มันเป็นความเข้าใจผิดของผู้ต่างศาสนา, ผู้ที่ไม่มีศาสนา,​ ผู้ที่เร่ร่อนปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม หรือถึงแม้ว่ามุสลิมบางท่านก็ตามที่เข้าใจว่า พระเจ้าในศาสนาอิสลาม มีที่สถิตย์อยู่ในสวงสวรรค์ และเมื่อมุสลิมตายไปผู้ที่ทำความดีจะได้ไปอยู่ร่วมกับอัลลอฮ์หรือพระเจ้าในสวงสวรรค์ ความเข้าใจผิดนี้ เนื่องจากขาดความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม และไม่เคยศึกษาอัลกุรอาน ซึ่งเป็นแหล่งวิชาทางศาสนาอิสลามแหล่งเดียวเท่านั้นที่ได้รับมาจากพระเจ้า ตามที่ได้อธิบายมาจากกระทู้ก่อนแล้วว่า อัลลอฮ์ หรือพระเจ้าในศาสนาอิสลามนั้น หมายถึง "อำนาจเดี่ยวอันศักสิทธิ์ที่มีอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ อย่างสมบูรณ์ที่สุด" ไม่ใช่สสาร ดังนั้นจึงไม่ต้องการที่อยู่ และพระองค์มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างทุกแห่งหน, พระเจ้าอยู่ใกล้ชิดกับมนุษยทุกๆคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม เพราะพระองค์สร้างมนุษย์ขึ้นมา 

” อัลลอฮ์ผู้ทรงสูงส่งดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์และไม่มีที่ใด พระองค์ไม่ใช่พระวรกาย  และพระองค์มิได้ประทับอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง การที่เราเรียกพระเจ้า หรือ "อำนาจเดี่ยวอันศักสิทธิ์ที่มีอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ อย่างสมบูรณ์ที่สุด" ว่า "พระองค์" นั้นเพราะเป็นศัพท์สมมติในการยกย่อง อำนาจดังกล่าว เพื่อความเข้าใจของมนุษย์ ในการเรียกฐานะของพระเจ้า

“وَلَقَدْ خَلَقْنَا الْإِنْسَانَ وَنَعْلَمُ مَا تُوَسْوِسُ بِهِ نَفْسُهُ ۖ وَنَحْنُ أَقْرَبُ إِلَيْهِ مِنْ حَبْلِ الْوَرِيدِ {16}
[Shakir 50:16] And certainly We created man, and We know what his mind suggests to him, 
and We are nearer to him than his life vein.

อัลกุรอานบัญญํตินี้เราจะเห็นได้ว่า พระเจ้าอยู่กับชีวิตเราดุจดังเส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอของเรา (่Jugular vein) 
หมายความว่า พระเจ้าใกล้ชิดกับมนุษย์ทุกๆลมหายใจอดีตปัจจุบันและอนาคต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
لِلَّذِينَ أَحْسَنُوا الْحُسْنَىٰ وَزِيَادَةٌ ۖ وَلَا يَرْهَقُ وُجُوهَهُمْ قَتَرٌ وَلَا ذِلَّةٌ ۚ أُولَٰئِكَ أَصْحَابُ الْجَنَّةِ ۖ هُمْ فِيهَا خَالِدُونَ {26}
[Shakir 10:26] For those who do good is good (reward) and more (than this); and blackness or ignominy shall not cover their faces; these are the dwellers of the garden; in it they shall abide.
{10:26} สำหรับบรรดาผู้กระทำความดีจะได้รับความดี และได้เพิ่มขึ้นอีก ความหมองคล้ำและความต่ำต้อยจะไม่ปกคลุมใบหน้าของพวกเขา ชนเหล่านี้ คือชาวสวรรค์พวกเขาจะอยู่ในนั้นนิรันดร
   หมายความว่า: รางวัลของผู้ชอบธรรมจะมากเกินกว่าที่พวกเขาจะได้รับประโยชน์ ในขณะที่ผู้ได้รับพรจะได้รับรางวัลนอกเหนือจากความดีความชอบของพวกเขา ผู้ถูกประณามซึ่งรับความชั่ว (จงใจเลือกความชั่ว) จะได้รับการลงโทษอย่างยุติธรรมเท่านั้น

มุสลิมทุกๆคนศรัทธาจากอัลกุรอาน และ ฮาดีษของท่านรอซูลว่า อัลลอฮ์ (พระเจ้า) นั้น อยู่นอกสวรรค์​ไม่ได้อยู่ร่วมกับวิญญาณมนุษย์ในสวรรค์ คำว่า "บัลลังก์" ในอัลกุรอานเป็นการเปรียบเทียบ ความสูงส่งของพระเจ้าเท่าที่มนุษย์สามารถที่จะเปรียบเทียบในโลก ที่มนุษย์จะเข้าใจได้ ระหว่างกษัตริย์กับสามัญชน เนื่องจาก อัลลอฮ์ไม่ต้องการที่อยู่ ดังนั้นการเปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮ์ จึงเปรียบเทียบตามระบบที่มนุษย์จะพึงเข้าใจได้เท่านั้น เช่นเดียวกับขบวนการยุติธรรมในวันตัดสินเมื่อถึงวันสิ้นโลก ซึ่งเราไม่อาจจะทราบได้ว่าในโลกแห่งจิตวิญญาณนั้นจะเป็นอย่างไร 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ 
พระเจ้าทรงยุติธรรมและสำแดงความยุติธรรมของพระองค์ พระองค์ทรงสร้างระบบความรับผิดชอบ คนทำดีก็ได้รับผลบุญ คนทำผิดก็ได้รับโทษตามนั้น ดังนั้นพระองค์ทรงสร้างสวรรค์และนรกและมีเกณฑ์การรับเข้าสำหรับทั้งสองอย่าง ชาวมุสลิมเชื่อว่าชีวิตปัจจุบันเป็นสิ่งชั่วคราว เป็นการทดสอบและถ้าเราผ่านการทดสอบ "เราจะได้รับชีวิตที่มีความสุขถาวรร่วมกับคนดีในสวรรค์ไม่ใช่อยู่ร่วมกับอัลลอฮ์"

ดังนั้นความเข้าใจที่ว่ามุสลิมที่ทำความดีจะได้อยู่ร่วมกับอัลลอฮ์ในสวรรค์นั้นเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เป็นความรู้งูๆปลาๆ ปะปนอิสลามกับศาสนาอื่น  เมื่อมุสลิมเข้าใจหลักการของอิสลามอย่างถูกต้องแล้ว เขาจะมี ความภาคภูมิใจที่เป็นมุสลิม  การเชื่อว่ามีผู้สร้าง ไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าอับอาย เพราะว่าในปัจจุบันถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และทางชีววิทยา จะเจริญก้าวหน้าไปมากเท่าใดก็ตาม มนุษย์ยังไม่อาจจะสร้าง ชีวิตขึ้นมาได้แม้แต่จะเป็นชีวิตเพียงเซลล์เดียวก็ตาม  นอกจากจะสร้าง Cell จาก สิ่งที่มีชีวิตอยู่แล้ว (simple type of bacteria called a mycoplasma) โดยการสับเปลี่ยน DNA ที่สังเคราะห์ขึ้นในห้องทดลอง ซึ่งไม่ใช่การสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมา

มุสลิมไม่มีความจำเป็นจะต้องพิสูน์ว่าไม่มีพระเจ้าอยู่จริง ผู้ที่อ้างว่าไม่มีพระเจ้าผู้สร้างต่างหาก เป็นผู้ที่จะตัองพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีอัลลอฮ์/พระเจ้าผู้สร้างอยู่จริง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้