สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
1. เค้างก
2. เค้าหิวมาก
3. เค้าไม่เคยมีแฟน และเทคแคร์ผู้หญิงไม่เป็น
ถ้าเป็นแบบ 3 นี่ ต้องทำใจ ต้องบอกค่ะ ถ้าไม่บอกเค้าจะไม่รู้ตัว
พูดตรงๆไปเลย แบบ กินด้วยดิ ขอชิมหน่อย อยากกินอันนี้หารกันมั๊ย ซื้อให้หน่อย ....
แต่ข้อดีก็คือ คนแบบนี้โอกาสนอกใจคุณยากค่ะ เพราะไม่เทคแคร์คนอื่นนี่หละ 555
2. เค้าหิวมาก
3. เค้าไม่เคยมีแฟน และเทคแคร์ผู้หญิงไม่เป็น
ถ้าเป็นแบบ 3 นี่ ต้องทำใจ ต้องบอกค่ะ ถ้าไม่บอกเค้าจะไม่รู้ตัว
พูดตรงๆไปเลย แบบ กินด้วยดิ ขอชิมหน่อย อยากกินอันนี้หารกันมั๊ย ซื้อให้หน่อย ....
แต่ข้อดีก็คือ คนแบบนี้โอกาสนอกใจคุณยากค่ะ เพราะไม่เทคแคร์คนอื่นนี่หละ 555
ความคิดเห็นที่ 1
เราว่าคุณหยุมหยิมเกินไป
ตอบคำถาม 1-2
มันอาจจะดูแปลกแต่ผู้ชายบางคนมองว่าเรื่องของกินเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน ใครอยากกินอะไรก็ซื้ออันนั้น อยากกินเท่าไหร่ก็ซื้อเท่าที่จะกิน และถ้าบังเอิญได้แต่งงานกัน ผู้ชายจะสามารถดูแล(เรื่องของกิน)ให้ผู้หญิงแบบนี้ได้ตลอดไปเหรอ สุดท้ายไม่จะไม่ถูกตั้งคำถามเหรอว่าเป็นเฉพาะชวงโปรฯ และเราควรดูแลตัวเองในเรื่องที่เราดูแลตัวเองกันได้ไม่ใช่เหรอ ส่วนเรื่องที่ผู้หญิงดูแลตัวเองไม่ได้เราถึงจัดการให้ ยกตัวอย่างผมเองที่ต้องคอยไปกดชักโครกให้แฟนเพื่อกำจัดเต่าน้อยเพราะแฟนเป็นคนท้องผูกซึ่งไม่มีช่วงโปรเพราะนี่ก็ทำเข้าปีที่ 15 แล้ว และในทางกลับกันก็มีเรื่องที่เราทำได้ไม่ดีและผู้หญิงต้องคอยดูแลเราเช่นการจัดเรียงกระเป๋าตังค์ การจัดกลีบรีดผ้า การปรับปุ่มไมโครเวฟที่เหมาะสม
บังเอิญว่าผมเป็นผู้ชายที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษตามบรรทัดฐานของคนทั่วไปก็เลยแนะนำ จขกท. ไปว่าอย่าพึ่งตัดสินอะไรเพราะผู้ชายคนนั้นอาจเป็นแบบผมก็ได้ซึ่งผมถือว่าตัวเองก็ไม่ได้แย่มาก(มั๊ง)
ยกตัวอย่างอีกอันเช่นตอนนี้เลย ผมทำงานใน กทม. และภรรยาไม่ได้ทำงานแต่อยู่บ้านพักที่ต่างจังหวัด วันพฤหัสนี้มีนัดตรวจสุขภาพกัน ผมไม่ต้องถามผู้หญิงหรอกว่าจะให้ไปรับมั๊ย เพราะผู้หญิงต้องชอบแน่ ๆ ที่ไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯเองด้วยรถประจำทาง ผมก็แค่ขับรถตอนเลิกงานหลังสองทุ่ม 160 กม. มาเพื่อรับผู้หญิงเข้ากรุงเทพฯ และเย็นวันพฤหัสนี้หลังตรวจสุขภาพเราจะไปเดินงานเกษตรแฟร์ด้วยกัน ผมคงไม่สุ่มซื้อของที่แฟนไม่ชอบ หรือคงไม่ถามว่าจะกินอะไรแล้วจะซื้อให้ เพราะก็เดินอยู่ดวยกันเรื่องพื้น ๆพวกนี้ผู้หญิงก็สามารถทำเองได้ และในมุมมองผม การถามว่าจะกินอะไรทั้ง ๆ ที่เดินอยู่ด้วยกันเป็นการห่วงใยเอาใจใส่ที่ดูเป็นการแสดงมากเกินไป
ยกตัวอย่างอีกอันนึง (ของคนที่เดินกินคนเดียวในงานเกษตรแฟร์ และบางทีใช้ให้ผู้หญิงไปซื้อมาให้ด้วย) คือหลังแต่งงานผมให้ผู้หญิงตัดสินใจว่าจะมีลูกหรือไม่มีลูกเพราะผู้หญิงเป็นคนท้อง และผู้หญิงเลือกไม่มีลูก ซึ่งตลอด 15 ปีที่แต่งงานผู้หญิงไม่ต้องจัดการเรื่องคุมกำเนิดเพราะผมกลัวมีผลกระทบทำให้เกิดโรคทางมดลูก
ภรรยาผมเป็นคนง่าย ๆ และไม่มายุ่งเรื่องส่วนตัวของผม แต่พาสเวิร์ดทุกอย่างในโทรศัพท์ผมตรงกับภรรยา อันนี้ผมคิดเองว่ามันน่าจะดีสำหรับผู้หญิง การแชร์ตำแหน่งในกูเกิ้ลแมพก็เช่นเดียวกัน เป็นอะไรง่าย ๆ ที่ผู้หญิงไม่ได้เรียกร้องแต่แสดงถึงรายละเอียดที่เราเอาใจใส่
ก็พยายามจะยกตัวอย่างความห่วงใยเอาใจใส่ แบบที่ต้องอยู่กันไปนาน ๆ ถึงจะรู้ตัวว่าห่วงใยเอาใจใส่ ก็เลยแนะนำ จขกท. ไปว่าอย่าหยุมหยิมเผื่อผู้ชายมีมุมแบบที่ผมเป็น (ซึ่งโอเคหรือเปล่าก็ไม่รู้ในสายตาผู้หญิง)
ตอบคำถาม 1-2
มันอาจจะดูแปลกแต่ผู้ชายบางคนมองว่าเรื่องของกินเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน ใครอยากกินอะไรก็ซื้ออันนั้น อยากกินเท่าไหร่ก็ซื้อเท่าที่จะกิน และถ้าบังเอิญได้แต่งงานกัน ผู้ชายจะสามารถดูแล(เรื่องของกิน)ให้ผู้หญิงแบบนี้ได้ตลอดไปเหรอ สุดท้ายไม่จะไม่ถูกตั้งคำถามเหรอว่าเป็นเฉพาะชวงโปรฯ และเราควรดูแลตัวเองในเรื่องที่เราดูแลตัวเองกันได้ไม่ใช่เหรอ ส่วนเรื่องที่ผู้หญิงดูแลตัวเองไม่ได้เราถึงจัดการให้ ยกตัวอย่างผมเองที่ต้องคอยไปกดชักโครกให้แฟนเพื่อกำจัดเต่าน้อยเพราะแฟนเป็นคนท้องผูกซึ่งไม่มีช่วงโปรเพราะนี่ก็ทำเข้าปีที่ 15 แล้ว และในทางกลับกันก็มีเรื่องที่เราทำได้ไม่ดีและผู้หญิงต้องคอยดูแลเราเช่นการจัดเรียงกระเป๋าตังค์ การจัดกลีบรีดผ้า การปรับปุ่มไมโครเวฟที่เหมาะสม
บังเอิญว่าผมเป็นผู้ชายที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษตามบรรทัดฐานของคนทั่วไปก็เลยแนะนำ จขกท. ไปว่าอย่าพึ่งตัดสินอะไรเพราะผู้ชายคนนั้นอาจเป็นแบบผมก็ได้ซึ่งผมถือว่าตัวเองก็ไม่ได้แย่มาก(มั๊ง)
ยกตัวอย่างอีกอันเช่นตอนนี้เลย ผมทำงานใน กทม. และภรรยาไม่ได้ทำงานแต่อยู่บ้านพักที่ต่างจังหวัด วันพฤหัสนี้มีนัดตรวจสุขภาพกัน ผมไม่ต้องถามผู้หญิงหรอกว่าจะให้ไปรับมั๊ย เพราะผู้หญิงต้องชอบแน่ ๆ ที่ไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯเองด้วยรถประจำทาง ผมก็แค่ขับรถตอนเลิกงานหลังสองทุ่ม 160 กม. มาเพื่อรับผู้หญิงเข้ากรุงเทพฯ และเย็นวันพฤหัสนี้หลังตรวจสุขภาพเราจะไปเดินงานเกษตรแฟร์ด้วยกัน ผมคงไม่สุ่มซื้อของที่แฟนไม่ชอบ หรือคงไม่ถามว่าจะกินอะไรแล้วจะซื้อให้ เพราะก็เดินอยู่ดวยกันเรื่องพื้น ๆพวกนี้ผู้หญิงก็สามารถทำเองได้ และในมุมมองผม การถามว่าจะกินอะไรทั้ง ๆ ที่เดินอยู่ด้วยกันเป็นการห่วงใยเอาใจใส่ที่ดูเป็นการแสดงมากเกินไป
ยกตัวอย่างอีกอันนึง (ของคนที่เดินกินคนเดียวในงานเกษตรแฟร์ และบางทีใช้ให้ผู้หญิงไปซื้อมาให้ด้วย) คือหลังแต่งงานผมให้ผู้หญิงตัดสินใจว่าจะมีลูกหรือไม่มีลูกเพราะผู้หญิงเป็นคนท้อง และผู้หญิงเลือกไม่มีลูก ซึ่งตลอด 15 ปีที่แต่งงานผู้หญิงไม่ต้องจัดการเรื่องคุมกำเนิดเพราะผมกลัวมีผลกระทบทำให้เกิดโรคทางมดลูก
ภรรยาผมเป็นคนง่าย ๆ และไม่มายุ่งเรื่องส่วนตัวของผม แต่พาสเวิร์ดทุกอย่างในโทรศัพท์ผมตรงกับภรรยา อันนี้ผมคิดเองว่ามันน่าจะดีสำหรับผู้หญิง การแชร์ตำแหน่งในกูเกิ้ลแมพก็เช่นเดียวกัน เป็นอะไรง่าย ๆ ที่ผู้หญิงไม่ได้เรียกร้องแต่แสดงถึงรายละเอียดที่เราเอาใจใส่
ก็พยายามจะยกตัวอย่างความห่วงใยเอาใจใส่ แบบที่ต้องอยู่กันไปนาน ๆ ถึงจะรู้ตัวว่าห่วงใยเอาใจใส่ ก็เลยแนะนำ จขกท. ไปว่าอย่าหยุมหยิมเผื่อผู้ชายมีมุมแบบที่ผมเป็น (ซึ่งโอเคหรือเปล่าก็ไม่รู้ในสายตาผู้หญิง)
แสดงความคิดเห็น
ชวนคนคุยไปงานเกษตรแฟร์ เค้าซื้อแต่ที่เค้าอยากกินแล้วรีบคนกินเดียว ขณะที่เราซื้อของกินเผื่อเค้าด้วย ควรคุยต่อไหม