อายุ41แล้ว ทำงานมาทั้งชีวิต ตั้งแต่14 จน41 เงินเก็บไม่มีสักบาท

มีท่านใดเป็นแบบผมบ้างครับ ทำงานตั้งแต่14 จน41 เงินเก็บไม่มีสักบ้าน บ้านของตัวเองก็ไม่มีต้องเช่าเขาอยู่ เหมือนคนเร่ร่อนไปเรื่อยๆ ตามแต่จะมีงานจ้าง อดบ้างอะไรบ้าง..แต่คือ มันเกิดเป็นความกลัว กังวลกับชีวิตที่เหลือมากๆ ว่าถ้าสักวันไม่มีคนจ้างงาน ทำงานไม่ได้อีก ไม่มีรายได้ จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง จะไปซุกหัวนอนที่ไหนถ้าไม่มีตังจ่ายค่าเช่าเขา เขาคงไล่หนี มีท่านใดประสบปัญหาเหมือนผมบ้าง ทำใจยังไงดีครับ ที่จะพอมีชีวิตที่เหลือ แบบไม่มีอะไรรองรับเลย จะอยู่แบบไหนยังไงดีให้พอทำใจได้บ้าง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ตั้งสติครับ อย่าเสียเวลาแม้นาทีเดียวที่ให้ความเครียดมาถ่วงเราให้นิ่ง ดิ่ง

หาเวลาสักหนึ่งวันเต็มๆ นั่งสบายๆที่สวนสาธารณะดูผู้คนและสัตว์ต่างๆรอบตัว สงบใจให้นิ่ง พิจารณาว่าตอนนี้เรามีอะไรเป็นต้นทุนชีวิตบ้าง ความรู้ความสามารถ ความถนัด ชอบ เอามาประกอบกันเป็นหอกแหลมบุกตลุยต่อไป

จากประสบการณ์ตรงเลยนะไม่เวัอร์ ไม่ดรามา  ความยากลำบากเป็นเรื่องสนุก เมื่อผ่านมันมาได้แล้วมองย้อนกลับไป ตอนอายุ 50 ผมติดลบ 20 ล้าน เคลียจบตอนอายุ 60 พิจารณาดูชีวิตที่เคยถูกทอดทิ้ง ถูกแทงข้างหลัง หักหลัง หลอกใช้ด้วยสารพัดรูปแบบ ล้วนเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น นี่แหละรสชาติชีวิต เข้มข้นเผ็ดร้อน หวานมันส์ ขมเปรี้ยว คุ้มค่าจริงๆที่ได้เกิดมา
ความคิดเห็นที่ 3
ให้คิดถึงคนงานพม่า

พูดไทยไม่ได้ ไม่มีวุฒิ
มาทำงานเมืองไทย
จ่ายค่าหอน้ำไฟ ยังเหลือส่งกลับพม่า

ทำงาน 2 แรง
ไม่ดื่มกาแฟ ไม่แต่งตัว ทำอาหารกินเอง
ความคิดเห็นที่ 23
ธรรมดา น่ะครับ..ผมเองทำงานด้วยเรียนไปด้วย ตั้งแต่ ม.ต้น(ขายขนมเล็กๆน้อยๆ ม.ปลาย ขายขนม/ทำโปรโมชั่น ให้นักเรียน เพื่อนห้องข้างห้อง(จับสลากชิงโชคทุกเดือน 3เดือน(ชิ้นใหญ่หน่อย)มีประจำปีด้วย พอเรียนมหาลัย/ก็หาเงินเรียนรับจ้างทำรายงานบ้าง หาข้อมูลบ้างสำหรับเพื่อนๆนักศึกษา ขี้เกลียดหา+พิมพ์ รายงานเอง..หุ้นกับเพื่อน(*โดยเราออกแรง/เพื่อนออกทุน เพราะไม่มีเงินลงทุน พอกำไรมา ก็หารเท่ากัน(*สุดท้ายโดนโกง😅)ก็ไม่เป็นไร!หาเรื่องทำต่อไปเดินหน้า อย่างเดียว(*ออกจากมหาลัย/เพราะไม่มีเงินลงทะเบียน ต้องตัดสินใจ/ลงเรียนราม ส่วนใหญ่หาเงิน เรียนเอง เลี้ยงครอบครัวด้วย จบแปดปี น่ะ (แต่ก่อนนี้ จบวิทยาลัยจันทร์เกษม 3ปี/เพื่อเอาวุฒิไปสมัครงานด้วย)..เดินจนสนรองเท้าทรุด ...(*ฟัง/อ่าน ดูเหมือนต้องรายแล้ว มีบ้านเป็นจองตัวเอง...เปล่าครับ!😅😁
ปัจจุบัน อายุ 56ปีแล้ว ยังอาศัยบ้านพี่สาวอยู่(นอนอยู่ห้องหนังสือเล็กๆ)ไม่มี ห้องส่วนตัว บ้านอาจไม่ต้องเช่า ก็จริง แต่ ไม่มีเงินเก็บ พอมีเงินหน่อย ก็ หุ้นกับเพื่อน เปิดร้านขาย..อยู่มา 20 กว่าปี (เริ่มแปลกๆ คิดว่า?ทำไมเงินเก็บเราหายไปไหน? และทำไม?พอได้project มา..พอได้เงินมาแล้ว ต้องหาร3ส่วน(1/ร้าน 2/ตัวหุ่น1เมียหุ้นส่วน 3/ผัวของหุ้นส่วน ..แต่(เราเฝ้าร้านออกแต่แรงไม่มีเงินเดือนแล้วเพราะลงหุ้นแรง) ส่วนเจาหุ้นเงิน/เพราะเราไม่มีทุนเงินสดมาลง เลยใช้ หุ้นแรงแทน ..สุดท้าย ตื่นมาเป็นหนี้เป็นล้าน(เพราะใช้ชื้อเราในการ ทำเรื่องกู้เงินไว้)..แรกก็เครียด และ มโหด้วย(*ถึงขั้นคิดเล่นๆ ว่ามันอยู่กันครบทั้งครอบครัว เอาปืนไปยิงมันหมด ดลยดีไหม?🤔🤡แต่ก็แค่คิดเล่นๆ(เพราะเห็นข่าวนิงดับที่โคราชเพราะโดนโกง)..แต่ได้คิดด้วยสติที่ยังครองอยู่ สุดท้ายเป็นที่ตัวเราเอง ที่ไปเชื่อใจเขา(เขาเป็นถึงระดับอาจารย์ น่ะ สามีก็เป็นถึงตร.) แต่เป็นเช่นนี้ ไม่ต้องโทษใครเขา โทษที่ตัวเราเอง และกล้มหน้ารับแบกทั้งหนี้ และเดินหน้าต่อ ไปจนชีวิต จบ..และ หาความสุขให้ตัวเอง แบบ สมถะ/พอเพียง อย่างมีสติ ดีกว่า และพยายามเก็บ เงิน ให้มากสุดๆอย่างมีสติ ไม่หลอก ไม่โกง ไม่เอาของใคร มาเป็นของเรา ...ก็ว่า ดีสำหรับระยะลมหายใจ, แล้ว
สรุปแล้ว อาจไม่รวยเงินทองมากมาย แต่ มีอย่างนึง สู้ได้เสมอหรือรวยมากกว่าใครๆ คือ "สัจ "__และ การกระทำ ของเราเอง ช่วยทำให้เราแคร้งขาด มาเรื่อยๆ น่ะ (*ขนาดเจอ สารพัดปัญหาที่เข้ามา ก็ ยังยืนได้อยู่)ปัจจุบันมีร้านเล็กๆ อยู่ที่ตึกแดง/จตุจักรจักร พอให้มีสถานที่ต่อรองกับเจ้าหนี้ ได้ เพื่อ ให้หนี้ที่มีอยู่ของเราจบสิ้นเสียที ...
ความคิดเห็นที่ 38
เรื่องธรรมดามากเลยค่ะ
ที่คนตัวคนเดียวจะสร้างตัวไม่ได้สักทีแม้ว่าจะอายุเข้ากลางคนแล้ว
เราก็เป็นอย่างนั้นหละค่ะ อายุมากกว่าคุณอีก เงินเก็บเงินออมไม่มีหรอก
แถมยังมีลูกติดมาอีกโดยที่สามีเก่าทิ้งไปตั้งแต่แรกเกิด ไม่เคยช่วยเหลือสักบาท
ถึงเราไม่มีเงินเก็บออม แต่หาเงินเก่งนะหาได้เรื่อยๆ ก็ไม่ยักกะอดตายนะคะ
เวลาท้อๆเหนื่อยๆ งงๆ เราก็ไปโบสถ์บ้าง อธิษฐานบ้าง แล้วก็ฮึดสู้ต่อ

จากประสบการณ์ทำให้เราเชื่ออยู่อย่างนึงว่า คนเราไม่มีใครยอมอดตายหรอก
ยิ่งถ้ามีวิชาความรู้ประดับตัวไว้บวกกับประสบการณ์
ถ้าเราดิ้นรน มีความรู้ มีคุณธรรมในใจ ยังไงก็รอด

คำแนะนำคงมีแค่ให้ใช้ชีวิตให้มีความสุข ชีวิตคนไม่ยืนยาวหรอกค่ะ 60 ก็ถือว่าเยอะแล้ว
(แปลว่าเหลือเวลาอีกไม่มาก จงใช้มันเพื่อตัวเราเอง)
และคบเพื่อนคบคน ที่มีคุณประโยชน์ (ไม่ใช่หมายถึงแค่ผลประโยชน์)
คุณประโยชน์ หมายถึงคนที่ มีวิสัยทัศน์ มีประสบการณ์ มีทัศนคติ มีจิตใจ ที่ดี
ซึ่งนั่นทำให้เขาเหล่านั้น มีความมั่นคงทางสังคมและการเงินด้วย มันมาพร้อมกัน
เขาจะช่วยฉุดให้คุณขึ้นมาหายใจคล่องคอ มองเห็นอนาคตที่กว้างไกลกว่าเดิม

ที่สำคัญคือ อย่าไปเปรียบเทียบ คนเราสะดวกไม่เหมือนกัน
ถ้ามัวนั่งมองแต่คนที่เขามีบ้าน มีรถ มีความหรูหรา ชีวิตนี้ทั้งชีวิตต่อให้รวยเท่าไหร่ ก็หาความสุขไม่เจอค่ะ
เพราะเท่ากับเรามองเห็นแค่คุณค่าของในมือคนอื่น แต่ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่เรามีอยู่ในทุกวัน

เหนื่อยนักก็พักผ่อน แล้วก็วางแผนสู้ต่อไป
ความคิดเห็นที่ 13
ปกตินะครับ ผม 50 แล้วก็ยังไม่มี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่