คลิป(นี้)ของคึกฤทธิ์ สอนให้เกิดปัญญาแบบพุทธ หรือ สอนให้งมงายแบบไสยศาสตร์?

บทนำ : พระพุทธศาสนาสอนให้ใช้สติปัญญา ในการพิจารณาเรียนรู้ธรรม ไตร่ตรองตามธรรม นำไปปฏิบัติตามธรรม

            ในขณะบุคคลยังมีชีวิต เป็นมนุษย์คือยังไม่ตายและได้ตั้งใจ ใช้สติเรียนรู้ธรรม ฟังธรรม ฝึกหัดขัดเกลาตนตามธรรม ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำความเข้าใจธรรม 
            พระตถาคตตรัสแสดงธรรมทั้งโดยย่อ โดยพิสดาร เมื่อได้ค้นคว้าศึกษา ฟังธรรม แล้วก็ต้องนำมาเปรียบเทียบธรรม ตามหลักมหาปเทส 4 ตามหลักพิจารณาธรรม  
            มหาสติปัฏฐานสูตร พระตถาคตกล่าวถึงอานิสงส์ของการฝึกไว้ตอนหนึ่งว่า 
            "...ภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน ๔ ตลอด ๗ ปี พึงหวังได้ผลอย่าง ๑ ใน ๒ อย่าง คือ 
อรหัตตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
            ... ภิกษุทั้งหลาย ครึ่งเดือน จงยกไว้ บุคคลผู้เจริญสติปัฏฐาน ๔ ตลอด ๗ วัน พึงหวังได้ผลอย่าง ๑ ใน ๒ อย่าง คือ 
อรหัตตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
            ที่มา : https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_line.php?B=10&A=8767
*********
            มหาสติปัฏฐานสูตร ชี้ชัดว่า ต้องเจริญสติปัฏฐานสี่ ฯลฯ
            คำถาม ใครคือผู้ที่เจริญสติปัฏฐานสี่ ? ควรตอบว่า คือ บุคคลที่ได้เคยฟังธรรมและต้องตั้งใจฟังเรียนรู้ทำตามที่พระตถาคตบอกสอน 
            ถามว่า ฟังแบบเลื่อนลอย หรือแบบไม่ตั้งใจฟัง ไม่ตั้งใจที่จะรับรู้แล้วจะเข้าใจธรรม จะปฏิบัติตามถูกต้องหรือไม่ ?
            ควรตอบว่า ไม่สามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง

*********
            คึกฤทธิ์หยิบยกผัคคุณสูตรด้วยเจตนาสอนพระพุทธวจนะ หรือไสยศาสตร์

            ผู้รวบรวมได้ฟังคลิป นี้ https://www.youtube.com/watch?v=VsX41AJzOjY 
            แล้วก็ให้รู้สึกประหลาดใจ ที่ผู้ใช้จีวรห่มกายนามว่าคึกฤทธิ์ได้พูดไว้ในคลิปตอนหนึ่งว่า

            ที่เวลา 30.09 คึกฤทธิ์พูดว่า 
            "อาตมาชี้ไปที่คำศาสดาไม่ได้ชี้ไปที่คำภิกขุรูปใดรูปหนึ่ง ถูกต้องมั้ย เอ้อ..ไม่ต้องไปปรุงแต่งอะไร 
            หนังสือทุกอันไม่ต้องไปมีคำอธิบาย ก้อปปี้ไปเลย นะ"


            คึกฤทธิ์พูดว่า ชี้ไปที่คำพระศาสดานี่แหละทำให้ผู้คนจำนวนมากเชื่อสนิท ว่า คึกฤทธิ์ พูดตามพระพุทธศาสดา

********
            แต่ ...แต่  ท่านทั้งหลายขอหยุดพิจารณาก่อน ลองมาฟังคำพูดนี้ของคึกฤทธิ์สิครับ พระพุทธเจ้าสอนแบบนี้จริงหรือ ?

            ที่เวลา เวลา 30.26  คึกฤทธิ์พูดว่า 
            "เวลาโยมไป พูดให้คนตายฟัง เนี่ยะโยมก็ก้อปปี้ไปเลย ญาติกำลังใกล้ตาย ถ้าหาเทป ซีดี ไม่ได้ ท่องเองเลย..."

****
หมายเหตุ : ผมถอดคำพูดบางช่วงบางตอนมาแสดง ถ้าใครคิดว่าผมตัดแต่งข้อความทำให้สาระเปลี่ยนไปก็ให้ฟังจากคลิปเต็มที่แนบมาแล้ว             

            ผัคคุณสูตร พระตถาคต กล่าวถึงอานิสงส์ของการได้ฟังธรรมก่อนตาย ไม่ใช่หลังจากตาย 
            แม้กระนั้นในสูตรนั้นก็ได้กล่าวถึงว่าพระผัคคุณะตั้งใจฟังธรรม คือ
            "... พระผู้มีพระภาคได้ทรงชี้แจงให้ท่านพระผัคคุณะเห็นชัด ชวนใจให้อยากรับเอาไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริงด้วยธรรมีกถา..."
           พระพุทธโคดมไม่ได้ยัดเยียดให้พระผัคคุณะฟังธรรม พระผัคคุณะไม่ได้ฟังแบบเลื่อนลอย 
           ผู้ที่ศึกษาธรรมจากพระไตรปิฎก ก็จะรู้ได้ว่า พระผัคคุณะนั้นได้เคยเรียนธรรม ฟังธรรมมาบ้างแล้ว 
*****           
           คึกฤทธิ์ หยิบ ฉกฉวยเอาคำสอนบางตอนบางคำจากผัคคุณสูตรมาเผยแพร่ไม่ตรง
           ตัวอย่าง ที่ผู้รวบรวมเปรียบเทียบให้เห็นได้ชัดเจนจากผัคคุณะสูตร ก็คือ 

****
คึกฤทธิ์เคยบอกว่า
 

*****
วิเคราะห์
1. มหาสติปัฏฐานสูตร ผู้เรียนผู้ฝึกต้องมีสติในการเรียน มีสติในการฝึก สังเกตุได้ว่า พะะตถาคตทรงย้ำเนือง ๆ รู้ชัดอาการกาย รู้ชัดเวทนา รู้ชัดอาการจิต รู้ชัดในธรรม ฯลฯ
พระผัคคุณะฟังธรรมแล้ว เห็นชัด (รู้ชัด) นำไปปฏิบัติแม้จะเป็นเวลาระยะสั้น ๆ ใกล้ตาย แต่เหตุเพราะได้ฟังแล้วได้ปฏิบัตตรง จึงบรรลุเป็นอนาคามีตามที่พระตถาคตพยากรณ์

2. คนตาย ฟังเสียงอ่านธรรม เสียงท่องจำธรรม ได้หรือ พระพุทธเจ้าสอนไว้ในพระสูตรไหน 
แม้คนที่ยังไม่ตาย คือเวลาใกล้ตาย แล้วได้ฟังเสียงท่องจำธรรม ได้ฟังเสียงอ่านธรรม ผู้ฟังเขาตั้งใจฟัง ตั้งใจที่จะรับรู้ ตั้งใจที่จะปฏิบัติในระยะสั้น ๆ นั้นหรือไม่ ? และเมื่อคนนี้ตายไปแล้วแม้ว่าจะมีลักษณะทางกายภาพผิวสีเปลี่ยนแปงไปตามที่ดวงตาของปุถุชนได้เห็น
คำถามคือ : ใครคือคนพยากรณ์ว่า คนที่ตายนี้บรรลุธรรมเป็นอนาคามี
ถ้าคึกฤทธิ์พยากรณ์ในขณะที่เป็นพระภิกษุ ก็อาจเข้าข่ายปาราชิก

3. การสอน การแสดงธรรมของพระพุทธโคดม สอนให้เกิดปัญญา
แต่ลักษณะการสอนของคึกฤทธิ์ในเรื่องให้คนตายฟังธรรมนี้ นำไปสู่คำถาม คือ
          3.1 ให้คนตายฟังเสียงอ่านธรรม ฟังธรรม ฟังเสียงท่องจำ อยู่ในพระสูตรไหนในพระไตรปิฎก ?
          3.2 คนตายยังมีโสตวิญญาณฟังเสียงธรรม มีจิตที่จะพิจารณาธรรม มีจิตที่จะเจริญสติได้อีกหรือ ?
          3.3 คลิปยูทูปที่นำมาแสดง(ตั้ง)กระทู้นี้ คึกฤทธิ์ สอนให้เกิดปัญญาแบบพุทธ หรือ สอนให้งมงายแบบไสยศาสตร์?



ผู้รวบรวมใช้เวลานั่งฟังคนที่พูดเองว่าคำพูดตนเองมีคำผิด ๆ ซ่อนอยู่ในคลิป (ฟังทำไมน้อ) ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า มันไม่น่าเชื่อถือ
ที่ฟังคลิปนี้ ก็เพราะจะนำมาวิเคราะห์ชี้ชัด ย้ำชัดว่า คึกฤทธิ์ยังมีแสดงธรรมผิดขัดแย้งกับพระตถาคตอยู่เนือง ๆ  

ขอเชิญสมาชิกแสดงความคิดเห็นแบบอิงอรรถอิงธรรม อิงวินัย อิงหลักฐาน ตามแนวคำสอนของพระตถาคตที่มีในพระไตรปิฎก
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
เคยฟัง ..คึกฤทธิ์พูดว่า .
"...หลังจากตายแล้วให้เขาฟังต่อ ตายแล้วครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง ยังฟังได้
(อ้าง) มีคนส่งข้อมูลงานวิจัยของหมอต่างประเทศ (ไม่โชว์หลักฐาน) เค้าวิจัยว่า
หลังจากตายแล้วระบบของการฟังเสียงเนียะยังฟังได้อยู่ ...วันหลังจะเอามาให้ดู
เพราะฉนั้นในทางวิทยาศาสตร์ก็มีข้อมูลรองรับว่าถึงแม้เราจะพูดไปแต่เขาตอบไม่ได้นอนนิ่ง ๆ เนี่ยะ เค้ารู้เรื่อง ได้ยินหมด
แล้วก็อีกเหตุปัจจัยหนึ่งก็คือ ไม่ว่าคนตายจะเป็นชนชาติใดก็ตาม โยมไม่ต้องกังวนว่าเค้าจะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง เปิด (ซีดี) ไปให้เลย ให้เค้าฟัง
โยมมีหน้าที่อย่างเดียวคือทำตามที่พุทธเจ้าบอก เปิดคำพุทธเจ้าให้เค้าฟัง
อย่างอื่นไม่ต้องคิดแทนพุทธเจ้าว่าเค้าจะฟังไม่รู้เรื่อง
ว่าเค้าเป็นอัลไซเมอร์ เค้าเป็นสมองตายอะไรคงฟังไม่ได้ อย่าไปคิด พุทธเจ้ารับรองว่าได้ นะ
ดังนั้นฝรั่งเยอรมัน 2 คน เปิดภาษาไทยไปให้ อานาปานสติ รอด ผิวผ่อง นะ
ต่างภาษา ต่างลัทธิ ได้ไหม ? (ตอบเองว่า) ได้ผล
ต่างความเชื่อกันมา 2 คน ไปทดลอง ก็ได้ผล
ดังนั้นพุทธเจ้าไม่ได้บอกเลยว่าเงื่อนไขนี้ไม่ได้ผล  หน้าที่โยมคือเปิดให้เค้าฟังอย่างเดียว ขอให้เป็นคำพุทธเจ้าล้วน ๆ
คนที่ได้ฟังจะละสังโยชน์ ๕ เบื้องต่ำได้ เป็นอรยะบุคคลชั้นที่ ๓..."




วิเคราะห์
คึกฤทธิ์ พูดชักจูงให้คนเชื่อโดย "อ้างชื่อพระพุทธเจ้า" เช่นอ้างว่า
โยมมีหน้าที่อย่างเดียวคือทำตามที่พุทธเจ้าบอก เปิดคำพุทธเจ้าให้เค้าฟัง
อย่างอื่นไม่ต้องคิดแทน"พุทธเจ้า" ว่าเค้าจะฟังไม่รู้เรื่อง
ว่าเค้าเป็นอัลไซเมอร์ เค้าเป็นสมองตายอะไรคงฟังไม่ได้ อย่าไปคิด "พุทธเจ้า" รับรองว่าได้ นะ
***

ผู้ที่ศึกษาพระธรรม คงเข้าใจได้ว่า คำพูดข้างบนนี้ ชัดเจนว่า เป็นการยกอ้างชื่อพระพุทธเจ้าด้วยคำที่ไม่จริง

ถ้าสวด ท่องจำ อ่าน เปิดเทป ซีดี เสียงพระธรรมให้คนตายฟัง คนที่ฟังภาษาไม่รู้เรื่อง
แต่สามารถไตร่ตรองธรรม ขัดเกลาลดละกิเลสได้
แล้วเป็นเหตุปัจจัยให้ผู้ตายบรรลุธรรมเป็นอนาคามีแล้วไซร้

หลักการเล่าเรียนธรรม เรียนอรรถพยัญชนะ(พุทธพจน์)ทั้งหลาย การปฏิบัติตามธรรม ก็ไม่มีความหมายสำหรับคนพวกนี้

หลักการศรัทธา ศีล สมาธิ ปัญญา ก็ไม่มีความหมายกับคนพวกนี้

หลักการขัดเกลากิเลส หลักการอบรมจิต หลักการทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้ผ่องใส ก็ไม่มีความหมายสำหรับคนพวกนี้

คำแนะนำของคึกฤทธิ์แทบไม่ต่างอะไรกับพวกมิจฉาทิจฐิที่ไม่ยอมรับ (ไม่เชื่อ) โลกนี้โลกหน้า

กล่าวคือ วิเคราะห์ว่า พวกนี้อาจจะทำชั่วยังไงก็ได้ไม่ต้องเกรงกลัวต่อบาป
ข้อนั้นเพราะอะไร
เพราะเขาอุ่นใจว่า ก่อนตายแค่ได้ฟังเสียงธรรมก็ได้เป็นอนาคามี
แม้ไม่ได้ฟังก่อนตาย แต่ต่อมา ถ้าญาติเปิดเสียงอ่านธรรมให้ฟัง เขา(ผู้ตาย-ศพ) ก็ยังได้เป็นอริยะบุคคล

หลักการของคึกฤทธิ์ดังที่ได้ยกมาแสดงนี้ ไม่ต่างกับการปลุกเสกเวทย์มนต์ไสยศาสตร์
คือบันดาลให้คนตายไปแล้ว เป็นอริยะ โดยแอบอ้างชื่อพระพุทธเจ้า
ตายไปแล้วก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าคนที่ตายไปนั้นไปอุบัติที่ไหน
ไม่มีใครรับรองได้นอกจากพระพุทธเจ้าและคนที่เสมือนพระพุทธเจ้า

หลักการของคึกฤทธิ์ดังกล่าวมานี้ ขัดแย้งกับหลักคำสอนของพระตถาคต โดยสิ้นเชิง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่