สอบถามการลงบัญชี การบันทึกภาษี ตามกรมสรรพากรที่ถูกต้อง กรณีนำเข้า และใบขนสินค้าเป็นชื่อบริษัทอื่น

รบกวนสอบถามค่ะ เกี่ยวกับกรณีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศไทย โดยใช้สิทธิ์ BOI เพื่อลดหย่อนภาษีนำเข้าให้เป็น 0% 
เริ่มจาก 
1. บ. เอ เป็นบริษัทในไทย (ผู้นำเข้า และขายสินค้า)
2. บ. บี เป็นบริษัทในไทย (ผู้ซื้อสินค้าจากบ. เอ และเป็นสมาชิกใน BOI.)
3. บ. ซี เป็นบริษัทในต่างประเทศ (ผู้ผลิตสินค้า)

ทั้งนี้ บ. บี มีความต้องการซื้อสินค้า จาก บ. ซี แต่ไม่มีความรู้เรื่องสินค้า (เครื่องจักร) และ ไม่มีความรู้ในการตรวจเช็คสินค้าตอนมาส่ง การติดตั้ง และการบำรุงรักษา จึงขอให้บ. เอ เป็นผู้ซื้อสินค้าจากทางบ. ซีให้ และนำมาขายต่อให้บ.บีอีกที (สรุปราคาซื้อขายที่ 5 ล้านบาท)
หลังจากนั้น บ. เอ จึงได้ทำการติดต่อ และเซ็นต์เอกสารสัญญาซื้อขายกับบ.ซี โดยมีการชำระเงิน และมีเอกสาร PO , invoice ในการนำเข้า เป็นชื่อของบ. เอทุกอย่าง สรุปราคาที่ 2.5ล้านบาท

แต่บ.บี ซึ่งเป็นลูกค้าของบ. เอ และเป็นสมาชิกใน BOI. ได้แจ้ง บ. เอ ว่าจะขอใช้สิทธิ์ BOI. เพื่อลดหย่อนภาษีในการนำเข้าเคสนี้ แม้ตนเองไม่ได้เป็นผู้นำเข้าเอง
ทำให้เอกสารใบขนสินค้า,ใบเสร็จจากการท่าเรือ,ค่าออกของในฝั่งไทย ถูกระบุเป็นชื่อ บ. บี ตามเงื่อนไขของ BOI. (แต่ท้ายสุดบ.ชิปปิ้งได้ออกใบวางบิล และใบเสร็จมาเรียกเก็บเงินจากบ.เอแทน)

หลังจากนั้น บ. เอ และ บี ก็ได้ทำการซื้อขายกัน โดยออกใบกำกับภาษีอย่างถูกต้องในไทยต่อไป

ปัญหาตอนนี่ก็คือ การที่บ.เอ ซึ่งเป็นผู้ขาย และนำเข้า ได้เอาสิทธิ์ BOI. ของบ. บี ไปใช้ในใบขนสินค้า จะสอบถามว่ากรณีใบขนเป็นชื่อบ. บี ไม่ใช่บ. เอ   
บ.เอ จะลงบัญชีต้นทุน ค่าใช้จ่ายอย่างไรคะให้ถูกต้องตามกรมสรรพากรกำหนด รวมถึงภาษีนิติบุคคลจะมีปัญหากระทบหรือไม่ เคยมีเคสแบบนี้บ้างไหมคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่