่นบูรพาพยัคฆ์หรือสุนัข ทำไม พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ถึงต้องให้ผู้หญิงอย่างดิฉันสั่งสอนว่าอยู่อย่างยิ่งใหญ่จากไปอย่างมีเกียรติมันต้องทำยังไง ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
JJNY : กลุ่มเปราะบางส่อหนี้เสียพุ่ง│“เสรีพิศุทธ์” จัดโต๊ะจีน│ทำไม ‘ประยุทธ์’ ต้องให้ผู้หญิงสั่งสอน│จีนมั่นใจเป็นคนกลาง
https://www.thairath.co.th/business/economics/2634928
ธปท.เผยรายใหญ่เอสเอ็มอีภาครัฐแห่คืนหนี้ แบงก์ขายพอร์ต สินเชื่อ กดยอดปล่อยสินเชื่อปี 65 โต 2.1% ชะลอลงจากปีก่อน ห่วงกลุ่มเปราะบางหนี้เสียเพิ่ม ปรับเกณฑ์ช่วยเหลือคลินิกแก้หนี้ใหม่ ให้รับแก้หนี้เอ็นพีแอลก่อน 1 ก.พ.66 ได้ ชี้มีโอกาสต่ออายุโครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์พักหนี้ อีก 1 ปี
น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 4 ปี 65 และมาตรการเพิ่มเติมดูแลลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ว่า ธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคง และมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสํารอง และสภาพคล่องระดับสูง สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 30.7% จากปีก่อน แต่การปล่อยสินเชื่อชะลอลงจากไตรมาส 3 จากการชําระคืนหนี้ของธุรกิจขนาดใหญ่ การคืนหนี้ภาครัฐ และการครบระยะเวลาการกู้ยืมของสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี (ซอฟต์โลน) ของทางการ รวมทั้งการโอนพอร์ตรายย่อยไปยังบริษัทลูกของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งไปยังบริษัทบริหารหนี้ ส่งผลให้ทั้งปี 65 สินเชื่อทั้งระบบขยายตัว 2.1% ชะลอลงจากปีก่อน ทั้งนี้ สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ลดลง 1.3% จากไตรมาสก่อน, สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี ลดลง 2.4% ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ส่วนสินเชื่อเพื่อการอุปโภคลดลงทั้งหมด ยกเว้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สินเชื่อบัตรเครดิตที่ลดลง 14.2% เพราะมีการขยายพอร์ตสินเชื่อของบางธนาคาร แต่หากตัดส่วนนี้ไป สินเชื่อบัตรเครดิตจะขยายตัว 6.8% ชะลอจากไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัว 10.9%
ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าวต่อว่า จากการช่วยเหลือลูกหนี้ด้วยการเร่งปรับโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล) ปี 65 อยู่ที่ 499,200 ล้านบาท หรือ 2.73% ของสินเชื่อรวม ลดลงจากไตรมาสก่อน โดยลดลงจากสินเชื่อธุรกิจเป็นหลัก ขณะที่เอ็นพีแอลสินเชื่อเพื่อการบริโภคทรงตัว แต่สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิตมีหนี้เสียเพิ่มขึ้น “ธปท.ยังติดตามความสามารถชําระหนี้ของภาคครัวเรือนและการฟื้นตัวของธุรกิจบางกลุ่ม เพราะผลกระทบของโควิดที่ยังมีอยู่ ค่าครองชีพที่สูงขึ้นมาก และดอกเบี้ยที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง ส่งผลให้เอ็นพีแอลยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง แต่การปรับโครงสร้างหนี้จะช่วยไม่ให้เพิ่มขึ้นรุนแรง”
สำหรับหนี้ครัวเรือนล่าสุดไตรมาส 3 มีสัดส่วน 86.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ถือว่าสูง แต่ ธปท.ได้เพิ่มการติดตามหนี้ภาคเอกชน ทำให้หนี้ภาคธุรกิจต่อจีดีพี ไตรมาส 3 อยู่ที่ 87.1% ลดลงจากช่วงโควิด และบริษัทยังรองรับ หนี้ได้ เพราะมีความสามารถในการทำกำไร แต่ต้องติดตามธุรกิจกลุ่มเปราะบางที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้เสียในส่วนของสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ธปท.ได้ปรับเงื่อนไขคุณสมบัติลูกหนี้เอ็นพีแอลที่จะเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ผ่านคลินิกแก้หนี้ โดยให้รับแก้หนี้ของลูกหนี้หนี้เอ็นพีแอลก่อนวันที่ 1 ก.พ.66 เพื่อช่วยลูกหนี้ที่เพิ่งเป็นเอ็นพีแอลในช่วงปลายโควิดได้ โดยที่ผ่านมาคลินิกแก้หนี้ช่วยแก้หนี้แล้ว 150,000 บัญชี จากลูกหนี้ 36,000 ล้านราย (รายละ 2-3 บัญชี) วงเงินที่แก้หนี้ได้ 7,140 ล้านบาท นอกจากนั้นยังกำลังเจรจาเจ้าหนี้เพิ่มเติม เพื่อให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการคลินิกแก้หนี้ จากขณะนี้มี 35 ราย เพื่อให้ครอบคลุมการช่วยเหลือลูกหนี้ให้มากขึ้นจากขณะนี้ประมาณ 70%
“วันที่ 9 เม.ย.นี้ จะครบกำหนดความช่วยเหลือของโครงการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อช่วยเอสเอ็มอีรายเล็ก, โครงการพักทรัพย์พักหนี้ และความช่วยเหลือพิเศษของ ธปท.เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์เร่งปรับโครงสร้างหนี้ แม้จะสิ้นสุดความช่วยเหลือพิเศษ แต่แบงก์จะยังคงมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ต่อเนื่อง ส่วนโครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพักทรัพย์พักหนี้ ธปท.กำลังหารือว่าจะต่อโครงการได้หรือไม่ ซึ่งมีโอกาสที่จะต่อโครงการได้อีก 1 ปี”.
“เสรีพิศุทธ์” จัดโต๊ะจีนระดมทุน 1 บาท เหน็บไม่ใช่ราคา 3 ล้านก็อิ่มเหมือนกัน
https://www.thairath.co.th/news/politic/2634800
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมกิจกรรมจัดโต๊ะจีน ระดมทุนโต๊ะละ 1 บาท ชี้ กินอิ่มเหมือนกันแม้ไม่ใช่โต๊ะจีนโต๊ะละ 3 ล้าน ถามคนอะไรกินมื้อเดียวเป็นแสน-สามแสน
วันที่ 20 ก.พ. 2566 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมจัดกิจกรรมระดมทุน ณ วัดเจ้าอาม โดยมีแขกพิเศษสุดเซอร์ไพรส์ VVIP จำนวนมาก ว่า “จริงๆ แล้วแขกvvip คือ พี่น้องประชาชนที่กำลังลำบาก ขัดสนค่าใช้จ่ายค่าครองชีพทั่วไป” โดยมี คุณวิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามโครงการระดมทุนในครั้งนี้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า พรรคการเมืองต่างๆ ระดมทุนในการที่จะหาเสียงเลือกตั้ง เพราะตอนนี้ใกล้ที่จะเลือกตั้งแล้ว บางพรรคก็ขายโต๊ะจีนโต๊ะละ 1 ล้านบาทเท่ากับเก้าอี้ละ 1 แสนบาทบางพรรคก็โต๊ะละ 3 ล้านบาทเก้าอี้ละ 3 แสนบาท คนอะไรกินอะไรนักหนา มื้อเดียวหนึ่งแสน มื้อเดียวสามแสนนะครับ มันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นพรรคต่างๆ ก็ระดมทุนไป หานายทุนอะไรต่างๆ อ้างว่าหาระดมเงินทุนเข้าพรรค บางทีไม่รู้หรอกว่าเป็นเงินของพรรคเหรือเปล่า เอาไปให้พ่อค้าแม่ค้ามาจองต่างๆ เหล่านี้ ถึงจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าจริงๆ พรรคการเมืองเหล่านี้ก็ต้องเป็นหนี้บุญคุณเขา ถึงเวลาก็ต้องมอบงานให้แล้วก็กินเปอร์เซ็นต์กัน การทุจริตคอร์รัปชันกันแบบนี้แล้วก็ไม่เคยคิดถึงพี่น้องประชาชนที่ยากจนที่มีอยู่เกินค่อนประเทศเลย
เลือกตั้ง 2566
“ผมถามพี่น้องประชาชนใครไม่เป็นหนี้บ้างยกมือขึ้น ไม่มีใครยกมือขึ้นเลย เป็นหนี้กันอย่างถ้วนหน้า เพราะฉะนั้นจริงๆ พวกเราต้องคิดว่าจะช่วยเหลือคนจน ให้พ้นจากความเป็นหนี้ให้ได้ ให้กินดีอยู่ดีอย่างมีความสุขได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเมื่อคุณระดมทุนโต๊ะละ 3 ล้านบาทผมก็ระดมทุนได้เหมือนกัน ผมก็หาเพื่อนผม ให้มาช่วยผมระดมทุนหน่อย ผมไม่ต้องลงมือลงแรงเลย เพื่อนผมจัดมาทุกอย่าง ขายโต๊ะละ 1 บาท เก็บ 15 โต๊ะ ก็ 15 บาทมาให้ผม ใช่ไหม ผมก็แค่นี้ 15 บาทก็ 15 บาท ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เราต้องการเห็นสิ่งนี้ให้พี่น้องประชาชนคนยากคนจน ได้กินอิ่มนอนหลับ ได้ทานอาหารดีๆ บ้าง”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรายังมีเมนูปลาทอดพริก กระเพาะปลา ยำสามกรอบ แกงจืด ข้าวผัด ลิ้นจี่กระป๋อง เราก็มีให้ครบ ไม่อิ่มเดี๋ยวเติมให้อีกจนกว่าจะอิ่ม แล้วถ้าเหลือให้ห่อกลับบ้านนะ เราหวังว่าถ้าทุกคนทุกพรรค ทำอย่างนี้พี่น้องประชาชนจะมีความสุข และไม่ต้องไปขอใครไม่ต้องไปรีดไถใคร
ระอุ ‘อมรัตน์’ ปราศรัยลั่นบูรพาพยัคฆ์หรือสุนัข ทำไม ‘ประยุทธ์’ ต้องให้ผู้หญิงสั่งสอน
https://www.matichon.co.th/clips/news_3834106
พรรคก้าวไกลเปิดเวทีปราศรัยหาเสียงพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระยอง โดย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ปราศรัยเดือด ประกาศลั่นบูรพาพยัคฆ์หรือสุนัข ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ถึงต้องให้ผู้หญิงอย่างดิฉันสั่งสอนว่าอยู่อย่างยิ่งใหญ่จากไปอย่างมีเกียรติมันต้องทำยังไง ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้