สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
ไปอ่านกระทู้เก่ามา คือน้องสามีเจ้าของกระทู้
เดิมก่อนเจ้าของกระทู้มาอยู่บ้านนี้ ใครเป็นคนล้าง
เราไม่ทราบว่า เดิม วิถีชีวิตในบ้านนี้เป็นอย่างไร ดังนั้น อย่าเพิ่งไปด่าน้อง ทำลายความสัมพันธ์กันเปล่าๆ
คำแนะนำ
1) เจ้าของกระทู้บอกว่า ทำได้วันเดียวในวันที่พูดแล้วเป็นอีก
อยากให้เจ้าของกระทู้ ชมน้องด้วยใจจริง ในวันที่เขาเก็บจาน ล้างจาน แม้แต่ความดีเล็กๆ ก็ควรจะรีบชม หัดจับถูกให้มากกว่าจับผิด
เวลาเขาทำถูก อย่าทำเฉย และที่สำคัญ อย่าติ อย่าหาจุดผิด ชมเขาหน่อย เขาจะได้รู้ว่า คุณชอบ เขาจะได้รู้ว่าเฮ้ย ที่ฉันทำนะ มันมาถูกทางแล้ว ไม่ต้องชมเว่อเกินไป ชมด้วยความจริงใจ เช่น มองหน้าสบตา แล้วบอกว่า พี่ขอบใจน้องมากที่ข่วยเก็บจาน ยิ้มจริงใจให้หนึ่งกรุบ
ที่สำคัญ ชมเสร็จอย่าเผลอมีคำว่าแต่
เช่น ขอบใจนะเก็บจาน แต่วันหลังล้างด้วยนะ อันนี้แย่ๆๆๆๆ
อาจจะเสริมแรงด้วยการชมเขาให้สามีหรือคนในบ้านฟังด้วย เช่น น้อง.. นิสัยดีมากเลยวันก่อนช่วยเราล้างจานด้วย
เจ้าของกระทู้ลองมองย้อนดูตัวเอง ในวันที่เขาทำถูกเล็กน้อย เราชมเขาหรือยัง
2) บอกความต้องการของตัวเองให้ชัดเจน เป็น step 1,2,3,4
โดยประโยคที่ใช้ให้ประธานในประโยคเป็นตัวเจ้าของกระทู้ ประธานในประโยคไม่ควรเป็นน้อง เพราะเหมือนถูกด่า ถูกจิก และไม่ควรอย่างยิ่งเป็นบุคคลที่สาม เพราะเหมือนถูกเปรียบเทียบ หรือถูกนินทา
เช่น
ประธานเป็นตัวน้อง (You message)
- น้อง..กินเสร็จ เก็บจาน ล้างจานด้วยนะ
ประโยคแบบนี้ ลอยมาก คนฟังรู้สึกว่าถูกตำหนิ เกิดความรู้สึกต่อต้าน แล้วทำไมเราต้องล้าง แม่ฉันยังไม่ว่าอะไรเลย จะใช้แล้วทิ้งจะทำไม!
คำสั่งแบบนี้ ไม่ชัดเจน เก็บยังไง เก็บตอนไหน ล้างตอนไหน? คือ จะล้างสัปดาห์หน้า เขาก็ล้างเหมืออนกัน
ประธาน เป็นบุคคลที่สาม เช่น
- น้อง A ยังช่วยแม่ล้างจานเลย ( อันนี้แย่หนัก เปรียบเทียบทำไม)
- ให้สามีมาบอก แล้วประธานในประโยคเป็นชื่อเรา เช่น พี่สะใภ้ ฝากมาบอกว่ากินเสร็จให้ล้างจานด้วย (แบบนี้ คือ เขาจะรู้สึกว่า อ้าว เอาตรูไปนินทา)
รูปแบบประโยคที่ดีที่สุด คือ ประธานเป็นตัวคนพูด และบอกสิ่งที่เราอยากให้เขาทำเป็นขั้นตอน (I message)
I feel …when you… I want you to…
วันนี้พี่เหนื่อยมากเลยที่ต้องล้างจานจำนวนมาก
พี่อยากให้หนูช่วย ….(เช่น) ถ้าเจอจานที่อาหารหมดแล้ว หรือ หลังจากหนูทานเสร็จแล้ว เทเศษอาหารตรงนี้ ผ่านน้ำให้พี่นิดนีง แล้ววางไว้ตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ
อย่าเพิ่งไปคาดหวังว่าเขาจะเกิดแรงฮึดมาล้างจาน ทันที แต่หากเขาทำดีแม่เพียงเล็กน้อย เช่น เอาจานมาวางข้างอ่างล้างจาน ตรงนี่ให้ชมเลย ( เจ้าของกระทู้ ตำหนิน้องว่า จานแค่เอามาวางข้างอ่างล้างจาน แต่อีกคอมเมนท์เจ้าของกระทู้เล่าว่า ตักกับข้าวหมดก็ไม่เก็บ วางไว้อย่างนั้น วันที่น้องล้างหนึ่งวัน เจ้าของกระทู้ไม่ชม แต่จับเอามาตำหนิว่า ล้างแค่วันเดียว วันอื่นเหมือนเดิม)
คำชม คือ การรดน้ำให้พฤติกรรมดี มันจะค่อยๆงอกงามขึ้นเองค่ะ
เดิมก่อนเจ้าของกระทู้มาอยู่บ้านนี้ ใครเป็นคนล้าง
เราไม่ทราบว่า เดิม วิถีชีวิตในบ้านนี้เป็นอย่างไร ดังนั้น อย่าเพิ่งไปด่าน้อง ทำลายความสัมพันธ์กันเปล่าๆ
คำแนะนำ
1) เจ้าของกระทู้บอกว่า ทำได้วันเดียวในวันที่พูดแล้วเป็นอีก
อยากให้เจ้าของกระทู้ ชมน้องด้วยใจจริง ในวันที่เขาเก็บจาน ล้างจาน แม้แต่ความดีเล็กๆ ก็ควรจะรีบชม หัดจับถูกให้มากกว่าจับผิด
เวลาเขาทำถูก อย่าทำเฉย และที่สำคัญ อย่าติ อย่าหาจุดผิด ชมเขาหน่อย เขาจะได้รู้ว่า คุณชอบ เขาจะได้รู้ว่าเฮ้ย ที่ฉันทำนะ มันมาถูกทางแล้ว ไม่ต้องชมเว่อเกินไป ชมด้วยความจริงใจ เช่น มองหน้าสบตา แล้วบอกว่า พี่ขอบใจน้องมากที่ข่วยเก็บจาน ยิ้มจริงใจให้หนึ่งกรุบ
ที่สำคัญ ชมเสร็จอย่าเผลอมีคำว่าแต่
เช่น ขอบใจนะเก็บจาน แต่วันหลังล้างด้วยนะ อันนี้แย่ๆๆๆๆ
อาจจะเสริมแรงด้วยการชมเขาให้สามีหรือคนในบ้านฟังด้วย เช่น น้อง.. นิสัยดีมากเลยวันก่อนช่วยเราล้างจานด้วย
เจ้าของกระทู้ลองมองย้อนดูตัวเอง ในวันที่เขาทำถูกเล็กน้อย เราชมเขาหรือยัง
2) บอกความต้องการของตัวเองให้ชัดเจน เป็น step 1,2,3,4
โดยประโยคที่ใช้ให้ประธานในประโยคเป็นตัวเจ้าของกระทู้ ประธานในประโยคไม่ควรเป็นน้อง เพราะเหมือนถูกด่า ถูกจิก และไม่ควรอย่างยิ่งเป็นบุคคลที่สาม เพราะเหมือนถูกเปรียบเทียบ หรือถูกนินทา
เช่น
ประธานเป็นตัวน้อง (You message)
- น้อง..กินเสร็จ เก็บจาน ล้างจานด้วยนะ
ประโยคแบบนี้ ลอยมาก คนฟังรู้สึกว่าถูกตำหนิ เกิดความรู้สึกต่อต้าน แล้วทำไมเราต้องล้าง แม่ฉันยังไม่ว่าอะไรเลย จะใช้แล้วทิ้งจะทำไม!
คำสั่งแบบนี้ ไม่ชัดเจน เก็บยังไง เก็บตอนไหน ล้างตอนไหน? คือ จะล้างสัปดาห์หน้า เขาก็ล้างเหมืออนกัน
ประธาน เป็นบุคคลที่สาม เช่น
- น้อง A ยังช่วยแม่ล้างจานเลย ( อันนี้แย่หนัก เปรียบเทียบทำไม)
- ให้สามีมาบอก แล้วประธานในประโยคเป็นชื่อเรา เช่น พี่สะใภ้ ฝากมาบอกว่ากินเสร็จให้ล้างจานด้วย (แบบนี้ คือ เขาจะรู้สึกว่า อ้าว เอาตรูไปนินทา)
รูปแบบประโยคที่ดีที่สุด คือ ประธานเป็นตัวคนพูด และบอกสิ่งที่เราอยากให้เขาทำเป็นขั้นตอน (I message)
I feel …when you… I want you to…
วันนี้พี่เหนื่อยมากเลยที่ต้องล้างจานจำนวนมาก
พี่อยากให้หนูช่วย ….(เช่น) ถ้าเจอจานที่อาหารหมดแล้ว หรือ หลังจากหนูทานเสร็จแล้ว เทเศษอาหารตรงนี้ ผ่านน้ำให้พี่นิดนีง แล้ววางไว้ตรงนี้ให้พี่หน่อยนะ
อย่าเพิ่งไปคาดหวังว่าเขาจะเกิดแรงฮึดมาล้างจาน ทันที แต่หากเขาทำดีแม่เพียงเล็กน้อย เช่น เอาจานมาวางข้างอ่างล้างจาน ตรงนี่ให้ชมเลย ( เจ้าของกระทู้ ตำหนิน้องว่า จานแค่เอามาวางข้างอ่างล้างจาน แต่อีกคอมเมนท์เจ้าของกระทู้เล่าว่า ตักกับข้าวหมดก็ไม่เก็บ วางไว้อย่างนั้น วันที่น้องล้างหนึ่งวัน เจ้าของกระทู้ไม่ชม แต่จับเอามาตำหนิว่า ล้างแค่วันเดียว วันอื่นเหมือนเดิม)
คำชม คือ การรดน้ำให้พฤติกรรมดี มันจะค่อยๆงอกงามขึ้นเองค่ะ
ความคิดเห็นที่ 29
ต้องยอมรับความจริงก่อนค่ะ ว่าคุณเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้หรอก ถ้าเขาไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเอง
คุณอาจจะสร้างเหตุปัจจัยให้เขาอยากเปลี่ยนตัวเองได้บ้าง แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้หรอก ว่าวิธีการไหนจะสำเร็จ
การอยู่ร่วมกับคนแบบนี้
ถ้าไม่ทำตัวให้เป็นคนชอบล้างจาน (คือล้างไปเลย ไม่ต้องคิดเยอะว่าใครกิน)
ก็แยกย้าย ต่างคนต่างอยู่ ไม่เขาออกก็เราออกแหละค่ะ
หรือไม่ก็ต้องเมินให้ได้ ปล่อยจานวางทิ้งไว้แบบนั้นแหละ คุณล้างแค่ที่คุณใช้ หรือจะใช้
นอกนั้นก็แข่งกันทนไป ดูว่าใครจะทนทานกว่ากัน
โดยส่วนตัว เราเลือกที่จะล้างทั้งหมดไปเองเลย ไม่เกี่ยงว่าใครกิน
เพราะล้างเพิ่มก็ไม่ได้ลำบากเราขนาดนั้น มือไม่ได้เปื่อยมากขึ้น ไม่ได้เสียแรงเยอะขึ้นเท่าไหร่
เสียแค่อารมณ์ ซึ่งอารมรณ์สามารถปรับตามความคิดเราได้
ถ้าไม่ถือสา ก็ไม่หัวเสีย มองมันเป็นจานใบหนึ่ง (หรือหลายใบ) ล้างๆ ไปก็จบแล้วค่ะ
ผลที่ได้คือบ้านสะอาด ไม่มีจานมาล่อแมลงสาบให้ขึ้นบ้าน
ถ้ามัวแต่เกี่ยงกัน บ้านสกปรก เราก็ต้องรับผลนั้นด้วยเหมือนกัน
บ้านเราน้องสาวก็ไม่ชอบล้างจานค่ะ เราก็ล้างเองไปเลย ล้างให้ทุกคน ล้างจนน้องเกิดความเกรงใจขึ้นมาเอง
หลังๆ มานี้เราชวนเขาล้างไปพร้อมกันด้วยเลยค่ะ น้องถูน้ำยา เราล้างน้ำเปล่า
ล้างไปเม้ามอยกันไป เพลินดีเหมือนกันนะคะ แป๊บเดียวก็เสร็จ
คุณอาจจะสร้างเหตุปัจจัยให้เขาอยากเปลี่ยนตัวเองได้บ้าง แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้หรอก ว่าวิธีการไหนจะสำเร็จ
การอยู่ร่วมกับคนแบบนี้
ถ้าไม่ทำตัวให้เป็นคนชอบล้างจาน (คือล้างไปเลย ไม่ต้องคิดเยอะว่าใครกิน)
ก็แยกย้าย ต่างคนต่างอยู่ ไม่เขาออกก็เราออกแหละค่ะ
หรือไม่ก็ต้องเมินให้ได้ ปล่อยจานวางทิ้งไว้แบบนั้นแหละ คุณล้างแค่ที่คุณใช้ หรือจะใช้
นอกนั้นก็แข่งกันทนไป ดูว่าใครจะทนทานกว่ากัน
โดยส่วนตัว เราเลือกที่จะล้างทั้งหมดไปเองเลย ไม่เกี่ยงว่าใครกิน
เพราะล้างเพิ่มก็ไม่ได้ลำบากเราขนาดนั้น มือไม่ได้เปื่อยมากขึ้น ไม่ได้เสียแรงเยอะขึ้นเท่าไหร่
เสียแค่อารมณ์ ซึ่งอารมรณ์สามารถปรับตามความคิดเราได้
ถ้าไม่ถือสา ก็ไม่หัวเสีย มองมันเป็นจานใบหนึ่ง (หรือหลายใบ) ล้างๆ ไปก็จบแล้วค่ะ
ผลที่ได้คือบ้านสะอาด ไม่มีจานมาล่อแมลงสาบให้ขึ้นบ้าน
ถ้ามัวแต่เกี่ยงกัน บ้านสกปรก เราก็ต้องรับผลนั้นด้วยเหมือนกัน
บ้านเราน้องสาวก็ไม่ชอบล้างจานค่ะ เราก็ล้างเองไปเลย ล้างให้ทุกคน ล้างจนน้องเกิดความเกรงใจขึ้นมาเอง
หลังๆ มานี้เราชวนเขาล้างไปพร้อมกันด้วยเลยค่ะ น้องถูน้ำยา เราล้างน้ำเปล่า
ล้างไปเม้ามอยกันไป เพลินดีเหมือนกันนะคะ แป๊บเดียวก็เสร็จ
ความคิดเห็นที่ 9
เราไม่ล้างให้ค่ะ จานใครจานมัน ชามใครชามมัน
บ้านเราต่างคนต่างทำค่ะ เพราะไม่มีใครเป็นคนใช้ใคร ทุกคนมีหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว เรื่องงานบ้านนี่ควรทำเองกันทุกคน
ค่าน้ำกับจานสองสามใบแต่ละครั้งมันจะสักเท่าไหร่กันเชียว
ถ้าเขาไม่ล้างก็ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ เราไม่สน เรามีจานชามของเราเราก็ล้างของเรา ล็อกเก็บใส่ตู้ในห้องเรา
เขาไม่ล้างก็เรื่องของเขา ไม่มีจานชามกินเดี๋ยวก็ขยับตัวเองแหละ
ถ้าเราเป็นคุณและเรามีทางเลือก เราไม่อยู่ร่วมกับคนแบบนี้หรอกค่ะ
ถ้าแค่จานชามยังไม่มีความรับผิดชอบที่จะล้างจะเก็บเอง แล้วจะรับผิดชอบสิ่งที่ใหญ่กว่านี้ในชีวิตนี้ได้เหรอ
หรือไม่ก็แนะนำให้เขาจ้างแม่บ้านมาเลยค่ะ จบปัญหาทุกอย่าง
บ้านเราต่างคนต่างทำค่ะ เพราะไม่มีใครเป็นคนใช้ใคร ทุกคนมีหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว เรื่องงานบ้านนี่ควรทำเองกันทุกคน
ค่าน้ำกับจานสองสามใบแต่ละครั้งมันจะสักเท่าไหร่กันเชียว
ถ้าเขาไม่ล้างก็ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ เราไม่สน เรามีจานชามของเราเราก็ล้างของเรา ล็อกเก็บใส่ตู้ในห้องเรา
เขาไม่ล้างก็เรื่องของเขา ไม่มีจานชามกินเดี๋ยวก็ขยับตัวเองแหละ
ถ้าเราเป็นคุณและเรามีทางเลือก เราไม่อยู่ร่วมกับคนแบบนี้หรอกค่ะ
ถ้าแค่จานชามยังไม่มีความรับผิดชอบที่จะล้างจะเก็บเอง แล้วจะรับผิดชอบสิ่งที่ใหญ่กว่านี้ในชีวิตนี้ได้เหรอ
หรือไม่ก็แนะนำให้เขาจ้างแม่บ้านมาเลยค่ะ จบปัญหาทุกอย่าง
ความคิดเห็นที่ 56
ไม่รู้สิ เรารำคาญที่จะพูด ใครไม่ทำก็ทำเอง จะมาบ่นมาด่าคนเสียสุขภาพจิตก็เรา
ในเมื่อไปอยู่เป็นสะใภ้ ก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน คุณไม่ทำ น้องไม่ทำ จะให้พ่อแม่สามีทำหรอ
ส่วนตัวล้างเอง แฟนไม่เคยแตะ ที่สำคัญกินแล้วลุกจากโต๊ะเลยก็มี ก็ไม่รู้จะบ่นให้มันได้อะไร
บ่นได้ก็ทำอีก ไปบ้านแฟน จานชามวางกองเต็มซิงค์ เห็นแล้วขัดตา ก็ไปยืนล้าง
เพราะทุกคนรอแม่แฟนมาล้างอย่างเดียว
อิหลานสองคนโตเป็นสาวบอกได้ก็ไม่ทำ ต้องมีข้อแม้ตลอด บ่นไปก็เท่านั้น สุดท้ายมันก็วนลูป
ตัดใจทำเองแป๊บๆก็เสร็จ
ในเมื่อไปอยู่เป็นสะใภ้ ก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน คุณไม่ทำ น้องไม่ทำ จะให้พ่อแม่สามีทำหรอ
ส่วนตัวล้างเอง แฟนไม่เคยแตะ ที่สำคัญกินแล้วลุกจากโต๊ะเลยก็มี ก็ไม่รู้จะบ่นให้มันได้อะไร
บ่นได้ก็ทำอีก ไปบ้านแฟน จานชามวางกองเต็มซิงค์ เห็นแล้วขัดตา ก็ไปยืนล้าง
เพราะทุกคนรอแม่แฟนมาล้างอย่างเดียว
อิหลานสองคนโตเป็นสาวบอกได้ก็ไม่ทำ ต้องมีข้อแม้ตลอด บ่นไปก็เท่านั้น สุดท้ายมันก็วนลูป
ตัดใจทำเองแป๊บๆก็เสร็จ
แสดงความคิดเห็น
อยู่ร่วมกับคนไม่ล้างจานได้ยังไง แก้ยังไง หรือควรต้องทำยังไงค่ะ
ถึงขนาดที่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราไม่ล้างให้ก็วางไว้แบบนั้นเป็นอาทิตย์ และก็เพิ่มขึ้นทุกๆวัน
เคยพูดแล้วนะคะว่าให้กินแล้วล้างก็ทำได้อยู่แค่ครั้งที่พูด พอหลังจากนั้นเหมือนเดิมค่ะ 😔😔😔😔