ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ ที่ศาลอาญาคดีทุจริต เเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนตลิ่งชัน พนักงานสอบสวนนำตัว ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ รอง สวป.สน.ห้วยขวาง,ร.ต.อ.ปฏิภาณ รอง สว.ธร.สน.ห้วยขวาง ปฏิบัติหน้าที่ รอง สวป.สน.ห้วยขวาง ,ด.ต.กฤษฎา ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง, ส.ต.อ.เฉลิมชัย ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง,ส.ต.อ.วัชรนนท์ ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง,ส.ต.อ.นันทวัชร์ ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง ผู้ต้องหาที่ 1-6 ไปยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน
.
ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” อันเป็นความผิดตามมาตรา 149, 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
.
กรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันได้ลงข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้นั่งรถยนต์โดยสารสาธารณะกับเพื่อนเพื่อเดินทางกลับโรงแรม ระหว่างท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ของวันที่ 5 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจหน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย บริเวณถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ได้เรียกตรวจค้นและพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครอง เรียกรับเงินสดเป็นจำนวน 27,000 บาท แล้วปล่อยตัวแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
โดยศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตฝากขังได้ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 6 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อภาพลักษณ์ และกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยรวม อีกทั้งจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และกระบวนการในชั้นสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
------------------------------
แหล่งข่าว
https://www.thaipost.net/hi-light/315772/
ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อภาพลักษณ์ และกระบวนการยุติธรรม
.
ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการ หรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” อันเป็นความผิดตามมาตรา 149, 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
.
กรณีนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันได้ลงข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้นั่งรถยนต์โดยสารสาธารณะกับเพื่อนเพื่อเดินทางกลับโรงแรม ระหว่างท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ของวันที่ 5 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจหน้าสถานทูตจีนประจำประเทศไทย บริเวณถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ ได้เรียกตรวจค้นและพบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครอง เรียกรับเงินสดเป็นจำนวน 27,000 บาท แล้วปล่อยตัวแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
โดยศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตฝากขังได้ต่อมาผู้ต้องหาทั้ง 6 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อภาพลักษณ์ และกระบวนการยุติธรรมของประเทศโดยรวม อีกทั้งจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และกระบวนการในชั้นสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ให้ยกคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
------------------------------
แหล่งข่าว https://www.thaipost.net/hi-light/315772/