ตอนนี้ผมทุกข์ใจมาก ทุกครั้งที่ผมโมโหผมมักจะพูดทำร้ายจิตใจแฟน โมโหร้าย ชอบต่อว่า บางครั้งก็ตามความคิด หรือควบคุมตัวเองไม่ได้ รู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า รู้สึกอึดอัดอยากจะเบิดออกมาจากข้างใน แต่ไม่เคยทำร้ายแฟนนะครับ มีแต่ทุบพื้นกระทืบเท้า หยิกหัวตัวเอง โยนของ ผมไม่เคยควบคุมตอนผมเป็นแบบนั้นได้เลย ผมพยายามบอกในใจตัวเองว่าทำแบบนี้ไม่ดี แต่ก็ยังทำมันอยู่ดี ผมเลยอยากรู้ที่ผมเป็นอยู่มันเป็นเพราะอะไร และเรื่องราวในวัยเด็กจะมีส่วนเกี่ยวข้องบ้างไหม ผมขอเริ่มเรื่องเลยล่ะกันนะครับ
ตั้งแต่วัยเด็กของผมพ่อแม่ก็แยกทางกันตั้งแต่ผมยังไม่รู้เรื่อง แม่ก็มีพ่อใหม่มีลูกใหม่
และพ่อใหม่ชอบต่อว่าผมเวลาผมทำอะไรผิดนิดๆ หน่อยๆ บางทีก็ด่าไม่ก็เอาผมไปขังไว้ห้องมืด
แล้วสั่งห้ามไม่ให้ออกมาจนกว่าพ่อใหม่จะหายโกรธ จนกระทั่งแม่เลิกกับพ่อใหม่
แม่ก็เหมือนจะไม่ค่อยสนใจผม เอาผมไปอยู่กับตา โดยไม่ส่งเสียอะไรเลย
โดยฝั่งตาก็ไม่ค่อยถูกกับแม่ผมเป็นทุนเดิม ทำให้ผมมักจะโดนตาว่ากับเรื่องเล็กน้อยอยู่บ่อยๆ
เช่น ขันอาบน้ำผมเอาไปราดส้วมก็โดนด่า คือเรียกง่ายๆ ถ้าผมทำอะไรไม่เข้าตาก็โดนด่าไปหมด
ตาผมเป็นคนเสียงดังชอบด่า ภาพจำผมเป็นแบบนั้นมาตลอด จนกระทั่งแม่ก็กลับมาหาผมอีกครั้งนึง
ผมก็ดีใจมากที่แม่กลับมาหาผม แต่ดวงชะตาโหดร้ายกับผมมาก แม่ไม่ได้เอาผมไปอยู่ด้วย
แต่กลับเอาผมไปฝากไว้ให้คนอื่นเลี้ยง ทั้งๆที่คนๆนั้นไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่อะไรเลย มีแต่แม่ที่รู้จักว่าเขาเป็นใคร
เขาก็เลี้ยงผมแรกๆก็เหมือนจะดี พอนานๆไป แม่ก็ขาดการตัดต่อ ทำให้รู้เลยว่าแม่ผมตั้งใจจะทิ้งผมจริงๆ
คนที่เลี้ยงผมก็ชอบด่าชอบว่าผมเพราะปากเขาจัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมรู้สึกผมอยากหนีไปจากตรงนี้ทุกวัน
เพราะผมคิดถึงแม่ ถึงแม่จะเป็นยังไงผมก็รักแม่มากๆ ผมอยากให้แม่กลับมาหาผมบ้างก็ยังดี
ตอนแรกผมไม่ได้เรียนเลยด้วยซ้ำ ในความใจร้ายของคนที่เลี้ยงผมก็ยังมีความใจดี ส่งผมเข้าเรียนป.2
จนกระทั่งจะขึ้นป.3 แม่ผมกลับมาหาผมอีกครั้ง ผมดีใจที่สุดในชีวิต และมีความหวังว่าจะได้กลับไปอยู่กับแม่
แม่ก็พาผมไปอยู่ด้วยจริงๆ แต่ว่าแม่กลับมีแฟนใหม่ไปแล้ว ตอนนั้นผมจำความรู้สึกได้ดีเลย
ผมไม่ชอบแฟนใหม่แม่ ผมแอนตี้ที่สุด ไม่ยอมคุยกับแฟนใหม่แม่ แสดงท่าทีออกได้ชัดเจนว่าไม่พอใจ
เพราะภาพคนเป็นพ่อผมคนเดียวคือพ่อเลี้ยงที่ใจร้ายกับผมตอนเด็กๆนั่นแหละ แต่แฟนใหม่แม่ใจดีมาก
เป็นคนที่ใจเย็นและเอ็นดูผมพอสมควร สุดท้ายผมก็ยอมพ่ายแพ้ให้ความดีของเขา แต่สุดท้ายแม่ผมกลับนอกใจแฟนใหม่แม่
ทำให้ต้องเลิกรากัน ผมจำได้ดีเลยตอนแฟนใหม่แม่พาผมขับรถออกไปตามแม่ที่อยู่กับกิ๊ก ผมลงจากรถไปหาแม่
แม่พูดคำนึงกับผมว่า "ห้ามเรียกเขาว่าแม่ แต่ให้เรียกว่าน้า" ผมรู้สึกทรมานในใจแบบบอกไม่ถูก แต่ผมก็ทำตามที่แม่บอก
สุดท้ายแม่ต้องแยกย้ายกับแฟนใหม่ ท้องฟ้าสีสวยได้ไม่นานเมฆฝนพายุก็หวนกลับมาอีกครั้ง แม่เอาผมไปจ้างคนอื่นเลี้ยงอีกแล้ว
ผมจำได้เลยว่าตอนนั้นผมร้องไห้จะเป็นจะตาย อ้อนวอนขอแม่ไม่ให้ทำแบบนี้ อย่าทิ้งผมไว้แบบนี้ ผมไม่อยากห่างจากแม่เลย
คนที่แม่จ้างเลี้ยงผมก็ไม่รู้จักเลยว่าเขาเป็นใคร ผมคิดอยู่อย่างเดียวทำไมแม่ใจร้ายกับผมจัง ทั้งๆที่ผมรักแม่มากกว่าที่แม่จะเข้าใจอีกนะ
แต่นั่นแหละครับโชคชะตาผมเป็นแบบนี้ แรกๆก็เหมือนจะดี พอนานไปแม่ก็ขาดการติดต่อหายไปเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่นานที่สุดเพราะผมอยู่ยายเลี้ยงคนนี้ตั้งแต่ ป.3 จนกระทั่งขึ้น ม.1 เลย ยายเลี้ยงคนนี้ก็ปากร้ายแต่ใจดีครับ
ชอบด่าก็จริง แต่เขาเลี้ยงผมเหมือนเป็นลูกเป็นหลานเลย ผมก็มีความผูกพันกับเขานะ แต่ยังรู้สึกว่าผมยังต้องการแม่มากๆ
จนกระทั่งวันนึงผมทะเลาะกับยายเลี้ยงหนักมาก ผมจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน กลับไปอยู่บ้านตา กลับไปครั้งนี้ก็เหมือนเดิมครับ
ตาผมก็ยังด่าเสียงดังโวยวายเหมือนเดิม ผมทำอะไรนิดๆหน่อยๆก็โดนด่า จนวันนึงตาผมเอ่ยปากบอกว่า กูจะเอาไปอยู่วัด แล้วก็เก็บข้าวของผมใส่กระเป๋าเรียบร้อยเลย คำว่าจะเอาผมไปอยู่วัดเป็นคำที่ผมได้ยินตั้งแต่เด็กแล้วแต่ไม่เคยมีครั้งไหนจริงจังเท่าครั้งนี้ ทำให้ผมรู้สึกทันทีเลยว่า
เด็กแบบผมเกิดมาผิดมากเลยใช่ไหม ทำไมตาไม่ชอบแม่แต่ต้องมาลงที่ผมด้วย ผมน้อยใจที่สุดในชีวิต ผมจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านกลับไปหาพ่อเลี้ยงที่พูดไปตอนต้นเรื่อง ผมเดินทางนั่งรถเมล์ไปด้วยความหวังว่าถ้าผมกลับไปครั้งนี้ พ่อเลี้ยงผมจะต้องดีใจแน่ๆ และน้องผมอีกสองคนจะต้องดีใจแน่ๆ
ต้องบอกก่อนเลยว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางด้วยตัวคนเดียวไกลที่สุดในชีวิต ชลบุรี-ระยอง ผมต้องถามผู้ใหญ่เกือบทั้งทางว่าต้องไปยังไง
แต่สุดท้ายนั้นแหละครับ ก็เดินทางถึงจนได้ตอนเช้าตรู่ พอมาถึงบ้านผมเห็นบ้านล็อค ผมรู้สึกหวั่นๆในใจว่าพ่อเลี้ยงจะทำสีหน้ายังไง จะต้อนรับผมไหม
พอพ่อเลี้ยงเปิดบ้านออกมา สีหน้าเขาตกใจมากว่าผมมาได้ยังไง ผมก็เล่าเรื่องราวให้เขาฟัง เขาก็บอกผมว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะติดต่อกลับไปหาตาให้มารับ ซึ่งผมก็ไม่อยากกลับไปผมก็ยังดื้อดึงที่จะอยู่ที่นี่ และทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงโทรกลับไปหาตาผมไม่เคยรู้ว่าเขาพูดเรื่องอะไรกันบ้าง
แต่พ่อเลี้ยงกลับบอกผมว่าผมนั้นดื้อ และต่อว่าผมทุกวันว่าผมนั้นสันดานเหมือนแม่ และอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก จนกระทั่งอยู่ได้ไม่นาน พ่อเลี้ยงให้ผมเก็บของและพ่อเลี้ยงจะไปส่ง ผมจำได้ดีว่าตอนนั้นเป็นตอนที่ผมผิดหวังที่สุดในชีวิต ผมคิดไตร่ตรองหลายๆเรื่องว่าผมดื้อขนาดนั้นเลยหรอ ผมมันเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอ ผมถูกครอบครัวเกลียดจริงๆหรอ จนกระทั่งพ่อเลี้ยงผมพามาส่งที่จุดหมายปลายทาง ไม่ใช่ที่ไหนเลยครับ กลับเป็น "วัด" และบอกผมว่า ผมอ่ะอยู่กับเขาไม่ได้หรอก เขายื่นคำขาดกับแม่ไปแล้วว่าหลังจากที่เลิกกันทางฝั่งแม่ห้ามไปยุ่งกับฝั่งเขาอีก แล้วพ่อเลี้ยงก็ให้ผมลงจากรถ แล้วขับรถจากไปเลย โดยที่ผมยืนทำตัวอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น ไร้จุดหมาย เคว้งคว้าง เศร้าและเสียใจ มันจุกจนร้องไห้ออกมาไม่ได้ มันทรมานมากๆผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี
ครอบครัวไม่ต้องการ ไม่มีใครเอาผมจะไปที่ไหนล่ะทีนี้ ผมจึงตัดสินใจจะกลับไปบ้านตาอีกครั้ง ผมก็เดินเท้าตั้งแต่วัดไปจนถึงบ้านตา พอมาถึงบ้านประตูยังปิดอยู่ ผมก็นั่งคอยด้วยความหวังที่มีอยู่น้อยนิดว่า ตาผมจะให้อภัยที่ผมเลือกที่จะหนีออกจากบ้านไปด้วยความน้อยใจ และจะเข้าใจพาผมกลับเข้าบ้าน ผมยอมโดนด่าขอแค่ได้กลับมาอยู่บ้าน เพราะผมไม่มีใครแล้ว ไม่มีที่ไป เงินก็ไม่มี เพราะตอนนั้นอายุแค่ 13 เอง ผมก็นั่งรอไปสักพัก ตาผมก็เปิดบ้านออกมา พอเห็นผมก็ด่าทอและไล่ผมไปที่อื่น
หัวใจและความหวังผมแตกสลายตรงนั้นเลยครับ ผมอยากร้องไห้ออกมาแต่มันร้องไม่ออก ผมไม่มีที่ไป ก็เลยเดินเท้าไปร้านเกมใกล้ๆวัดก่อนหน้านี้ ผมก็ไปเจอเพื่อนต่างรร. รู้จักกันแต่ไม่สนิท ผมเลยขอเพื่อนคนนี้ไปอยู่ด้วย เพื่อนคนนี้ก็ใจดีไปคุยกับพ่อเขาให้ผมไปอยู่ด้วย และหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยอยากกลับไปบ้านอีกเลย แต่ผมก็ได้ย้ายที่อยู่ไปเรื่อย แต่ก็ขออาศัยบ้านเพื่อนนี่แหละครับ แต่หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวอีกเยอะเลยที่ผมเจอ แล้วก็มีเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวด้วย พอเริ่มโตมาช่วงวัยนึงผมก็ไม่ได้อยู่บ้านเพื่อนแล้ว พอรู้จักทำงานหาเงินผมก็เริ่มเดิมด้วยขาตัวเอง เช่าห้อง ใช้จ่ายชีวิตประจำวันด้วยตัวคนเดียวจนกระทั่งทุกวันนี้ แล้วผมก็มีนิสัยแบบที่เกริ่นไปตอนต้น บ่อยครั้งผมรู้สึกว่าผมไร้คุณค่า ผมอยากตายอยู่บ่อยครั้ง เวลาเจอปัญหาอะไรผมรับมือไม่ค่อยได้เลย ผมจะเปลี่ยนตัวเองยังไง ผมจะต้องทำยังไงให้ผมดีขึ้นได้มากกว่านี้ ผมอยากควบคุมอารมณ์ตัวเองได้มากกว่านี้ ผมสงสารแฟนผมในปัจจุบันที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ผมรักแฟนมาก แต่ผมกลับทำร้ายจิตใจเขามากกว่าสิบครั้งแล้ว วอนใครก็ได้ครับ ช่วยรักษาหรือให้คำตอบกับผมทีว่าผมควรทำยังไง
อยากปรึกษาผู้รู้ครับ ว่าเรื่องราวในวัยเด็กส่งผลกระทบต่อจิตใจ และนิสัยใจคอได้จริงไหม
ตั้งแต่วัยเด็กของผมพ่อแม่ก็แยกทางกันตั้งแต่ผมยังไม่รู้เรื่อง แม่ก็มีพ่อใหม่มีลูกใหม่
และพ่อใหม่ชอบต่อว่าผมเวลาผมทำอะไรผิดนิดๆ หน่อยๆ บางทีก็ด่าไม่ก็เอาผมไปขังไว้ห้องมืด
แล้วสั่งห้ามไม่ให้ออกมาจนกว่าพ่อใหม่จะหายโกรธ จนกระทั่งแม่เลิกกับพ่อใหม่
แม่ก็เหมือนจะไม่ค่อยสนใจผม เอาผมไปอยู่กับตา โดยไม่ส่งเสียอะไรเลย
โดยฝั่งตาก็ไม่ค่อยถูกกับแม่ผมเป็นทุนเดิม ทำให้ผมมักจะโดนตาว่ากับเรื่องเล็กน้อยอยู่บ่อยๆ
เช่น ขันอาบน้ำผมเอาไปราดส้วมก็โดนด่า คือเรียกง่ายๆ ถ้าผมทำอะไรไม่เข้าตาก็โดนด่าไปหมด
ตาผมเป็นคนเสียงดังชอบด่า ภาพจำผมเป็นแบบนั้นมาตลอด จนกระทั่งแม่ก็กลับมาหาผมอีกครั้งนึง
ผมก็ดีใจมากที่แม่กลับมาหาผม แต่ดวงชะตาโหดร้ายกับผมมาก แม่ไม่ได้เอาผมไปอยู่ด้วย
แต่กลับเอาผมไปฝากไว้ให้คนอื่นเลี้ยง ทั้งๆที่คนๆนั้นไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่อะไรเลย มีแต่แม่ที่รู้จักว่าเขาเป็นใคร
เขาก็เลี้ยงผมแรกๆก็เหมือนจะดี พอนานๆไป แม่ก็ขาดการตัดต่อ ทำให้รู้เลยว่าแม่ผมตั้งใจจะทิ้งผมจริงๆ
คนที่เลี้ยงผมก็ชอบด่าชอบว่าผมเพราะปากเขาจัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมรู้สึกผมอยากหนีไปจากตรงนี้ทุกวัน
เพราะผมคิดถึงแม่ ถึงแม่จะเป็นยังไงผมก็รักแม่มากๆ ผมอยากให้แม่กลับมาหาผมบ้างก็ยังดี
ตอนแรกผมไม่ได้เรียนเลยด้วยซ้ำ ในความใจร้ายของคนที่เลี้ยงผมก็ยังมีความใจดี ส่งผมเข้าเรียนป.2
จนกระทั่งจะขึ้นป.3 แม่ผมกลับมาหาผมอีกครั้ง ผมดีใจที่สุดในชีวิต และมีความหวังว่าจะได้กลับไปอยู่กับแม่
แม่ก็พาผมไปอยู่ด้วยจริงๆ แต่ว่าแม่กลับมีแฟนใหม่ไปแล้ว ตอนนั้นผมจำความรู้สึกได้ดีเลย
ผมไม่ชอบแฟนใหม่แม่ ผมแอนตี้ที่สุด ไม่ยอมคุยกับแฟนใหม่แม่ แสดงท่าทีออกได้ชัดเจนว่าไม่พอใจ
เพราะภาพคนเป็นพ่อผมคนเดียวคือพ่อเลี้ยงที่ใจร้ายกับผมตอนเด็กๆนั่นแหละ แต่แฟนใหม่แม่ใจดีมาก
เป็นคนที่ใจเย็นและเอ็นดูผมพอสมควร สุดท้ายผมก็ยอมพ่ายแพ้ให้ความดีของเขา แต่สุดท้ายแม่ผมกลับนอกใจแฟนใหม่แม่
ทำให้ต้องเลิกรากัน ผมจำได้ดีเลยตอนแฟนใหม่แม่พาผมขับรถออกไปตามแม่ที่อยู่กับกิ๊ก ผมลงจากรถไปหาแม่
แม่พูดคำนึงกับผมว่า "ห้ามเรียกเขาว่าแม่ แต่ให้เรียกว่าน้า" ผมรู้สึกทรมานในใจแบบบอกไม่ถูก แต่ผมก็ทำตามที่แม่บอก
สุดท้ายแม่ต้องแยกย้ายกับแฟนใหม่ ท้องฟ้าสีสวยได้ไม่นานเมฆฝนพายุก็หวนกลับมาอีกครั้ง แม่เอาผมไปจ้างคนอื่นเลี้ยงอีกแล้ว
ผมจำได้เลยว่าตอนนั้นผมร้องไห้จะเป็นจะตาย อ้อนวอนขอแม่ไม่ให้ทำแบบนี้ อย่าทิ้งผมไว้แบบนี้ ผมไม่อยากห่างจากแม่เลย
คนที่แม่จ้างเลี้ยงผมก็ไม่รู้จักเลยว่าเขาเป็นใคร ผมคิดอยู่อย่างเดียวทำไมแม่ใจร้ายกับผมจัง ทั้งๆที่ผมรักแม่มากกว่าที่แม่จะเข้าใจอีกนะ
แต่นั่นแหละครับโชคชะตาผมเป็นแบบนี้ แรกๆก็เหมือนจะดี พอนานไปแม่ก็ขาดการติดต่อหายไปเหมือนเดิม
แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่นานที่สุดเพราะผมอยู่ยายเลี้ยงคนนี้ตั้งแต่ ป.3 จนกระทั่งขึ้น ม.1 เลย ยายเลี้ยงคนนี้ก็ปากร้ายแต่ใจดีครับ
ชอบด่าก็จริง แต่เขาเลี้ยงผมเหมือนเป็นลูกเป็นหลานเลย ผมก็มีความผูกพันกับเขานะ แต่ยังรู้สึกว่าผมยังต้องการแม่มากๆ
จนกระทั่งวันนึงผมทะเลาะกับยายเลี้ยงหนักมาก ผมจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้าน กลับไปอยู่บ้านตา กลับไปครั้งนี้ก็เหมือนเดิมครับ
ตาผมก็ยังด่าเสียงดังโวยวายเหมือนเดิม ผมทำอะไรนิดๆหน่อยๆก็โดนด่า จนวันนึงตาผมเอ่ยปากบอกว่า กูจะเอาไปอยู่วัด แล้วก็เก็บข้าวของผมใส่กระเป๋าเรียบร้อยเลย คำว่าจะเอาผมไปอยู่วัดเป็นคำที่ผมได้ยินตั้งแต่เด็กแล้วแต่ไม่เคยมีครั้งไหนจริงจังเท่าครั้งนี้ ทำให้ผมรู้สึกทันทีเลยว่า
เด็กแบบผมเกิดมาผิดมากเลยใช่ไหม ทำไมตาไม่ชอบแม่แต่ต้องมาลงที่ผมด้วย ผมน้อยใจที่สุดในชีวิต ผมจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านกลับไปหาพ่อเลี้ยงที่พูดไปตอนต้นเรื่อง ผมเดินทางนั่งรถเมล์ไปด้วยความหวังว่าถ้าผมกลับไปครั้งนี้ พ่อเลี้ยงผมจะต้องดีใจแน่ๆ และน้องผมอีกสองคนจะต้องดีใจแน่ๆ
ต้องบอกก่อนเลยว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางด้วยตัวคนเดียวไกลที่สุดในชีวิต ชลบุรี-ระยอง ผมต้องถามผู้ใหญ่เกือบทั้งทางว่าต้องไปยังไง
แต่สุดท้ายนั้นแหละครับ ก็เดินทางถึงจนได้ตอนเช้าตรู่ พอมาถึงบ้านผมเห็นบ้านล็อค ผมรู้สึกหวั่นๆในใจว่าพ่อเลี้ยงจะทำสีหน้ายังไง จะต้อนรับผมไหม
พอพ่อเลี้ยงเปิดบ้านออกมา สีหน้าเขาตกใจมากว่าผมมาได้ยังไง ผมก็เล่าเรื่องราวให้เขาฟัง เขาก็บอกผมว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะติดต่อกลับไปหาตาให้มารับ ซึ่งผมก็ไม่อยากกลับไปผมก็ยังดื้อดึงที่จะอยู่ที่นี่ และทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงโทรกลับไปหาตาผมไม่เคยรู้ว่าเขาพูดเรื่องอะไรกันบ้าง
แต่พ่อเลี้ยงกลับบอกผมว่าผมนั้นดื้อ และต่อว่าผมทุกวันว่าผมนั้นสันดานเหมือนแม่ และอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก จนกระทั่งอยู่ได้ไม่นาน พ่อเลี้ยงให้ผมเก็บของและพ่อเลี้ยงจะไปส่ง ผมจำได้ดีว่าตอนนั้นเป็นตอนที่ผมผิดหวังที่สุดในชีวิต ผมคิดไตร่ตรองหลายๆเรื่องว่าผมดื้อขนาดนั้นเลยหรอ ผมมันเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอ ผมถูกครอบครัวเกลียดจริงๆหรอ จนกระทั่งพ่อเลี้ยงผมพามาส่งที่จุดหมายปลายทาง ไม่ใช่ที่ไหนเลยครับ กลับเป็น "วัด" และบอกผมว่า ผมอ่ะอยู่กับเขาไม่ได้หรอก เขายื่นคำขาดกับแม่ไปแล้วว่าหลังจากที่เลิกกันทางฝั่งแม่ห้ามไปยุ่งกับฝั่งเขาอีก แล้วพ่อเลี้ยงก็ให้ผมลงจากรถ แล้วขับรถจากไปเลย โดยที่ผมยืนทำตัวอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น ไร้จุดหมาย เคว้งคว้าง เศร้าและเสียใจ มันจุกจนร้องไห้ออกมาไม่ได้ มันทรมานมากๆผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี
ครอบครัวไม่ต้องการ ไม่มีใครเอาผมจะไปที่ไหนล่ะทีนี้ ผมจึงตัดสินใจจะกลับไปบ้านตาอีกครั้ง ผมก็เดินเท้าตั้งแต่วัดไปจนถึงบ้านตา พอมาถึงบ้านประตูยังปิดอยู่ ผมก็นั่งคอยด้วยความหวังที่มีอยู่น้อยนิดว่า ตาผมจะให้อภัยที่ผมเลือกที่จะหนีออกจากบ้านไปด้วยความน้อยใจ และจะเข้าใจพาผมกลับเข้าบ้าน ผมยอมโดนด่าขอแค่ได้กลับมาอยู่บ้าน เพราะผมไม่มีใครแล้ว ไม่มีที่ไป เงินก็ไม่มี เพราะตอนนั้นอายุแค่ 13 เอง ผมก็นั่งรอไปสักพัก ตาผมก็เปิดบ้านออกมา พอเห็นผมก็ด่าทอและไล่ผมไปที่อื่น
หัวใจและความหวังผมแตกสลายตรงนั้นเลยครับ ผมอยากร้องไห้ออกมาแต่มันร้องไม่ออก ผมไม่มีที่ไป ก็เลยเดินเท้าไปร้านเกมใกล้ๆวัดก่อนหน้านี้ ผมก็ไปเจอเพื่อนต่างรร. รู้จักกันแต่ไม่สนิท ผมเลยขอเพื่อนคนนี้ไปอยู่ด้วย เพื่อนคนนี้ก็ใจดีไปคุยกับพ่อเขาให้ผมไปอยู่ด้วย และหลังจากนั้นผมก็ไม่เคยอยากกลับไปบ้านอีกเลย แต่ผมก็ได้ย้ายที่อยู่ไปเรื่อย แต่ก็ขออาศัยบ้านเพื่อนนี่แหละครับ แต่หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวอีกเยอะเลยที่ผมเจอ แล้วก็มีเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวด้วย พอเริ่มโตมาช่วงวัยนึงผมก็ไม่ได้อยู่บ้านเพื่อนแล้ว พอรู้จักทำงานหาเงินผมก็เริ่มเดิมด้วยขาตัวเอง เช่าห้อง ใช้จ่ายชีวิตประจำวันด้วยตัวคนเดียวจนกระทั่งทุกวันนี้ แล้วผมก็มีนิสัยแบบที่เกริ่นไปตอนต้น บ่อยครั้งผมรู้สึกว่าผมไร้คุณค่า ผมอยากตายอยู่บ่อยครั้ง เวลาเจอปัญหาอะไรผมรับมือไม่ค่อยได้เลย ผมจะเปลี่ยนตัวเองยังไง ผมจะต้องทำยังไงให้ผมดีขึ้นได้มากกว่านี้ ผมอยากควบคุมอารมณ์ตัวเองได้มากกว่านี้ ผมสงสารแฟนผมในปัจจุบันที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ผมรักแฟนมาก แต่ผมกลับทำร้ายจิตใจเขามากกว่าสิบครั้งแล้ว วอนใครก็ได้ครับ ช่วยรักษาหรือให้คำตอบกับผมทีว่าผมควรทำยังไง