การเมืองไทยไม่ก้าวหน้า เพราะนักเลือกตั้ง‘เล่นการเมือง’มากเกินไป

ระบอบประชาธิปไตยไทยมีอาถรรพณ์เพราะเริ่มต้นจากเล่นการเมือง หลังจากกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าคณะราษฎรปล้นพระราชอำนาจและพระราชทรัพย์จากสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 แล้วประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นการปกครองแบบประชาธิปไตยรัฐสภา

กลุ่มคน ที่เรียกตัวเองว่า คณะราษฎร เริ่มเล่นเกมการเมืองกันตั้งแต่วันแรก คือ ไปหลอกนักเรียนทหารว่า พามาชมการซ้อมรบจริง แต่เมื่อนักเรียนทหารมาถึงพระบรมรูปทรงม้า ถึงได้บอกนักเรียนทหารว่า มาร่วมกับคณะปฏิวัติ ผู้ที่หลอกนักเรียนทหาร คือ นายทหารยศพันเอก เมื่อทหารหลอกนักเรียนทหารสำเร็จแล้ว ผู้ก่อการฝ่ายพลเรือน ก็เล่นเกมการเมือง หลอกผู้ร่วมก่อการฝ่ายทหาร ในการร่างรัฐธรรมนูญที่รับปากฝ่ายทหารว่าจะร่างรัฐธรรมนูญแบบระบอบประชาธิปไตย เหมือนในอังกฤษ แต่เมื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย... แต่..ไม่ยอมลงพระนามให้ เมื่อพบว่ารัฐธรรมนูญ ที่ร่างมาแบบคอมมิวนิสต์บอลเชวิค สุดท้าย พระยาทรงสุรเดชก็รับรองต่อ...ว่า จะนำไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ ให้เป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี...ทรงเป็นประมุข
 
ออกจากเข้าเฝ้าคืนนั้น พระยาทรงสุรเดช ตะคอกใส่นายปรีดี พนมยงค์ ว่า “คุณหลวงทำนอกเรื่องป่นปี้กันไปหมด” ตั้งแต่นาทีนั้นเป็นต้นมาพระยาทรงฯกับนายปรีดี ขัดแย้งกันจนไม่มีวันประสานสัมพันธ์กันได้จนตายจากกัน นี่คือ ที่มาของคำว่า “เล่นเกมการเมือง” เพราะทหารและพลเรือนที่สมคบกันปล้น... และ...ต่างฝ่ายก็ใช้เล่ห์กลหลอกกันไปมา จนสุดท้ายคำว่า“เกม”หายเหลือแต่คำว่า“เล่นการเมือง”

สุทิน วรรณบวร
https://www.naewna.com/politic/columnist/54171
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่