‘ตะวัน-แบม’ ยื่นคำร้องเร่งด่วน ฟ้อง UN ผู้ต้องหาการเมือง ถูกคุมตัวโดยพลการ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7496976
‘ตะวัน-แบม’ ยื่นคำร้องเร่งด่วน’ ฟ้อง UN ปมผู้ต้องหาการเมืองถูก ‘คุมตัวโดยพลการ’ ย้ำ ไทยมีพันธะกติการะหว่างประเทศ ด้านสิทธิ
วันที่ 7 ก.พ.2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า วานนี้ (6 ก.พ.) น.ส.
ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ
ตะวัน และ น.ส.
อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ
แบม 2 นักกิจกรรม ผู้ต้องหา ม.112 ที่กำลังอดอาหารและน้ำประท้วง 3 ข้อเรียกร้อง ให้ปล่อยผู้ต้องหาการเมือง ได้อนุญาตให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยื่นคำร้องเร่งด่วน (an urgent appeal) ต่อคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการควบคุมตัวโดยพลการ (United Nations Working Group on Arbitrary Detention; UN WGAD) เพื่อรายงานกรณีที่ทั้ง 2 ถูกดำเนินคดีในข้อหา มาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญา ขณะนี้ทั้งสองในวัยกว่า 20 ปี กำลังถูกจองจำและเฝ้าระวังอาการทางสุขภาพอย่างใกล้ชิด จากการอดอาหารและน้ำที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ในกรุงเทพ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า
ตะวันและ
แบมถูกควบคุมตัวอีกครั้งและอยู่ในเรือนจำครั้งนี้ มากว่า 22 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2566 ถือเป็นการควบคุมตัวคนรุ่นใหม่ระหว่างการพิจารณาอีกระลอกในประเทศไทย ต่อบุคคลที่ถูกดำเนินคดีภายใต้มาตรา 112 ในคดีที่ยังไม่มีคำพิพากษา
ทั้งนี้ การยื่นถอนประกันตัวเองเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ผู้ถูกคุมขังทางการเมืองอื่นและการยกเลิก มาตรา 112 และกฎหมายยุยง ปลุกปั่น มาตรา 116 ผ่านพรรคการเมือง ไม่ได้ลบล้างข้อเท็จจริงที่ว่าประเทศไทย “
ควบคุมตัวโดยพลการ” บุคคลภายใต้คดีดังกล่าว
ทั้งนี้ ในคำร้องเร่งด่วน เห็นว่าการจับกุมและควบคุมตัวตะวัน จากเหตุไลฟ์สด เมื่อมีนาคม 2565 เป็นการจับกุมหรือควบคุมตัวโดยอำเภอใจ ตามข้อ 9 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights; ICCPR) ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคี
อีกทั้ง การดำเนินคดีและการลิดรอนเสรีภาพของตะวันและแบม เป็นการละเมิดสิทธิในการพิจารณาคดีด้วยความยุติธรรม สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก และหลักการห้ามเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งความแตกต่างทางความคิดเห็นทางการเมืองและความเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองตามข้อ 14 ข้อ 19 และข้อ 26 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองเช่นกัน
โดยหนึ่งประเด็นสำคัญที่คำร้องเร่งด่วนได้เน้นย้ำคือ การควบคุมตัวใดก็ตามภายใต้ มาตรา 112 และ 116 ประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ) ถือว่าเป็นการ “
ควบคุมตัวโดยพลการ” เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวมีความชัดเจนไม่เพียงพอ เป็นการให้ดุลพินิจผู้บังคับใช้กฎหมายมากจนเกินไปในการตีความตัวบทกฎหมาย
ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถรู้ได้ว่าการกระทำใดผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย ความไม่ชัดเจนดังกล่าวขัดต่อหลักความชอบด้วยกฎหมาย หรือ “
Principle of Legality” ข้อโต้แย้งนี้สอดคล้องกับความเห็นของคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการควบคุมตัวโดยพลการ ในกรณีอื่นๆ ที่ประเทศไทยได้มีการดำเนินคดีและควบคุมตัวบุคคลภายใต้กฎหมายดังกล่าว
คำร้องเร่งด่วนยังเน้นย้ำอีกว่า สิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้ ข้อ 9 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เนื่องจากกติกาฯ นี้ มิให้ถือเป็นหลักทั่วไปว่าจะต้องควบคุมบุคคลที่รอการพิจารณาคดี คำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวก่อนหรือระหว่างพิจารณาคดีจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนี ป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยไปกระทำความผิดซ้ำ ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงและพฤติการณ์คดีของแต่และคดี คำสั่งไม่อนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวต้องเป็นไปตามหลักแห่งความจำเป็น (Necessity) เท่านั้น ศาลไม่สามารถสั่งคุมขังบุคคลเพียงเพราะข้อหามีความร้ายแรงและมีโทษสูง
ในคำร้องเร่งด่วนให้ข้อเท็จจริงถึงการจับกุม การควบคุมตัว และการฟ้องคดีอาญาของ
แบมจากเหตุทำโพล เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 ซึ่งทำให้
แบมและเพื่อนอีก 7 คนรวมทั้งเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี อีก 1 คน ถูกฟ้องในข้อหาหลักมาตรา 112 และมาตรา 116 ตามประมวลกฎหมายอาญา และมีเงื่อนไขการประกันตัวชั่วคราว ติดกำไล EM ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับที่ถูกฟ้อง อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ
ส่วนคดีของตะวัน ให้ข้อเท็จจริง การจับกุม การควบคุมตัว และการฟ้องคดีอาญาจากเหตุไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก หน้าตึก UN ที่มีการย้ายชาวนาออกจากพื้นที่ชุมนุมเพื่อเตรียมรับขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2565, การไต่สวนและการสั่งถอนประกันเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2565 เหตุโพสต์เรื่องโพล และการควบคุมตัวโดยไม่ชอบในเรือนจำ ระหว่างชั้นสอบสวนระหว่างวันที่ 20 เม.ย. ถึงวันที่ 26 พ.ค. 2565 เป็นเวลาถึง 37 วัน ก่อนได้รับการประกันตัวชั่วคราว
พร้อมเงื่อนไขที่เคร่งครัด ทั้งการติดกำไล EM, ห้ามออกนอกเคหสถานตลอดระยะเวลาที่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เว้นแต่กรณีเจ็บป่วยหรือได้รับอนุญาตจากศาล, ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับที่ถูกฟ้อง อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ข้อหาที่ตะวันถูกฟ้องในคดีนี้ คือ มาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญาและมาตรา 14 (2) และ 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 คณะทำงาน UN WGAD พบว่าประเทศไทยลิดรอนเสรีภาพของบุคคลถึง 9 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวด้วยมาตรา 112 และถือเป็นการควบคุมตัว “
โดยพลการ” พวกเขาได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดในเวลาต่อมา
ยกเว้น
อัญชัญ ปรีเลิศ ซึ่งศาลอาญากรุงเทพได้พิพากษาโทษจำคุก ถึง 89 ปี เนื่องจากอัปโหลดและเผยแพร่คลิปเสียงบนสื่อโซเชียลมีเดีย โดยเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าคลิปเสียงเหล่านั้นมีเนื้อหาหมิ่นประมาท ทั้งนี้ ศาลได้ลดโทษจำคุกลงเหลือ 43 ปี 6 เดือนเนื่องจากเธอรับสารภาพ เธอยังคงอยู่จองจำที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา กลไกตรวจสอบสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติหลายภาคส่วนได้ย้ำข้อกังวลซ้ำหลายรอบต่อการบังคับใช้มาตรา 112 และเตือนว่าการลิดรอนเสรีภาพที่มีมูลเหตุจูงใจมาจากการหมิ่นประมาทนี้ ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีที่ประเทศไทยมีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก และได้เรียกเรียกร้องให้มีการแก้ไขหรือยุติมาตรา 112 พร้อมทั้งปล่อยตัวจำเลยทุกคน
“วันนิวัติ” มั่นใจชาวขอนแก่นเทใจให้เพื่อไทยยกจังหวัด
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_495757/
“วันนิวัติ” มั่นใจชาวบ้านตอบรับผู้สมัครเพื่อไทยขอนแก่น ทั้งจังหวัด ชี้คนอีสานมั่นใจนโยบายพรรค พร้อมดึงทุกภาคส่วนร่วมยกระดับการศึกษาให้เท่าทันโลก
นาย
วันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปี 2566 มั่นใจว่าประชาชนจะตอบรับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยขอนแก่น ทั้ง 11 เขตอย่างแน่นอน ทั้งนี้จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนพบว่าประชาชนเชื่อมั่นในนโยบายของพรรค โดยเฉพาะด้านการเกษตรที่ประชาชนมั่นใจว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยจะช่วยพลิกชีวิตของเกษตรกรได้
นอกจากนี้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมาทุกคนทำงานหนักมาก ในการลงพื้นที่เพื่อไปพบปะพูดคุยถึงนโยบายของพรรค โดยชูจุดขายยุทธศาสตร์ 3 ขา ของพรรคคือ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้และขยายโอกาส ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชน และมั่นใจว่าหากพรรคเพื่อไทยได้โอกาสเป็นรัฐบาลและมีโอกาสเข้าบริหารประเทศ รายจ่ายของประชาชนจะลดลงและมีรายได้ที่มั่นคงขึ้นรวมทั้งมั่นใจว่าสินค้าเกษตรทุกประเภทมีการปรับราคาขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยทำได้และที่ผ่านมาก็ทำให้เห็นมาแล้วนโยบายของพรรคช่วยให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นอย่างไร
ส่วนที่มีการคาดหมายกันว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น มีการใช้เงินซื้อเสียงเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่บางพรรคการเมืองยังคงคิดว่าเงินสามารถทำให้ชนะการเลือกตั้งได้ซึ่งเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่กังวลเพราะประชาชนให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้มาก และเงินไม่สามารถซื้อคนอีสานได้
ทั้งนี้ประชาชนมีคำขวัญในพื้นที่อีสานว่า เงินหมาหาย งูเห่าตายไร้ราคาที่อีสานอย่างแน่นอน นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะนำเสนอนโยบายด้านการศึกษาใหม่ เพราะมั่นใจว่ากฎหมายปฎิรูปการศึกษาของรัฐบาลไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาและไม่ทันในสมัยประชุมที่จะหมดลง
ดังนั้นในรัฐบาลหน้าพรรคเพื่อไทยพร้อมเสนอพระราชบัญญัติการศึกษาฉบับใหม่ ที่ผ่านการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและเดินหน้าการศึกษาอย่างเท่าเทียมเพื่อยกระดับการศึกษาให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเป็นโดยจะมีการบูรณาการ ทั้งบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนและผู้ปกครอง ให้มีส่วนร่วมในการจัดการ การศึกษาในอนาคต
สัมภาษณ์ “จุลพันธ์” รบ.แตกกันตัวใครตัวมัน แต่เชื่อไม่กล้าหนีซักฟอก-รอจัดหนักบิ๊กตู่
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_3810360
สัมภาษณ์
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้าน กรณี ส.ส.ภูมิใจไทย อาจไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมการอภิปราย ม.152 เชื่อรัฐบาลไม่กล้าหนีซักฟอก เพราะประชาชนจับตาและอาจผิดกฎหมาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นการเล่นกันเองในวิปรัฐบาล และเป็นภาพสะท้อนว่ารัฐบาลตอนนี้ตัวใครตัวมัน ไม่มีใครสนใจสภาแล้ว ชมคลิปด้านล่าง
JJNY : ‘ตะวัน-แบม’ ยื่นคำร้อง ฟ้อง UN│“วันนิวัติ” มั่นใจ│สัมภาษณ์ “จุลพันธ์” รบ.แตกกัน│ยูเอ็นห่วงสงครามยูเครน-รัสเซีย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7496976
‘ตะวัน-แบม’ ยื่นคำร้องเร่งด่วน’ ฟ้อง UN ปมผู้ต้องหาการเมืองถูก ‘คุมตัวโดยพลการ’ ย้ำ ไทยมีพันธะกติการะหว่างประเทศ ด้านสิทธิ
วันที่ 7 ก.พ.2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า วานนี้ (6 ก.พ.) น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ แบม 2 นักกิจกรรม ผู้ต้องหา ม.112 ที่กำลังอดอาหารและน้ำประท้วง 3 ข้อเรียกร้อง ให้ปล่อยผู้ต้องหาการเมือง ได้อนุญาตให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยื่นคำร้องเร่งด่วน (an urgent appeal) ต่อคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการควบคุมตัวโดยพลการ (United Nations Working Group on Arbitrary Detention; UN WGAD) เพื่อรายงานกรณีที่ทั้ง 2 ถูกดำเนินคดีในข้อหา มาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญา ขณะนี้ทั้งสองในวัยกว่า 20 ปี กำลังถูกจองจำและเฝ้าระวังอาการทางสุขภาพอย่างใกล้ชิด จากการอดอาหารและน้ำที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ในกรุงเทพ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า ตะวันและแบมถูกควบคุมตัวอีกครั้งและอยู่ในเรือนจำครั้งนี้ มากว่า 22 วันแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2566 ถือเป็นการควบคุมตัวคนรุ่นใหม่ระหว่างการพิจารณาอีกระลอกในประเทศไทย ต่อบุคคลที่ถูกดำเนินคดีภายใต้มาตรา 112 ในคดีที่ยังไม่มีคำพิพากษา
ทั้งนี้ การยื่นถอนประกันตัวเองเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ผู้ถูกคุมขังทางการเมืองอื่นและการยกเลิก มาตรา 112 และกฎหมายยุยง ปลุกปั่น มาตรา 116 ผ่านพรรคการเมือง ไม่ได้ลบล้างข้อเท็จจริงที่ว่าประเทศไทย “ควบคุมตัวโดยพลการ” บุคคลภายใต้คดีดังกล่าว
ทั้งนี้ ในคำร้องเร่งด่วน เห็นว่าการจับกุมและควบคุมตัวตะวัน จากเหตุไลฟ์สด เมื่อมีนาคม 2565 เป็นการจับกุมหรือควบคุมตัวโดยอำเภอใจ ตามข้อ 9 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights; ICCPR) ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคี
อีกทั้ง การดำเนินคดีและการลิดรอนเสรีภาพของตะวันและแบม เป็นการละเมิดสิทธิในการพิจารณาคดีด้วยความยุติธรรม สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก และหลักการห้ามเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งความแตกต่างทางความคิดเห็นทางการเมืองและความเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองตามข้อ 14 ข้อ 19 และข้อ 26 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองเช่นกัน
โดยหนึ่งประเด็นสำคัญที่คำร้องเร่งด่วนได้เน้นย้ำคือ การควบคุมตัวใดก็ตามภายใต้ มาตรา 112 และ 116 ประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ) ถือว่าเป็นการ “ควบคุมตัวโดยพลการ” เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวมีความชัดเจนไม่เพียงพอ เป็นการให้ดุลพินิจผู้บังคับใช้กฎหมายมากจนเกินไปในการตีความตัวบทกฎหมาย
ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถรู้ได้ว่าการกระทำใดผิดหรือไม่ผิดกฎหมาย ความไม่ชัดเจนดังกล่าวขัดต่อหลักความชอบด้วยกฎหมาย หรือ “Principle of Legality” ข้อโต้แย้งนี้สอดคล้องกับความเห็นของคณะทำงานสหประชาชาติว่าด้วยการควบคุมตัวโดยพลการ ในกรณีอื่นๆ ที่ประเทศไทยได้มีการดำเนินคดีและควบคุมตัวบุคคลภายใต้กฎหมายดังกล่าว
คำร้องเร่งด่วนยังเน้นย้ำอีกว่า สิทธิในการประกันตัวเป็นสิทธิที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้ ข้อ 9 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เนื่องจากกติกาฯ นี้ มิให้ถือเป็นหลักทั่วไปว่าจะต้องควบคุมบุคคลที่รอการพิจารณาคดี คำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวก่อนหรือระหว่างพิจารณาคดีจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยหลบหนี ป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยไปกระทำความผิดซ้ำ ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงและพฤติการณ์คดีของแต่และคดี คำสั่งไม่อนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวต้องเป็นไปตามหลักแห่งความจำเป็น (Necessity) เท่านั้น ศาลไม่สามารถสั่งคุมขังบุคคลเพียงเพราะข้อหามีความร้ายแรงและมีโทษสูง
ในคำร้องเร่งด่วนให้ข้อเท็จจริงถึงการจับกุม การควบคุมตัว และการฟ้องคดีอาญาของแบมจากเหตุทำโพล เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 ซึ่งทำให้แบมและเพื่อนอีก 7 คนรวมทั้งเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี อีก 1 คน ถูกฟ้องในข้อหาหลักมาตรา 112 และมาตรา 116 ตามประมวลกฎหมายอาญา และมีเงื่อนไขการประกันตัวชั่วคราว ติดกำไล EM ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับที่ถูกฟ้อง อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ
ส่วนคดีของตะวัน ให้ข้อเท็จจริง การจับกุม การควบคุมตัว และการฟ้องคดีอาญาจากเหตุไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก หน้าตึก UN ที่มีการย้ายชาวนาออกจากพื้นที่ชุมนุมเพื่อเตรียมรับขบวนเสด็จ เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2565, การไต่สวนและการสั่งถอนประกันเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2565 เหตุโพสต์เรื่องโพล และการควบคุมตัวโดยไม่ชอบในเรือนจำ ระหว่างชั้นสอบสวนระหว่างวันที่ 20 เม.ย. ถึงวันที่ 26 พ.ค. 2565 เป็นเวลาถึง 37 วัน ก่อนได้รับการประกันตัวชั่วคราว
พร้อมเงื่อนไขที่เคร่งครัด ทั้งการติดกำไล EM, ห้ามออกนอกเคหสถานตลอดระยะเวลาที่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เว้นแต่กรณีเจ็บป่วยหรือได้รับอนุญาตจากศาล, ห้ามทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับที่ถูกฟ้อง อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียต่อสถาบันฯ ข้อหาที่ตะวันถูกฟ้องในคดีนี้ คือ มาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญาและมาตรา 14 (2) และ 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 คณะทำงาน UN WGAD พบว่าประเทศไทยลิดรอนเสรีภาพของบุคคลถึง 9 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวด้วยมาตรา 112 และถือเป็นการควบคุมตัว “โดยพลการ” พวกเขาได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดในเวลาต่อมา
ยกเว้น อัญชัญ ปรีเลิศ ซึ่งศาลอาญากรุงเทพได้พิพากษาโทษจำคุก ถึง 89 ปี เนื่องจากอัปโหลดและเผยแพร่คลิปเสียงบนสื่อโซเชียลมีเดีย โดยเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าคลิปเสียงเหล่านั้นมีเนื้อหาหมิ่นประมาท ทั้งนี้ ศาลได้ลดโทษจำคุกลงเหลือ 43 ปี 6 เดือนเนื่องจากเธอรับสารภาพ เธอยังคงอยู่จองจำที่ทัณฑสถานหญิงกลาง
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา กลไกตรวจสอบสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติหลายภาคส่วนได้ย้ำข้อกังวลซ้ำหลายรอบต่อการบังคับใช้มาตรา 112 และเตือนว่าการลิดรอนเสรีภาพที่มีมูลเหตุจูงใจมาจากการหมิ่นประมาทนี้ ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีที่ประเทศไทยมีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก และได้เรียกเรียกร้องให้มีการแก้ไขหรือยุติมาตรา 112 พร้อมทั้งปล่อยตัวจำเลยทุกคน
“วันนิวัติ” มั่นใจชาวขอนแก่นเทใจให้เพื่อไทยยกจังหวัด
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_495757/
“วันนิวัติ” มั่นใจชาวบ้านตอบรับผู้สมัครเพื่อไทยขอนแก่น ทั้งจังหวัด ชี้คนอีสานมั่นใจนโยบายพรรค พร้อมดึงทุกภาคส่วนร่วมยกระดับการศึกษาให้เท่าทันโลก
นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปี 2566 มั่นใจว่าประชาชนจะตอบรับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยขอนแก่น ทั้ง 11 เขตอย่างแน่นอน ทั้งนี้จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนพบว่าประชาชนเชื่อมั่นในนโยบายของพรรค โดยเฉพาะด้านการเกษตรที่ประชาชนมั่นใจว่านโยบายของพรรคเพื่อไทยจะช่วยพลิกชีวิตของเกษตรกรได้
นอกจากนี้ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมาทุกคนทำงานหนักมาก ในการลงพื้นที่เพื่อไปพบปะพูดคุยถึงนโยบายของพรรค โดยชูจุดขายยุทธศาสตร์ 3 ขา ของพรรคคือ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้และขยายโอกาส ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชน และมั่นใจว่าหากพรรคเพื่อไทยได้โอกาสเป็นรัฐบาลและมีโอกาสเข้าบริหารประเทศ รายจ่ายของประชาชนจะลดลงและมีรายได้ที่มั่นคงขึ้นรวมทั้งมั่นใจว่าสินค้าเกษตรทุกประเภทมีการปรับราคาขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยทำได้และที่ผ่านมาก็ทำให้เห็นมาแล้วนโยบายของพรรคช่วยให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นอย่างไร
ส่วนที่มีการคาดหมายกันว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น มีการใช้เงินซื้อเสียงเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่บางพรรคการเมืองยังคงคิดว่าเงินสามารถทำให้ชนะการเลือกตั้งได้ซึ่งเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่กังวลเพราะประชาชนให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้มาก และเงินไม่สามารถซื้อคนอีสานได้
ทั้งนี้ประชาชนมีคำขวัญในพื้นที่อีสานว่า เงินหมาหาย งูเห่าตายไร้ราคาที่อีสานอย่างแน่นอน นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะนำเสนอนโยบายด้านการศึกษาใหม่ เพราะมั่นใจว่ากฎหมายปฎิรูปการศึกษาของรัฐบาลไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาและไม่ทันในสมัยประชุมที่จะหมดลง
ดังนั้นในรัฐบาลหน้าพรรคเพื่อไทยพร้อมเสนอพระราชบัญญัติการศึกษาฉบับใหม่ ที่ผ่านการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและเดินหน้าการศึกษาอย่างเท่าเทียมเพื่อยกระดับการศึกษาให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกและเป็นโดยจะมีการบูรณาการ ทั้งบุคลากรทางการศึกษา นักเรียนและผู้ปกครอง ให้มีส่วนร่วมในการจัดการ การศึกษาในอนาคต
สัมภาษณ์ “จุลพันธ์” รบ.แตกกันตัวใครตัวมัน แต่เชื่อไม่กล้าหนีซักฟอก-รอจัดหนักบิ๊กตู่
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_3810360
สัมภาษณ์ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้าน กรณี ส.ส.ภูมิใจไทย อาจไม่เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมการอภิปราย ม.152 เชื่อรัฐบาลไม่กล้าหนีซักฟอก เพราะประชาชนจับตาและอาจผิดกฎหมาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นการเล่นกันเองในวิปรัฐบาล และเป็นภาพสะท้อนว่ารัฐบาลตอนนี้ตัวใครตัวมัน ไม่มีใครสนใจสภาแล้ว ชมคลิปด้านล่าง