อย่าง Grabfood  ที่บ้านผม ขายขนมชิ้นหนึ่งหน้าร้านปรกติ 25 บาท พอลงขายใน Grabfood ผมต้องตั้งราคา 38 บาท ถึงจะได้ค่าขนม 25 บาทคืนมาหลังขายเสร็จ ถ้าตั้ง 30 บาท รายได้ค่าขนมชิ้นนั้นจะถูกลดลงเหลือราว ๆ 19 บาท นั่นก็แปลว่า ในขนม 25 บาทที่ผมต้องตั้งขาย 38 บาท Grabfood ได้แล้วเหนาะ ๆ 13 บาท ไม่รวมค่าส่ง

หรือ  Grabcar ในใบเสร็จผู้โดยสาร ขึ้น 100 บาท คนขับจะได้ประมาณ 75 บาท แกร๊บดูแค่ระบบเฉย ๆ คือ เซิฟที่เสียบไฟเลี้ยงไว้ กับเจ้าหน้าที่หน้าคอมนิดหน่อย แต่อยู่ในออฟฟิต เงินเข้าเอา ๆ แต่คนขับ ที่ต้องจ่ายค่าถ่ายน้ำมันเครื่อง, เปลี่ยนยาง,ค่าน้ำมัน, ล้างรถ, ลงแรงขับ etc บางคนก็อาศัยตรงนี้พอมีรายได้บ้างวันละ 300-500 ในส่วนของรถ แกร๊บก็แทบไม่ได้ลงอะไรเลยอีกเช่นกัน หากจะบอกว่าหักจากค่าโปรโมชั่น ค่าโฆษณา ดูแล้วยังไงก็ไม่น่าติดลบอยู่ดี  

แต่ละบริการ ในตัวของมันเองแทบมองไม่เห็นว่าจะมีช่องทางไหลออกของเงิน มีแต่จะไหลเข้า ที่บอกว่าลงทุนค่าโฆษณาเยอะคงไม่ใช่ และถ้าใช่ ก็ไม่ควรลงทุนอีกเพราะไม่จำเป็น ดูอย่าง Bolt ทั้งคนไทยคนฝรั่งเรียกทั้งวันทั้งคืน แต่ป้ายโฆษณาสักป่ายในกทม.ก็ยังไม่มึ

ไม่แน่ใจว่าเหตุผลที่แสดงออกมาว่าผลประกอบการติดลบมาตลอดต้องการสื่ออะไร หรือที่จริงแล้ว บริษัทมีการลงทุนในด้านอิ่น